ถ้าผู้กำกับใหม่เจอดาราดังขี้วีนจะทำไงครับ

หมายถึงทั้งผู้กำกับละครและหนังใหญ๋ที่กำกับเรื่องแรกเลยนะครับ
มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
วานผู้มีประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง

กำลังอยากเล่าอยู่พอดี" ข้อควรระวังสำหรับคนทำงานโปรดัคชั่น ( เมื่อเจอดาราขี้วีน ) " อาชีพอย่างเรานะคับ ...( มีประสบการณ์ตรง )..
1.  เริ่มแรกในฐานะคนทำงานโปรดัคชั่น ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องส่วนตัวของดาราทั้งสิ้น มีหน้าที่ทำก็ทำกันไป กำกับ ช่างภาพ ทีมไฟ เขาจะวีน
     ก็ช่างหัวเขา ห้ามเข้าไปด่า หรือจิกตบ ( ทั้งที่อยากทำ ) ห้ามนะคับ ....
2. ค่อยๆแก้ปัญหากันไปว่า ทำไมดาราจึงวีน เมื่อคืนเที่ยวดึกไม่ได้นอน ให้เขาไปนอน ถ่ายซีนอื่นไปก่อน หรืออยากกินราดหน้าราชวัตร ทั้งๆที่ถ่ายอยู่บางนา
    ก็ให้รถตู้ไปซื้อมาให้กิน
3. จำบทไม่ได้ ก็ถ่ายสั้นๆ ถ่ายไปอีดิทไป เจาะไปเรื่อยๆ อารมณ์ต่อไม่ติดก็ลองเขี้ยวหน่อย ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืน
4. ยิ่งทำยิ่งเละ ไม่ไหวแน่ถามตัวเองว่า จะเข็นจะทนต่อไปทั้งวันไหวไหม ถ้าไม่ไหวยิ่งทำยิ่งห่วย เลิกดีกว่าไม๊ ยกไปถ่ายวันอื่นจะได้งานมากกว่านี้ไม๊
5. ยิ่งทำยิ่งมีปัญหา นำปัญหานั้นไปบอกกับเจ้าของงานที่จ้างเรามาทำงาน ( ถ้าเขาไม่มาก็โทรไปปรึกษา และให้ความเห็นตามข้อ 4 ว่าจะเลิกหรือต่อ )
6. แล้วให้เจ้าของงานคุยกับผู้จัดการดารา ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
...ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ห้ามจัดการแก้ปัญหาเองโดยเด็ดขาด เกิดเราไปพูดหรือทำอะไรที่ดาราคนนั้นไม่พอใจ เขาบอกเลิกเล่นเรื่องนี้ เราซวยเลยนะคับ
อาจโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ เพราะใครๆเขาก็ฟังและเอาใจดาราอยู่แล้ว ...
....ถ้า 1-6 คุณเรียกว่า ปัญหาหนักแล้วล่ะก้อ ..มีแม่ดาราอีกที่หนักกว่าดารา  ถ้าจะให้เขียนข้อระวัง อาจเขียน " ข้อระวังแม่ดาราได้ถึง 100 ข้อ "..

