สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 18699เข้าชม
  • 24ตอบกลับ

หลักพื้นฐาน..ในการเลือกมุม ตั้งกล้อง (สำหรับช่างภาพ )

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

หลักในการเลือกมุมกล้องหรือตั้งกล้องเพื่อถ่ายทฤษฏีพี่ๆมีเขียนไว้มากมาย ผมก็เอามาปรับ ( เอาความดีใส่ตัวเองเหมือนเดิม ) ไปอ่านของพี่เขาก่อนนะ...
.. หลายเรื่องเขียนไว้มากมาย ขอบอกเป็นประสบการณ์จริงจากการทำงานด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกเช็คจาก ( ลูกค้าด่า ) และนำมาปรับใช้จนลูกค้าด่าน้อยลง
( แต่ยังคงด่าอยู่ ) เลยคิดว่าเมื่อลูกค้ายอมรับงาน มันก็น่าจะโอเค ( ระดับหนึ่ง ) หลักปฏิบัติที่เขียนให้อ่าน ( บทความเก่าๆ ) คือการจำลองจากโลกที่ทำงานจริงๆ
 นำมาปรับให้เป็นบทเรียนเพื่อให้น้องใหม่ได้ฝึก ( โลกของการทำงานจริงกับลูกค้า โหดกว่านี้ 100 เท่า )  ..ยังคงอยากให้ฝึกฝนอยู่นะ..
.. น้องบางคนบอกฝึกแล้วยังไม่เก่งแสดงว่ายังทำงานไม่ได้ใช่หรือไม่.. ทำงานได้คับ เพียงแต่คุณอาจมีข้อเลือกน้อยลงเท่านั้น เช่นบริษัทอาจให้เงินเดือนน้อย
 ...งานโหด ( ที่พี่ๆคนอื่นเขาเดินหนี ) , ...หรือคุณอาจหาลูกค้าที่ไม่ค่อยรู้งาน ( ไม่เขี้ยวลากดิน ) คือพอใจกับความสามารถที่คุณมี เพราะลูกค้ามีงบน้อย...
...ถามต่อว่า..จะรู้ได้อย่างไรว่าเราฝึกจนถึงที่สุด( เก่งแล้วยัง)  ง่ายมากคุณต้องมองภาพออกใน 1 เฟรม และตอบลูกค้าได้ในทันที ( 5 วินาทีให้คิด ) 
   ว่า ภาพนี้ไม่ดี บกพร่องตรงไหน และควรแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร ?...( พี่ๆที่เขาเก่งแล้วทำได้จริงนะคับไม่ได้โม้)
...ทำไมผมถึงต้องเน้นยำ้แบบนี้...อาง่ายๆสมมติคุณเป็นช่างภาพ ลูกค้าให้ถ่ายพิธีกรเปิดรายการ เดินหาไปซิ..มุมสวย ( เป็นยังไงหรือมุมสวย..ไม่มีใครสอนเนี่ย )
ขณะที่คุณเดินหา คนในทีม 10 คน 20 ตา ยืนมองคุณคนเดียว รอว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะบอก เชื่อหรือไม่ว่า แค่นาทีเดียวเหมือนเวลาผ่านไป 1 ชม. มันกดดันมากนะ
ชำเลืองหางตาดู ทุกคนยืนนิ่งมองเราคนเดียว ( ผู้ช่วยคอยยกขา ทีมไฟรอถือไฟ เสื้อผ้า ผม รถขนอุปกรณ์ทีวี ) ..ยิ่งเดินยิ่งหา..ยิ่งใช้เวลา ..พอบอกมุมนี้ได้ปุ๊บ
ทุกคนวิ่งมาเหมือนโลกแตก มาถึงห้อมล้อมตัวคุณเต็มไปหมด แต่พอลูกค้ามาถึงบอกไม่ชอบ  ...ก็ยืนคิดอีก..จะหาเหตุผลอะไรมาอธิบายให้ลูกค้าได้เข้าใจ
...ทุกคนในทีมก็ยืนนิ่งอีก ...( ตกลงจะย้ายไม่ย้าย  ) ...ทุกคนยืนรอให้ช่างภาพอธิบาย ...คุณก็ยิ่งกดดัน ..พูดก็เอ้อๆอ้าๆ ( กำลังคิดหาเหตุผล ) มองไปทางไหน
ก็มีแต่คนยืนคอยฟัง และถ้าย้ายบ่อยด้วยล่ะก้อ...ใครเจออารมณ์นี้ อายมากๆๆๆนะ... ถ้าไม่อยากอาย  วันนี้ต้องรีบฝึกให้แกร่ง จำหลักให้แม่นจนขึ้นใจ ฝึกๆๆๆๆ
จนคุณสามารถบอกเหตุผลที่ดีและไม่ดีได้ในเดี๋ยวนั้นเลย และการพูดต้องฉะฉาน มั่นใจทุกครั้ง ( ที่ลูกค้าถาม ทุกข้อสงสัย )...

