-
UID:1830
-
- สมัครเมื่อ2010-09-29
- ใช้ล่าสุด2022-01-22
- ออนไลน์1989ชม.
-
- โพสต์787
- ดูโพสต์ทั้งหมด
- สำคัญ
0
- เงิน5355
- ความดี14867
- เครดิต11447
- จิตพิสัย37005
-
สเปซติดตามไอเทม
- โพสต์
- 787
- เงิน
- 5355
- ความดี
- 14867
- เครดิต
- 11447
- จิตพิสัย
- 37005
- จังหวัด
- กรุงเทพมหานคร
|
ติดหนี้น้องใหม่ในการทำเอ็มวีงานแต่ง รวบรวมได้เท่าที่รู้( ยำ้เตือนอีกครั้ง ทุกบทความที่เขียนขึ้นเป็นเพียงแนวทางที่คิดว่าน่าจะเป็นเท่านั้น เชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่ว่ากันนะ.. ) สิ่งที่ต้องรู้และต้องนำมาใช้ประกอบในการทำเอ็มวี ก็คือ.. 1. คิดถึงวัตถุประสงค์ในการทำ สำหรับครอบครัวที่มีชื่อเสียงเวลาจัดงานแต่ละครั้ง จะมีแขกมามากเกินกว่าที่จะเข้าไปอยู่ในงานพิธีได้ ก็เลยมีการใช้ทีวีวงจรปิดต่อเชื่อม จากภายในแยกออกมาสู่ภายนอก เพื่อให้คนที่อยู่ด้านนอกได้ทราบความเคลื่อนไหวพร้อมไปด้วยกัน ภายหลังวิธีนี้ก็ได้เลิกใช้ไป เนื่องจากสถานที่จำกัด , เครื่องมืออุปกรณ์ไม่พอ, และที่สำคัญราคาอาจแพงพอๆ กับการจัดงานซะอีก ก็เลยกลายเป็นที่มาของการตัดวิดีโอสรุปให้ชมในภายหลัง โดยอาจเพิ่มเทคนิค และเพลงเข้าไปเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ.. ( รวมถึงให้คนที่ไม่มางานจะได้ทราบความเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน ……จำประโยคนี้ไว้ให้ดี และท่องให้ขึ้นใจ) 2.วัตถุดิบที่มี สำคัญไม่แพ้ข้อ1 เช่น ถ่ายงานหมั้นเช้า ( ลูกค้าอยากให้ทำเอ็มวีมาเปิดในงานเย็น เพราะช่วงเช้าบ่าวสาวอยากจัดเป็นงานภายในครอบครัวเท่านั้น ) ในการทำเอ็มวี ต้องคำนึงถึงข้อนี้ให้มากๆว่า สิ่งที่เราได้ถ่ายไปแล้วเมื่อเช้า มีอะไรบ้าง พอที่จะนำมาตัดได้หรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่พอต้องเสริมเพิ่มเติม ก็รีบจัดทำซะตอนนั้น ( พิธีเช้า ขบวนขันหมาก, กั้นประตูก่อนเข้าอาจมีพิธีสู่ขอ, ทำพิธีหมั้นภายใน, พิธีทางสงฆ์, พิธีรดนำ้ , สวมมงคล , เจิมหน้าผาก , รับไหว้ , บ่าวสาวขอบคุณแขก ฯลฯ ) บรรยากาศทั่วไป , ของชำร่วย, การ์ด , ของรับไหว้ สต๊อกทั่วๆไป หรืออาจขอภาพนิ่งบ่าวสาวเพิ่ม เริ่มตั้งแต่ตอนเด็กไล่มาจนทำงานแล้วมาเจอกันเที่ยวด้วยกัน เป็นการเพิ่มนำ้หนักความน่าดูให้กับเอ็มวีด้วย...( ถ้าบ่าวสาวไปถ่ายรูปเว็ดดิ้งมาแล้ว ให้นำภาพเหล่านั้นมาใช้ให้หมดเลย ).. 