มีเยอะมั้ยครับไอ้พวกนี้

ไม่ต้องถาม เขียนต่อเลย .." ข้อควรระวัง ถ้ามีแม่ดารามาด้วย "...
1. หาคนเอาใจเฉพาะ 1 คน คอยอยู่เป็นเพื่อนคุย ทั้งวัน พร้อมรถตู้สแตนบายตลอดเวลา กรณีคุณแม่อยากไปช้อปปิ้งซื้อของที่โน่นที่นี่..
2. ถ้าในกองมีแม่ดารามา 5 คน ก็ต้องจัดคนประกบ 5 คน ห้ามอยู่ใกล้กันแยกกันก็ดี เพราะแต่ละคนก็อยากให้ลูกตัวเองดีกว่าลูกดาราคนอื่น
3. จัดห้องที่ดีที่สุด มีอุปกรณ์ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แอร์ ทีวี คอมฯ เพื่อดึงความสนใจ ไม่ให้เห็นเวลาที่เราเขี้ยวลูกเขา เดี๋ยวจะหาว่าเราทรมานลูก..
4. ผู้มีอิทธิพลที่สุดกับดารา คือคุณแม่ของดารา ไม่ใช่ผู้คุมคิว หรือต้นสังกัด ฉนั้น ถ้าวันไดคุณแม่ไม่พอใจขึ้นมา อาจไม่ให้ลูกมาเล่นเรื่องนี้ได้
5. ส่งบทให้ดู พูดคุยถึงดาราที่เล่นประกบ เอาใจสุดฤทธิ์ว่าบทนี้ส่งลูกสาวมาก คนประพันธ์ยังชมว่าเลือกดาราได้ดี xxxxxxxx...
6. มีปัญหาอะไรพูดคุยกับคุณแม่แต่เนิ่นๆ ว่าขอดึกหน่อยนะ ออดอ้อนอย่างน่าสงสาร ถ้าเราได้ใจคุณแม่เต็ม 100 ขออะไรได้หมด..
   เอาหลักๆแล้วกันนะคับ ถ้าต้องการรู้รายละเอียดว่า ดาราคนไหนนิสัยเป็นไง แม่ดาราคนไหนวีนกว่าลูก..ให้ถามช่างแต่งหน้า จะเป็นผู้รู้เรื่องดีที่สุด..

มีเยอะครับ แต่ถ้ารู้จักนิสัยดาราแต่ละคนแล้วก็จะรับมือได้

สาเหตุหลักๆที่ดาราไม่ชอบคือ
1. ฉากเดียวกันแต่ถ่ายหลายๆรอบหลายๆครั้ง ทั้งที่ชั้นเล่นดีแล้ว อันนี้ดาราจะยังไม่แสดงออกโดยตรง แต่ถ้าบ่อยครั้งก็จะวีนหน้ากองแบบผู้กำกับไม่เห็น แต่ทีมงานรอบข้างเห็นหมด
2. ถ้าถ่ายหลายเทคเพราะทีมงานทำพลาด เช่นตากล้องถ่ายไม่ดี ไวเลสช้อทหรือช่างเสียงทำเสียงมีปัญหา ดาราก็จะเพ่งและอาฆาตคนคนนั้นทันที และเหตุการณ์นี้ถ้าเป็นบ่อยจะทำให้ดาราจำเราได้สนิทว่า เราเป็นศัตรูของเขา
3. การวีนของนักแสดงจะไม่แสดงออกโดยตรงต่อหน้าผู้กำกับ แต่เขาจะใช้คำพูดสื่อให้เรารู้ เช่น ถ้าถ่ายหลายเทคโดยที่เขาเล่นดีแล้ว ทีมงานก็ไม่ผิดพลาด ดาราจะถามว่า "ให้ดิชั้นแก้ตรงไหนไหมค่ะ" ถามด้วยน้ำเสียงเบื่อๆ ถ้าผู้กำกับไม่มีเหตุผลเพียงพอในการถ่ายหลายๆเทค ดาราก็จะเริ่มเซ็ง ไม่อยากจะเล่นต่อ และก็อารมณ์เสียตามลำดับ
4. การเป็นผู้กำกับ ต้องมีนิสัยอัธยาศัยต่อนักแสดงอย่างมาก เวลาว่างหรือพักทานข้าวก็ถามสารทุกข์สุขดิบ งานเยอะไหม เป็นต้น
5. ถ้ามีแอคติ้งที่เขาไม่อยากเล่นก็อย่าบังคับ เช่น จูบจริง แก้ผ้าท่อนบน(ดาราชาย) ยิงปืนใส่ลูกแบ้งค์(บางคนกลัวเสียงปืน) กระโดดลงน้ำ(บางคนกลัวจมน้ำตาย) ถ้ามีฉากแผลงๆ เราต้องถามนักแสดงก่อนว่าเล่นได้หรือป่าว แต่ระวังบางคนไม่เคยเล่นแต่มีสปิริตแรงกล้า ก็อาจตายได้ เช่นว่ายน้ำไม่เป็นแต่ขอเล่นเอง ไม่ใช้สแตนอิน ตีลังกาเตะไม่เป็น ก็อาจพลาดท่าขาหักได้ เป็นต้น
6. อารมณ์เสียตั้งแต่มากองเพราะทีมงานเขียนแผนที่โลเกชั้นไม่ละเอียด อันนี้ผมเจอบ่อย เรื่องแผนที่นั้นสำคัญมากครับ เพราะทีมงานรวมนักแสดงนั้นมีจำนวนมาก ถ้าหลงทางกันก็ทำให้งานล่าช้า และอารมณ์เสียที่เขียนแผนที่ไม่รู้เรื่อง

