สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 6025เข้าชม
  • 34ตอบกลับ

ขอคำปรึกษาพี่ๆครับเรื่องเรียนต่อภาพยนตร์

ระดับ : สมาชิก I
โพสต์
3
เงิน
43
ความดี
92
เครดิต
33
จิตพิสัย
236
จังหวัด
สงขลา
คือตอนนี้ผมกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย แล้วผมอยากเรียนฟิล์มมากมันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากทำงานด้านนี้ เวลาโดนทางบ้านถามว่าอยากเรียนอะไรผมก็ตอบว่าอยากเรียนฟิล์ม แล้วเขาก็ยิงคำถามว่า เรียนแล้วจะทำอะไร  ผมก็บอกว่าผมชอบอยากเป็นผู้กำกับ แต่เขาก็ดูไม่อยากให้ผมเรียนเท่าไหร่ เขาอยากจะให้ผมเรียนอย่างอื่นมากกว่า ตอนนี้โดนญาติพี่น้องถามเยอะมากเลยครับ ไม่รุ้จะตอบยังไง เหตุผลที่ผมตอบว่าชอบ/รักการทำงานด้านนี้ มันเหมือนเป็นเหตุผลที่ไม่มีน้ำหนักนักสำหรับผู้ใหญ่ที่เขาต้อการให้ผมมีความแน่นอนของชีวิตในอนาคตสักเท่าไหร่ ผมควรจะทำยังไงดีครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ความแน่นอนในอาชีพนี้มัน 1 ใน 100 ถ้าคิดเป็นสัดส่วนนะ ที่เหลือก็อยู่ได้บ้าง พออยู่ได้บ้าง อยู่แบบอดๆ อยากๆ บ้าง

ถ้ารักอิสระ ไม่กลัวความไม่แน่นอน ไม่กลัวอด ไม่กลัวความกดดันทางอารมณ์ ไม่กลัวการมีครอบครัวที่สมบรูณ์ และ ไม่กลัวการใช้ชีวิตที่ยากจะมีคนส่วนมากเข้าใจ


ถ้าไม่กลัวทั้งหมดที่ว่าไป ก็จงกล้าที่จะถอดปลั๊กออกจาก THAI MATRIX

ใช้ชีวิตทุกวินาทีให้คุ้มค่า เป็นอย่างที่เราอยากเป็น สุดท้ายแล้ว พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเราทุกวินาที เท่าตัวของเราเอง

  
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
birdshanghai เงิน +1 2010-12-02 ใช่แล้ว ผมจะใช้ชีวิตอยู่กับมัน
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ชีวิตจริงของคนอาชีพด้านนี้ไม่สวยงามอย่างที่คิดครับ และไม่ว่าจะเรียนมาทางด้านนี้หรือไม่ก็เดินเข้าวงการยากเท่าๆกันเลย
คนที่เรียนมาจะมีความได้เปรียบตรงแหล่งความรู้ แต่คนไม่ได้เรียนมาที่ใฝ่จริงก็หาความรู้ได้ไม่แพ้กัน
แต่จากที่ผมเคยดั้นด้นเข้าไปขอฝึกงานกับกองถ่ายภาพยนตร์ทั้งๆที่ผมไม่ได้เรียนมา เมื่อผมถามว่า "พี่เรียนมาทางนี้หรือเปล่าครับ"
ปรากฎว่ากว่าครึ่งตอบว่าไม่ได้เรียนมา และเมื่อถามคนที่เรียนมาว่า "ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเยอะแค่ไหน" ทุกคนทุกตำแหน่งที่ผมคุยด้วย
ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่ได้ใช้เลย เมื่อมาทำงานก็เริ่มเรียนรู้ใหม่หมดเลย"
สุดท้ายวัดกันที่กึ๋นและทักษะ เส้นทางในการเข้าสู่อาชีพนี้มีหลายทางครับ แต่ความใจร้อนอาจทำให้มองไม่เห็น

คนในวงการเองยังแนะนำผมว่าอย่ามาทางนี้เลย ด้วยเหตุผลมากมายแบบที่คุณ rotcerid บอกไปข้างบน
ให้ไปทางอื่นที่ดำรงชีพได้มั่นคงก่อนแล้วค่อยๆหาหนทางของตนเองจะดีกว่า (พี่เค้าว่ามาอย่างนั้น)

