เรียนรู้จากเพลง ( เวิร์คช็อพสำหรับมืออาชีพ 1 )..

พยายามหาตัวอย่างงานมาให้น้องใหม่ได้เรียนรู้ ลองดูMV ชิ้นนี้ แล้วค่อยๆอ่านรายละเอียดที่ผมเขียนอธิบายไว้ ค่อยๆดูไม่ต้องรีบ ความรู้เพียบ..
http://www.youtube.com/watch?v=5ekUyxxpBt0





เริ่มต้น-.32 ใช้ภาพมุมสูงถ่ายผ่านหน้าต่าง ข้อดีคือ..
                   - ต้องการเสนอบรรยากาศดูสบายไม่เน้นใกล้ เพียงบอกทางภาพให้รู้ว่าเดินทางมาถึงสถานที่นี้แล้ว
                   -  ปิดจุดด้อยของสถานที่ที่มีปัญหา เช่น รอบข้างสกปรก รกไม่สวย เลยใช้มุมสูงถ่ายกดเพื่อหลีกเลี่ยง
                   -  หรือทางเข้าด้านหน้าคนละสถานที่ 
                   -  หรือต้องการบอกเป็นนัยว่า ชายคนนี้กำลังเดินขึ้นมาบนชั้น 2 ( เลยถ่ายผ่านชั้น 2 )
ดูไปจนถึง .58 ใช้ภาพกว้าง เพื่อบอกให้คนดูรู้ว่า สถานที่บนชั้น 2 มีสภาพอย่างไร มีของประกอบฉากอะไรบ้าง ( เคยบอกไว้ว่า เมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เกิดขึ้นต้องกว้างให้คนดูมีอารมณ์ร่วมก่อน )
     "     1.31 นำเสนอภาพใกล้ 2 คน เพื่อปูอารมณ์ตัวละคร ใครที่เคยสงสัยว่าจะเปลี่ยนเส้น 180 อย่างไร ดูตรงนี้ ( เดินออกแล้วกลับตัว )
     "     1.56 เคยบอกไว้ว่าเมื่ออารมณ์เปลี่ยน ต้องเปิดด้วยกว้างทุกครั้ง ( 2 คนคุยกันจบแล้วเริ่มอารมณ์ใหม่) ข้อดีของการใช้กว้างคือ..
                 -  เป็นการหยุดอารมณ์ของเหตุการณ์เดิม( ที่ถ่ายใกล้เน้น ) มาเป็นภาพกว้างเพื่อปูเหตุการณ์และเสริมอารมณ์ใหม่..( ใช้เปลี่ยนอารมณ์ของเหตุการณ์ )
                -  และสงสัยไม๊ว่า ทำไมทุกช็อตกว้างหมด แต่พอมาถึงเปิดสวิสติ์ไฟ ทำไมภาพต้องใกล้ ( ทิ้งให้ไว้เป็นปริศนา ดูไปคิดไปจะเฉลยตอนจบ )
     "      2.20 คือการเดินตามเส้น 180 ( เข้าซ้ายหลุดขวา เฟรมต่อไปก็ต้องเข้าซ้ายหลุดขวาด้วยเหมือนกัน ) ตอนใช้มือตบ
                  - อยากให้ดูนาทีที่ 2 ทิ้งเฟรมว่างแล้วหน้าคนถอยหลังเข้าเฟรม ส่วนมากหนังไทยจะใช้เยอะตอน หนีผี เรานำมาปรับใช้ในเวดดิ้งได้ บ่าวสาวเดินถอยหลังเข้าเฟรมแล้วบ๊ายบายน่ารักนะ