วันนี้เรามาเพิ่มอีกหนึ่งบทเรียน ( ที่อยากให้ฝึกเพิ่ม ) การเลือกมุม เพื่อตั้งกล้องถ่ายภาพ ..( ต่อนี้ไป คุณจะได้รู้แล้วว่า มุมสวยมันเป็นยังไง ? ..)

1. เริ่มงานตั้งสมาธิกันหน่อย ไม่คุย ไม่เล่น ไม่วอกแวก ดูบทก่อนว่าสถานที่นั้นๆคืออะไร จะให้ถ่ายอะไรเดินสำรวจไปทั่วๆสังเกตุจุดเด่น( มุมสวยในสายตาเรา)
    จุดด้อย ( มุมไม่สวย ) เช่นถังขยะ สิ่งสกปรก เดินดูทั่วๆไปก่อน ไม่ต้องกังวลลูกค้า ดูในฐานะเราช่างภาพก่อนนะ .( ฟังเสียงด้วยนะ เสียงแอร์ เสียงต่อเติมบ้าน )..
2. บางครั้งมุมที่เรามองเห็นอาจสวยในสถานที่นั้นแต่พอออกทีวีอาจไม่ได้เรื่องเลยหรือบางมุมไม่สวยแต่เวลาออกทีวีอาจสวยก็ได้ วิธีเช็คคือใช้มือขวาซ้ายแล้วแต่ถนัด
    ทำเป็นกลมๆให้มีรูมอง ( หรือจะอวดสาวก็ทำมือเท่ห์ นิ้วโป้งและชี้ของขวาซ้าย มาไขว้กันเป็นจอทีวี ) โดยใช้ตามองผ่านรูของมืออีกครั้งว่า มุมที่สวยถ้ามองผ่านจอทีวี
    จะสวยจริงไหม และถ้าจะถ่ายมุมที่มีถังขยะ สามารถยกออกได้หรือไม่ หรือสามารถคอปหลบหลีกได้หรือไม่ มองไว้หลายมุม ให้ลูกค้าเผื่อเลือก หลายๆช็อตหน่อย
3. ทีนี้มาถึงการตั้งกล้องแล้วจะถ่ายอะไรเริ่มต้นถ้าถ่ายแบบกว้างทั่วๆไป ให้พยายามเลือกมุมกลางของสถานที่นั้น แล้วมองไปรอบๆ จากซ้ายไปขวาวนรอบ 360 องศา
    ดูว่าจุดที่เรายืนอยู่นั้น มีอะไรทับซ้อนหรือบังกันตรงทิศไหนบ้าง ( ทิศทั้ง 8 )  ลองขยับซ้ายขวาหน้าหลัง ไปเรื่อยๆหามุมดูว่าแต่ละจุดที่เรายืนมีข้อดีเสียของทิศตรงไหน
    ( เช่น ยืนจุดนี้ ดี 4 ทิศ ไม่ดี 4 ทิศ แต่พอเลื่อนไปขวา 2 ก้าวเออดี 6 ทิศ 2 ทิศเสีย ) หามุมที่ดีมากที่สุดคือจุดเสียน้อยสุดเป็นจุดหลักที่เหลือก็สำรองไว้เผื่อลูกค้าไม่ชอบ
    (การดูก็เช่นกันให้มองผ่านรูมือที่เรากำไว้ ) เมื่อเราทำไปเรื่อยๆเต็มสถานที่ จะทำให้เรารู้ว่ามุมนี้กว้างสวย ใกล้ไม่สวยเพราะดูรก มุมนี้ใกล้สวยแต่กว้างแล้วดูโทรมฯลฯ..
    หรือถ้าตั้งจุดนี้จะถ่ายได้ 6 ทิศ เสีย 2 เวลาถ่ายจริงตามบทหรือสารคดี  ก็ถ่ายเฉพาะทิศที่ดี 6 ทิศ ส่วนทิศเสียไม่ต้องถ่าย ให้ไปเลือกมุมใหม่ที่เสีย 2 ทิศ แต่เป็นดีในจุดอื่น 
    เช่น เดินไปอีก 5 ก้าวขวา 2 ทิศที่เสียจะมาเป็น 4 ทิศที่ดีตรงจุดนี้ ก็ตั้งกล้องถ่ายใหม่หรือถ่ายเพิ่มอีกมุมได้..