ถ้าการเงินไม่มั่นคง การทำฝันให้เป็นจริงจะลำบากกว่าเดิมหลายเท่าเลยหละ ต้องลองใช้ชีวิตแบบพึ่งตนเองแบบ 100% แล้วจะเข้าใจครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ   
[ แก้ไขล่าสุดโดย sticky เมื่อ 2010-12-03 14:42 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
tanum เงิน +1 2010-12-03 ตอบได้ดีครับ
โพสต์
1599
เงิน
35538
ความดี
34329
เครดิต
35428
จิตพิสัย
42682
จังหวัด
สิงห์บุรี

เอ่อ น้อง Superboy ครับ คำแนะนำในมุมมองของผมนะครับ อาจจะถูก หรือผิดก็ได้ แต่ผมเห็นเช่นนี้ ถ้าอยากเป็นผู้กำกับไม่จำเป็นต้องเรียนฟิล์มก็ได้ครับ หาคอร์สสั้นๆ เรียนครับ ผมเองจบคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มา แล้วทำงานสักพัก รู้ว่าไม่ชอบงานที่ทำอยู่แต่สนใจด้านภาพยนตร์อยากเขียนบท อยากกำกับแบบน้องนี่แหละครับ แล้วก็มาเรียนคอร์สฟิล์มจากสมาคมฝรั่งเศส ควบคุมหลักสูตรโดยพี่เป็นเอก รัตนเรือง กับพี่อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร เป็นรุ่นเดียวกับพี่ลพย์ ในบอร์ดนี้แหละครับ แกก็จบมาจากคอร์สเดียวกัน ตอนนี้ก็ได้มาทำงานอย่างที่ตัวเองฝัน ล่าสุดผมก็เป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับพี่อุ๋ย พี่ลพย์เองก็ได้รางวัลจาก Film Expo Asia และพี่แกก็คงจะได้เป็นผู้กำกับในไม่นานนี้แหละครับผมว่า แต่เมื่อเข้ามาทำงานตรงนี้จริงๆ แล้วจะรู้ว่า ต้องหาจุดที่กลมกล่อมพอดีระหว่างความฝันกับความจริง งานหนังอาจจไม่ทำให้น้องมีเงินมีทองมากมายอะไร หรืออาจจะเลี้ยงตัวไม่รอดด้วยซ้ำ แต่เราอยู่ได้เพราะใจรัก มีความสุขที่ได้ทำหนัง ดังนั้นผมแนะนำให้น้องเรียนในสาขาที่มันน่าจะมีงานทำเป็นหลักแหล่งที่ดีก่อนครับ ทำให้พ่อแม่เห็นว่า เราเลี้ยงตัวเองได้ แล้วก็ค่อยๆ ศึกษาเรื่องทำหนังไปควบคู่กัน ทำงานอาชีพเป็นหลัก แล้วทำหนังเป็นส่วนเสริมในการหล่อเลี้ยงความฝันครับ จนกว่าน้องจะโชคดีอย่างผู้กำกับน้อยท่านที่จะทำหนังได้เป็นร้อยล้าน ตอนนั้นค่อยลาออกจากงานมาทำหนังเป็นจริงเป็นจังก็ยังไม่สายครับ เชื่อผมเถอะครับ อย่าลืมว่าผู้กำกับน้อยท่านมากที่เรียนมาทางฟิล์มโดยตรง ดังนั้นการเรียนฟิล์มไม่ได้จะหมายความว่า เราจะได้ทำหนัง ลองดูสายงานโฆษณาก็ดีนะครับ กำกับหนังโฆษณาก็ผู้กำกับเหมือนกัน รายได้ดีด้วยรวยกันทุกคนครับ พอเก่งแล้วค่อยผันตัวเองมาทำหนังใหญ่ พอทำหนังเจ๊ง จนลงอย่างเดิมก็ค่อยไปกำกับละคร หรือพวกหนังแผ่น เลี้ยงตัวเองไป นี่ล่ะครับวงจร หวังว่าน้องจะโชคดีครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 5 คะแนน ซ่อน
mana เงิน +1 2010-12-03 -
nate เงิน +1 2010-12-03 ผมกำลังทำอยู่คร้าบบบ พี่
rotcerid เงิน +1 2010-12-02 ใช่เลย
sticky เงิน +1 2010-12-02 เห็นด้วยอย่างยิ่ง
anantachat เงิน +1 2010-12-02 Bingo !!
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-02
คนทำหนังได้ดีมักจะเป็นคนที่สังเกตผู้คน สังเกตชีวิต สิ่งรอบตัวอย่างใจกว้าง และใช้ชีวิตเป็น
สิ่งนี้สำคัญมากที่จะทำให้เรามองเห็น เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจสังคม ทั้งมุมแคบ มุมกว้าง
ถึงจุดหนึ่งอาจพบว่าสิ่งที่เราเคยมุ่งหมายในใจอาจไม่ใช่ตัวตนแท้จริงของเราก็เป็นได้ หรืออีกทางหนึ่งก็อาจพบว่ามันชัดเจนมากขึ้นก็ได้