3. พยายามเรียงเรื่องราวไปมาตามเหตุการณ์ที่ควรจะเป็น เช่น พิธีเย็น เริ่มแรกบรรยากาศของงาน , คนมางาน , ถ่ายรูปหน้างาน , พูดบนเวที , ผู้ใหญ่อวยพร, สัมภาษณ์บ่าวสาว ตัดเค้ก , มอบเค้กผู้ใหญ่, เดินขอบคุณแขก , รับแขกกลับ ฯลฯ อย่าตัดสลับไปมา เดี๋ยวบนเวที เดี๋ยวคนลงชื่อ ฯลฯ ( ถ้าจะเดินหน้าก็ไปเลยอย่าย้อนกลับมาเหตุการณ์เก่า ) 3. เนื้อเพลงที่ใช้ประกอบ ควรให้ไปในแนวเดียวกับเรื่องและสอดคล้องไปด้วยกัน เช่น เพลงคู่ เริ่มแรกเสียงชายร้องก็ควรใช้ภาพเจ้าบ่าว เสียงหญิงร้องก็ควรใช้ภาพเจ้าสาว เมื่อชายหญิงร้องคู่ก็ต้องใช้ภาพบ่าวสาวคู่เจอกัน เที่ยวด้วยกัน แล้วโยงมาเข้าเหตุการณ์จริงคือ ช่วงเช้าหมั้น และช่วงเย็นแต่ง อาจจบที่คู่สวยๆในงานเย็นเน้นยำ้อีกครั้ง.... ………………………………………………………….. ข้อควรจำ...การทำเอ็มวีก็คือการสรุปงานในส่วนสำคัญทั้งหมดให้ลงมาอยู่ในเวลาที่จำกัด กรณีไม่มีเวลามากพอที่จะดูเนื้องานทั้งหมด..( ถ้าทำได้จะดีมั่กๆๆ ) - ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะเป็นคนหล่อและสวยที่สุดในโลก( ในวันนั้น )คุณต้องถ่ายทอดอารมณ์นี้ออกมาให้ได้ แม้บางครั้งจะตรงข้ามกับความจริง ก็ต้องพยายาม. - ระวังเพื่อนๆเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ที่หล่อกว่าสวยกว่า พยายามอย่าเน้น จำเป็นต้องใช้ให้ใช้ภาพกว้าง ( เพราะจะไปข่มบ่าวสาว ) หรือถ้าใกล้ต้องมีบ่าวสาวในเฟรมด้วย.. - คำพูดบ่าวสาว ควรจะมีอย่างยิ่งในเอ็มวี อาจมีพ่อแม่หรือบุคคลสำคัญอื่นด้วยก็ได้ ( ไม่พูดแต่ควรมีภาพทุกคนบนเวที ) และถ้าพูดต้องไม่มากและยาวไปกว่าบ่าวสาว และควรระวังคำพูดที่พูดบนเวที อย่าตัดคำที่มีความหมายดูถูกเจ้าสาว เช่น เจ้าบ่าวพูด " ฝ่ายหญิงบอกรักชายก่อน " ( ต้องให้เกียรติเจ้าสาวมากๆแม้นเป็นความจริงก็ไม่ควรใช้ ) - ระวังเรื่องนำ้หนักของภาพที่นำมาประกอบภาพนี้จำเป็นที่จะต้องใส่ในเอ็มวีหรือไม่ มีเหตุการณ์อื่นที่ดีกว่า และสำคัญกว่านี้มีไหม เพื่อให้คนที่ไม่ได้มางานดูและเข้าใจ เช่น คนที่อยู่ต่างประเทศ , และคนแก่ที่ไม่สามารถเดินทางมางานได้ การใส่เทคนิคพิเศษ เช่น ตัวบิน , ดอลลี่ , เครน , ควรคำนึงถึงความสำคัญของเหตุการณ์นั้นก่อน แล้วจึงเพิ่มเทคนิคพิเศษเข้าไป ( ทุกวินาทีมีค่าในเอ็มวี..คิดเยอะๆๆ ) - คำนึงถึงเนื้อเพลงที่ใช้ประกอบบางครั้งมีคำพูดบ่าวสาวในเอ็มวี เนื้อเพลงควรต้องไปด้วยกับอารมณ์ของบ่าวสาวที่พูดในขณะนั้น....