ปกติเรนเดอร์กันนานมั้ยครับ

ผมตัด footage ประมาณ 4 นาทีเศษ
ไฟล์จาก 5D ไม่ได้แปลง

แล้วลง premiere + ไฟล์จาก after effect ที่เรนเดอร์เป็น mp4 (H.264)
โปรเจ็คเป็น 1920 1080    24

ใช้เวลาประมาณ 3 ชัวโมงเศษ


ไม่ทราบว่าเพื่อนๆพี่ๆ มีวิธียังไงให้เรนเดอร์เร็วขึ้นครับ


เครื่อง Q2 2.66 G แรม 4 G ครับ

ขอบคุณครับ

ด้วยความเคารพนะครับ ถ้าจะให้เร็วขึ้น ก็้ต้องเพิ่มความเร็วของสิ่งที่ใช้ประมวลผลนั่นคือ เปลี่ยนคอม ครับ ยิ่ง CPU เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งประมวลได้เร็วขึ้น ก็เรนเดอร์เร็วขึ้นครับ ยิ่งประกอบด้วย RAM ที่เร็ว มีจำนวนมาก และฮาร์ดดิสก์ที่เร็ว (RAID, SSD) ยิ่งช่วยให้เร็วขึ้นอีกครับ ไม่เกิดคอขวด แต่ถ้าคุณแค่อัพเกรด เช่น เพิ่ม RAM เปลี่ยน HardDisk มันก็จะเร็วขึ้นได้แค่อีกเล็กน้อย ไม่กี่เปอร์เซนต์ครับ น่าจะไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป ลองคำนวณดูให้ดี ระหว่างเปลี่ยนคอมใหม่ หรืออัพเกรดของเก่าครับ ส่วนทาง Software ก็ลองโหลดไดรเวอร์ใหม่ๆ Format Harddisk แล้วลง Windows ลงโปรแกรมใหม่ ก็จะช่วยให้ Render ได้เร็วขึ้นเพียงเล็กน้อย อาจจะแทบไม่เห็นความแตกต่างครับ


ด้วยความเคารพ  

i7 2600K เถิดเอย...

เอาฟูตเทจแปลงโดย ProCoder ไม่ดีกว่าหรือ   แล้วค่อยมาตัด + AE อีกกี่รอบก็ได้  เร็วกว่านั่งรอ 3 ชม.

ปกติแปลงเป็นไฟล์อะไรกันเหรอครับ


ไฟล์ส่วนใหญ่ผมทำเป็น ae แล้ว export มาเป็น .mp4 แล้ว  หรือว่าผมตั้ง bitrate สูงไปจะเกี่ยวมั้ยครับ (ประมาณ 25-30 mbps)

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 4 ต้นฉบับโพสโดย layiji เมื่อ 2011-02-03 00:00  :
ปกติแปลงเป็นไฟล์อะไรกันเหรอครับ


ไฟล์ส่วนใหญ่ผมทำเป็น ae แล้ว export มาเป็น .mp4 แล้ว  หรือว่าผมตั้ง bitrate สูงไปจะเกี่ยวมั้ยครับ (ประมาณ 25-30 mbps)

MP4 มันเป็นโคดเพื่อการรับชมนะครับ  ไม่ใช่โคดที่จะเอามาตัดต่อ  อันนี้ผมว่าไปตามที่ผมเรียนรู้มานะครับ หากท่านใดที่ปรารถนาจะใช้มันมาทำงานต่อก็อย่ามาเคืองกัน 
ใน Pro Coder หากเอาไฟล์ MP 4 เข้ามาเพื่อ transcode โปรแกรมจะมีพรีเซ็ทเป็น HD24p ให้ ลองใช้ดูแล้วรายละเอียดก็ไม่ได้ด้อยลงนัก ยิ่งมองด้วยตาเปล่าด้วยยิ่งไม่รู้สึก  เคยเอาไฟล์จาก 60D เข้ามาแปลงเพื่อทำงาน่วมกับ Sony FX1(HDV) ก็ใช้ได้ดี
อย่าลืมว่า เอาเข้า+ตัดต่อ เป็น HD/HDV ทั้งหมด   พอตอนเอามันออกสุดท้ายจริงก็ DVD  / YouTube ( หนีไม่พ้นเรื่อง transcode ) 

