ไม่เป็นไร ๆ ปกติถ้าพอจะรู้งู ๆ ปลา ๆ อะไรอยู่บ้าง ถึงไม่มีใครเทียบเชิญก็จะพยายามเสนอหน้าเข้าไปทุกกระทู้ที่โอกาสอำนวยอยู่แล้วครับ
... พี่ชื่อพัดครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน ...
อ้างอิง
ถ้าผมเสียบ เจ้า Mackie ProFX8 กับคอมแล้ว มัน จะขึ้น ไดร์เวอร์ ตรงนี้ให้ป่าวครับ **
มันคือหน้าอะไร มองไม่ชัด ถ้าเป็นเรื่องคุมมิกเซอร์ด้วยฮาร์ดแวร์ Control Surface ไม่น่าจะขึ้นนะ ดูจากลักษณะแล้ว Mackie ProFX8 ตัวนี้เป็นแค่ Analog Mixer ธรรมดา ๆ นี่เอง, ช่อง USB ที่ให้มา คงไว้แค่ส่งสัญญาณไปบันทึกในคอมพิวเตอร์ หรือ รับสัญญาณจากคอมพิวเตอร์มามิกซ์เท่านั้น หมดลุ้นที่จะเอาไปควบคุมมิกเซอร์ (Volume Fader) แบบ Control Surface ... ในส่วนของการต่อกับคอมพิวเตอร์ ลักษณะการทำงาน มันน่าจะคล้าย ๆ กับซาวด์การ์ดนั่นแหล่ะครับ แต่เป็นแบบที่เรียกว่า USB Audio Interface มีช่อง Audio Input/Output เพิ่มขึ้นมา โปรแกรมไหนอัดเสียงได้ เล่นเสียงได้ ก็ใช้ช่องนี้ได้หมด ...
ปล. แต่ถ้าหน้าที่ว่านี้เป็นเรื่องของซาวด์การ์ด มันก็จะขึ้นทั้ง Tab Input และ Output เลย (Input เอาเสียงจากมิกเซอร์มาบันทึก / Output ส่งเสียงจากคอมพิวเตอร์ไปมิกซ์รวมกับช่องอื่น ๆ ในมิกเซอร์) ...
เป็นการคาดเดานะครับ (แต่ค่อนข้างชัวร์ล่ะ) เพราะไม่ได้ใช้ทั้ง Premiere และ Mackie ProFX8 เหมือนกัน ...
อ้างอิง
พี่ๆๆ ช่วย อธิบาย 4 หัวข้อนี้หน่อย ครับ ว่า แตกต่าง กันยังไง ครับ /* ขอบคุณมากครับ *
มันคือโหมด หรือ ลูกเล่นการมิกซ์เสียงแบบ Real-Time ครับ ... แต่ต้องปูพื้นฐานตรงนี้ก่อนว่า เวลาเรามิกซ์เสียง โดยเฉพาะตรงส่วนการปรับ Volume (หรืออะไรก็ได้ในมิกเซอร์คล้ายกันหมด) เราทำได้ 2 แบบเป็นอย่างน้อย ... แบบแรกพื้นฐานที่สุด คือ การใช้คีย์เฟรม ใช้เมาส์เลื่อนเส้นเสียงในแทรค Audio ที่อยู่ใน Timeline เพื่อปรับระดับเสียงตามที่ต้องการ สามารถปรับได้ละเอียดแบบเป๊ะ ๆ แต่กินเวลาอยู่สักหน่อย ... กับแบบที่ 2 คือ โยก Volume Fader เอาเลย เหมือนทำงานกับแท่นมิกซ์ในห้องอัดเสียง (ตรงนี้เหมือนจะเรียกว่า Automation คล้ายกันหมดทุกโปรแกรม) กด play ปั๊บ ก็เริ่มโยกเริ่มมิกซ์กันเลย มันไม่เป๊ะหรอกเพราะเขาไม่สน อาศัยความรู้สึกจับเอา (หูต้องดี ลำโพงต้องไม่หลอก ห้องต้อง Acoustic ดีระดับนึง ก็จะทำให้ตัดสินใจได้เที่ยงตรงขึ้น) พอเล่นจบก็มิกซ์เสร็จพอดี (ถ้าไม่มีแก้นะ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแหล่ะ เล่นซ้ำกันอีกหลายรอบ) ... แต่ปกติสองวิธีนี้ก็จะใช้ร่วมกันได้ อาจจะโยก Volume Fader กันก่อนสักรอบให้ได้งานหยาบ ๆ แล้วมาปรับละเอียดอีกครั้งด้วย Key-Frame หรือใครถนัดอะไรจะเืลือกทำงานแบบนั้นไปเลยก็ได้ มันก็มีวิธีจบงานได้ทั้งคู่ ...
ส่วน 4 โหมดที่ Premiere ให้มา ขอเดาแล้วกันครับ คงเรียกชื่อคล้ายกันหมดทุกโปรแกรมนั่นแหล่ะ ...
Read - เอาค่าระดับเสียงที่เราบันทึกไว้ก่อนหน้านี้มาใช้ เวลาเล่นเราเคยโยกไว้ยังไง ปุ่ม Volume Fader จะวิ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ตามนั้นเหมือนผีหลอก ...
Write - สำหรับบันทึกการโยกปุ่ม Volume Fader ของเรา สั่งเล่นปั๊บ ก็เริ่มโยกเลย ...
Latch กับ Touch - ก็คือการ Write นั่นเอง แต่จะเหมาะสำหรับการแก้งานมากกว่า ต้องลองเล่นดูจะพอเข้าใจความแตกต่างได้เอง อธิบายมันจะงง ...
ถ้าเราต่อ Control Surface เข้าไป มันก็จะทำงานในลักษณะนี้เหมือนกัน ... ยังไงก็อย่าเพิ่งเชื่อครับ (คือห่างมานานเหมือนกัน) ยังไงลองด้วยตัวเองก่อน มันไม่ยากเท่าไหร่ ...
[ แก้ไขล่าสุดโดย vfspostwork เมื่อ 2011-02-02 05:36 ]