4. สมมติเราได้มุมสวยมา5 มุม( แบคกราวนด์) ไม่บังไม่รกสวยหมดทีนี้จะรู้ได้ยังไงว่าจะเลือกมุมไหน ตัวที่จะกำหนดมุมดีที่สุดคือ โฟรกราวนด์คับ ( โดยส่วนตัว)
    องค์ประกอบด้านหน้าของภาพจะเป็นตัวกำหนดเลือกขั้นสุดท้าย เช่นด้านหน้ามีพุ่มดอกไม้อยู่ซ้าย หรือต้นไม้ฟอร์มสวยด้านขวา ฯลฯ ( มุมสวยจะเริ่มน้อยลงแล้ว )
5. เมีอทำตามข้อ 4 แล้ว มี 3 มุมสวยเหมือนกันเลือกไม่ถูกอีก สิ่งที่จะกำหนดขั้นสุดท้ายคือถ่ายเฉียงอย่าถ่ายตรงหามุมเฉียงในแต่ละมุมที่คุณคัดดีที่สุดมาแล้ว
ข้อดีของเฉียงคือจะทำให้ภาพมีมิติมีความลึกภาพที่สมบูรณ์และดีที่สุดต้องประกอบไปด้วย -..แบคกราวนด์ / ..ตัวละครที่ต้องการให้อยู่ /และ..โฟร์กราวนด์ด้านหน้า 
    แต่มุมที่จะตั้งกล้องถ่ายต้องเฉียงด้วยนะ  (ในแต่ละส่วนอาจมีองค์ประกอบซ้อนกันหลายชั้นยิ่งดีคับ )ยกตัวอย่าง ถ่ายสารคดีข้าว มีแบคกราวนด์ท้องฟ้าไร่นาไกล 
    ถัดมามีบ้านชาวนาเฉียง ใกล้เข้ามาพิธีกรยืนหรือตัวละครที่เซ็ตไว้ ด้านหน้าใกล้กล้องมี( โฟกราวนด์ ) หน้าสุดเป็นต้นข้าวออกดอกปลิวไสว นี่แหละเป็นมุมภาพที่สวยสุด  
    การถ่ายเฉียงสามารถใช้ได้กับทุกกรณี เช่น สถานที่ และตัวพิธีกร หรือคนที่เราต้องการสัมภาษณ์ ให้ยืนเฉียงเป็นแนว 45 องศา ซ้ายหรือขวาก็ได้จากมุมที่เราตั้งกล้อง
    แล้วหันเฉพาะหน้ามาทางกล้อง ( แต่ขาที่ยืนหัน 45 องศาจากกล้องไม่เคลื่อนที่ ) จะเป็นภาพที่สวยสุด เพราะตัวพิธีกรจะมีความลึก เห็นสัดส่วน ไม่แบนเป็นหน้ากระดาน..
6. จุดที่ยืนถ่ายถ้าเป็นเรื่องละครต้องหาเส้น180 องศาให้ได้ ว่าคุณจะเลือกอยู่ส่วนไหน หน้าหรือหลัง ขวาหรือซ้าย เส้น 180 สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ ในการคุย 2 คน
    4 คน , สถานที่นั้นๆ เช่น ในบ้าน มีห้องโถงอยู่กลาง ขวามือเป็นห้องนำ้ ซ้ายมือเป็นครัว หน้าครัวมีบันไดขึ้นทางซ้าย ตรงบันได้ขึ้นเป็นห้องพ่อแม่ ห้องขวาพี่สาวคนโต
    ห้องซ้ายน้องชายคนเล็ก ฉะนั้นทิศที่เดินขึ้นต้องสัมพันธ์กันเป็นจริง เวลาที่ตัวละครบอกจะเข้าครัวต้องเดินซ้ายเข้าครัวหรือซ้ายออกกล้อง ไม่ใช่ขวากล้อง( เข้าห้องนำ้ )
...เพิ่มเติม เส้น 180 องศาคือเส้นแบ่งของทิศทางตัวละคร เช่น ชายซ้าย หญิงขวา ยืนคุยกันเป็นเส้น 180  เมื่อไหร่ที่เราเดินเลยข้ามฝั่งไปด้านหลัง ชายจะกลับเป็นขวา
    หญิงจะกลับเป็นซ้าย เมื่อเราถ่ายข้ามไปมาก็จะสลับกันมั่วไปหมด ( หาอ่านเพิ่มเติมเองนะคับ ของพี่ในเว็บนี้แหละ )
    ฉนั้น เส้น 180 ก็จะมีส่วนกำหนดมุมกล้องเหมือนกันว่า คุณจะเลือกส่วนไหน เดินดูว่า ส่วนไหนดีสุดมากกว่าส่วนเสีย ก็ให้ใช้ทิศนั้น หลักง่ายๆสำหรับขั้นตอนนี้...