( เนื้อเพลงส่งบ่าวสาวพูดรับ ).. - ระวังรายละเอียดแม้เล็กน้อยก็สำคัญเช่น ของประดับบนโต๊ะ ตุ๊กตา , ซุ้มอาหาร , อาหารแต่ละชนิด , บรรยากาศของงาน , โต๊ะ , เก้าอี้ที่ใช้ ฯลฯ เพราะทุกส่ิงที่มีและเกิดขึ้นได้ เพราะบ่าวสาวเป็นคนสั่งให้จัด ( อาจไร้สาระสำหรับคนทำเอ็มวี ).. แต่มันคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนทั้งสองที่ได้เริ่มทำด้วยกันเป็นสิ่งแรก.... - กรณีทำเอ็มวีช่วงเช้าไว้ฉายดูเย็น และอาจทำเอ็มวีรวมอีกครั้ง ( เช้าเย็น ) เพื่อใส่ในวีดีโอ อาจต้องตัดส่วนไม่สำคัญในการตัดครั้งแรกออกบ้าง และปรับใหม่ในส่วนที่สำคัญ มากกว่าเพิ่มเข้าไป อย่าตัดต่อเพียงเพิ่มเติมเข้าไปเท่านั้น เพราะจะทำให้เอ็มวีชุดนี้ยาวเกินจนน่าเบื่อ ( ถ้าลูกค้าไม่เพิ่มเงินให้ก็ทำเถอะ เพราะเวลาลูกค้าเอาไปเปิดโชว์ที่ไหน เท่ากับว่า ชื่อเสียงเราก็ติดไปกับเขาด้วย ).. - อย่าสับสนเอ็มวีงานแต่ง ที่พี่ๆคนเก่งนำมาโพส อาจไม่ใช่ตัวจริงที่ทำส่งลูกค้า เพียงแต่นำมาปรับและตัดใส่เอฟเฟค เพื่อโชว์เครื่องมือและความสามารถของคนทำงานให้เห็นเท่านั้น...ก่อนจบเรามีทิปส์มาฝาก สำหรับคู่บ่าวสาวที่ขี้อาย ถ่ายMV ยังไงก็ดูไม่หวานแหวว หรือรักกันสักที ให้ทำนู่นนี่ก็แข็งจนดูน่าเกลียด เรามีวิธีแก้คือ ถ่ายตอนซ้อมหรือถ่ายตอนไม่ใช้ความหมายคือ ตอนที่เราบอกให้บ่าวสาวแอ๊คชั่น ว่าทำนู่นทำนี่ เราก็ให้เขาลองทำให้เราดูขณะเดียวกันก็เดินเทปถ่ายไปด้วย มีเขิน มีหัวเราะ มีอาย พูดไปด้วยถ่ายไปด้วยเก็บไว้หลายขนาด กว้างใกล้บ่าวสาว ถ้าต้องการเยอะ ก็ให้ทำหลายแอ๊คชั่น เช่น ป้อนขนม นั่งตัก หอมแก้ม เล่นมองตาใครยิ้มก่อนแพ้ เช็ดเหงื่อ แต่งตัวให้กัน ฯลฯ บางครั้งเราอาจ ได้ภาพในช่วงเพียงสั้นๆที่ดีและสวย เวลานำมาใช้ก็เพิ่มสโลว์ให้นานขึ้น ...ลองวิธีนี้ดูนะคับสำหรับบ่าวสาวที่ขี้อาย.. …..งานแต่งแต่ละครั้ง มีขั้นตอนรายละเอียดมากมาย ทุกขั้นตอนคือสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ( แม้แต่ขั้นตอนเดียว ) ถ่ายมาไม่ครบรับรองนอกจากจะไม่ได้เงินค่าจ้างอาจโดนด่าประจานหมดอนาคตในวงการ ฉนั้น หน้าที่ของช่างภาพก็คือเก็บทุกรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นให้ครบ ( กลับไปอ่านบทความเก่าวิธีถ่ายงานแต่งงาน ) http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=6214&fpage=3 ….จำไว้ว่า วันแต่งงานคือวันที่ทุกคนมีความสุขมากที่สุดในโลก หันกล้องไปไหนก็มีแต่คนยิ้ม รวมถึงคนถ่ายทำอย่างพวกเราด้วย ก็ต้องมีความสุขเช่นกัน ยิ้มไว้ห้ามเครียด..บทความที่เกี่ยวข้องกัน คลิกเลย...วิธีสร้างความประทับใจให้กับลูกค้างานแต่งงานและงานอื่นๆ( มือใหม่ )
วิธีการทำMV ทุกขั้นตอน สำหรับเด็กใหม่ที่จะยึดงานนี้เป็นอาชีพ...
