คิดเหมือนผมไหม เรื่องการถ่ายหนังด้วย DSLR

จขกท. หายไปเลยอ่ะครับ    


จริงๆ ก็ไม่ได้อะไรนะครับ แต่ส่วนตัวผมว่า คนไทย "ยังรีด" ศักยภาพของกล้อง DSLR ออกมาไม่ได้ที่สุดเท่านั้นเอง ตอนนี้ผมมองว่า กล้องถูกลง ทำให้หนังไทยได้เกิดมากขึ้น น่าจะเป็นเรื่องดีนะครับ
ตอนนี้พวกเราเองก็กำลังหัดใช้กัน เลนส์ อุปกรณ์อาจจะยังไม่มาก แต่ในอนาคตคงทำได้ดีกว่าตอนนี้แน่นอน (ล่าสุดแคนอนประกาศจะเอาเซนเซอร์ 4k มายัดลงกล้อง DSLR)


DSLR จริงๆ เมืองนอกเค้าก็เอามาถ่ายหนังกันตั้งเยอะนะครับ
ขอยกตัวอย่างเช่น


     หนึ่งตัวอย่างที่ได้ไปดูมา ที่โรงภาพยนตร์ คุณภาพของภาพไม่ได้แย่เลย แต่ pixel คงไม่เท่า RED หรือ Film
     ถ่ายด้วย Canon 7D แต่ใช้ Lens Prime เกรดภาพยนตร์ (PL mount แต่ขออภัยจำยี่ห้อไม่ได้ครับ) 
หนังเรื่องนี้ได้รางวัลพิเศษที่เทศกาลเบอร์ลิน และกำลังไปฉายที่อื่นๆ ทั่วโลก (คาดว่าคงได้ชิงออสการ์สาขาต่างประเทศ)



เรื่องนี้ถ่ายด้วย Arri 16mm, Canon7D, 1Dmark II, 5DmarkII   ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม บท, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ได้รางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยม และรางวัลที่อื่นอีก 42 รางวัล




ถ่ายด้วย 7D เช่นกัน แต่ไม่ได้บอกว่าใช้เลนส์อะไร
เข้าชิงรางวัลได้เข้าฉายในโรงอเมริกาหลายที่ แถมได้รางวัลจาก Independent  Spirit Award (รางวัลสำหรับหนังอินดี้ของเมกา) และรางวัลขวัญใจนักวิจารณ์ประจำปี 2010

ไม่เห็นต้องใช้ RED หรือ Film ถ่ายเลยครับ

เทคโนโลยีกำลังถูกลง ผมว่าเป็นเรื่องดี แน่นอนครับ หนังไทย "กระแสหลัก" อาจจะต้องลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น 
กลับกัน หนังกระแสรอง (หรือเราๆ ว่า "อาร์ต") ในเมืองไทยกำลงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับวงการหนังสั้น เพราะค่าใช้จ่ายที่ถูกลงใช่หรือไม่


หนังไทยกำลังไปเรื่อยๆ ตอนนี้ถ้าเปรียบกับเด็กคงเหมือนวัยกำลังหัดพูด ต้องรอดูตอนโตต่อไปเรื่อยๆ ว่าเราจะไปได้ระดับไหน

สุดท้าย ผมขอยกโควทของผู้กำกับ ฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปล่า มาครับ


“To me the great hope is that now that these little 8mm video recorder and stuff now, some–just people who normally wouldn’t make movies are going to be making them. And, you know, suddenly one day some little fat girl in Ohio is going to be the new Mozart, and you know, and make a beautiful film with her father’s little camera-corder and for once this whole professionalism about movies will be destroyed forever and it will become an art form. That’s my opinion.”

ผมหวังว่าวันหนึ่ง จะมีกล้องดีๆ แต่เล็กๆ แบบ 8 มิลและทำให้ผู้คนที่ไม่เคยสนใจทำหนัง เกิดอาการอยากทำขึ้นมามั่ง และผมเชื่อว่า สักวันหนึ่งจะมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ตุ้ยนุ้ยๆ หยิบกล้องของพ่อเธอมาทำหนังสักเรื่องที่สวยงาม -วันนั้นแหละ ทุกสิ่งที่เราเรียกว่า ศิลปะของการทำหนังจะถูกทำลายลง และหนังจะกลายเป็น "ศิลปะ" แท้ๆ ขึ้นมาสักที

ผมเชื่อว่าทุกคนมีฝันครับ  ผมเองก็เหมือนกัน และหวังว่าเจ้า DSLR ของผมจะช่วยให้ผมเข้าใกล้ภาพยนตร์ไปอีกขั้นหนึ่ง

[ แก้ไขล่าสุดโดย impeus เมื่อ 2011-11-20 00:12 ]

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 44 ต้นฉบับโพสโดย bryan เมื่อ 2011-11-19 22:07  :
หนังไทยยุคใหม่ๆ อาจทำได้ไม่เท่านี้หรอกมั๊ง นี่ขนาดไม่ได้ใช้ DSLR นะเนี่ย มันยังขนาดนี้ นี่ละครทีวีนะเนี่ย ฉายตอนปี 39


เห็นได้ชัดว่าอุปกรณ์มันก็เรื่องรองอยู่ อิอิ

.......

