...น้องใหม่ที่ติดตามอ่านบทความที่ผมพิมพ์ให้อ่าน ไม่ใช่ว่าผมเก่งและทำเองได้จริง มันเป็นสิ่งที่พี่ๆเขาทำอยู่ทุกวัน จนกลายเป็นความชิน ผมเพียงแต่
นำเรื่องราวเหล่านั้นมาสรุป เรียบเรียงให้น้องใหม่ได้อ่านและเข้าใจมากขึ้น ( พูดง่ายๆก็คือถอดจากทฤษฏีในเว็บที่พี่ๆเขาเขียนนั่นแหละ อิงเอาไว้
และนำมาขยายเป็นภาษาบ้านๆให้คนที่ไม่ได้อยู่ในวงการมองภาพออก ) พยายามไม่ใช้ภาษาอังกฤษหรือคำในอาชีพ เพราะน้องบางคนที่ไม่ได้เรียน
หรือพ่อบ้านสมัครเล่น จะได้เข้าใจ ( ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย ) และพยายามไม่อธิบายเรื่อยเปื่อย ( ขนาดเนื้อๆ ยังยาวเกือบลงในเว็บไม่ได้ )....
....เรื่องราวที่มีในเว็บ ( อยากให้อ่านและทบทวนอีกครั้ง ) จะสังเกตุว่าเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ใครๆก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกประเภทขึ้นอยู่กับว่าคุณถนัดที่จะเดินแนวไหนในอนาคต ( ผู้กำกับ, ช่างภาพ,คนตัดต่อ, ฯลฯ ... ผมต้องการเน้นให้คุณนำไปประกอบอาชีพได้ )สรุปบทความทั้งหมด..
- อยากเก่งแบบพี่ๆในเว็บจุดเริ่มต้นของสายอาชีพนี้เลย เดินสายไหนเลือกปรับใช้เอง เตรียมความพร้อมก่อนเข้าวงการ ใครที่ไม่เฮงไม่มีโชคเพราะไม่รู้จักใครไม่มีรุ่นพี่ ประสบการณ์ก็ยังไม่แกร่งพอ แนะนำเลยว่า พยายามเข้าไปทำอะไรก็ได้ในวงการฯ เงินเดือนน้อยก็ไม่สน ขอให้ขาได้เหยียบเข้าไปก่อน 1 ข้าง ที่เหลืออีก 1 ข้างเดี๋ยวมันจะเดินตามเข้าไปเอง ( ครบ 2 ขาเมื่อไหร่ นั่นแหละเดินออกจากที่นั่นเลย..ไปหาที่ใหม่ งานสบายกว่า เงินเดือนเยอะกว่า เป็นรุ่นพี่แล้ว )และย่ิงเข้าไปในโปรดัคชั่นขนาดเล็ก ประเภท โหดแต่ไม่่ค่อยจะมีคุณภาพ ( คือคิดถึงแต่เงิน ให้ได้กำไรเยอะๆ แต่ไม่สนคุณภาพของงาน )จิกใช้สารพัดอย่าง บอกเลยว่า นี่แหละโอกาสทองของคุณ ยิ่งโดนโขกสับ ยิ่งโดนเหยียดหยามมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น ท่องไว้อย่างเดียวว่า ขยัน อดทน และหมั่นฝึกเข้าไว้ เก่งเมื่อไรใครๆก็อ้าแขนรับคุณ...http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6025- อยากเป็นช่างภาพวีดีโอมืออาชีพ เป็นการเตรียมความพร้อมของตัวคุณเองที่จะเข้าไปทำงาน ให้รู้ว่าในวงการจริงๆเขาต้องการอะไรจากคุณที่จะเข้าทำงาน
ไม่ยากอย่างที่หลายคนพูดว่า...วงการนี้เข้ายาก เ
พียงแต่คุณเรียนมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาดเท่านั้น และในการทำงานจริงเขาไม่มีเวลามาสอนคุณ
ไม่มีงานให้คุณลอง เพราะทุกงานคืออนาคตของบริษัทของเขา ฉนั้น คุณต้องหางานเล็กๆ( งานในครอบครัว ) หัดฝึก หัดทำ อย่างน้อยไม่เก่งไม่เป็นไรให้พอรู้บ้าง
ให้พอพูดภาษาทีวีได้้บ้าง ไม่ใช่พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง คนทำงานก็รู้สึกเหนื่อยในการที่จะอธิบาย และก็ต้องมาแก้งานที่คุณทำอีกในภายหลัง ( ก็คุณยังไม่เก่งนี่ )
คนที่จะทำงานต่อจากคุณ ก็ต้องช้าไปอีก เลยเป็นที่มาว่า " คนเป็น 1 คนดีกว่าไม่เป็นงาน 10 คน " มายืนให้เกะกะ
http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6100- แนวทางสำหรับมือใหม่ที่จะเข้าวงการ ( 1 ) เป็นการปลอบใจ เพราะรู้สึกพี่ๆในเว็บบ่นว่ายาก ก็เลยต้องนำมาขยายให้ดูว่า จริงๆไม่ยากเลย เมื่อใดคุณทำได้ (ง่ายจะตาย )