เพิ่มเติมข้อมูลราคาค่าจ้าง 1. ราคาที่ว่าจ้างกันอยู่ ครึ่งวันเช้าหรือเย็น 3 พัน ( ราคาปกติทั่วไป ) แต่ราคาจริงไม่รู้ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้าที่มีต่อทีมงาน ถ้าเชื่อใจ ว่ามีฝีมือจริง ก็อาจได้ราคาสูงกว่านี้ แต่ถ้าไม่เชื่อใจก็อาจถูกกว่าที่เห็น แล้วแต่ความพอใจของทั้ง 2 ฝ่ายคับ ยิ่งราคาทั้งวันเช้าเย็น ยิ่งคุยยาก เพราะรายละเอียดเยอะ เช้ากี่โมง เย็นเลิกกี่โมง ทำเอ็มวีด้วยไม๊ บางคนก็คิดเหมา 6 พัน อะไรทำนองนี้ ( ลูกค้าใครก็คุยกันเอาเอง ).. 2. ความยาวเท่าไหร่ ? ..นี่ล่ะที่อยากเขียนถึง หลายคนสับสนในการรับงานประเภทนี้ - ลูกค้าไม่รู้เรื่องโปรดัคชั่น หรือไม่รู้ถึงวิธีการทำงาน เช่น งานแต่งงานเริ่มเย็น 5 โมง ถ่ายจบงาน 5 ทุ่ม รวมเวลา 6 ชม. แต่พอส่งงานจริง 2 ชม. ลูกค้าเห็นโวยวายหาว่าช่างภาพขี้เกียจ อีก 4 ชม.ยืนทำอะไรอยู่ และยิ่งมารู้ว่าคิดแพงกว่าเจ้าอื่นด้วย ระเบิดลงตูมเพราะลูกค้าไม่เข้าใจ ก็เลยมีกฏเกณฑ์ขึ้นมาว่า ให้ช่างภาพคิดเป็นแผ่น ( ใครเจอบ้าง ) แผ่นละเท่าไหร่ก็ว่าราคามา ถ่ายเยอะได้เงินเยอะ อยากรู้ว่าลูกค้าคือเจ้าไหน เช็คง่ายมาก เวลาไปงานแล้วเห็นช่างภาพตั้งกล้องวิดีโอถ่ายหน้างานเดินตลอดไม่ยอมคัท หรือไม่ยอมหนี กล้องเปลี่ยนมุมไปไหน นั่นล่ะใช่เลย...( ถ่ายตลอด 6 ชม. 6 แผ่น วิธีนี้ช่างภาพหลายคนชอบ ราคาดีกว่าตกลงกันเป็นงานอีก) - ลูกค้ารู้เรื่องโปรดัคชั่น สบายอย่างไม่ต้องพูดมาก ด้วยเพราะเข้าใจในการทำงาน จะยากตรงที่ว่า จะทำงานอย่างไรให้ลูกค้าถูกใจ แล้วบอกต่อ ให้ลูกค้าคนอื่นมาใช้บริการของเราให้มากๆ ลูกค้า 1 คนมีเพื่อนมีครอบครัวอีกนับ 10 ถ้าเราสามารถเชื่อมต่อไปได้เรื่อยก็จะไม่ลำบากในอาชีพนี้ แต่ถ้าเราทำให้ลูกค้าติดใจในฝีมือบริการของเราไม่ได้ อนาคตเราลำบากแน่คับ...( หาเหตุผลให้ได้ว่า ทำไมลูกค้าเก่าถึงไม่หวนกลับมาหาเรา ) [ แก้ไขล่าสุดโดย p0p-it เมื่อ 2012-07-27 08:06 ]
|
|