เรื่องนี้ฉายช่อง5 ผมดูทุกวันเลยติดงอมแงม

กระทู้นี้ประเด็นสำคัญที่ผมตั้งขึ้นมาคือ "หนังไทยสมัยนี้ไร้อารมร์แบบ Film 24p ครับ" ต่างจากหนังฝรั่งที่เขาก็ใช้ Digital ถ่ายแต่มันได้อารมณ์แบบ 24p แท้ๆ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าหนังฝรั่งเขาใช้กล้องอะไรถ่าย อย่างเช่นหนัง The Expendable หรือ Step3

ประเด็นคือกล้อง DSLR ปัจจุบันภาพมันสวยคมชัดครับ อันนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว แต่การเคลื่อนไหว เฟรมต่อเฟรมมันยังถ่ายทอดอารมณ์แบบ Film 24p จริงๆ ไม่ได้ ผมก็แค่อยากเห็นหนังไทย สมัยนี้ถ่ายทอดอารมณ์ของการเคลื่อนไหวแบบนั้นบ้าง ซึ่งสมัยนี้ยังไม่พบเห็นจริงๆ

ส่วนเรื่องความสนุกนั้นหนังไทย หลายๆ เรื่องก็ ok แล้วครับ ไม่แพ้ต่างชาติหรอก ผมเข้าโรงหนัง ผมก็ไปดูหนังให้สนุกแหละครับ หนังไหนน่าดูผมก็ไปดู เรื่อง 24p นี่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกครับ แต่ก็แค่จุดประเด็นเฉยๆ ว่าทำไม บริษัทผลิตหนังของไทยไม่ลงทุนกล้องถ่ายหนัง 24p แท้ๆ แทนที่จะเอากล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนราคาไม่กี่หมื่นมาถ่ายหนังให้คนทั้งประเทศชม

สำหรับผม ผมดูหนังที่สาระของหนังครับ มันจะฉายให้ผมดู 5 เฟรม ต่อวิ หรือ 3000 เฟรมต่อวิ
ผมก็ไม่ว่าอะไร ถ้าผมดูแล้วชอบ แล้วอินไปกับเรื่องราวนั้นๆ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 47 ต้นฉบับโพสโดย packetnarok เมื่อ 2011-11-20 01:19  :
กระทู้นี้ประเด็นสำคัญที่ผมตั้งขึ้นมาคือ "หนังไทยสมัยนี้ไร้อารมร์แบบ Film 24p ครับ" ต่างจากหนังฝรั่งที่เขาก็ใช้ Digital ถ่ายแต่มันได้อารมณ์แบบ 24p แท้ๆ ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าหนังฝรั่งเขาใช้กล้องอะไรถ่าย อย่างเช่นหนัง The Expendable หรือ Step3

ประเด็นคือกล้อง DSLR ปัจจุบันภาพมันสวยคมชัดครับ อันนี้เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว แต่การเคลื่อนไหว เฟรมต่อเฟรมมันยังถ่ายทอดอารมณ์แบบ Film 24p จริงๆ ไม่ได้ ผมก็แค่อยากเห็นหนังไทย สมัยนี้ถ่ายทอดอารมณ์ของการเคลื่อนไหวแบบนั้นบ้าง ซึ่งสมัยนี้ยังไม่พบเห็นจริงๆ

ส่วนเรื่องความสนุกนั้นหนังไทย หลายๆ เรื่องก็ ok แล้วครับ ไม่แพ้ต่างชาติหรอก ผมเข้าโรงหนัง ผมก็ไปดูหนังให้สนุกแหละครับ หนังไหนน่าดูผมก็ไปดู เรื่อง 24p นี่จริงๆ มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอกครับ แต่ก็แค่จุดประเด็นเฉยๆ ว่าทำไม บริษัทผลิตหนังของไทยไม่ลงทุนกล้องถ่ายหนัง 24p แท้ๆ แทนที่จะเอากล้องถ่ายรูปเปลี่ยนเลนราคาไม่กี่หมื่นมาถ่ายหนังให้คนทั้งประเทศชม