7. ได้มุมแล้วทีนี้ก็มาถึงการตั้งความสูงตำ่ของตัวกล้อง ขึ้นอยู่กับความสูงของตัวคน โดยวัดระดับจากเลนส์กล้องกับตาของคนที่เราถ่าย เช่น ยืนพูด นั่งพูด 
    -  ถ้าผู้บริหารนั่งสัมภาษณ์  ให้ถ่ายเฉียงโต๊ะ มีความลึก ผู้บริหารนั่งโต๊ะ หันตัวออกจากกล้อง 45 องศา แต่ส่วนบนหันเข้าหากล้อง ตั้งกล้องเตี้ยกว่าปกติ (ระดับตา) 
            เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือดูเกรงขาม เหมือนท่านพูดกับเราผู้น้อยตำ่ต้อย  
    -  ถ้าสัมภาษณ์คนอ้วน ให้ตั้งกล้องสูงกว่าปกติ ( สูงกว่าระดับตา ) เพราะคนอ้วนไม่มีคอ ตั้งสูงให้ดูเหมือนมีมากขึ้น ( เพราะหน้าเขาเงยเลยเห็นคอ )
    -   ถ่ายพิธีกร ยืนพูด ให้เฉียงเหมือนดูผอมลงและมีความลึก บาทีต้องไปทำเอฟเฟคบีบให้ผอมลงอีกก็ควรอย่าให้มีคนอื่นอยู่ด้านหลัง
    -   คนตัวสูง คนอ้วน ให้อยู่ไกลกล้อง คนตัวเล็กอยู่ใกล้กล้อง ฯลฯ
8.  องค์ประกอบของภาพด้านหน้า-หลัง( โดยส่วนตัว) ถ้าเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ที่เป็นชาย จะใช้ต้นไม้ใบสีเขียว หรือโล่ห์ รางวัล ของตกแต่งต่างๆที่ดูเข้มแข็ง น่าเชื่อถือ
      แต่ถ้าเป็นหญิง ก็จะใช้แจกกันมีดอกไม้สีสวย เพื่อเน้นบรรยากาศความหวาน สวย ลุ่มลึกน่าค้นหา ลูกค้าบางคนเอาแจกันสีสวยดอกไม้เต็มมาวางไว้หลัง
      ผู้บริหารชาย ..ผมว่าดูตลกนะ แต่ถ้าลูกค้าชอบ..ไม่ว่ากันขึ้นอยู่กับสถานการณ์คับ ...( การเอาตัวรอด )
9.  แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามในการวางของประกอบฉากที่ต้องคำนึงมากที่สุด คือต้องไม่กวนผู้ให้สัมภาษณ์ หรือแย่งจุดเด่นไปจะอยู่หน้าหรือหลังก็ได้ทั้งนั้นแล้วแต่ชอบ
     ถามว่าจะรู้ได้ไงว่า เด่นเกินไปหรือดูรกเกินไป ควรมีไว้หรือเอาออกดี ( เห็นทะเลาะกันมากกรณีนี้ อีกคนบอกสวยดี อีกคนบอกกวนสายตา ) วิธีทดสอบง่ายมากๆๆ
วิธีที่1....นั่นก็คือเอามือบังจอแอลซีดีของกล้องทั้งหมด หรือเอามือปิดจอทีวีที่่เช็คไว้สักพัก แล้วเปิดออกสิ่งแรกที่เรามองเห็นก่อนอันดับแรกนั้นคืออะไร 
                   ถ้าเห็นของประกอบฉากก่อนก็แสดงว่า ของประกอบฉากได้แย่งส่วนเด่นของ( ภาพ ) หรือของผู้สัมภาษณ์ไปแล้ว ก็ควรให้เอาออก หรือให้เปลี่ยนเล็กลง 
วิธีที่ 2 .. ใช้มือเหมือนกันแต่ไม่ต้องปิดทีวีจนหมด ปิดไว้เฉพาะส่วนที่เราไม่ต้องการ ช่นคนสัมภาษณ์นั่งอยู่ท่ามกลางแจกันดูแล้วบอกไม่ถูกว่าสวยไม่สวย