ในเมื่อพี่รุ่นก่อนเขาทำได้ คุณก็จำต้องทำได้ เพราะเพียงคุณพลาดครั้งเดียว อนาคตในวงการคุณจบทันที ( อ่าน 2 รอบเลยคำนี้ ) เพราะทุกคนก็จะบอกต่อๆๆกันไป
วงการมันแคบมากนะคับ ใครที่ไปถ่ายงานบ่อยๆจะรู้ ไปกี่งานก็เจอไอ้หน้าเดิมๆพวกนี้แหละ เจอกันคุยกันเมาท์กัน แป๊บเดียวชื่อเสียง ( ทางด้านลบ ) ก็กระจายไปทั่ว
และยิ่งมีเว็บด้วยแล้ว เมนท์ส่วนตัวทีเดียวพันคน คุณตายเลยนะ ไม่่ว่าเหตุผลใดที่งานเสีย มันไม่ยุติธรรมเลยกับลูกค้า เพราะเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย แม้คุณจะพยายาม
อ้างว่า ทำมา 10 ปีเพิ่งเสียงานเดียว ถามคำเดียวเหมือนกันว่า ถ้างานที่เสียเป็นงานของคุณ คุณจะพูดคำนี้อยู่ไม๊.. http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6142
- ข้อระวังเบื้องต้นในการรับงาน ( เขาเรียกร้อนวิชา ) พอเป็นแล้วใครให้ทำงานอะไรทำหมด รุ่นพี่บางคนพูด ทำไมน้องเขาไม่เลือกดู....ว่าคุ้มไม่คุ้ม " .. ใช่คับ รุ่นพี่คนนี้พูดถูก พูดได้เพราะคุณมีงานรองรับอยู่แล้ว แต่น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาวงการ เขาไม่มีโอกาสเลือกงาน เขาจำเป็นต้องทำ..."
จึงเป็นที่มาของการเขียนเรื่องนี้..
.http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=5959.( รวมทั้่งความเห็นพี่ๆที่เขียน ก็สุดยอดปรามาจารย์ทั้งนั้น )
-
วิธีสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า (ตอนต่อหลังจากได้ทำงานให้ )เป็นตัวอย่างที่ผมยกขึ้นให้คุณจับต้องได้ ( งานแต่งงาน )และมองภาพรวมออกได้ง่ายเพราะทุกคนรู้จักขั้นตอนทั้งหมด ผมต้องการให้คุณนำมาปรับใช้ในแนวทางที่คุณเลืือกเดิน เช่น คุณชอบการเขียนบท คุณก็ต้องทำให้ได้ทุกข้อเหมือนกัน(อาจไม่เหมือนแต่คล้ายกันเพราะฐานเดียวกัน ) การเขียนแบบสไตล์ของคุณที่คนอื่นไม่สามารถเลียนแบบได้ คุณก็สามารถสร้างความประทับใจได้ มีน้องเขียนบทมาสมัครที่บริษัทหนึ่ง ก็ให้แต่ละคนเขียนเรื่องวันแม่ แต่ละคนก็เขียนเรื่อยเปื่อย น้องคนนี้้เขียนนาทีเดียว บรรทัดเดียว...ว่า "...วันนี้ กลับไปบ้านและกอดแม่ ก่อนที่จะไม่มีแม่ให้กอด .." ไม่ต้องบอกนะคับ บริษัทนั้นรับทำงานทันที.. http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6214- คำแนะนำ 9 ข้อที่ไม่อยากให้ทำหลังจากที่คุณผ่านงานมาจนโชคเลือด บอกได้เลยว่าจะเริ่มมีนิสัยที่ไม่ดีทุกคน ( มากหรือน้อย อดกลั้นได้หรือไม่ )
เขาถึงเรียกวงการนี้ว่า โลกมายา หมายความใครก็ตามที่เข้ามาอยู่วงการนี้เสียคนหมด ใครที่เข้ามาและเป็นคนดีได้เหมือนกับตอนเข้ามาใหม่ ถือว่าเก่งมาก
จริงๆแล้วมี เป็น 100 ข้อและแสบกว่านี้เยอะ..ที่คุณต้องเจอ แต่ไม่อยากเขียนมากกลัวคุณจะเปลี่ยนใจไม่เข้าวงการ แย่เลยนะคับ อยากบอกน้องใหม่ว่า
ไม่ว่าอะไรที่คุณเจอแล้วคุณเกลียด ไม่ชอบ และเจ็บฝึงลึก เป็นเพราะผลกระทำที่คนมีอำนาจเหนือกว่ากระทำต่อคุณ ก็ขอให้คุณจำไว้ ( ไม่ใช่จำให้แก้แค้น )
จำไว้ว่า... เมื่อวันใดที่คุณเก่งและขึ้นมาอยู่แนวหน้า อย่าทำ( แบบรุ่นพี่ที่เคยทำต่อเรา ) คุณเคยเจ็บปวด น้องใหม่ที่เพิ่งเกิดก็คงเจ็บปวดไม่น้อยเช่นกัน..
