เวิร์คช็อปงานแต่ง The indy wedding..

ก่อนอื่นขอบคุณเจ้าของผลงานก่อนคับ ที่ยอมมาเป็นตัวตุ๊กตาให้ความรู้น้องใหม่คนอื่นๆด้วย..
..อย่าเพิ่งตกใจนะคับว่า ถ้าผมเลือกผลงานไหนออกมา นั่นแสดงว่าผลงานนั้นแย่หรือผิดพลาดเยอะ เพียงแต่ผมเห็นประเด็น
ที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างเทียบเคียงได้ เพราะการสอนโปรดัคชั่น จำต้องจัดเป็นเวิร์คช็อพเรียนรู้จากงานจริง 
โดยให้นักเรียนทำตามความคิดของตัวเองก่อน แล้วเทียบเคียงกับงานที่คนอื่นทำ จึงจะมองเห็นความแตกต่างในงานของตัวเอง 
ไม่มีงานไหนในโลกที่ดีเลิศ ( นั่นเป็นเพราะคุณชอบ )และไม่มีงานไหนในโลกที่แย่ที่สุด ( นั่นเป็นเพราะคุณไม่ชอบ ) 
เรามาดูงานของพี่ใจดีกัน..( ต้องดูให้จบก่อนนะคับ ห้ามปิดกลางคัน )..
http://www.youtube.com/watch?v=



…จำไว้ว่า  " ถ้าคุณทำงานให้ใคร คุณต้องถอดวิญญาณการทำงานในตัวคุณ ไปสิงอยู่ในร่างของคนนั้น รวมกันให้เป็นหนึ่งเดียวให้ได้ " 
                 แล้วคุณจะเข้าใจในการทำงานชิ้นนั้น อย่างถ่องแท้..

 
เช่น MV ชุดนี้... ( จำไว้ว่า ลูกค้าจะดูเฉพาะในส่วนที่เขาส่วนร่วมหรือมองเฉพาะฉัน ..ท่องไว้ให้ขึ้นใจ )
  ถ้าคุณเป็นคนทำ แล้วคุณพูดว่า เอาไปให้คนอื่นดูแล้วคงไม่มีใครชอบ..นั่นแสดงว่า คุณยังไม่ได้ถอดวิญญาณในตัวคุณลงในงานนั้น
  แต่ถ้าคุณพูดว่า ได้ถ่ายทอดอารมณ์ของคน 2 คนที่ผ่านอะไรมาเยอะกว่าจะแต่งงานกันได้ ...คนอื่นดูไม่ชอบชั่งมัน
  นั่นแสดงว่า คุณได้ถอดวิญญาณตัวตนของคุณ เข้าไปอยู่ในงาน จนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว...( ปรบมือให้เลยคับ )


ขอเสริม...นี่คือตัวอย่างมองงานในมุมของลูกค้าที่เขารับรู้ได้ เช่น ลูกค้าดูภาพนิ่ง เขาก็จะดูว่า มีฉัน มีเธอ มีคนนั้น คนนี้  กำลังทำอะไร 
                  ขำจังเธอ ( ลูกค้าจะดูในส่วนที่เขารับรู้ได้ ) ไม่มีลูกค้ามาดู มีขยะตรงนั้น ต้นไม้ต้นนี้ไม่สวย ( นั่นคือการมองในมุมคนไม่มีส่วนร่วม )
                 อย่าง MV ชุดนี้ก็เหมือนกัน คนทำก็จะดูในส่วนที่เขารับรู้ได้ ซีนนี้กว่าจะถ่ายได้ยากขอเยอะหน่อย มุมนี้ต้องแบกเก้าอี้มาวาง
                  ขอนานนิด ซีนนี้ใช้เลนส์ยาวหลังละลายเน้นให้คนดูเห็นฝีมือ ฯลฯ ... 


    …และนี่คือเหตุผลที่ผมเคยเม้นท์ว่า ระวังงานที่พี่เขาโพสเข้ามา อาจไม่ใช่งานจริงที่เขาทำส่งลูกค้า เพราะคนละวัตถุประสงค์กัน …
     ตอนนี้ขอถอดวิญญาณกลับมาเข้าร่างเดิมก่อนคับ ..ขอมองการทำงานในมุมของคนทั่วไปว่า ( ลูกค้าไม่มีส่วนร่วมหรือรับรู้ไม่ได้ )
      มีข้อควรระวังอะไรบ้าง จากตัวอย่างนี้.


