สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 6436เข้าชม
  • 9ตอบกลับ

วลีฮิต " งานผมหัดทำครั้งแรก ติชมหน่อยคร้าบบบ" อยากรู้เรามีคำตอบ..

โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ใครที่คิดว่ากำลังจะพิมพ์ข้อความข้างต้นนี้ อ่านก่อนเลยนะ..( ต่อไปผมจะติชมงานน้องใหม่ ผมก็แค่ลอกเอาไปแปะให้น้องเขาอ่านก็พอแล้วคับ )
หลังจากได้เขียน " 
เรามีข้อคิด ถ้าคิดจะทำหนังสั้น "  http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6404 ไปแล้ว ลองแวะเข้าไปดูงานของน้องๆ ที่โพสให้พี่ช่วยติชมงาน
เลยลองเขียนแนะนำ ทำไปทำมา2แผ่นยาว โหย..ไม่ไหวแล้วอย่างนี้... เดี๋ยวน้องใหม่จะว่า ฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นมากกว่า ลองไปเปิดดูงานน้องคนอื่นๆ 
จะเห็นความบกพร่องคล้ายๆกัน เลยคิดได้ว่า แยกออกมาเป็นหมวดหมู่แล้วเขียนให้น้องใหม่ อ่านเอง ดูเอง  สรุปเอง แก้ไขเอง จะดีกว่า นะคับบบบ....
1.ไม่ควรเลือกเรื่องที่เราไม่มีความรู้จริง และทำไม่ได้จริง ( คือไม่มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเรื่องที่เราต้องการถ่ายทอด ) เช่น เรื่องเกี่ยวกับคนบ้า , ผีอยู่กับคน 
   การฆ่าคน ฯลฯ อย่าลืมนะคับว่า การสร้างหนังสั้นก็คือการเล่าเรื่อง การเล่าเรื่องที่เรามีประสบการณ์จริง ให้คนอื่นฟังและเชื่อถือได้ว่าเราไม่ได้โกหก ก็ยากพออยู่แล้ว
   แต่นี่เราต้องมาเล่าเรื่องที่เราไม่ได้ทำจริง ให้คนอื่นได้เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ( ต้องบอกยากมากๆๆๆ )   ...ผมว่าทุกๆคนต้องเคยโกหกสักครั้งในชีวิต
   และก็เคยถูกจับได้ หรือจับโกหกคนอื่นได้ (จะสังเกตุว่าการโกหกนั้น ถ้าถามคำถามไปเรื่อยๆจะเริ่มวนไปวนมา และในที่สุดจะโกหกต่อไปไม่ได้ .. คือถูกจับได้ )
   การเล่าเรื่อง ในเรื่องที่เราไม่รู้ให้คนอื่นฟังเพื่อให้เขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง ก็หมายถึงการโกหกโดยไม่ให้เขาจับได้นั่นเอง ฉนั้น คนเล่าเรื่องต้องถ่ายทอดได้เก่งมากๆๆ 
   และถ้าต้องทำเรืองนั้นจริงๆ ควรทำการบ้าน สืบหาข้อมูลให้มากพอ ( คือต้องหาเหตุและผลต่างๆมารองรับเพื่อให้ดูสมจริง ) 
   แต่ถ้าเกินความสามารถที่เราจะทำ ก็สามารถจ้างพี่ๆมืออาชีพมาช่วยดูแลเราได้  ( ต่อข้อ 2เลย.. )
2. และปัญหาต่อมา เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พี่ๆที่มาช่วยเราทำงานจะมีความรู้ด้านนี้ แตกฉานทะลุ และดีพอที่ทำออกมาแล้วคนดูจับโกหกเราไม่ได้ ปํญหาก็จะวน
    กลับที่น้องใหม่อีก ( เมื่อทำไม่ได้จริง ) สู้แก้ปัญหาที่ต้นตอเลยจะดีกว่า คือ เลือกเรื่องที่เรามีประสบการณ์โดยตรงหรือหาเรื่องที่อย่าซับซ้อนมาก ...เพื่อที่เรา
    จะได้สืบหาข้อมูลไม่ยาก มีตัวอย่างจริงให้เราเห็น จับต้องได้ ...