http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6179แต่เชื่อเถอะ พอคุณอยู่แถวหน้าเมื่อไหร่ รับรองคุณต้องทำแน่.. แต่ขอแล้วกัน อย่าทำเยอะ นิดเดียวพอนะ..
....ทั้งหมดเป็นบทความที่ถอดจากทฤษฏีผสมกับการทำงานจริงๆของพี่ๆที่เขาเล่าให้ฟัง นำมาผสมแล้วสรุปให้อ่าน จริงๆแล้วทุกอย่างมีหลักหมดนะคับ
ไม่่ว่าคุณจะเขียนบท ตัดต่อ ช่างภาพ กำกับ หรือโปรดิวเซอร์ เพียงแต่ผมพยายามจะนึกให้ออกว่าจะเขียนเรื่องเหล่านี้อย่างไร ให้น้องใหม่จับต้องได้
ไม่เหมือนช่างภาพเขียนได้ง่ายเพราะไม่ไประรานใคร แต่ถ้าเขียนการกำกับ การตัดต่อ หรือการเขียนบท มันต้องยกตัวอย่างงานให้เห็น และเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว......
...ชีวิตผมคงไม่ได้มายืนอยู่บนโลกนี้ เพราะเจ้าของงานคงฆ่าผมตายแน่ ที่เอางานเขามาพูด แค่เฉียดๆยังต้องดูห่างๆ ผมยังอยากมีชีวิตอยู่คับ
และอีกอย่างเกิดไม่ตรงกับทฤษฏีที่เขาเขียนหรือที่เขาเปิดสอนอยู่ ซวยซำ้ 2 เลยทีนี้ (.. ตายแล้วคงถูกขุดขึ้นมาฆ่าอีก..) ก็เลยคิดว่า เอางี้แล้วกัน
ที่เขียนๆมา ผมเขียนถึงตัวคนแล้วสะท้อนไปถึงงานที่ทำ แต่ครั้งนี้ผมจะเขียนถึงงานผ่านย้อนไปถึงตัวคนทำ ( หลักง่ายๆก็คือการเรียนรู้จากงานที่ทำเสร็จแล้ว)
...ทำความเข้าใจกันก่อนว่า สิ่งที่จะแนะนำต่อไปนี้คือที่สุดของที่สุดแล้ว ในการทำงาน คุณสามารถนำไปประยุกต์และปฏิบัติได้กับงานทุกประเภท
ขึ้นอยู่กับว่า...ใครจะเดินแนวไหนเลือกหลักปฏิบัติเองตั้งแต่ต้น ( เพราะหลักแต่ละชนิดงานจะไม่เหมือนกัน ) เช่น ผู้กำกับ ,ช่างภาพ, ตัดต่อ, คนเขียนบท
ยกเว้นโปรดิวเซอร์ ที่ต้องรู้หมดทุกอย่าง แต่ไม่ต้องเจาะลึก ..ไม่ว่าอย่างใดก็ตามก็อยากให้ทุกคนได้รู้ถึงลักษณะงานของคนอื่นด้วยเหมือนกัน
เพราะการที่คุณสามารถทำได้หลายแบบ คุณก็สามารถรับงานได้หลายชนิด และที่สำคัญคุณสามารถปั้นแต่งงานนั้นอย่างไรก็ได้โดยไม่ต้องเกรงใจใคร.( รวยคนเดียว )...