กฏข้อควรจำ...
กฏข้อ1. เวลา3 นาทีแรก สำคัญสุด ไม่ว่าคุณจะทำงานสื่อวีดีโออะไร ต้องจำข้อนี้ไว้ก่อนทำงาน คือ 
            ทำอย่างไรไม่ให้คนกดรีโมทหนี หรือ ปิดโทรทัศน์หนี ( อ่าน 3 รอบ )
            หลักจิตวิทยาโดยทั่วไปของคนดูสื่อ  3 นาทีแรก สำคัญสุด คนดูจะใจจดใจจ่อว่า คุณกำลังจะนำเสนออะไร บอกอะไร 
            แล้วเขาจะรู้อะไร ฟังเสียงแล้วไม่รู้เรื่อง ดูภาพก็ยังไม่เข้าใจ คนดูสื่อจะปิดทิ้งทันที 
            ....( สารภาพว่า MV ชุดนี้ ผมจะปิดทิ้งไปหลายรอบแล้ว เพราะจุดนี้เลยได้ไอเดียเป็นตัวอย่าง )
          บางคนถึงกับพูดว่า ถ้า 3 นาทีแรกทำให้คนดูติดไม่ได้ ก็อย่าทำซะเลยจะดีกว่า ไม่เหนื่อยด้วย 
            ( แรงไปหรือเปล่าไม่รู้ แต่คือกฏที่คุณต้องท่องจำ )..


กฏข้อ2.  การใส่เสียงคู่ไปกับภาพ หลายคนไม่รู้ว่ามันสำคัญ คิดว่าตัดภาพแล้วใส่เสียงเข้าไปพอให้อยู่ในช็อตนั้นๆก็พอ 
             คุณต้องฟังคำพูดและจังหวะของภาพที่นำเสนอ ณ ตอนนั้นด้วยว่า เสียงและภาพไปด้วยกันได้หรือไม่..
             ( จากตัวอย่างนาที.52 เสียงพูดรถยนต์ราคาแพง แต่ภาพเป็นมอเตอร์ไซต์ เสียงคำพูดนี้ต้องอยู่ตรงนาทีที่ .50 
              ที่รถกำลังสโลว์ให้ดู ) พอเข้าใจไม๊คับ...


กฏข้อ 3.  ให้คะแนนกับงานของตัวเอง สมมติงานชิ้นนี้ ต้องการทำให้ออกมาเป็นแนวไหน เช่น แนวรัก อารมณ์ โรเมนติก 
              ตื่นเต้น และเมื่อเราทำเสร็จแล้วลองตรวจสอบงานของเราดูทั้งหมดอีกครั้งว่า เราทำออกมาตามแนวที่เราต้องการ
              ในตอนแรกหรือไม่ เช่น อยากให้โรเมนติก แต่งานเสร็จดูแล้วไม่โรเมนติกเลย หรือโรเมนติกนิดเดียว คือไม่เด่น 
              แต่ไปเด่นอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ใช่แกนของเรื่อง นั่นแสดงว่า คุณสอบตกในชิ้นงานนั้นๆ
             ฉนั้น เมื่อรู้ว่าเราสอบตก ก็ควรสอบซ่อม รีบหาสาเหตุแล้วแก้ไขเสีย ว่างานไม่ดีเพราะอะไร แก้ไปมา
               จนกว่าตรงตามโจทย์ที่เราตั้งไว้ตอนแรก ( ถึงจะสอบผ่าน )



…และท้ายสุด ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวด้วยคนนะคับ กับของขวัญชิ้นนี้ …( ลองทำตามกฏ 3 ข้อ ที่แนะนำไป ) 
      แนวการแก้ไขงานชุดนี้.-
    - เน้นโรเมนติก เส้นทางของความรักที่ต้องฝ่าฟันมาจนถึงวันนี้ วันที่แต่งงานกัน.-
    - ไม่เน้นปัญหา ที่ทะเลาะกัน เพราะไม่ใช่ประเด็นหลัก ให้เห็นภาพนิดเดียวพอ
    - เน้นบ่าวสาวเป็นหลัก อะไรไม่เกี่ยวตัดทิ้งหมด , ภาพสายนำ้แทนตัวเจ้าสาวที่เอาแต่ใจ ( ตัดตรงตามคำพูด)
    - อารมณ์ภาพคู่น้อยมาก เลยปูอารมณ์ตอนจบอีกครั้ง การ์ดแต่งงาน , ภาพคู่กอดกัน, และตัวหนังสือ..
      นี่คือตัวอย่างการแก้งาน ที่ผมลองตัดต่อเรียบเรียงใหม่ " ใครไม่ชอบไม่สน แต่ผมชอบของผม.." ( เพราะภาพมีเท่านี้ )