3.  อย่าเปลี่ยนสถานที่บ่อยนัก เดี๋ยวในห้อง นอกห้อง บนดาดฟ้า สนามหญ้าหน้าบ้าน ห้องกินข้าว ฯลฯ อยากให้คิดถึงความจำเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงว่า
      จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานที่หรือไม่ บางทีเปลี่ยนสถานที่แต่แอ๊คชั่นเดิม เช่น การคุย.. คนดูจะสับสน งง ว่า ทำไมไม่คุยให้จบตอนอยู่ในห้องเลย มาคุยต่อข้างนอกทำไม..
     ข้อดีของการเปลี่ยนสถานที่บ่อยคือหลีกหน่ีความจำเจ ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันคืออารมณ์จะหลุด ต่อไม่ติด และจะยิ่งงงมากขึ้นเมื่อตัดกลับไปมา..
4. อย่าเลือกหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันในขณะเดียวกัน เช่น ขับรถชนเกิดอุบัติเหตุตาบอด เสียใจมาก กลับมาบ้านทะเลาะกับครอบครัวที่บ้าน พาลไปถึงแฟน
    พ่วงกับอีกเหตุการณ์เพื่อนรักมาแย่งแฟนที่ตัวเองจะแต่งงาน โอ๊ย ยุ่งเหยิงไปหมด ขนาดเล่ายังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง มาทำเป็นหนังยิ่งลงทะเลไปกันใหญ่ ที่เห็นพี่เขาทำ
    หลายเหตุการณ์และเชื่อมต่อกันได้ต้องมือระดับพระกาฬ ของคุณแค่เริ่มต้น เอาน้อยเหตุการณ์แล้วทำให้ดีจะดีกว่า ทำหลายเหตุการณ์แล้วไม่ดีสักเหตุการณ์
    แต่ถ้าอยากทำหลายเหตุการณ์พร้อมกันจริงๆ เรามีคำแนะนำคือ คุณต้องหาแกนของเรื่องให้ได้ หรือที่เขาเรียกตัวเชื่อม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ตัวคน 
    หรือสัญญลักษณ์อะไรก็ได้ .. ผ้าพันคอ , ..แหวนเพชร , ..รูปภาพ เป็นตัวส่งไปยังเหตุการณ์นั้น และเป็นตัวดึงกลับเข้าเหตุการณ์เดิม ขอยกตัวอย่างเรื่องเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟ
    เด็กน้อยขายไม้ขีดไฟท่ามกลางหิมะข้างนอก เธอจุดไม้ขีดไฟขึ้นแล้วมองเห็นพ่อแม่ พี่ ตัวเองมีความสุข ดูจนไม้ขีดหมด ก็จุดขึ้นอีกเห็นเพื่อนๆและตัวเองวิ่งเล่นมีความสุข
   ไม้ขีดหมดก็จุดอีกไปเรื่อยๆ จนเหลือก้านสุดท้าย เห็นคุณยายที่เลี้ยงดูมาโอบกอด และพาไปอยู่ด้วย เมื่อไม้ขีดหมดเด็กน้อยก็นอนหนาวตาย แต่มีความสุขเพราะมีรอยยิ้ม
   ( เล่ามั่วๆนะ อยากอ่านไปหาในอากู๋แล้วกันนะ ) ยกมาให้ดู เด็กน้อยกับไม้ขีดไฟเป็นตัวเชื่อมไปยังเหตุการณ์ต่างๆ แต่งานน้องใหม่ที่โพสเข้ามามักจะไม่มีแกนกลางตัวเชื่อม
   คือบทจะไปเหตุการณ์นั้นก็ไป เบื่อก็กลับมา บางทีตัดสลับไปมา จำไว้ เมื่อคนดูเริ่มจับได้ว่าคุณโกหกเมื่อไร เหตุการณ์ต่อไป ให้เหมือนจริงอย่างไรเขาก็จะไม่สนใจแล้วคับ
5. อย่าเลือกหลายอารมณ์ในขณะเดียวกัน จะว่าเหมือนกับข้อ4 ก็ไม่เชิง คือเหตุการณ์เดียวแต่หลายอารมณ์ ระวังจะคอนโทรลอารมณ์ไม่อยู่ และคนดูสับสน 
    ( ตัวคนทำก็เริ่มสับสนเองด้วย ) ต่อจากตัวอย่างเดิม ชายหนุ่มรักษาตาบอดหายจนมองเห็นเป็นปกติ( ข้ามอารมณ์นี้ไป )  แล้วตามหาหญิงแฟนตัวเองที่นอกใจ