.อีกนิด..การที่คุณจะเข้ามายืนบนแนวหน้าได้ ใช่ว่าคุณไปเรียนที่มาหลัย หรือเรียนที่บริษัทเอกชนที่เขาเปิดสอนโดยเฉพาะ เรียนจบแล้วได้งานทำเข้าวงการเลย
มันไม่ง่ายขนาดนั้น คิดง่ายๆบริษัทเอกชนเขาก็มีสถานีผลิตรายการอยู่แล้ว แต่เขายังไม่รับ คุณก็ต้องคิดหนักแล้ว.. ไม่เป็นไรอย่าเพิ่งท้อใจ วันนี้ไม่ใช่วันของเรา
วันหน้าต้องใช่สักวันเรามาเริ่มต้นพร้อมกัน กับการเพิ่มเติมประสบการณ์ในวันนี้ให้เต็มจนล้น เพื่อประกาศชัยชนะในอนาคต.. พร้อมเริ่มนับ 1 . 2 . 3....
...ให้คุณหาหนังเรื่องโปรดที่คุณชอบมาหลากหลายประเภทเช่น หนังรักโรเมนติก, หนังตื่นเต้น , หนังสยองขวัญ ฯลฯ เอาหนังที่คุณชอบและคิดว่าดูแล้วไม่เบื่อหรือหลับซะก่อน
และหากระดาษสมุดมา 1 เล่ม ( เยอะเหมือนกันนา ) เขียนในบรรทัดเดียวกัน.... ..เหตุการณ์ ....../...ขนาดภาพ..../.....ความยาวของช็อต นับในใจกี่วิ 1-2-3...../ เส้นกราฟอารมณ์
แล้วก็ลากเส้นแบ่งลงมายาวจนเต็ม ...จดทันไม่ทันไม่เป็นไร แต่อย่าเพลินจนสนุกไปกับหนังจะกลายเป็นไม่ได้อะไร ....( ถ้าเผลอก็ย้อนกลับมาจดใหม่ )
ต่อมาเปิดหนังที่คุณชอบ เริ่มภาพตามเหตุการณ์ที่หนังนำเสนอแล้วเขียนจดทุกอย่างลงในสมุด ไม่ทันก็ให้นึกตามก็ได้ หรือจะถอยกลับแล้วจดเฉพาะที่ตัวเองสนใจก็ตามสะดวก
เช่น หนังรักโรเมนติกกำลังรักกัน . ..........เหตุการณ์- ..... .... ./...ขนาดภาพ.... /.....ความยาวของช็อต นับในใจกี่วิ 1-2-3....../ เส้นกราฟ ของอารมณ์
2 คนเดินจูงมือกัน กว้าง 5 วิ ( นับในใจ เคาะปากกาไปเรื่อยๆ ) ------ ( ความหมาย เฉยๆ) //
2 คนหันมามองกัน กลาง 3 วิ. ( นับได้ 3 ครั้ง ) --/ ( เส้นสูงขึ้น อารมณ์เริ่มใกล้ )
ทำแบบนี้เรื่อยๆไปจนหนังจบ ครั้งแรกที่ดูอาจไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่จดและคิด ให้เปิดดูใหม่ครั้งที่ 2 โดยชำเลืองกระดาษที่คุณจดเอาไว้ ( คุณมีพรสวรรค์รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า )
ทีนี้คุณรู้แล้วว่าซีนต่อไปเป็นอะไร ทำอะไร คุณจะเริ่มเดาออกแล้วว่าทำไมเขาถึง ตัดต่อแบบนี้ ถ่ายแบบนี้ กำกับแบบนี้ พูดแบบนี้อ๋อรู้แล้ว..เพื่อที่จะโยงไปตอนจบ ฯลฯ
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกเรื่องกับหนังที่คุณสนใจ อยากรู้ ( ต่อไปเก่งแล้วไม่ต้องจด เพราะสมองได้รับรู้ถึงขั้นตอนในการคิด ) และเมื่อคุณทำกับหนังทุกประเภท
คุณจะเห็นได้เลยว่า หนังแต่ละเรื่องจะมีหลักการถ่าย การตัด การกำกับ สัมพันธ์กันกับกราฟอารมณ์ทางด้านขวา( กราฟอารมณ์หมายถึงการแสดงอารมณ์ ณ ตอนนั้น
เช่น รักธรรมดาแบบเพื่อน รักมากขึ้นแบบเพื่อนสนิท รักมากขึ้นแบบคนรัก และรักจนกลายเป็นคนที่จะแต่งงานกัน เริ่มแรกการถ่ายการกำกับตัดต่อเส้นกราฟจะธรรมดา
เมื่อเริ่มรักมากขึ้นความหมายของภาพ การกำกับ การตัดต่อ จะเปลี่ยนกันไปเป็นแนวทางเดียวกัน อาจตัดเร็วขึ้น โดยสัมพันธ์กับอารมณ์ของกราฟในเหตุการณ์ขณะนั้น....
