กล้องฟิลม์ แบบ ภาพนิ่ง ความเร็วชัตเตอร์คือการควบคุมความคมชัดของการถ่ายรูปอย่างนึง เปิดชัตเตอร์สูงๆเพื่อจับความเคลื่อนไหวเร็วๆได้อย่างคมชัด หรือ ลดการสั่นไหวของมือ การถ่ายรูปหนึ่งครั้งด้วยความเป็นภาพนิ่ง ความช้าเร็วของประตูฟิลม์ที่ยกให้แสงเข้ามากระทบกับฟิลม์เพื่อทำให้เกิดภาพนานเท่าใด เรียกว่า สปีดชัตเตอร์
กล้องฟิลม์ แบบ ถ่ายหนัง ความเร็วของสปีดชัตเตอร์ไม่มี เพราะการถ่ายหนังประตูฟิลม์ถูกยกขึ้นค้างไว้ เพื่อให้ฟิลม์วิ่งผ่านแสงที่รอดเข้ามาตามความเร็วที่ตั้ง ความเร็วที่ว่าเรียกเฟรมสปีด fps ปกติอยู่ที่ 24 ถ้าจะจับความเคลื่อนไหวเร็วให้คมชัด เขาจะเรียกว่าถ่าย ไฮสปีด มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น ฟิลม์วิ่งเร็วขึ้น เปลืองมากขึ้น โปรดิวเซอร์ก็จะพูดมากขึ้น
แล้ว ชัตเตอร์ ไปไหน ในกล้องถ่ายหนังระบบฟิลม์ ชัตเตอร์จะทำหน้าที่เป็นองศา คือองศาของใบชัตเตอร์ที่วิ่งอยู่ในนั้นอะไรซักอย่างเนี่ย ทำหน้าที่คล้ายๆชัตเตอร์ภาพนิ่ง แต่เพียงเปลี่ยนหน้าการยกขึ้นลง เป็นบิดใบพัดให้เกิดการตกกระทบของแสงในการเข้าสู่ฟิลม์ เพื่อให้มีความคมชัดมากขึ้นในรายละเอียดสูงสุดระเบิดทีเห็นเม็่ดดิน หรือ เกิดโมชั่นเบลอสั่นไหวเหมือนวิญญาณ
ส่วน กล้องดิจิตอลแบบภาพนิ่ง และ แบบถ่ายหนัง ชัตเตอร์กลายเป็นอิเล็คโทรนิคชัตเตอร์ หาไม่เกิดจากการควบคุมความเร็วการยกประตูฟิลม์ หรือ เป็นใบพัดหักเหแสงเหมือนองศาชัตเตอร์ มันถูกออกแบบให้เป็นค่าตัวเลข01ผกผันกับเซ็นเซอร์รับภาพในแบบการคำนวญการให้เกิดภาพแบบอิเล็คโทรนิค แต่ใชัหลักอ้างอิงมาจากระบบฟิลม์ ชัตเตอร์สูงคมชัด ชัตเตอร์ต่ำโมชั่นเบลอ ปัญหาที่เกิดจากชัตเตอร์ดิจิตอล จะได้ยินบ่อยๆเวลาเกิดฟีลภาพ "ทำไมภาพมันเปนฟีลๆวะ " คงคุ้นเคยกันดี
ส่วนเรื่องการกระพริบของหลอดไฟ หรือ ทีวี หรือ คอม ถ้าตาคนเราตั้งชัตเตอร์ได้ เราก็เห็นทุกอย่างกระพริบได้ เพราะมันกระพริบอยู่ตลอดเวลาแหละ พวกค่าต่างๆที่เขาค้นคว้าพัฒนากันมาเป็นเกณฑ์ที่ให้เราได้ใช้กันขนาดนี้ ก็ใช้ความเร็วในการรับแสงกระพริบของสิ่งพวกนั้นจากตามนุษย์เป็นหลัก ทำไมหนังต้องถ่าย 24 ก็เพราะว่าตอนขึ้นตอนสุดท้ายที่ฉายหนังให้เราดูในโรงหนัง ตาเรารับภาพในความเร็ว 24 เฟรม นั่นเอง
พวกสาวก 24 25 30 50 60 เกิดจากความชอบส่วนบุคคล สุดท้ายมันถูกแยก เพราะระบบฉายทั้งนั้นแหละ ระบบFilm ระบบPal ระบบNtsc เพื่อรองรับสิ่งที่ ตามนุษย์รับได้สมบรูณ์ที่สุด
ความเข้าใจจาก ประสปการณ์ส่วนตัวล้วนๆนะ ไม่ได้อ้างอิงที่ไหน