                    ก็ให้ใช้มือบังส่วนที่ไม่ต้องการไว้ ( ถ้าเล็กมากอาจใช้เพียงนิ้วบังก็ได้ )  คือปิดแล้วเปิด ( เอานิ้วเข้าและออก ) เช่น เอานิ้วมือบังเฉพาะแจกันที่เรา
                     ไม่ชอบเข้าๆออกๆ อยู่อย่างนั่นแหละ 2-3 หน จะเห็นความแตกต่างทันที ...(ลองทำดูนะ )
... วิธีทดสอบว่าสิ่งใดรก สิ่งใดควรมี หรือไม่ควรมี โดยการใช้มือบังทั้งทีวี หรือจะบังเฉพาะส่วนที่เราต้องการเช็ค สามารถทำได้ทั้งองค์ประกอบฉากที่เป็นการสัมภาษณ์
 หรือองค์ประกอบของภาพที่เป็นละคร หรือสารคดีประกอบภาพ ข้อดีคือเป็นการตรวจเช็คแบบง่ายและรวดเร็ว ประหยัดเวลา ไม่ต้องไปเดินยกเข้ายกออกในสถานที่จริง
 และอีกอย่างสามารถตอบคำถามให้ลูกค้าได้ในทันที เวลาที่ลูกค้าเริ่มสงสัย ก็ทดสอบให้ดูเลยว่า นี่มีแจกันภาพนี้นะ แต่พอเอามือบังก็ดูเหมือนไม่มีเพราะมือเรา
กับตัวคนผิวสีเดียวกัน พอบังแล้วคนเด่นขึ้น พอเอามือออกแจกันเด่นกว่าตัวคน ลูกค้าเห็นก็พยักหน้าหงึกๆ ตกลงเราก็ค่อยเดินไปเอาออก พูดง่ายๆก็คือเถียงกันในภาพก่อน

10. เมื่อได้มุม ตามที่ต้องการแล้ว รู้ถึงข้อจำกัดแต่ละทิศแล้วว่า มีข้อดีข้อเสีย ( จุดเด่นจุดด้อยอย่างไร จำไว้ให้ดีๆเพื่อที่ลูกค้าถามจะได้ตอบถูก) เช่น ไปถ่ายสถานที่ท่องเที่ยว
ริมทะเล มุมนี้ทะเลสวยแต่ตึกด้านหน้ามีหม้อแปลงไฟใหญ่ ,  มุมนี้ตึกสวยแต่ทะเลถูกหินบัง , มุมนี้เห็นทั้งตึกและทะเลแต่เดินได้นิดเดียว, มุมนี้เดินได้ยาวแต่สวยสู้มุมนั้นไม่ได้
เมื่อจำได้หมดแล้ว ทีนี้ก็ลองให้ผู้ช่วยควรจะมีความสูงเท่ากันกับตัวพิธีกร ลองมายืนดูตามจุดที่เรามองไว้จริง ว่าถ้าคนเข้าไปยืนแล้วจะโอเคตามที่เรามองจริงหรือไม่
โดยดูผ่านมือ ( เลื่อนมือออกจากตัวภาพเหมือนซูมเข้า เลื่อนมือเข้าหาตัวเหมือนภาพซูมออก ) หรือจะพกกล้องไปเช็คดูจริงก็ได้ ว่าซูมเข้าออกมุมไหนได้บ้าง 
11. มาถึงขั้นตอนถ่ายจริง อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ไม่มาก เนื่องจากชุดของพิธีกรเองคือใส่เสื้อลายดอก ไปยืนท่ามกลางดอกไม้อาจจม หรือทิศทางของแดดย้อน
ก็ต้องปรับแก้กันไปว่า จะให้นำ้หนักตรงส่วนไหนสำคัญ ถ้ามุมนี้สวยแต่เสื้อพิธีกรลายไป ก็เปลี่ยนเสื้อ แต่เสื้อสวยไม่อยากเปลี่ยนก็เปลี่ยนสถานที่ บางครั้งสถานที่ถ่ายอาจไม่
ดีที่สุดก็ด้วยข้อจำกัดของสถานที่นั้นจริงๆ ( เอาท์ดอร์ ) ก็ไม่เป็นไร เพราะการดูสถานที่หลายมุมทำให้เรามีการเตรียมความพร้อมไว้ตอบลูกค้าได้ทันท่วงที 
