สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 9576เข้าชม
  • 17ตอบกลับ

หลักปฏิบัติในการทำงานร่วมกันของช่างภาพ ( ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว )…

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร



......มีน้องตั้งกระทู้ถามถึงกฏกฏิตากมารยาทในการทำงานของช่างภาพ  http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=11078 จริงๆแล้วมันมีอยู่ของมันตามที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว  (ทำอยู่ปกติ )
เพียงแต่เราไม่รู้ตัวกันเท่านั้น ก็เลยจะมาอธิบายเป็นข้อๆแทนพี่คนเก่งในเว็บ ที่ไม่ค่อยมีเวลามาเขียนอธิบาย.... ( เวลาพี่เขาเป็นเงินเป็นทองนะคับ )...
ก่อนไปถึงตอนจบของเรื่อง เรามาย้อนดูเหตุปัญหาต้นเรื่องกันก่อน ว่าจริงๆแล้วเกิดจากอะไร...
ในสมัยก่อน ช่างภาพมีจำนวนน้อย  (อย่างที่รู้ๆกัน ) เนื่องมาจากเครื่องมือราคาแพง ค่าใช้จ่ายในการจ้างทีมถ่ายบันทึก ก็มีราคาสูงตามไปด้วย จึงมีเฉพาะผู้มีฐานะ หรือเฉพาะงานสำคัญๆ
ที่ต้องการเก็บไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น แต่ปัจจุบัน เครื่องมือราคาถูกลง  (ใครๆก็เป็นช่างภาพได้แม้ไม่ได้เรียน ) และที่สำคัญคือ น้องใหม่ใช้กล้อง DSLR มาถ่ายเป็นภาพเคลื่อนไหว จึงทำให้ต้อง
มีกล้องจำนวนมากขึ้น เพื่อผัดเปลี่ยนไม้ 1 ไม้ 2  ( ยังไม่นับรวมกล้องพิเศษ พวกตัวบินทั้งหลายที่คอยอยู่บนเวที บางงานมีเครนดอลลี่ด้านข้าง ซ้ายขวาอีก ..) เฮ้อ..ไม่รู้จะสงสารใครดี..
……………………. ต้องโทษเทคโนโลยี ที่ทำให้ราคาอุปกรณ์ถูกลง ทำงานดีขึ้น  มีคุณภาพมากขึ้น........ ในราคาค่าจ้างเท่าเดิม ( เท่าสมัยก่อน )..


  ในกรณีที่ออกงานแล้วมีช่างภาพจำนวนมาก …ช่างภาพนิ่งสำคัญสุดคับ...(ทำตัวโตๆให้เห็น ) ช่างภาพวีดีโอจำต้องหลบหรือหลีกไปให้ไกลๆ พูดง่ายๆถ้าภาพนิ่งจะขยับมา
แทนมุมที่คุณกำลังยืนถ่ายวีดีโออยู่ คุณก็ต้องยอมโดยดุษดี ( ห้ามมีอาการไม่พอใจใดๆทั้งสิ้นหรือส่งซิกให้ผู้ช่วยฉายไฟใส่ ..อย่าทำเลยคับ เพราะคนที่เสียหายจริงๆคือ เจ้าของงานผู้ว่าจ้าง )
1. ..เหตุที่พูดเช่นนี้เพราะ ภาพนิ่งจะสวยที่สุด ดีที่สุดก็คือ คนในภาพจะต้องมองกล้อง ( ไม่มองก็ได้ แต่สวยสู้มองกล้องไม่ได้ ) 
…..แต่ภาพเคลื่อนไหววีดีโอ มองก็ดีไม่มองก็ได้ไม่เป็นไร เพราะมันคือภาพเคลื่อนไหว ช่างภาพมีหน้าที่บันทึกเหตุการณ์ตามลำดับในส่วนที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น 
          เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานใช้อ้างอิง หรือเพื่อเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ในอนาคต....( ว่ามันมีอยู่จริง )..
2….และอีกอย่างที่สำคัญคือข้อจำกัดของกล้องภาพนิ่งมีมากกว่ากล้องวีดีโอ จึงทำให้ต้องอยู่ใกล้แหล่งที่ถ่ายไม่สามารถอยู่ไกลและใช้ซูมถ่ายได้เนื่องเพราะ แฟลชส่องไม่ถึงจะทำให้ภาพมืด 
           แสงไม่พอเมื่อปรับสปีดช้าทำให้ภาพเบลอ, ตัวเลนส์อุปกรณ์ซูมไกลภาพอาจไม่คม ฯลฯ และอีกแยะ …( คงรู้ๆกันอยู่นะคับ )..
    3… ถ้าภาพนิ่งถ่ายภาพเสียนั่นหมายถึง ช่างภาพนิ่งจะโดนด่าประจานไปตลอดชีวิต (ทุกครั้งที่เจ้าของภาพเปิดดูแล้วเห็นภาพที่เสีย ) แต่วีดีโอถ้าถ่ายมาเสีย จะโดนเจ้าของงานด่าน้อยมาก
          เพราะการที่จะมานั่งเปิดวีดีโอดูจนจบตลอดทุกครั้ง แทบไม่มี ( ไม่เหมือนภาพนิ่งเปิดดูง่าย )อย่างมากก็เปิดข้ามไปมาเฉพาะฉากที่อยากดู ( แน่นอนฉากที่ดีย่อมไม่เสียอยู่แล้ว )…
  …..ฉนั้น เมื่อพูดถึงการทำงานของช่างภาพนิ่ง กับช่างภาพวีดีโอ จะเห็นการทำงานที่แตกต่างกัน ( ดูเหมือนแต่จริงๆไม่เหมือน )และนี่คือที่มาของเหตุผลที่ทำให้ผมต้องมานั่งพิมพ์...