 สรุป.....ถ้าเรามองในมุมของลูกค้าที่มีส่วนร่วมในงาน  ใส่ภาพยาว ใช้เวลานาน ลูกค้าไม่ว่าหรอกคับ เขาจะชอบเพราะได้ดูภาพเยอะๆ
..แต่ถ้าเรามองในมุมของคนทั่วไปที่ไม่มีส่วนร่วมในงาน ( ไม่รู้จักเจ้าบ่าวเจ้าสาว ) จะเห็นว่างานออกมาน่าเบื่อ 
              ไม่น่าสนใจ เนื้อเรื่องวนไปวนมา บางส่วนตัดทิ้งก็ได้...
        ...... และนี่คือเหตุผลที่บางโปรดัคชั่น ไม่ให้คนถ่ายมาตัดงาน เพราะคนถ่ายเองตัดเองจะรู้สึกเสียดายซีน มุมนี้ลำบากกว่าจะถ่ายได้
               มุมนั้นสวยขอเพิ่ม ทำไปทำมาเนื้อเรื่องเลยยืดเกิดความน่าเบื่อ...ระวังข้อนี้ให้ดีสำหรับมือใหม่นะคับ 



บทความที่เกี่ยวข้อง
 ในที่สุดผมก็รู้ปัญหาของน้องใหม่แล้ว...( p0p-it ) 

หลักง่ายๆในการทำ เอ็มวีงานแต่งงาน.. 
 เวิร์คช็อป โหย พี่ ม.ใหญ่ ใจดีมอบให้ น้อง ม.เล็ก ต้องดูคับ.
http://file2.uploadfile.biz/i/MHENMEIMIMINDE
อัปเดท 72 บทความทั้งหมดที่เขียนในเว็บไทยดีฟิล์ม เรียบเรียงให้คุณเก็บไว้อ่านยามว่าง 

http://www.youtube.com/watch?v=Y2g8ByGPmsc&feature=youtu.be

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ แล้้วก็ ที่สละเวลากับผลงานครับ

นึกว่าจะเป็นแค่ผมคนเดียวที่ พอเห็น แค่ ผู้หญิงเปิดประตูแล้ว ก็ ปิดทันที

คิดเหมือนกัน ที่ ว่า ถ้า เริ่มเรื่องไม่น่าดู ต่อๆ ไป ก็ อาจจะไม่น่าดูก็เป็นได้

MV งานแต่ง ถ้าไม่เริ่มต้นด้วยความน่าสนใจ น่าติดตาม บรรดาแขกคงนั่งยกแก้วเหล้าคุยกันซะมากกว่าก็เป็นได้ครับ

ขอบคุณคร้าบบบ

ดูของเดิมแล้วอยากจะปิดทิ้งไปหลายรอบ แต่ด้วยที่พี่เจ้า ของ กระทู้บอกว่าต้องดูให้จบเลยต้องทนดู
อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ แต่เพื่อตัวคุณเอง
ของเดิมก่อนทำใหม่
ดูแล้วมันโปรดักชั่นขยะนะครับ  ไม่มีความน่าสนใจ ดูแล้วงงๆ ไม่ราบรื่นไม่ดึงดูด ตัดไปตัดมา เนื้อหามันเยอะเกินไป อะไรก็ไม่รู้ ดูแล้วเบื่อ นานเกิน เพลงก็ไม่โอ แถมไม่มีจุดสะกดใจ และยังใช้เอฟเฟกขยะๆอีก มีให้โหลดฟรีเยอะแยะ ฟอนต์ก็นะ ฆ่าตัวตายชัดๆ งานดูแบบบ้านๆไป ถ้างานที่ดีเอฟแบบใหม่เหอะ แบบนี้ห่วยๆๆๆๆ

ของใหม่
ดูแล้วกระชับหน้าติดตาม สั้นๆได้ใจความ ดูแล้วเข้าในง่าย ทิ้งความประทับใจ แค่นี้สั้นๆ พอ