   หนีไปอยู่กับเพื่อน คือจะไปฆ่าเธอนั่นแหละ พ่อแม่ครอบครัวก็คอยห้าม อารมณ์ตอนนี้เน้นละเอียดมากเลย แต่อยากให้ข้อคิดว่า ในเหตุการณ์จริง 
    คนที่ประสบอุบัติเหตุขับรถชนจนตาบาดเจ็บ คือจะมองเห็นได้หรือไม่นั้น  อารมณ์น่าจะอยู่กับตัวเองและหมอที่กำลังรักษาตา  ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่มีความสุขกับแฟน
    และอนาคตที่จะไม่เห็นหน้าแฟนและครอบครัวของตนเองอีกต่อไป ( ถ้าตาบอด ) อารมณ์นี้ต่างหากที่เป็นคีย์หลักของเรื่อง แต่อารมณ์นี้ทิ้งไป ข้ามไปตามล่าแฟน
    ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ก็อย่าให้เขาตาบอดเลย ไปบาดเจ็บอย่างอื่นเถอะ การนำหลายอารมณ์มาผูกเป็นเรื่องต้องเรียงลำดับตามความแรงของอารมณ์ด้วย บางทีการข้ามไปเลย
โดยเนื้อเรื่องนั้นไม่มีเหตุผลมารองรับ จะทำให้ประเด็นหลักขาดความน่าเชื่อถือด้วย (เขาเรียกจับอารมณ์ผิดคับ )
6. สับสนในอารมณ์ ชอบความตื่นเต้น จะเห็นแนวนี้เยอะคือชอบเน้นอารมณ์ตื่นเต้น บางเหตุการณ์ไม่น่าจะตื่นเต้นก็โยงจนเกิดได้ ถามว่าเหตุการณ์ธรรมดาทำให้ตื่นเต้นได้ไม๊
      ตอบว่าได้คับ ขึ้นอยู่กับเหตุและผลของเรื่องที่คุณผูกกันอยู่ แต่อยาก ให้คุณคิดในมุมกลับว่า ถ้าทำแบบไม่ตื่นเต้น อารมณ์อาจจะแรงกว่าไม๊ เช่นตัวอย่าง 
 - ลูกชายติดคุกฆ่าคน  แม่กำลังเดินทางมาเยี่ยมคุณก็ทำตื่นเต้น ตัดไปมา ..ขาแม่ขึ้นรถ / ขาลูกเดินมารอ /หน้าแม่ / หน้าลูก /แม่เดินเข้าประตูคุก /ลูกวิ่งเข้าไป / ตามอง ฯลฯ 
ทุกอย่างเร็ว เพลงส่ง ภาพส่ายไปมากระตุกกัดสี จนมาเจอกันกอดร้องไห้  ( แนวตื่นเต้น ) กลับกัน ถ้าทำแนวอารมณ์แบบช้า...
-  ลูกชายอยู่ในคุก รู้ว่าวันนี้แม่จะมาหา ( คือวันที่ดีที่สุดของเขาในยามนี้ ) เปลี่่ยนเสื้อเดิมออกเป็นเสื้อตัวใหม่ ( อาจเหมือนเดิมก็ได้ ) เข้าไปสวดมนต์ไหว้พระ หยิบรูปแม่ออก
จากหมอน กราบอีกครั้ง แล้วเดินออกมาเรียบๆผ่านคนคุกหลายๆคน พร้อมหยิบผ้าเช็ดตัวส่วนตัวติดมือออกมาด้วย  แล้วมานั่งรอแม่ที่หน้าประตูคุก ตามองไปข้างหน้าไม่กระพริบ
ทุกอย่างนิ่งปล่อยคนอื่นเคลื่อนไหว ( ครอบครัวคนอื่่นมากันแล้ว ) ในที่สุดแม่ก็เดินผ่านเข้าประตูมา ลูกชายไม่มีอาการดีใจกระโดดตื่นเต้น เดินธรรมดาเข้าไปหาแม่ หยุดลง
ที่เท้าแม่ เอาผ้าเช็ดตัวเช็ดขาแม่ ( อาจจะมีนำ้มาล้างก็ได้ ) และเช็ดเท้าจนแห้ง เสร็จกราบเท้าแม่ 3 ครั้ง สายตาแม่มองดูลูกนำ้ตาล้น แม่ก้มลงบอกไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้
..ลูกพูดกับแม่ว่า "  ลูกบาปหนักที่ทำให้แม่ต้องมาลำบาก ลูกขอขมากับสิ่งที่ได้กระทำผิด สัญญาว่าจะไม่ทำให้แม่ต้องเสียใจอีก "  2 คนกอดร้องไห้ 
...ไม่ว่าเหตุการณ์ไหน อารมณ์ใด มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ ( แนวตื่นเต้น, แนวอารมณ์ )  อยากให้คิดกลับไปมาว่า บางครั้งการทำแบบธรรมดา ( คนทั่วไปที่รับรู้ )