  ………………………….หลักปฏิบัติในการทำงานร่วมกันของช่างภาพ ( ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว )…เริ่มแรกขอเป็นช่างภาพวีดีโอก่อนนะคับ...
1. ถ้าใครเป็นช่างภาพวีดีโอที่ใช้กล้องวีดีโอแบบเดิมถ่ายงานอยู่ อันนี้ไม่มีปัญหา เพราะกล้องวีดีโอซูมได้ เพียงแต่ช่างภาพยืนถอยออกมาหน่อย ( เว้นที่ให้ช่างภาพนิ่งเข้าแทรกถ่ายนั่งด้านหน้า )
    เพียงแค่นี้ก็สามารถทำงานได้ทั้งคู่ ( วีดีโออยากได้ภาพใกล้ก็ซูมเข้า อยากได้กว้างก็ซูมออก ) เอื้ออาทรระหว่างกัน เพราะเป็นลูกจ้างด้วยกันทั้งคู่...
2. กรณีที่เป็นงานพิธีบนเวที ภาพนิ่งอาจถอยมาไกลหน่อยได้ ( คะเนว่ากล้องสามารถซูมเข้าใกล้ได้ตามที่เราต้องการก็พอ ) ที่เหลือเว้นพื้นที่ด้านหน้าให้ช่างภาพนิ่งเขาไปซะ ไม่ต้องไปเบียด
    ให้เสียอารมณ์
3. กรณีภาพนิ่งต้องใช้ไฟเพิ่ม เพื่อเพิ่มไฮไลท์ขอบผิวซ้ายขวา ทำให้มีเงาบังไปมาในภาพ ( สำหรับช่างภาพวีดีโอที่ถ่าย ก็ไม่สนใจ เพราะเรามาบันทึกเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น )
4. เสียงพูดของช่างภาพนิ่ง ที่จะได้ยินอยู่เสมอ ( มองฟ้า มองดิน มองกันไปมา ) ช่างภาพวีดีโอก็ไม่ต้องสนใจ เราก็ถ่ายไปตามเหตุการณ์ที่บันทึกเหมือนเดิม
สรุป ถ้าเป็นช่างภาพวีดีโอ แล้วมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นก่อนเกิดจริง ก็สามารถพูดคุยกับลูกค้าผู้ว่าจ้างได้ เช่น ถ้าภาพนิ่งใช้ไฟจะทำให้เกิดเงาพาดไปมา ลูกค้าจะโอเคไม๊ ,
          หรือ สถานที่แคบอยู่แล้วมีช่างภาพนิ่งมานั่งเต็มไปหมด ภาพที่เราควรได้อาจถูกช่างภาพนิ่งแย่งไป เราจำต้องถอยออกมา อาจได้ภาพสวยสู้ภาพนิ่งไม่ได้ ลูกค้าผู้ว่าจ้างยังโออยู่หรือเปล่า 