ลองมองดูความคิดของคนที่รักเราให้เท่าๆกับความคิดของเราครับ อาจจะพบวิถีทางที่ดีที่สุด
พยายามต่อไปครับ
โพสต์
339
เงิน
9752
ความดี
8304
เครดิต
9184
จิตพิสัย
9913
จังหวัด
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-02
นี้คือความคิดส่วนตัวของผมนะครับ ผมก็โดนถามอย่างนี้เหมือนกันเยอะมากด้วย เรียนจบเเล้วจะไปทำงานอะไร ตัวเลือกน้อยมา เเต่ผมไม่สนใจ ผมรักที่จะทำเเละอยู่กับมัน ถ้าชอบจริงๆก็เรียนไปเลยครับ เรียนเเล้วมีความสุขดีกว่าฝืนใจตัวเองเรียนเพื่อให้มันผ่านๆไป โอกาศของคนเราต่างกันน้องอาจเป็น 1 ใน 100 ก็ได้ใครจะไปรู้ การเรียนฟิล์มก็มีข้อดีเยอะเเยะ เราจะได้เกิดการเรียนรู้ในการออกกองเเต่ละครั้ง ข้อผิดพลาด การแก้ปัญหาในกอง เพราะทั้งกองก็จะเป็นเพื่อนๆกันหมดส่วนใหญ่ก็ยังไม่เคยออกกอง เมื่อคนที่รักการเรียนฟิล์มมาเจอกันเเล้วออกกองครั้งเเรกด้วยกันสิ่งที่ไม่คาดคิดต้องเกิดขึ้นอย่างเเน่นอน เพราะลองคิดดูนะครับคนส่วนใหญที่เรียนส่วนมากก็อยากเป็นผู้กำกับทั้งนั้น จะมีสักกี่คนที่เขามาเเล้วเพื่อมาเรียน จัดเเสง มาถือไมค์บูม ในกองก็ต้องแบ่งหน้าที่กัน เเต่เชื่อเถอะต้องมีการเกีียงหน้าที่กันเเน่นอน เราจะได้เรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เเละได้เรียนรู้การพัฒนากองถ่ายของตัวเองให้ดีมากกว่าเดิม รู้จุดผิดพลาด
นี้คือความคิดส่วนตัวของผมนะครับ ถ้าคุณไม่ได้เรียนฟิล์มคุณก็จะไม่ได้พบเเละเเก้ปัญหาในจุดนั้น ไม่รู้ข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อนำไปพัฒนา สมมุติคุณไม่ได้เรียนฟิล์ม เเต่ได้มีโอกาศร่วมงานในกองใหญ่ๆคุณไม่อาจได้เจอข้อผิดพลาดหรือเเก้จุดที่ผิดพลาดเลย เพราะทีมงานส่วนใหญ่ก็ผ่านงานหนักๆมาเเล้วทั้งนั้นเขาก็จะมีวิธีของเขาในการเเก้ปัญหา ซึ่งเราแทบไม่ได้มีส่วนร่วมในการเเก้ปัญหากับเขาเลย  ที่ผมจะบอกคือการเพิ่มทักษะการออกกองของตนเอง ถ้าเราเรียนฟิล์มเราก็มีโอกาศในการเพิ่มทักษะมากกว่าคนที่ไม่ได้เรียนฟิล์ม ไม่ใช้ว่าคนที่ไม่ได้เรียนฟิล์มจะไม่มีทักษะนะ เพียงเเต่คนเรียนจะมีโอกาศที่จะได้ออกกองมากกว่า