    อาจแรงกว่า และดึงอารมณ์ได้มากกว่า ที่เราอยากทำตื่นเต้น..( เพราะคนดูจะลุ้นคอยเอาใจช่วย )   ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องที่คุณผูกกันไว้ด้วย..
7. อย่าให้ความสำคัญกับการผลิตมากเกินจนลืมเนื้อเรื่อง เช่นไปถ่ายที่ภูกระดึง เตรียมอุปกรณ์เครน ดอลลี่ยาว ถ่ายสต๊อกเพียบ พอจะตัดทิ้งก็เสียดายสต๊อก นึกถึงความ
   ยากลำบากที่กว่าจะแบกอุปกรณ์ขึ้นไปได้ ยากแสนเข็น ก็เลยเพิ่มเนื้อให้ยาวขึ้น คนดูก็เริ่มสับสนว่าทำไมมันยาวน่าเบื่อแบบนี้ แต่คนทำไม่เบื่อเพราะอยากโชว์อุปกรณ์ 
   ยิ่งมีตัวบินด้วย บางทีบินไปบินมาโชว์อยู่นั่นแหละไม่ไปไหนเสียที เอาเป็นว่า ถ้ามันลำบาก ไม่คุ้มก็อย่าขนขึ้นไปแล้วกัน จะได้ไม่มานั่งเสียดายเวลาตัดออกทิ้ง
8. ถ่ายไปเพิ่มไป จนลืมนึกถึงบทบาทของตัวละคร เช่น เห็นร้านเสื้อสีสวย ก็ให้ชายหญิงเข้าไปเดินเที่ยว แต่ลืมนึกถึงตัวละครที่วางไว้ เป็นไฮโซเขาไม่มาเดินหรอกร้านแบบนี้
   เห็นร้านกินไอติมน่ารักดี เอ้าทำตาหวานนั่งกิน แต่ตัวละครห้าวซะ ( อารมณ์แบบนี้ต้องเดินกินไม่ใช่นั่งกิน ) 
    ..ผมว่าหมดทุกเหตุการณ์ของน้องใหม่ในการเล่าเรื่อง หนังสั้น แล้วนะคับ ( รอพี่ๆมาเสริมแล้วกัน )....
...อยากให้น้องๆดูงานของพี่ในเว็บ ไม่ว่าเรื่องสันหรือ เอ็มวี เขาจะเลือกเหตุการณ์ที่ไม่ซับซ้อน ดูง่ายแล้วทำให้ถึง ( ให้คนดูเชื่อว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง ) อย่างมาก 2 
เหตุการณ์ หรือถ้า 3 - 4 เหตุการณ์จะน้อยมาก ( แต่น้องใหม่ชอบหลายเหตุการณ์จัง ) บางบริษัทถ้าเราไปสมัคร เขาจะให้เพลง MV มา ให้คุณได้ออกไอเดีย เสนอ
เป็นเรื่องสั้นให้เขาดู ถ้าคุณสามารถทำเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นเรื่องสั้นที่ประทับใจได้  คุณก็ได้งานทำไปเลย
..การประกวดหนังสั้น บางทีมันขึ้นอยู่กับดวงเหมือนกันนะ เหมือนกับหนังจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย ปีที่ได้รางวัลมีหนังเขาเด่นเรื่องเดียว
เลยได้รางวัลไปเพียบ พอมาเจอไททานิคหนังฟอร์มยักษ์ เรื่องอื่นๆซึ่งดีกว่าจักรพรรดิ์องค์สุดท้าย( แต่แพ้ไททานิค ) ตกรอบหายเข้ากลีบเมฆไปหมด 
ฉนั้น การประกวดที่เราไม่ชนะไม่ใช่งานเราไม่ดี เพียงแต่งานคนอื่นเขาอาจดีกว่าเรา( นิดเดียว )  ถ้าแพ้ไม่ได้รางวัลก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ เอางานมาเสนอที่เว็บนี้ก็ได้ 
มีพี่ๆเขารอดูงานดีๆอยู่ทุกวัน รวมถึงนายทุนก็แอบเข้ามาดูงาน หาคนเก่งเม้นท์ส่วนตัวไปชักชวนให้มาร่วมงานเยอะแยะ 
.ไม่แน่นะคับ.." ..คุณอาจเป็นอีกคนที่ไม่ได้รับรางวัลใดๆในการประกวด ..แต่คุณกลับได้รับรางวัลในโลกแห่งความเป็นจริง....."   ขอให้น้องใหม่โชคดีทุกคนคับ...