                  - ตั้งแต่ 2 เป็นต้นไป มือตบครั้งแรกจะเห็นภาพกว้าง พอตบครั้งต่อไปจะไม่เห็น อย่างที่บอก ถ้าสถานที่ไม่เปลี่ยนก็ไม่จำเป็นต้องใช้ภาพกว้างอีก เพราะคนดูรับรู้ได้อยู่แล้วว่า ยังไม่ไปไหน
                    ลองดูอารมณ์ภาพที่เขานำเสนอใกล้ จะเห็นว่าได้อารมณ์ทั้งคนแสดงและเหตุการณ์ที่นำเสนอ แต่ถ้าเราใช้ภาพกว้างตัดสลับเข้าไป อารมณ์จะหลุดทันที ( ลองตัดดู )
                  - สังเกตุช่วงนี้จะใช้ภาพใกล้ตลอด เพื่อต้องการเน้น และปูอารมณ์คนดูให้ร่วมไปในเหตุการณ์ (น้องใหม่หลายคนจะตัดภาพเร็วในช่วงนี้ ) สังเกตุว่าการตัดช้าก็บีบอารมณ์คนดูได้เหมือนกัน
                  - การสวิงกล้องไปมา เพื่อบอกอารมณ์สนุกของเพลงในตอนนั้น ( กว้างไม่ได้นะคับตอนนี้สำคัญ ถ้ากว้างเมื่อไหร่อารมณ์คนดูจะสะดุดทันที )..
    "       2.45 ใช้ภาพกว้างถ่ายผ่านบานประตูไม้ระแนง นี่แหละเสน่ห์ของงานผู้กำกับ ในการขยันเลือกมุมภาพ แต่ยังอยู่ในอารมณ์สนุกเหมือนเดิม ( ถ้าเป็นคุณคงไม่ทำ ขี้เกียจล่ะซิ )    
    "       2.52 ช่วงนี้ใช้ภาพกว้าง ก็เพราะภาพกว้างไม่ได้ใช้นานแล้ว ใส่หน่อยเดี๋ยวคนลืม การใช้ภาพกว้างใช้ช็อตเดียวเพราะใช้มากอารมณ์จะหลุด
    "       2.55-3.16 ช่วงนี้ใช้ภาพใกล้ตลอด เพื่อต้องการเน้น และบีบอารมณ์คนดู ( เครียดไม๊คับถ้าคนดูเครียด แสดงว่าผู้กำกับมาถูกทางแล้ว )
    "       3.16-3.46 ช่วงนี้เริ่มใช้ภาพกว้าง เพราะต้องการเห็นแอ๊คชั่นทั้งตัว ( ที่ผ่านมาใกล้ตลอด ) การใช้ภาพกว้างเพราะต้องการให้เห็นลีลาการนำเสนอ ( กว้างสลับใกล้ )
    "       3.46 - 4.00 ช็อตเดียวไม่ตัด แต่ใช้กล้องเป็นตัวบอกอารมณ์แทน ( สวยเนอะ..จำไว้ใช้ ๆๆๆ)
    "       4.00-6.10 ช่วงนี้ก็ตัดสลับไปมา กว้างใกล้ ( ดูเป็นแล้วนี่ ) 
 "        8.27   เห็นหรือยังว่าทำไมช่วงต้น 1.60 ที่บอกไว้่ว่า เปิดไฟทำไมต้องใกล้ เพราะมันจะมาสัมพันธ์กันกับตอนจบนั่นเอง 