ผิดถูกประการใดขออภัย

ผมก็ได้เข้าไปเขียนในกระทู้ผมแล้วนะครับแล้วก็จะเขียนที่นี้อีกครั้ง

อ่านแล้วก็เศร้าใจจริงๆครับผม ไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมเขียนไว้ชัดเจนเลยนะครับ ว่าน้อมรับทุกคำติชม แล้วก็ไม่ได้มีเนื้อหาต้องการอวดอ้างหรือโจมตีใครเลยนะครับ

แล้วพี่ๆที่ใจดีหลายๆท่านก็เข้ามาติชม ด้วยความจริงใจ  ท่าน iamway,  ท่าน p0p-it เองก็ได้เอางานผมไป work -shop  และแนะนำผมมาว่าใครแก้ตรงใหน

บ้าง ซึ้งผมก็ได้รับฟังเป็นอย่างดี  ท่าน

nai-t เองก็ได้เสนอแนวทางอีกทางเลือก ซึ้งผมก็รับฟังและก็ดีใจที่มีคนเข้ามาเสนอความคิดเห็น ท่าน  nakrop225 เองก็เข้ามาแสดงความคิดเห็น และผมก็

พร้อมที่จะเปิดใจรับฟัง  เอาเป็นว่าทุกๆท่านที่เข้ามาเขาก็มาติชมในฐานนะคนนอกมอง ไม่ก็ท่านมืออาชีพอย่าง ท่าน p0p-it ที่ได้ทำ เวิร์คช็อป

เป็นกรณีศึกษาซึ่งผมเองก็น้องรับด้วยความเต็มใจ  


และด้วยผมเองเป็นคนพร้อมที่จะรับฟังและเปิดใจกว้างอยู่แล้ว ผมก็เขียนชัดเจนว่า "พร้อมน้อมรับทุกคำติชมครับ ขอบพระคุณมากครับ"

แต่ไอ้คำว่า" งานขยะ " ที่คุณพูดถึงนี้ มันสมควรแล้วหรือครับ ??? นี้เรียกเป็นการวิจารย์แบบมืออาชีพหรือครับ ??? จากที่ผมอ่านนี้ มีแต่อารมย์ล้วนๆเลยนะครับ

ผมคิดว่าสังคม ThaiDfilm คงไม่ต้องการคนแบบนี้หรอกครับ  การที่คุณสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า งานคนอื่นเป็น "งานขยะ" <<<<มันเป็นการดูถูกมากกว่าคำติชมครับ ผมรับไม่ได้หรอกครับ


ผมว่าคุณเอา ID จริงๆคุณมา post เลยดีกว่าครับ ไม่ต้องมาสมัครใหม่แล้วทำตัวแบบนี้หรอกครับ ไม่สมควรจริงๆ ผมรับไม่ได้ครับ  การที่คุณเก่งกว่า ไม่ได้แปลว่าคุณสามารถดูถูกงานของคนอื่นได้นะครับ

ผมพร้อมที่จะรับฟังเหตุผลดีๆ รวมถึงข้อเสนอแนะดีๆ (ซึ้งผมก็รับฟังมาโดยตลอดไม่ได้พูดอะไรเลย มีแต่ขอบคุณครับ จะนับไปปรับปุงให้ดีขึ้น ) แต่ตัวคุณเองมาดูถูกงานคนอื่นว่าเป็น "งานขยะ" แบบนี้

เหมาะสมแล้วหรือครับ ?

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 5 ต้นฉบับโพสโดย vipnum เมื่อ 2012-07-30 19:58  :
ผมก็ได้เข้าไปเขียนในกระทู้ผมแล้วนะครับแล้วก็จะเขียนที่นี้อีกครั้ง

อ่านแล้วก็เศร้าใจจริงๆครับผม ไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมเขียนไว้ชัดเจนเลยนะครับ ว่าน้อมรับทุกคำติชม แล้วก็ไม่ได้มีเนื้อหาต้องการอวดอ้างหรือโจมตีใครเลยนะครับ

แล้วพี่ๆที่ใจดีหลายๆท่านก็เข้ามาติชม ด้วยความจริงใจ  ท่าน iamway,  ท่าน p0p-it เองก็ได้เอางานผมไป work -shop  และแนะนำผมมาว่าใครแก้ตรงใหน
.......

เห็นด้วยทุกประการ

ของใหม่เยี่ยมครับ ของเก่าเป็นเวร์คชอพ ได้ดีครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ และแง่คิดต่าง ๆ ครับ