   



[ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2011-07-01 11:25 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 4 คะแนน ซ่อน
krunoom ความดี +1 2011-09-03 -
lmedia ความดี +2 2011-08-22 ขอบคุณ...และ ขอบคุณ ครับ
gigapixel ความดี +1 2011-04-19 กินใจมากพี่ตรงประเด็นสุดๆครับ
maprang ความดี +1 2011-04-18 ดีค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
552
เงิน
17898
ความดี
14775
เครดิต
15797
จิตพิสัย
15554
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ได้รางวัลในโลกแห่งความเป็นจริง คมคายมากครับ

ชอบ ชอบ
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
37
เงิน
1365
ความดี
1356
เครดิต
1296
จิตพิสัย
1499
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
มีประโยชน์มากมาย ขอบคุณครับ
โพสต์
644
เงิน
16847
ความดี
14761
เครดิต
14339
จิตพิสัย
20875
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

สองประโยคที่ผมใช้ตลอดเวลาออกกองครับ

1 ฉากนี้จะบอกอะไร
2 ฉากนี้คนดูจะรู้สึกอย่างไร

ถ้าฝึกเชิงทักษะได้เยอะๆแล้ว สองประโยคนี้มันจะบอกเลยครับว่า เราควรจะถ่ายทอดอย่างไร
ด้วยความเคารพ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
263
เงิน
3819
ความดี
9083
เครดิต
9415
จิตพิสัย
8770
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-18
คมคายและได้ ความรู้มากๆ ครับ สำหรับน้องใหม่ อย่างผม  ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
322
เงิน
12785
ความดี
11703
เครดิต
12773
จิตพิสัย
10795
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-19
ทำอะไรง่ายๆเข้าไว้
คิดเรื่องที่เข้าใจง่าย เล่าให้ใครฟังก็เข้าใจ
ถ่ายทำให้ง่ายที่สุด เคลื่อนที่น้อยที่สุด โดนใจสุด สะเทือนใจคนดูสุด
ใช้ธรรมชาติให้มากที่สุด จัดให้น้อยที่สุดหากใช้แสงธรรมชาติได้ใช้
หากใช้อะไรรอบตัวได้ใช้
ลองคิดบท จากบุคลิคที่ตัวละครเป็น อย่าคิดบทที่ต้องการให้ตัวละครเป็น
(มือใหม่ควรทำ มือเก่าคิดว่ากำกับได้ก็ข้ามไป)
ตัดต่อให้คนดูเชื่อ เพลงประกอบมีผลมากในการกำกับอารมณ์คนดู
เพลงไม่ตรงอารมณ์หนังที่อยากสื่อสาร
อาจทำให้หนังยิ่งลงทะเลไปใหญ่
น่าจะประมาณนี้ อีกนิดคือทำในสิ่งที่ทำได้ อย่าถึงขนาดหนังเรื่องแรกทำแบบ The Metrix
มันเกินที่คนทำใหม่ๆ จะทำไหว หรือมือเก่าๆ ก็อาจไม่ไหวก็อย่าคิดทำ ย้อนไปเรื่องง่ายๆ เถอะ
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-20
ตามที่พี่ Puntisak เขียนมาจริงทุกอย่างคับ ( น้องๆควรอ่านอีกครั้ง ) นี่แหละคือหัวใจของการเล่าเรื่อง