เผื่อกำลังถ่าย ลูกค้าเกิดอยากถ่ายเห็นตึกและเห็นทะเลด้วย อ๋อ ได้คับ มุมนี้นะคับ แต่ตึกอาจไม่สวยสู้ช็อตเมื่อกี๊ เราก็พาไปเดินดูได้เดี๋ยวนั้นเลย ไม่ใช่มายืนเอ๋อ เดินหาใหม่
ทำให้ทุกคนในทีมต้องมายืนตากแดดรอคุณหามุมใหม่..( ..รับรองช่างภาพคนนี้คงเจอกันครั้งนี้ครั้งเดียวและสุดท้ายแล้วคับ.. )
...แทรกนิดนะคับ การตั้งมุมกล้องถ่าย แยกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ 
-  ส่วนนอกสถานที่ ( เอาท์ดอร์ ) ก็ว่ากันไปตามที่มี อาจดีไม่ที่สุดก็ไม่แย่ที่สุด เลือกอาจนานหน่อย คือ จุดเสียน้อยสุด( จุดดีมากที่สุด หรือมากกว่าเสีย )
- ส่วนในสถานที่  ( อินดอร์ ) สามารถจัดเพิ่มหรือย้ายได้ ตามที่เราต้องการ การตั้งมุมกล้องพยายามหาด้านหลังคนที่เราจะถ่าย มีความลึกไม่ใช่มีแต่กำแพง
เช่น อาจมีชั้นวางของด้านหลังเตี้ย เพื่อวางของประกอบทำให้คนที่เราจะถ่ายเด่นขึ้น..
         .( .ที่เหลือนอกจากนี้ ต้องรบกวนปรามาจารย์ทั้งหลายมาช่วยชี้แนะเพิ่มเติมแล้วละคับ.. )
.........อาชีพนี้ดีอย่างนึง คือโกหกกันไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะทำงานมากี่ปี ประสบการณ์จะถ่ายทอดผ่านตัวคุณสู่ผลงานที่ปรากฏออกมา ..( ยิ่งนานยิ่งดีขึ้น ).
        ...เคยไม๊คับ ที่ว่างแล้วมาดูผลงานเก่าๆ โอ๊ย อายจนไม่อยากให้ใครรู้  ( ทั้งๆที่ตอนนั้นใครอย่ามาวิจารณ์งานเชียวนะ ตายสถานเดียว ) 
        เป็นเพราะยิ่งเรามีประสบการณ์มากขึ้นเท่าใด เราก็จะเก่งมากขึ้นเท่านั้น ฉนั้นเมื่อเวลาคุณไปสมัครงาน เอางานนู้นงานนี้ไปนำเสนอ 
        (แอบเอาผลงานคนอื่นปนไปด้วย ไม่มีใครรรู้หรอกเพราะเป็นผู้บริหารจะมารู้จักคนในโปรดัคชั่นหมดทุกคนได้ไง ) บอกเลยว่า เขาดูรู้นะคับคุณโกหกเขาไม่ได้หรอก..
        ถามว่ารู้ได้ไง วิธีการง่ายมากคับ ...ถามว่า " คุณมีประสบการณ์ในงานที่ทำมากี่ปี " ....คุณบอก " เป็นช่างภาพมา10 ปี " ..ถามต่อว่างั้นให้คุณเลือกมุมถ่ายเพียงมุมเดียว
        ในออฟฟิศนี้ ที่คุณคิดว่าเป็นมุมที่ดีที่สุด ( เขาจะดูว่าคุณใช้เวลากี่นาที ) ..แค่นี้ก็ตายแล้วคับ ถ้าหลักคุณไม่แน่น คุณจะงงและสับสน ยิ่งมีคนเก่งนั่งดูคุณเลือกและถาม
        เหตุผลด้วยยิ่งเครียดใหญ่เลย หรือ อีกวิธีคือให้งานตัวอย่างทำ แล้วขอดูงานสต๊อกที่คุณไปถ่ายทำมา แค่นี้ก็รู้แล้ว ถ้าคุณถ่ายผิดหลายหน , ปรับโฟกัสไม่ได้ ซูมกระตุก ฯลฯ
        นั่นหมายถึงความเจนจัดในงานยังไม่มี การทำงานก็จะช้า ทำให้เนื้องานที่ได้น้อยลง ( เพราะถ่ายหลายหน เสียมากกว่าดี )..