อยากจะบอกว่าจริงๆแล้วหนังไทยที่เอากล้องภาพนิ่งถ่ายทั้งเรื่องมีไม่เยอะมากครับ จะมีบ้างคือใช้เป็นกล้องเสริมสำหรับมุมแปลกๆที่กล้องใหญ่ทำไม่ได้


อินทรีแดง ใช้ในส่วนของการริกกิ้งมุมเสี่ยงๆ กล้องหลักเป็น RED1 ครับ


บางระจัน2 ใช้ในซีนที่ต้องเอามาทำกราฟฟิคกล้องหลักใช้ EX3


ตุ๊กกี้เจ้าหญิงขายกบ ใช้ทั้งเรื่องครับ


และอื่นๆผมจำไม่ได้แล้ว


ส่วนใหญ่งานหนังของบ้านเรา ผมก็เห็นเป็น RED 1ซะส่วนใหญ่นะครับ ทั้งที่มีโอกาสแอบไปเดินเล่นในกองถ่าย ทั้งที่ดูเบื้องหลัง จะมีกล้องภาพนิ่งบ้างก็เป็นส่วนที่ต้องการผลพิเศษ ถ้าลดงบมาก็จะเป็น EX3 ทั้งที่ต่อP+S แล้วก็ใช้เลนส์เดิมๆเลย ส่วนที่เป็นกล้องภาพนิ่งเต็มๆเรื่องนี่มีไม่กี่เรื่องนะครับ ซึ่งกล้อง2ตัวนี้เป็น 24แท้แน่นอน


ในส่วนของโกสหรืออะไร บอกตามตรงผมมองไม่ออกครับ แล้วก็ไม่เคยคิดสนใจจะมองมันด้วย เพราะมองไปแล้ว สังเกตุไปแล้ว มันไม่ได้ทำให้การเข้าไปดูหนังของผมสนุกขึ้นเลย ก็เลยไม่รู้ว่าจะไปเฝ้าสังเกตุจับผิดมันทำไม 


ส่วนเรื่องอารมณ์แบบฟิล์มนั้น ผมไม่ได้มองแค่ว่ามันต้องเป็น24P ครับ เพราะสำหรับผมแล้ว จะ 23.976 24 25 29.973 30 มันมีค่าเท่ากันหมดครับ ตาผมไม่มีความสามารถมากพอที่จะแยกแยะเหล่านี้ ความรู้สึกว่าเป็นหนังของงานชิ้นนั้นสำหรับผมมันมาจาก แสง สี การวางองค์ประกอบภาพ การเคลื่อนไหวกล้อง ภาษากล้อง การเล่าเรื่องของช็อตแต่ละช็อต 1ช็อตต้องสื่อสารออกมาได้ไม่มีเสียเปล่า บทต้องส่งภาพ ภาพต้องสื่อสารกับบท มากกว่าการที่จะต้องเป็น 24เฟรมครับ หนังหลายๆเรื่องใช้กล้องฟิล์มถ่ายแต่ให้ความรู้สึกเป็นวีดีโอก็มี และเช่นกัน หนังหลายเรื่องใชกล้องวีดีโอธรรมดาถ่าย ให้ความรู้สึกเป็นหนังมากกว่ามันก็มี ดังนั้นผมเลยไม่เลือกที่จะยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ครับ

สนุกจังเลย กระทู้นี้ ได้รู้อะไรเยอะแยะจากพี่ jobfilm จริงๆ





ปล. ผมยังดูไม่ออกเลยว่า โกส เป็นไง แฮ่ๆ อย่าไปเครียดมากเลยครับ เดี๋ยวจับอาเบะมาจัดการซะหรอก แบร่ๆ

อยากรู้จังว่าเรื่องไหนที่ จขกท ดูแล้ว มันไม่ใช่ 24 เฟรมแท้ มั่งอ่ะ ผมอยากดู ว่ามันจะเป็นยังไง

จริงๆแล้ว ผมเห็นด้วยนนะครับ แต่ผมว่าข้อมูลมันแอบผิดนี๊ดสนึง.