ถ้ารักเเละชอบ เหตุผลอื่นก็ไม่ใช้ปัญหา เรียนไปเลยครับ มันจะมีเหตุผลที่สำคัญมากกว่าคำว่า "รัก" อีกเหลอครับ

ความคิดเห็นผมอาจจถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายคน ผมก็ขอเสนอเป็นเเนวคิดเเละเเนวทางอีกแบบหนึ่งละครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
rotcerid เงิน +1 2010-12-02 อันนี้ ก็ดี
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
48
เงิน
1290
ความดี
1396
เครดิต
1325
จิตพิสัย
1541
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-02
ท่านผู้ปกครองคงจะกลัวว่าเราจะเป็นศิลปินไส้แห้ง
แต่ผมว่าเรียนภาพยนตร์ถึงจะไม่ได้ทำเป็นอาชีพก็สามารถนำ
ความรู้มาประยุกต์ทำอย่างอื่นได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าเรารักจริงหรือเปล่า
และมีปัจจัยเพียงพอหรือไม่

ด้วยความเคารพครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
rotcerid เงิน +1 2010-12-02 อันนี้ ก็จริง เราเปนแบบนี้อยู่
โพสต์
787
เงิน
5355
ความดี
14867
เครดิต
11447
จิตพิสัย
37005
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-02
ตอบไม่ถูกเหมือนกันนะ สำหรับเด็กที่ต้องการเรียนทางด้านนี้ บอกเลยเรียนจบไม่มีงานทำแน่นอน เพราะทุกวันนี้รุ่นพี่ รุ่นน้า ที่เรียนทางด้านนี้จบแล้วยังหางานทำไม่ได้เลย รุ่นน้องก็กำลังจะจบ และคิดดูกี่มหาลัยที่เรียนทางด้านนี้ รัฐ - เอกชน เพียบ งานฟิล์ม วีดีโอก็มีตลาดอยู่แค่นิดเดียว ถ้าคิดจะวางอาชีพเพื่อสร้าง
ฐานะลืมได้เลย แต่ถ้าคิดจะเรียนแล้วชอบ จบล้วไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เรียนเถอะ เรียนที่เรารัก เขาเรียกว่า ถ้าอยากต้องอยากให้ตลอด อย่าเลิกอยาก ทุกคน
เป็นได้ทุกสิ่งที่ฝัน เช่น ฝันอยากเป็นนายก เป็นได้ ขอความอยากจงอยู่ตลอด วันหนึ่งเราจะเป็นได้ เช่นกัน ชอบและอยากเป็นผู้กำกับ ขอความอยากให้มีตลอด
อย่าอยากๆ หยุดๆ จะลำบาก คิดให้ดีนะครับ..เรียนทางด้านนี้ ถ้าไม่ได้ทำอาชีพนี้ จะไปทำอะไรอย่างอื่น ทำไม่ได้นะ ลำบากมากๆๆ..ขอบอกนะ ..จากใจรุ่นพี่
( ที่เคยลำบากมาก่อน ตอนนี้ก็ยังลำบากอยู่ แต่ไม่มาก )
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
commandosexy เงิน +1 2010-12-06 ^_^
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-02
ผมก็เคยครับ ตอนวัยรุ่น หนีแม่ไปสอบเรียนศิลป์ สอบได้ เค้ารับแล้ว แต่แม่ไม่มาจ่ายค่าเทอมให้
ปรากฏว่า อดเรียนไปปีนึง สุดท้ายต้องไปเรียนการตลาด
แต่คนมันวัดกันไม่ได้ว่า เรียนอะไรแล้วต้องเป็นอะไรหรอกครับ
สุดท้าย ผมก็ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ดี

ชีวิตมันไม่มีอะไรสำเร็จรูป มันอยู่ที่เราเลือกว่าเราจะเป็นอะไร
โพสต์
1410
เงิน
42427
ความดี
44960
เครดิต
45642
จิตพิสัย
51478
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
เริ่มจาก รักงานสายนี้ จริงมั๊ย
ถ้าชอบมาก อยากทำมาก ความอยากจะพาเราไปถึงสิ่งที่เราต้องการ
เพราะเราจะไขว่คว้ามันจนได้