เกือบจะเป็นสูตรเดียวกันทุกเรื่อง พูดง่ายๆก็คือพอคุณรู้ว่าหนังเรื่องนี้แนวอะไร คุณจะอ่านแนวออกหมดเลยว่า เดี๋ยวต้องกว้าง, เดี๋ยวต้องแคบ, เดี๋ยวต้องใกล้ ,อารมณ์กราฟแบบนี้นะ
.ไม่แน่ใจว่าอ่านเข้าใจหรือเปล่า พยายามแล้วนะ...ถ้าอ่านไม่ค่อยเข้าใจ อยากให้ลองทำดูแล้วคุณจะรู้ .....ทำเถอะขอร้อง..
.......และเมื่อคุณทำบ่อยๆ ความคิดการทำงานของคุณจะถึงที่สุด ...คุณจะสามารถมองสิ่งเหล่านี้ได้ ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที( ใน 1 เฟรมหรือใน1 คัท ต้องมองออกให้ได้ )
--
ทางด้านช่างภาพ การดูภาพ กวาดตาขึ้นลง.. และกวาดตาขวาไปซ้าย เพื่อดูว่าในภาพ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ( บนและล่างของภาพ / ซ้ายและขวาของภาพ )
ที่ช่วยเน้นอารมณ์ของภาพ ในขณะนั้นเด่นชัดขึ้น การตั้งมุมกล้อง สูง ตำ่ เตี้ย เพราะอะไร...
-
ทางด้านการกำกับ แอ๊คชั่นของตัวแสดงแต่ละคน การยืนคุย , การเดิน , การนั่ง, การทำงาน, อารมณ์รัก, ตื่นเต้น , กลัว เขาแสดงออกให้เรารับรู้และร่วม
ไปกับเหตุการณ์ได้อย่างไร ...( ให้เราเชื่อว่ามันเป็นจริงได้ )
-
ทางด้านการจัดแสง แสงที่ตกกระทบตัวละคร ซ้าย ขวา หน้า หลัง เป็นอย่างไร ในแต่ละเหตุการณ์ และมีส่วนช่วยตัวละครทางอารมณ์ใด้อย่างไร..
-
ทางด้านการตัดต่อ จังหวะ แอ๊คชั่นของตัวละคร ใน 1 คัท คัทนี้ต้องยาว 3 วิ เท่านั้น ห้ามใช้ 5 วิ หรือยาวเกินไป 2 วิ จะทำให้อารมณ์ของภาพเปลี่ยนไป....
-
ทางด้านบท ตัวละครในแต่ละเหตุการณ์พูดถ่ายทอดเรื่องราวอย่างไร ทำให้เรารู้สึกว่าน่าติดตาม ไม่เบื่อ ....
-
ทางด้านของประกอบฉาก ผม เสื้อผ้า การแต่งหน้า ฯลฯ ในแต่ละคัท ทำไมต้องทำแบบนั้น แบบนี้ เพราะเหตุผลอะไร....
.
...เมื่อใดก็ตามที่ดูภาพใน 1 คัท และสามารถบอกเรื่องราวต่างๆที่คนทำต้องการสื่อได้ ( ผู้กำกับ, คนตัดต่อ , คนจัดแสง, คนเขียนบท ฯลฯ ) ....เมื่อนั้น เราขอให้คุณรับรู้ไว้ว่า ....ณ เวลาวินาทีนี้เป็นต้นไป.... ชีวิตในการดูหนังแบบมีความสุข( แบบเดิม ) ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ .....เหมือนคุณได้ตายจากการเป็นคนธรรมดา และไปเกิดใหม่ในร่างเดิม พร้อมพรสวรรค์รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า..โดยมีคำว่า " มืออาชีพ " ... อยู่ในตัวคุณอย่างเต็มภาคภูมิ....... ยินดีต้อนรับและ ขอคาราะวะด้วยใจคับ.(....ที่อุตสาห์ตั้งใจ ฝึกฝน ทนลำบากมาจนถึงตอนนี้..... ) บทความที่เกี่ยวข้องกัน คลิกเลย...
อยากเก่งแบบพี่ๆในเว็บ ทำได้ไม่ยากมือใหม่เปิดอ่านเลย แนวทางสำหรับมือใหม่ ที่จะ ( เตรียมตัว ) เข้าวงการ[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2012-05-19 11:30 ]