หนังไทยส่วนมากในปัจจุบันใช้ RED ONE ถ่ายนะครับ
ไม่ว่าจะเป็นหนังของ GTH เรื่องที่ออกมาใหม่ๆ หรือแม้แต่หนังของพี่ต้อม ยุธเลิศ อย่างบางกอกกังฟู หรือของ ต้อม เป็นเอก เรื่องฝนตกขึ้นฟ้าก็ใช้ RED ทั้งนั้น

ผมเชื่อว่า DSLR ไม่เหมาะกับหนังโรงอยู่แล้วครับ ภาพมันสวยมาก แต่ใช้ได้ดีที่สุดก็สำหรับทีวีหรืออินเตอร์เน็ท

เรื่องนี้ชื่อ 'Like Crazy' เป็นหนังโรงเรื่องแรกที่ใช้ DSLR ถ่าย
http://www.youtube.com/watch?v=r-ZV-bwZmBw
ผมเชื่อว่ามันเวิร์ค แต่มันจะไม่เวิร์คสำหรัับทุกเรื่องที่คุณจะเล่า

ถ้าเราเทียบกับกล้องถ่ายหนัง ภาพมันจะไม่คม(จะเห็นชัดมากขึ้นเมื่อดูในโรง) เพราะอะไร? เพราะ film เทียบเท่ากับ 4k ความชัดมันสูงกว่าสี่เท่า หรือมากกว่าอีก  เพราะ DSLR แล้วจริงๆ True Resolution มันคือ 720p แต่อัพขึ้นมา 1080p

แต่ถ้าเราเห็นกล้องใหม่อย่าง C300 ของ Canon. มันถ่ายจากคุณภาพ 4k ลงมาเป็น 1080p มันจึงชัดคมกว่ามาก

DSLR ขึ้นโรงปุ๊ป ไม่มีความคมเลยครับ มันเหมือนภาพเบลอร์ทั้งภาพตลอดทั้งเรื่อง ดูจากคอมก็เห็นครับ คนถึงคิดว่ามันสวย
เพราะมัน DOF หนักมาก จนลืมว่าหนังมันต้องอาศัยความคมในการเล่าเรื่องบางอารมณ์ จะเล่าเหมือนเป็นมอนทาจทั้งเรื่องมันก็ไม่ได้อารมณ์สำหรับ
หนังบางแนว

ผมเชื่อว่า คนอยากทำหนังอะ คนไม่สนหรอกครับว่าจะใช้ DV หรือ Arri ถ่าย
แต่ถ้าอยากทำให้มันได้แบบคุณภาพหนังฟรั่งมันต้องใช้อุปกรให้ถูกอะครับ

แล้วสรุปทำไมหนังไทยยังทำไม่สวยเหมือนของฟรั่ง?
เพราะงบเราน้อยครับ ถ้าดูหนังโฆษณาหรือหนังสั้น
คุณภาพเยี่ยมเลยนะครับ เพราะงบมันมีมากกว่าสำหรับเวลาที่น้อยกว่า

เรื่องนี้เลยครับ หนังไทย ถ่ายออกมายังกะหนังฟรั่ง นับถือเลยครับ
http://www.youtube.com/watch?v=IMT2KV-FNFc

ไม่ใช่เพราะ กล้องแน่นอนครับ.. Art Direction, ฉาก, แสง, ชุด มันสร้างภาพที่ออกมาครับ

ขอบคุณครับ

พี่เห็นด้วยถ้าถ่ายด้วย DSLR องค์ประกอบอย่างอื่นต้องพร้อม อย่างน้อยก็มุมกล้องและแสงต้องสำคัญ

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ ผมว่า จขกท. ก็มีความคิดเห้นส่วนตัวสำหรับอุตสาหกรรมหนังเมืองไทยล่ะครับ
เค้าคงอยากให้หนังไทยมีคุณภาพมากขึ้นจะไปว่าก็ไม่ได้ก็อย่างว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ ถ้าให้ผมคิดนะผมว่า อุตสาหกรรมหนังไทยก็น่าจะเลือกใช้ผสมผสาญกันไป เพื่อให้ได้หนังคุณภาพดีและประหยัดงบไปในตัว 24f มันก็คงดีกว่าในบางฉากบางซีนแต่บางซีนที่ใช้แทนกันได้ก็น่าจะใช้ DSLR กันไป สำหรับพวกเราหนังกองเล็กที่ไม่ใช้อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก็คงต้องจำใจใช้แต่ DSLR เท่านั้นแหละครับ