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 5 ต้นฉบับโพสโดย kiss3845 เมื่อ 2011-02-03 00:16  :
MP4 มันเป็นโคดเพื่อการรับชมนะครับ  ไม่ใช่โคดที่จะเอามาตัดต่อ  อันนี้ผมว่าไปตามที่ผมเรียนรู้มานะครับ หากท่านใดที่ปรารถนาจะใช้มันมาทำงานต่อก็อย่ามาเคืองกัน 
.......

H.264 เป็นCodecเพื่อการรับชมดังท่าน kiss3845กล่าวครับ
ไฟล์มีขนาดเล็ก เหมาะแก่การUpload การตั้งความละเอียดไว้สูงหรือต่ำ ให้ผลแตกต่างค่อนข้างน้อย
ในเรื่องของเวลาที่ใช้ Render ตามที่ผมเคยทดลองมาครับ แต่ให้ผลดีในเรื่องรายละเอียดที่ปรากฎ
การตั้งไว้ที่ 30-32Mbps ค่อนข้างเหมาะสมดีครับ มากกว่านั้นก็เกินจำเป็น
เพราะ Footage ที่ได้มาจาก Canon DSLR Data Rate ประมาณนั้น
แต่จะให้ชัดกริ๊บ เหมือน Footage เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะ H.264 มีการSamplingข้อมูลที่แตกต่างกัน

Codec ที่เหมาะสมต่อการเก็บไว้เป็น Master น่าจะลองMpeg2 HDV 1080p กระมัง(ผมไม่ทราบทางฝั่งpcนะว่านิยมอะไร แหะๆ)
ทางฝั่งแอปเปิ้ล นิยมเก็บเป็น Pro Res 422 ครับ สำหรับงานที่ทำจาก DSLRเพราะให้รายละเอียดได้ทัดเทียมต้นฉบับที่สุด

อย่างไรเสีย ถึงไฟล์จาก การExport ไปเป็น 422 จะใหญ่กว่า H.264 มากมายหลายเท่า ประมาณ 8-9เท่าเลยทีเดียวไม่เหมาะแก่การUpload
สำหรับไฟล์ที่เป็น HD1080p  จะมีขนาดประมาณ 900MB ต่อหนึ่งนาที(ประมาณนะครับ ไม่เป๊ะๆ)
แต่เวลาในการเข้ารหัส เพื่อ Export ก็จะเร็วกว่ากันประมาณ 3-4 เท่าตัวครับ(อันนี้ผมก็ทดลองมาแล้วนะ)

ทีนี้ถ้าสุดท้ายต้องทำเป็น H.264 เพื่อการรับชม ยังไงก็ต้องรอครับ การเข้ารหัส H.264 นานกว่า Codec อื่นๆค่อนข้างมากครับ


ปล.การอัพSpecมีผลพอสมควรเลยครับ ผมเคยลอง Export เป็น H.264 จาก iMac ตัวTopสุดๆ จะเร็วกว่า iMacของผมหลายขุมประมาณ1.5เท่า
แต่ถ้าเทียบการลงทุนเพื่อความรวดเร็วแล้ว ผมว่า Render ก่อนนอนครับ ผมทำประจำ ไม่ต้องนั่งรอให้ท้อใจ....เอวัง