  ………………………….หลักปฏิบัติในการทำงานร่วมกันของช่างภาพ ( ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว )…ถึงคิวช่างภาพนิ่งแล้วคับ....
1. สำหรับช่างภาพนิ่ง ก็อย่ากระหยิ่มยิ้มคะนองตัวจนเกินไป ในเมื่อพี่ช่างภาพวีดีโอเขาเว้นพื้นที่ให้ ก็พยายามอย่ายืนถ่ายบังพี่วีดีโอเขา คอยชำเลืองดูซ้ายขวานิดว่าพี่วีดีโอเขายืนอยู่จุดไหน..
2. มีสัมมาคาราวะ อ่อนน้อมถ่อมตนก็จะดีมาก ไปถึงงาน สวัสดีงามๆที่ตักพี่ช่างภาพวีดีโอ ฝากเนื้อฝากตัวสักนิดก็ดี " พี่คับ ผมอาจทำให้พี่ลำบากใจบ้างขอโทษนะคับ " อย่าหยิ่งผยองซะ..
    เพราะถ้าพี่วีดีโอ จะแกล้งน้องภาพนิ่งง่ายมาก เปิดไฟวีดีโอใส่ก็จบข่าว..
3. ดูมุมพี่วีโอเขาหน่อย เพราะส่วนมากพี่วีดีโอเขาจะตั้งมุมที่ดีอยู่แล้ว เราก็เข้าไปเบียดเสริมมุมเดียวกัน  ไม่ใช่ไปยืนถ่ายมุมตรงข้าม วีดีโอก็จะเห็นตัวเราหมด ทำอะไรไม่งามขึ้นมาแย่เลยนะคับ
4. กรณีภาพนิ่งไปหลายกล้อง ก็พยายามเว้นพื้นที่ มุมสวยให้ช่างวีดีโอเขามีที่เกิดบ้าง ไม่ใช่ไปยืนจองกร่างซะทุกมุม เดี๋ยวพี่วีดีโอโมโหขึ้นมา งานจะกร่อย...
สรุป ปัจจุบันขีดจำกัดของอุปกรณ์ สามารถทำแทนซึ่งกันและกันได้ ( วีดีโอกับภาพนิ่ง ) ควรพูดคุยกับลูกค้าให้เข้าใจก่อนเริ่มงานจริงว่า รายละเอียดของการทำงานระหว่างภาพนิ่งกับวีดีโอ
          เป็นอย่างไร มีช่างภาพนิ่งมางานกี่คน เสริมทัพด้วยกล้องมุมอาร์ตอีกกี่ตัว และถ้าเยอะมากขนาดนั้น จะทำความลำบากใจให้กับผู้มางานได้หรือไม่ แก้ไขก่อนเริ่มงานดีกว่าไม๊ เช่น 
          เสริมพื้นเวทีให้สูงขึ้น เพื่อที่ช่างภาพจะได้ไม่บังคนที่อยู่ในงาน , หรือขยับซ้ายขวาจุดยืนบ่าวสาวเพื่อขยายมุมมองให้กับผู้มางาน หรือติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ด้านหลังเพื่อแขกจะได้เห็น...
ในกรณีมีปัญหากระทบกระทั่งกันระหว่าง ช่างภาพน่ิงกับช่างภาพวีดีโอ ( มีให้เห็นทุกงาน ) 
ห้ามสั่งงานโดยตรงกันเด็ดขาด เช่น ช่างภาพวีดีโอเดินไปบอกช่างภาพน่ิงให้ถอยไปที่อื่น
ควรเดินไปคุยกับลูกค้า เล่าให้ฟังถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้ลูกค้าผู้ว่าจ้างไปบอกต่ออีกทอดหนึ่ง จะดีกว่าพูดกันโดยตรง..( หรืออาจพูดจา ขอกันดีๆในฐานะหัวอกคนทำงานอาชีพเดียวกัน)
          …ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อมีปัญหากระทบกระทั่งระหว่างกัน อย่าใช้งานเป็นอาวุธ เพราะคนที่เสียหายก็คือ ตัวลูกค้าผู้ว่าจ้าง เขาไม่รู้อะไรด้วยแต่ต้องมารับกรรมในส่วนที่คุณเป็นผู้ก่อ
    หลายโปรดัคชั่น หมดอนาคตก็ด้วยเพราะเหตุนี้เยอะ ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีสื่อสาร มีหลายช่องทาง โพสงานเสียลงในยูทูป ระบุบริษัททีมงานที่ทำ ก็เท่ากับ คุณตายทั้งเป็นแล้วคับ........
  เทคโนโลยีก้าวไกล ความคิดของคนทำงานต้องก้าวตาม เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน คิดถึงใจเขาใจเรา ณ วันนี้ ยังคงมีช่างภาพนิสัยไม่ดี ( แก้ไม่หาย ) ก็อย่าท้อใจ หรือแกลังเพื่อให้งานเสีย ..