คิดไม่เหมือน ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องคุณภาพเท่าไหร่ เพราะทำมาดีแค่ไหน ก็เจ็ดแผ่นร้อยได้ เมืองไทย ทำงานศิลป์ก็ทุ่มเงินไป ใช้ของที่ทำงานศิลป์ได้
แต่หากทำงานหาเงิน ทำอย่างไรให้คุ้มทุน นั่นต้องทำการบ้านดีๆ ด้านเทคนิดจะดีแค่ไหน ปล่อยๆ ไปบ้างก็ได้ บทดีๆ นายทุนยังไม่อ่านเลย
ดูอย่างพวกสั่งการซิ ควายเลือกมา ตะกวดบริหาร ควายทำงานเอาหน้าหาเงิน นักวิชาการกรอกทราย คนทำงานศิลป์แห้งตายเพราะไม่ส่งถุงยังชีพไปให้
อย่าคิดมาก อย่าโลภใช้ของดีมาก บททุกวันนี้มันก็ภาษาไทยมีคนเข้าใจแค่ 68 ล้าน มีคนดูหลักล้านได้ก็ฉลองแล้ว เอาอะไรมาก เอาทุนมากๆ มาละลาย
ให้สังคมน้ำเน่า ละครน้ำเน่า การเมืองควายๆ นายทุนสมองควาย ทำดีแล้วไง ทำแผ่นผีขายแข่งกับหนัง 7 แผ่นร้อยหาได้รอบคลองหลอด 3แผ่นร้อยทั่วเยาวราช แผ่นละร้อยทุกห้าง ทุกตลาดนัดต่างจังหวัด เอาดีๆ ไปสู้กับอะไร เห็นคุยฟุ้งจะจับพวกละเมิดให้หมด เข้าไปดูใน สน.ซิ ในเครื่องของสารวัตร
มีโปรแกรมเถื่อนไหม มีทุก สน.แหละ สังคมแบบนี้ได้งานแบบนี้ก็สมกันแล้ว อีกหน่อยกล้องมือถือก็ทำหนังฉายโรงได้ เมื่อมันถูกเกิน 7 แผ่นร้อย

ต้นทุนลดลง แต่ตั๋วหนังแพงขึ้นเรื่อยๆ
ตกใจมากตอนระบบมัลติเพล็กเข้ามาดันราคาตั๋วหนังเมืองไทยจาก50 ขึ้นไป 100 ด้วยจอไซด์โปรเจ็กเตอร์
คิดถึงโรงหนังเอเธนต์ ตั๋ว30บาท จอใหญ่หยั่งกะimax

นี่ก็คือตัวอย่างจากกล้อง Canon HF S10, S100, S21 ครับ ที่สามารถถ่าย 24P Native หรือ 24P แท้ๆ ได้ ลองสั่งเกตุการเคลื่อนไหว ของฉาก และรถดูครับ อันนี้จะไม่มีโกสเลย ตัวแบบก็ไม่สั่นด้วย ไม่มี Rolling ภาพให้อารมณ์ Film Look และดูสวยงามกว่ากันเยอะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=81bphpNdFo0&feature=fvwrel
http://www.youtube.com/watch?v=w4xNSjz2mIg&feature=related

------------------------------------------------------

ใครเป็นเหมือนผมบ้าง 2 ลิ้งนี้..ผมดูไม่ออกเพราะมุมกล้องมันแตกต่างกับ2ลิ้งข้างบนจนไม่เห็นรายละเอียดให้เทียบกันเลย  อิอิ

(คคห.ส่วนตัวล้วนๆ)

คือ ถ้าเฟรมเรทมันไม่ได้กระตุกๆๆๆๆๆๆ ถึงขนาดวิดีโอคลิปจากมือถือละก็ คนดูส่วนใหญ่ไม่ว่าหรอกครับ
ดังนั้น เรื่องนี้เรื่องเดียว ไม่น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ถึงขนาดทำให้คุณค่าหนังทั้งเรื่องหมดไปได้หรอก


ส่วนประเด็นอื่นๆ ถ้าีมีโอกาสจะมาเสวนาด้วย คันปากยิบๆอยู่เหมือนกันครับ แต่ตอนนี้อยู่ออฟฟิศ ไม่สะดวกเล่ายาว

ผมคนนึงละคิดเหมือนคุณ......

การคิด การมองไม่เหมือนกัน ทุกคนมีสิทธิ์คิด ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน

ผมเห็นเหมือนที่คุณเห็น มันเป็นการคิดเชิงทฤษฎี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ

เรามองข้ามไปโดยไม่รู้ตัวบ้าง พวกมาก ลากไปบ้าง

ผมว่ากระทู้แบบนี้ละ สร้างสันสุดๆ หายากในเรื่องทฤษฎี ที่บางครั้งการครูพักลักจำก็ไม่ได้บอกอะไรขนาดนี้

สังเกตุซิครับ พออ่านกระทู้นี้แล้ว รู้สึกได้อะไรมากเลย ขัดแย้งแบบสร้างสรรค์

....อีกอย่าง ผมเห็นด้วยก็จริง แต่พอทำงานจริงๆ ผมก็ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ให้ได้งานที่ดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ครับ