    ...ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม เราอยากให้คุณเก่งและมีความสามารถจริงในวงการ อย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี ที่สำคัญ..สามารถนำมาประกอบเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้
การฝึกและฝึก คือข้อสำคัญที่คุณมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในอาชีพนี้.. เมื่อฝึกจนเก่งแล้ว ...จะใช้เวลาในการมองน้อยลง ..เวลาในการคิดน้อยลง การตอบข้อสงสัยลูกค้าก็รวดเร็วมีนำ้หนัก


......บทความที่เขียนขึ้น เป็นเพียงตัวหนังสือ ที่นำเสนอหลักพ้ื้นฐาน เพื่อปูแนวทางให้คุณได้นำไปปฏิบัติและฝึกฝนจนชำนาญ 
.......บางคนไม่รู้หลักอะไรเลยแต่ทำงานออกมาได้ดี และมีประสิทธิภาพ .......เพราะเขาทำงานด้วยใจ...และด้วยความรับผิดชอบที่เขามีต่องานของเขาเอง
.....เทียบกับคนที่มีหลักปฏิบัติแต่ไม่นำออกมาใช้ ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด ...คุณก็เช่นกัน..เมื่อถึงเวลาบทความเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์...
.....เป็นเพราะ..มันได้เข้าไปอยู่ในตัวคุณ.... อยู่ในความคิดของคุณ....( ช่างภาพมืออาชีพ ). ..จนหมดทุกข้อแล้ว...นั่นเอง....

....... บางครั้งการเลือกมุมอาจไม่สามารถเลือกได้ครบตามที่แนะนำ อาจจำกัดด้วยเวลา ,งบประมาณ หรือเพราะตัวลูกค้าเองก็ไม่เป็นไร พยายามฝึกต่อไปเรื่อยๆ
        เพื่อให้สมอง...ได้ฝึกคิด ...ได้ฝึกมอง  ...และเมื่อใดที่คุณหาได้ครบในเวลาที่สั้นและรวดเร็ว ตะโกนบอกกับตัวเองดังๆเลยว่า ....นี่เราก็มืออาชีพเหมือนกันนี่หว่า
         ( ..กระซิบเบาๆ.) ....ตอนนี้ไม่มีใครบอก เราบอกตัวเราเองไปก่อน.. แต่ต่อไป..รับรองมีคน (ตะโกน ) บอกแทนคุณแน่ๆ..... 
http://file2.uploadfile.biz/i/MHENMEIMIMINDE
อัปเดท 72 บทความทั้งหมดที่เขียนในเว็บไทยดีฟิล์ม เรียบเรียงให้คุณเก็บไว้อ่านยามว่าง 
[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2012-07-27 10:58 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 5 คะแนน ความดี +5 ซ่อน
mousses ความดี +1 2014-07-06 -
zanodaz ความดี +1 2013-05-07 ขอบพระคุณครับอาจารย์ ^_^
beer7 ความดี +1 2013-01-22 -
cob ความดี +1 2011-04-27 ขอบคุณครับ
gigapixel ความดี +1 2011-04-27 ติดตามตลอดคร้าบบบบบ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
615
เงิน
2147483647
ความดี
12342
เครดิต
14162
จิตพิสัย
11252
จังหวัด
จันทบุรี
ขอคุณครับพี่ อ่านยังไม่จบแต่ว่า ดีมากครับ เป็น ประสบการตรงที่หาซื้อไม่ได้ จำเป็น ต่อน้องๆมือใหม่อย่างผมมากครับ ขอคุณมากๆครับ
(เดียมาอ่านต่อให้จบ)
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ลองดูตัวอย่างกัน ภาพแรกครบ 4 สวนที่อธิบาย เข้าใจว่าเป็นหน้าแล้ง ถ้าด้านหน้ามีนำ้และปลาว่ายสวยสุด จะซูมอินให้พิธีกรพูดก็สวย หรือจะทิลท์จากนำ้ขึ้นพิธีกรก็ได้
[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-04-28 10:11 ]
  • รูปภาพ:ภาพนี้อาจไม่สวยผาด แต่เป็นภาพสมบูรณ์สุด มี 3 ส่วน หลัง กลาง และหน้า แถมมุมเฉียงอีกต่างหาก
    รูปภาพ:5.jpg
  • รูปภาพ:ภาพที่แบคกราวนด์ใหญ่และกวนผู้สัมภาษณ์ลองเอามือปิดกรอบรูปเข้าออกจะเห็นความแตกต่างเลย การนั่งพูดเอียง
    รูปภาพ:1.jpg
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เยี่ยมอีกแล้วครับผม
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ต่อตัวอย่างอีก 2 แบบนะคับ..เพียงแค่หันข้างกับหันตรงเข้ากล้อง ก็สวยต่างกันแล้ว
[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-04-28 15:44 ]
  • รูปภาพ:ภาพนี้คนสัมภาษณ์หันข้าง 45 องศากับตัวกล้อง แต่หันเฉพาะหน้า เข้าหากล้องสมบูรณ์แบบคับ
    รูปภาพ:2.jpg
  • รูปภาพ:ภาพนี้คนสัมภาษณ์หันด้านตรงเข้าหากล้อง จะเห็นความแตกต่างไม่มีความลึก และมิติสู้ภาพก่อนนี้ไม่ได้
    รูปภาพ:3.jpg
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ภาพนี้ ถ่ายเอียง 45 องศา ทั้งตัวโต๊ะ และตัวคนสัมภาษณ์ ลองดูความแตกต่างของภาพที่ 2 ที่หันเฉพาะผู้สัมภาษณ์ 45 องศาเท่านั้น
ชอบแบบไหนเลือกเองคับ..