           การดูงานชุดนี้ ถ้าจะให้ดีต้องนับความยาวของภาพในแต่ละช็อตด้วย ( บทความเก่าhttp://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6254 )
เราได้อะไรจากMVชุดนี้ ถ้าน้องใหม่ทำรับรองว่าจะต้องมีภาพเหล่านี้ -ภาพเบลอเอาท์โฟกัส, ภาพซูมกระตุก , กล้องเหวี่ยงไปมา, และที่ขาดไม่ได้
คือ ตัวบิน 360 องศารอบตัวแสดงและสถานที่ ( เคยให้งานน้องใหม่ทำแล้วบอกห้ามมีภาพเหล่านี้ ทุกคนนั่งนิ่งไม่ลุกไปไหน เพราะคิดไม่ออก )


ถ้ามีเวลาอยากให้ดูสัก 10 รอบ ดูแต่ละรอบดูแต่ละตำแหน่ง ( งานที่ทำ )
      -  ผู้กำกับ ตัวแสดงคนเดียวถ่ายอยู่ในห้องเดียวไม่ไปไหน  นำเสนอภาพในแต่ละช่วงแตกต่างกันอย่างไร สังเกตุแผ่นสังกะสีเล็กๆบนพื้น
                       ใช้เท้าแตะ , ใช้นิ้วแตะ , เปลี่ยนอารมณ์ภาพตลอดไม่ให้คนดูเบื่อ..
      -  ช่างภาพ ดูแล้วจดการใช้มุมกล้อง วิธีการถ่ายใส่สมุดแล้วท่องจำให้ขึ้นใจ วิธีการใช้กล้องเคลื่อนที่เพื่อบอกอารมณ์ 
      -  ช่างตัดต่อ สังเกตุการตัดต่อ ช่วงเน้นจะใช้ภาพใกล้ตลอด หลีกเลี่ยงภาพกว้างเพราะภาพกว้างจะทำให้อารมณ์หลุด ( อยากให้ลองโหลด
                          แล้วนำไปตัดใหม่ ใส่ภาพกว้างแทรกแล้วลองเปิดดูจะเห็นอารมณ์ของภาพหลุดต่อไม่ติด )  , ตัดช้าก็บีบอารมณ์คนดูได้
      งานMV ชุดนี้ ทีมงานทำงานหนักมาก เพราะต้องคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้คนดูเบื่อ และต้องทำให้ภาพมีอารมณ์ไปได้ด้วยกับจังหวะดนตรี..

          อยากบอกว่า ทุกครั้งที่ช่างภาพถ่ายภาพ ( ช็อตนี้ต้องกว้างใกล้ไม่ได้ ) , คนตัดต่อใช้ภาพใกล้ ( อารมณ์นี้ใช้ภาพกว้างไม่ได้ )
   ผู้กำกับสั่งให้คนแสดงเดินทางซ้ายไปขวา ( ขวาไปซ้ายไม่ได้ ) เหล่านี้ล้วนมีคำตอบอยู่ในงานของมันเอง..


          สำหรับน้องใหม่ที่กำลังทำงานอยู่  คิดเหตุผลออกหรือไม่ถ้ามีคนถามว่า ...ทำไมช็อตนี้ต้องถ่ายกว้าง...ถ่ายใกล้ได้หรือไม่ 
ถ้ายังคิดหาเหตุผลมารองรับไม่ได้ นั่นแสดงว่าความรู้ที่มียังไม่แน่นพอ ต้องพยายามฝึกฝนหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ

                   ....". วันนี้ยังไม่รู้ ( เพราะยังเป็นมือสมัครเล่น ) ....วันหน้ารู้แน่ ( เมื่อเป็นมืออาชีพ ) "


บทความที่เกี่ยวข้องกัน คลิกเลย..

เรียนรู้จากเพลง ( เวิร์คช็อพสำหรับมืออาชีพ 2-3 )เรียนรู้จากเพลง ( เวิร์คช็อพสำหรับมืออาชีพ 4 ) ตอนจบแล้วคับ.. 
 เวิร์คช็อป โหย พี่ ม.ใหญ่ ใจดีมอบให้ น้อง ม.เล็ก ต้องดูคับ.. 

ขอเพิ่มอีกใด้ไหมครับ!!!   พี่ครับ บทความนี้ของพี่ได้ความรู้มากจริงๆครับ ทั้งงานถ่าย งานกำกับ งานตัด มันสอดคล้องเกี่ยวพันกันอย่างน่าเหลือเชื่อ ผมดูหนังมาก็เยอะวันนี้เพิ่งได้รู้ว่า ดูหนังอย่างคนทำ production มันต้องดูอย่างไร ให้ได้ความรู้ทาง production     ขอให้พี่สร้างสรรค์บทความแบบนี้ออกมาอีกนะครับผม แบบว่ามันเข้าใจง่ายดีครับพี่

ขอบคุณครับ ได้รู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้

ขอบคุณครับ

และแล้วความลับก็ได้เปิดเผย
แล้วเข้าใจแล้วครับ
ขอขอบคุณอยางมากครับ
ได้ความรู้อีกแล้วครับ

-ขอบคุณทุกๆความรู้และคำสอนต่างๆ นะครับ "พี่คือครูของผมครับ"

ขอบคุณความรู้ดีๆครับ