งานที่น้องๆโพสมาสำหรับการเรียน บอกตรงๆว่าไม่ค่อยกล้าติชมเท่าไหร่ เพราะอาจารย์แต่ละคนสอนไม่เหมือนกัน

บางคลาสเขาต้องการเน้นการผลิต ( ถ่ายทำตัดต่อ  เนื้อเรื่องเลยอ่อน ) ฯลฯ น้องใหม่อาจได้คะแนนเต็มสำหรับที่เรียน

แต่ถ้ามาเข้าเว็บให้พี่ติชม พี่เขากล้าๆกลัวติชมไม่เต็มที่ เอาเป็นว่ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์สำหรับน้องๆต่างมาหลัยฯ ก็แล้วกัน...

ขอเพิ่มเติมข้อมูลอีกนิดแล้วกัน ( ถ้าไม่เขียนต่อก็ไม่สบายใจ )..สำหรับงานในครอบครัวหรืองานเพื่อนที่ทำกันเล่นๆ ( มีวัตถุประสงค์

เพียงดูสนุกกันเอง ) ไม่เข้าข่ายขอยกเว้น ( ในส่วนที่ผมเขียนทั้ง 2 ตอน ) แม้จะไม่ตรงหลักอะไรเลยในทางทฤษฏี

แต่คนดูเขารับรู้อารมณ์นี้ได้ว่า มันคือชีวิตจริงที่เกิดขึ้นจริง ..มีอายบ้าง ...เล่นผิดบ้าง ..ดูกล้องบ้าง..นอกกล้องบ้าง ..นี่แหละที่เขาเรียกว่า

ความสุขที่มีเสน่ห์...เลียนแบบกันไม่ได้ ( เกิดตามธรรมชาติ ) ใครที่เคยเห็นหนุ่มสาวรักกันใหม่ นั่งคุยกันตามร้านอาหาร สิ่งที่คุณสังเกตุเห็น

ได้คือแววตาแห่งความสุข ไม่เชื่อคุณลองเอามือขึ้นมาบังส่วนล่างของหน้า ให้เห็นแต่ดวงตา คุณก็ยังเห็นรอยยิ้มในแววตาได้

(ที่เขาเรียกดวงตายิ้มได้ ..ลองทำดูนะ ) ซึ่งการกำกับให้สมจริงทำไม่ได้ ...

.... ต่อไปใครจะเล่นเป็นพระเอกนางเอก ต้องให้เวลาเขารักกันก่อนแล้วค่อยมาแสดง ...( และถ้าคนกำกับเป็นพระเอกด้วย ..รางวัลเพียบ.. )






ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
148
เงิน
3793
ความดี
2253
เครดิต
2262
จิตพิสัย
4238
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-08-14
ขอลอกความเห็นของสมาชิกท่านนึงหน่อยนะครับ ว่า
ประสบการณ์ของคุณ p0p-it "อ่านเป็นคอลัมน์ประจำไปแล้ว"(นะเนี่ย) < ในวงเล็บนี่คิดเอง
โพสต์
1168
เงิน
213
ความดี
29205
เครดิต
30232
จิตพิสัย
35008
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-10
อาาาา เสพย์ๆครับ เยี่ยมจริงๆ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
113
เงิน
3764
ความดี
2391
เครดิต
2476
จิตพิสัย
2559
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2012-06-12
ขอบคุณมากครับ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้