....คนอื่นจะเลวอย่างไรก็ช่างเขา แต่เราอย่าเลวเหมือนเขาเท่านั้นพอ ..แล้วคุณจะมีความสุขในการทำงานทุกคนคับ....


บทความที่เกี่ยวข้องกัน คลิกเลย..
วิธีการทำMV ทุกขั้นตอน สำหรับเด็กใหม่ที่จะยึดงานนี้เป็นอาชีพ...
 หลักง่ายๆในการทำ เอ็มวีงานแต่งงาน.. 
 วิธีสร้างความประทับใจให้กับลูกค้างานแต่งงานและงานอื่นๆ( มือใหม่ )



[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2012-05-19 11:39 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 9 คะแนน ซ่อน
yang ความดี +1 2011-11-15 -
tkratt ความดี +10 2011-11-03 -
artery-art ความดี +5 2011-11-03 -
cob ความดี +1 2011-11-03 -
rotcerid ความดี +7 2011-11-03 -
motion-a ความดี +6 2011-11-03 ได้ความรู้อีกแล้ววว
tomdv ความดี +1 2011-11-03 -
bryan ความดี +10 2011-11-03 เยี่ยมไปเลยครับพี่
tanjaree ความดี +10 2011-11-03 ขอบคุณตรับ ที่ตอบเป็นบทความซะเลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
417
เงิน
10013
ความดี
8258
เครดิต
8959
จิตพิสัย
7960
จังหวัด
นคราชสีมา
ขอบคุณครับพี่  
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
302
เงิน
6415
ความดี
4254
เครดิต
4505
จิตพิสัย
5098
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ได้ความรู้..
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
365
เงิน
15163
ความดี
8911
เครดิต
10019
จิตพิสัย
7470
จังหวัด
สงขลา

ขอแชร์นะครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
153
เงิน
3451
ความดี
2462
เครดิต
2522
จิตพิสัย
3528
จังหวัด
นคราชสีมา
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
ขอบคุณสำหรับความดีๆครับผม
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
ขอบคุณครับพี่ ได้ความรู้มากๆ

เพิ่มเติมนิดนึง สำหรับช่างภาพวีดีโอที่เรียกตัวเองว่า Cinema ที่มี steadicam ชนิดต่างๆนาๆ
เวลาบิน ก็สมควรดูให้ถูกกาลเทศะนิดนึง ว่าจะไปบังใครไหม (ถ้าจะบัง ก็สมควรบอกกล่าวกันนิดนึงก่อนว่า ผมจะบินแล้วนะพี่) และส่วนมากจะใช้เลนส์ ultra wide กันซะส่วนมาก เวลาบิน ก็จะพยายามเอาภาพคนให้ใหญ่ จึงต้องเข้าไปใกล้ แบบนี้จะมีปัญหามาก สมควรบอกกล่าว และหาจังหวะเข้า ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนิดนึงด้วย
ดูว่า มันเหมาะสมมั้ยในการบิน ตอนๆนั้น (บินจนไปรบกวนพิธีที่เคร่งครัด เช่น มิซซาศีลสมรส จนบางโบสถ์ไม่อนุญาติให้เดินไปมาแล้ว จากปกติที่ไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ จนสอบถามได้ว่า ปัญหาจาก มีช่างวีดีโอบินๆนี่หละ)
[ แก้ไขล่าสุดโดย motion-a เมื่อ 2011-11-03 12:41 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
yang ความดี +1 2011-11-15 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
332
เงิน
10301
ความดี
9297
เครดิต
10713
จิตพิสัย
7324
จังหวัด
พะเยา
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
ขออนุญาตเสริมครับ

…………….หลักปฏิบัติของแขก ที่เอากล้องมางานด้วย

1. ควรหลีกทางให้ช่างภาพทำงานได้สะดวก  ไม่ไปเบียดบัง อยู่ห่างๆไว้เป็นดี  เพื่อคุณภาพงานที่ดีของเจ้าภาพ

2. ในจังหวะสำคัญๆ อย่างเช่นตอนสวมแหวน ควรงดใช้กล้องมือถือที่ต้องยื่นมือออกมาถ่าย
    
    เพราะพิธีพวกนี้มักทำในบ้านเจ้าสาว ที่ทางจะแคบๆ จังหวะให้ถ่ายก็สั้นๆ

    เราถ่ายมือถือเล่นๆไม่คิดอะไร แต่ความเสียหายอาจเกิดขึ้นกับเจ้าภาพ เพราะช่างภาพถ่ายลำบากมาก

    เขาต้องเอารูปไปอัดขยาย   จึงต้องการงานที่มีคุณภาพ จัวหวะภาพที่ดี  เวลามีหลายกล้อง จะเจอปัญหา เรื่อง eye contact