  • รูปภาพ:1.jpg
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
394
เงิน
7818
ความดี
8913
เครดิต
9171
จิตพิสัย
9646
จังหวัด
นครนายก
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ชัดเจนครับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
885
เงิน
28618
ความดี
21372
เครดิต
20831
จิตพิสัย
23028
จังหวัด
สมุทรสาคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ชอบครับ เทคนิคดีๆเพียบ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
509
เงิน
9550
ความดี
9242
เครดิต
9661
จิตพิสัย
10376
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ลึกซึ้ง... ขอบคุณครับ...
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
487
เงิน
18012
ความดี
15686
เครดิต
16044
จิตพิสัย
15903
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
395
เงิน
8999
ความดี
6299
เครดิต
6477
จิตพิสัย
8523
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
กูรู มาเองชัดเจนแถมมีรูปประกอบให้ดูอีก  ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
288
เงิน
10039
ความดี
8053
เครดิต
8180
จิตพิสัย
7223
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-27
ขอขอบคุณมากครับ 

หาที่ไหนไม่ได้ เขียนจากประสบการณ์ล้วนๆ อธิบายพร้อมภาพประกอบ

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
201
เงิน
5058
ความดี
2704
เครดิต
2401
จิตพิสัย
3086
จังหวัด
จันทบุรี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-28
ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับความรู้
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
92
เงิน
3207
ความดี
1677
เครดิต
1590
จิตพิสัย
2360
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-28
ดีคับ ขออนุญาติเสริมนิดนะคับ   การเลือกมุมกล้อง ควรฝึกการมองภาพให้เป็นเฟรม เหมือนมองในจอวิวไฟเดอร์   เมื่อคุณชินกับการมองภาพให้เป็นเฟรมแล้ว  เวลาคุณหามุมกล้องคุณจะรู้เลยว่าเฟรมที่จะถ่าย กว้างแค่ไหน  ขอบภาพจะติดอะไรบ้าง  พิธีกรอยู่ตรงไหน  ถ้าเปลี่ยนคอมโพสแคบเฟรมจะแค่ไหน  คุณสามารถดูในเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องยกกล้องไปดูก่อน   องค์ประกอบภาพก้อควรจะมี  หน้า กลาง หลัง    หรือ หน้า กลาง   กลาง หลัง   และควรมองมุมเผื่อไว้ช้อทต่อไปทุกครั้ง      เหมือนเล่นสนุ๊กเกอร์ล่ะคับ  มองข้ามช้อท  กินแดงเสร็จกินสีไหน หลุมไหน จะดึงตัวกินสีไรต่อ  วางแผนล่วงหน้า  
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
adummusic ความดี +1 2011-04-28 ขอบคุณมากเลยครับ^^
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-28
ขอบคุณพี่ๆที่เข้ามาร่วมให้ความรู้ ดีคับช่วยกัน..น้องใหม่จะได้เก่งเร็วขึ้นไม่ต้องไปคลำหาทางเอง..เพิ่มเติมคับ..
พอดีนึกขึ้นได้ว่า มีดีวีดีเรื่องนึงที่อยากให้ช่างภาพได้ดู เพราะเป็นการใช้กล้องเคลื่อนไหวซ้อนกับตัวแสดงที่กำลังเคลื่อนไหว น้อยคนที่นึกถึง..
อยากให้ไปหาดู เรื่อง คู่ใหญ่พายุฟัด 2 นานแล้วล่ะ นางเอกสวยดูเพลิน องค์ประกองสีของฉากที่ตกแต่งก็สุดยอด อยากให้ดูๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..
http://www.youtube.com/watch?v=UXt4Z9FOeKY





[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-10-24 14:52 ]
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้