เหมือนที่เขาว่ามานะครับจะเอาท์ออกไปใช้งานอะไรครับตรงปลายทางสำคัญมากครับเรียนรู้ไปเรื่อยๆครับก็จะรู้ทั้งหมดครับต้องลองเอาท์ออกมาหลายแบบๆแล้วมาพิจรณาดู  และตอนแปลงเป็นไฟล์นำไปตัดด้วยครับต้องลองทำดูแล้วจดใว้ครับมันเยาะมากแต่ใช้ไม่กี่ตัว ตกจุดนี้มือใหม่ตกม้าตายมาเยาะแล้ว
เทคนิคใครก็เทคนิคมัน(มีหลายวิธีหลายโปรแกรม)ประเภทแปลงไปแปลงมา .......บางอย่างไม่ได้อยู่ที่ฮารด์แวร์ครับมันอยู่ที่ประสพการณ์และการเลือกที่จะใช้ เหมือนข้างบนครับเเนะนำถูกต้องแล้วครับในการแปลงไฟล์ก่อนตัด

เวลาตัดงานในพรีเมียร์ HD ครับ เดี๋ยวนี้ ใช้วิธี ตัดคัตติ้งใน scale ที่เล็กที่สุดก่อน (อาจจะตัดใน Pal 720 หรือ HD 1280 ก็ได้ครับ)
โดยใช้ไฟล์ดิบ Render Work Area ไม่ได้แปลงไฟล์
มันจะตัดได้ไหลลื่นประมาณนึง และจริงๆ แล้วเราก็เอ็กพอร์ตงานใน Scale นี้ไปใช้ได้เลยด้วย
แต่ถ้า อยากจบงานในแบบฟูลสเกล ก็แค่ เปิดซีเควนใหม่
แล้วก๊อปปี้ คัตติ้งทั้งหมดจาก ซีเควนที่เราตัดไปใส่ใน 1920
แล้ว เลือกคำสั่ง Scale To Framesize เราก็จะได้งานโปรเจ็ค HD ฟูลเฟรมของเราแล้วครับ
ก็ Render ได้เลย

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 8 ต้นฉบับโพสโดย icestylecg เมื่อ 2011-02-03 03:08  :
เวลาตัดงานในพรีเมียร์ HD ครับ เดี๋ยวนี้ ใช้วิธี ตัดคัตติ้งใน scale ที่เล็กที่สุดก่อน (อาจจะตัดใน Pal 720 หรือ HD 1280 ก็ได้ครับ)
โดยใช้ไฟล์ดิบ Render Work Area ไม่ได้แปลงไฟล์
มันจะตัดได้ไหลลื่นประมาณนึง และจริงๆ แล้วเราก็เอ็กพอร์ตงานใน Scale นี้ไปใช้ได้เลยด้วย
แต่ถ้า อยากจบงานในแบบฟูลสเกล ก็แค่ เปิดซีเควนใหม่
แล้วก๊อปปี้ คัตติ้งทั้งหมดจาก ซีเควนที่เราตัดไปใส่ใน 1920
.......

ขอบคุณครับ ได้ know how ใหม่ๆดี

เหมือนเทคนิคของiIlustionที่มีตัวบีบและแปลงต่างหากเราใช้เอฟเฟคจำานวนมากมันก็พรีวิวได้แต่ตอนเอ็นโค้ดใช้ภายนอกมันเร็วด้วย โปรมแกรมรุ่นใหม่ใช้แบบนี้หมดแล้ว 3DMAYAก็ใช้ FCP ADOBEและอื่นๆ

เป็นเรื่องปกติในการเรนเดอร์วิดีโอ ที่จะต้องใช้เวลาในการเรนเดอร์ บางทีขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่เราเลือกใช้ด้วยหากใช้พรีเมี่ย นานมากๆแต่ได้วิดีโอที่มีคุณภาพดี หากเป็นมือสมัครเล่นอยากเป็นโปรใช้ sony vegas ดีกว่าไม่กินทรัพยากรเครื่องมากและเร็วด้วยครับ

ผมเรนเดอร์แล้วทิ้งไว้ไปนอนหลับเลยแหล่ะครับ

ซื้อคอม 2 ชุดฮะ ชุดนึงตัดงาน ชุดนึงเรนเดอร์ จบ.

ผมตัดต่อเสร็จแล้วปิดเครื่อง
ถ้าจะ Render ค่อยเปิดมาใหม่ จะเร็วขึ้นมั๊ยอ่ะ