    รูปนี้เจ้าบ่าวมองกล้องนี้  เจ้าสาวดูอีกกล้อง  อีกรูปเป็นอีกแบบตรงข้าม  

    ปล่อยให้เขาถ่ายๆไปเอางานชัวร์ๆไปก่อน  ถ้ายังพอมีเวลาก็เราก็ถ่ายได้  ไม่ได้ถ่ายก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรไม่ใช่หรือ

    แต่ถ้าเป็นช่างภาพกับเจ้าภาพ  ไม่ได้ถ่ายหรือถ่ายไม่ดี ก็จะซีเรียสไปคนละแบบ

3. เสียมารยาทมากทีแขกหลายคน ทำตัวแบบโปร เอากล้องหรูๆ ไปข่มช่างภาพตาดำ ๆ

***ผมไม่ได้เป็นมืออาชีพหรอกครับ อาศัยว่าชอบถ่ายรูป  เคยเป็นทั้งคนถ่ายงานเอง เป็นทั้งแขก
  
      เคยถูกญาติวานให้ถ่ายงานแต่ง เคยไปงานแต่งเพื่อน ก็เลยเจอปัญหาหลายๆอย่าง ในแต่ละมุมมอง

    
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 3 คะแนน ซ่อน
littletime ความดี +1 2011-11-15 พวกเด็กๆที่มาในงานก็ปัญหา
tanum ความดี +1 2011-11-15 ชอบอันนี้ เปนปัญหากับผมมาก555
artery-art ความดี +5 2011-11-03 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
265
เงิน
19228
ความดี
4595
เครดิต
5052
จิตพิสัย
5223
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
เยี่ยมครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และความรู้ดีๆครับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
585
เงิน
16710
ความดี
13655
เครดิต
14351
จิตพิสัย
14629
จังหวัด
ชัยภูมิ
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
น้อมรับความรู้ด้วยคนครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
433
เงิน
8384
ความดี
6330
เครดิต
6526
จิตพิสัย
9379
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
ขอบคุณมากๆๆครับ ความรู้ดีๆๆ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
468
เงิน
11558
ความดี
9483
เครดิต
10056
จิตพิสัย
9235
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-03
เยี่ยมครับ ไวมากกกกกกกกกก
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
108
เงิน
2318
ความดี
1445
เครดิต
1346
จิตพิสัย
3275
จังหวัด
นคราชสีมา
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-04
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 6 ต้นฉบับโพสโดย tanjaree เมื่อ 2011-11-03 12:37 :
ขออนุญาตเสริมครับ

…………….หลักปฏิบัติของแขก ที่เอากล้องมางานด้วย

1. ควรหลีกทางให้ช่างภาพทำงานได้สะดวก  ไม่ไปเบียดบัง อยู่ห่างๆไว้เป็นดี  เพื่อคุณภาพงานที่ดีของเจ้าภาพ
.......

อันนี้เจอมาทุกงานเลยครับ  พอท้วงไปเจ้าภาพบอกได้แค่ไหนเอาแค่นั้นครับ เหอๆ จัดไป
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
78
เงิน
2535
ความดี
1897
เครดิต
1822
จิตพิสัย
1782
จังหวัด
เพชรบูรณ์
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-04
เยี่ยมไปเลยครับ แบบนี้เค้าเรียกพึ่งพาอาศัยกันและกัน ทุกครั้งที่ผมออกงานถ่าย ผมไหว้พี่ๆภาพนิ่งทุกครั้งครับ และก้อไม่ซนเวลาตั้งมุมกล้องถ่ายวีดีโอ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
71
เงิน
3753
ความดี
3064
เครดิต
3192
จิตพิสัย
3034
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-11-15
เยี่ยมคับ ผมเองก็ถ่ายกล้อง vdo ด้วย cinema ด้วย ก็จะคุยกับพี่ๆภาพนิ่ง ก่อนทำงานทุกครั้ง ทำความเข้าใจกันก่อน จะได้ไม่มีปัญากันครับ ยิ่งถ้ามี ob ยิ่งต้องระวัง พยามไม่ตัดลายของพี่ๆเค้า ถ้ารู้ตัวว่าทำไม่ดีไม่งามก็จะขอโทษตอนเลิกงานอีกครั้งครับ เท่านี่ก้ทำงานด้วยกันอย่างราบรื่น สบายใจแล้วครับ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
43
เงิน
511
ความดี
441
เครดิต
374
จิตพิสัย
601
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2012-05-04
ขอบคุณครับบบ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้