เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
การเห็นแก่ตัวมีทั้งมีเหตุผล และไม่มีเหตุผล
1) มีเหตุผล ก็อย่างที่น้องพูดมานั้นแหละ ทำไปทำไม!!! มันไม่ได้ประโยชน์กับตัวเรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งตัวและทางใจ
2) ไม่มีเหตุผล เกิดขึ้นหลังจากที่เรา ทำข้อ 1 มาต่อเนื่องจนกลายเป็นนิสัย มันจะทำงานอัตโนมัติ กลายเป็นคิดแง่ลบ มองแง่ลบ ทำอะไรแง่ลบ โดยที่ไม่ต้องลังแล หรือคิดอะไรมาก อันตรายที่สุดแล้ว (กับตัวเอง)
และผมคงไม่มานั้งพูด นั้งสอนในเรื่องแบบนี้ แค่ไม่กี่บันทัดมันจะช่วยอะไรได้นะครับ ช่วยไม่ได้หรอกครับ แค่ช่วยบอกให้รู้ว่า ผมอีกคนที่เข้าใจ แต่การที่คนเราจะเปลี่ยนจากสิ่งที่ีมันติดอยู่ในชีวิตเรามานานพอสมควร มันก็ต้องใช้เวลาเอามันออก
เช่นผมเอง...ตอนวัย 15-17 ผมเป็นคนปากร้าย ใจร้อน ปากร้าย ใจร้อนผม มันเกิดจากที่ผมจะต้องใช้ชีวิตอยู่ให้ได้เพียงตัวลำพัง ต้องต่อสู้ ต้องป้องกันตัวเอง เกิดจากการผยอง เพราะคิดว่าตัวเองเก่ง เกิดจากการคิดว่าเป็นคนสำคัญเพราะทำได้ทุกอย่าง นั้น ทำให้ผมกลายเป็นคน ปากร้าย ใจ้ร้อน โดยที่ไม่รู้ตัว เป็นคนหยิ่งโดยไม่รู้ตัว แต่..ผมไม่เคยเห็นแก่ตัวเท่านั้น เพราะผมชอบช่วยคนอื่นๆ โดยที่ไม่หวังอะไร แต่..ผมดันได้ ปากร้าย ใจร้อน หยิ่ง มาแทน เพราะว่าได้คำชมมาตลอด เป็นคนสำคัญ ทำให้ผมหลงทางอยู่นาน กว่าผมจะหลุดจากสิ่งเหล่านั้น กว่าผมจะเข้าใจ กว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองได้ ก็ใช้เวลาหลายปี (แต่ผมก็ไม่ได้ทำคนเดียวนะครับ เราต้องมีพี่เลี้ยงมาค่อยแนะนำด้วย คอยเตือนสติ และคอยให้กำลังใจ เวลาผม ถึงทางตัน)
นี่แค่บางเรื่องที่ผมนำมาแบ่งปัน ให้ฟัง
ข้อคิด... แม้เราจะรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก แต่ถ้าเราไม่มีแบบแผนที่ดีให้เราเดินตาม ไม่มีผู้ที่นำทางที่ดี ผู้ที่คอยผลักดันให้เราเดินตรงทางในยามที่เราเดินวนไป วนมา ชีวิตของเรา ก็ยากที่จะสลัดสิ่งที่อยู่ในตัวเราออกไปได้ ถึงแม้ผมจะบอก เคล็ดลับไปว่า....ทุกอย่างในโลกนี้ มันง่ายมาก นั้นคือ... เมื่อคุณรู้แล้วว่า ดี ไม่ดี ก็เพียงแค่คุณ ตัดสินใจเท่านั้น ตัดสินใจ ตัดสินใจ เท่านั้น ว่าจะทำอันไหน!!!!! .......เคล็ดลับของผม....
แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น....
ขอให้มีความสุขครับ