จริงๆก็มีอีกเยอะครับ อันที่จริงแล้วผู้กำกับไม่เพียงแต่จะทำให้ดาราอารมณ์เสีย แต่ยังทำให้ทีมงานอารมณ์เสียได้เช่นกัน อย่าไปคิดว่าเป็นผู้กำกับแล้วใหญ่สุดจะใช้อำนาจอะไรก็ได้ มันก็ทำได้ แต่มันจะทำให้คนเกลียดเรา และเรื่องต่อไปคงไม่ได้เห็นทีมงานคนนี้แล้วล่ะครับ เพราะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย

หัวใจหลักสำคัญของกองถ่ายคือความสุขในการทำงาน ผู้กำกับคือหัวเรือใหญ่ พยายามอย่าอารมณ์เสีย เฮฮาปาร์ตี้ไว้ อย่าโวยวาย ปัญหาทุกอย่างมีวิธีแก้ไขถ้าช่วยกันคิด แล้วทุกคนจะแฮปปี้ที่ได้ทำงานกับคุณ สวัสดี

ตั้งสติให้มั่น แล้วไปลงกับตุ้กตาวูดู

หานักแสดงหน้าใหม่ๆ ดีกว่า หรือไม่ก็ประกาศนักแสดงคัดเอา เหอะๆ

ทุกวันนี้นักแสดงเยอะมาก การที่ดาราจะวีนก็เหมือนตัดอนาคตตัดงานตัวเองมันไม่เหมือนแต่ก่อนที่ดาราดังๆน้อย ทุกวันนี้หน้าใหม่ๆมาแรงกันทั้งนั้น
ผมไม่ค่อยเห็นเท่าไรนะครับดาราขี้วีนแต่ก็มีบ้าง ก็เห็นเขามารยาทดีกันแทบทุกคนยกมือไว้แม้กระทั่งช่างไฟแม่บ้านเสริฟนำ้เขาก็เคารพกันนะ
พักหลังๆจะเห็นผู้กำกับขี้วีนลูกน้องมากกว่าครับ อิๆๆๆ

ฟ้องเจ้าของหนังครับ เป็นละครก็ฟ้องผู้จัด แต่ส่วนมาก ผกก.ละครหรือหนังจะเป็นคนมีอายุหน่อย ดาราก็จะไม่กล้าวีนมากกลัวโดนด่าเหมือนกัน สมัยก่อนกำกับไปแจกกล้วยไปก็มี เช่น ผกก.ทอง ทุกภาค ผมโชคดีที่ไม่เคยเจอทีมงานไม่เก่ง เจอแต่ช้าเกิน  แต่ทำใจครับคิวนึงก็ 1 วัน ถือเสียว่าคิวหน้ายังมีอะไรดีๆรออยู่  เครียดมากไม่ได้ครับศิลปินทั้งน้านนนน

ส่วนแม่ดารา ส่งลูกเสร็จกลับบ้านไปเลย ไม่ก็ไปนอนตรงไหนก็ไป วุ่นวายมากไล่ทั้งแม่ทั้งลูกครับ ส่วนมากที่วีนได้เพราะเราไม่จับเซ็นสัญญาก่อนถ่าย เห็นกันเองตลอด ถ้าเซ็นแล้วรับรองไม่วีนเพราะเกิดปัญหาถ่ายทำไม่ได้เพราะคุณ(ดาราหรือแม่) เราจะฟ้องจนคุณหูตูบเลย 55555

ขอบคุณมากครับ