เรียนสายตรงก็ดีครับ แต่ต้อง + ความตั้งใจจริง
การศึกษาในระบบ คุณจะได้แค่พื้นฐาน เป็นกันหมดทุกคณะนั่นแหละครับ
ผมจบวิศวะเคมี ใช่ว่า จะสามารถทำงาน บนแท่นขุดเจาะน้ำมันได้ทันที ซะเมื่อไหร่ล่ะ

ต้องขยัน หาความรู้เข้าสมอง ลองทำงานออกมา ลองผิดลองถูก
หาคนมาตำหนิ หาที่ติให้ตัวเอง จนสามารถ ทำให้คนยอมรับได้



ส่วนเรื่อง พอทำงานแล้ว จะจน หรือ รวย อยู่ที่ กึ๋น ทางด้านการค้าขายครับ
อันนี้ จะแยกออกมาเป็นอีกเรื่องเลยก็ได้


ทำไปเรื่อยๆครับ เรียนก็ดี ไม่เรียนก็ได้ เรียนเองก็ดี
มีคนสอนก็ได้ ประมาณนั้น


คิดว่าผมเริ่มลงมือ ศึกษา ลองทำงานที่เป็น Cinematography
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะครับ 


ตอบ มกราคม 2010


ผมไม่ได้บอกว่าผมเข้าใกล้คำว่า Cinematography นะ เพราะผมว่ายังอีกไกล
แต่ทำไม คนแบบผมทำได้ คนเหมือนกัน ชอบแบบเดียวกัน แบบคุณจะทำไม่ได้


มีโอกาส เรียนสายตรง ก็ดีนะครับ ลองดู สู้ๆครับ


บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ซ่อน
nate เงิน +1 2010-12-03 เข้าใจคุณเนสมากขึ้นเลยครับ
sticky เงิน +1 2010-12-03 GOOD !
โพสต์
1149
เงิน
24508
ความดี
27478
เครดิต
29649
จิตพิสัย
27085
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
ตอนผมเรียนแรกๆก็รู้แค่ว่าเรียนเพื่อถ่ายหนัง ถ่ายรูปเป็น
ญาติพี่น้องก็ถามตลอดเลยว่า จบมาจะเปิดร้านถ่ายรูปหรอ ถ่ายวิดีโองานแต่ง งานบวช งานศพหรอ
ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่มีคำตอบให้เค้า
ผมใช้เวลาเรียน 9 ปี  ( ปวช 3+1ปี ปวส2ปี ปตรี 3 ปี )
จบมาผมถ่ายหนังเป็น ผมถ่ายรูปเป็น

แต่เพื่อนๆผมที่เรียนมาด้วยกันมันก็กระจายไปตามความถนัดของแต่ละคน
บางคนไปอยู่ออการ์ไนซ์
บางคนไปอยู่เอเจนซี่
บางคนไปอยู่โปรดักชั่นเฮ้าท์
บางคนก็ฟรีแลนซ์

ถ้ารู้งานจะเห็นว่าผมมีเพื่อนอยู่ทุกวงการล่ะ
ทีนี้ก็แค่ทำตัวเราให้ชัดเจนว่า เราคือใคร ทำอะไร ทำได้ดีแค่ไหน แล้วก็ให้คนอื่นๆรับรู้
ผมได้งานจากเพื่อนที่อยู่ตามที่นู่นนี่นั่นเรื่อยๆ
นอกจากเพื่อนแล้วยังมี รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่เรียนทันกัน ส่งงานมาให้อีกมากมาย


ถ้าคุณไปจำกัดตัวเองแค่คำว่า ฟิล์ม คุณจะอธิบายให้คนรอบข้างเข้าใจยากมาก
หาข้อมูลไปบอกกับผู้ใหญ่นะครับว่ามันก็สร้างเนื้อสร้างตัวได้เหมือนกัน
เปลี่ยนคำว่า ฟิล์ม เป็น สื่อสารดีกว่า ผู้ใหญ่เข้าใจง่ายกว่า
ส่วนคุณจะเลือกมาทำฟิล์มหรือจะไปอยู่ส่วนไหนของงานแขนงนี้ก็เรื่องของคุณ
วงการนี้มีที่ว่างมากมายครับถ้าคุณตั้งใจที่จะอยู่กับมันจริง
แต่เตือนไว้อย่างนึง
วงการนี้เข้ายากออกง่ายมาก

โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
ปวช 3+1ปี     เหมือนกันเลย แก๊ปโก้

มิน่า


วงการนี้เข้ายากออกง่ายมาก จริงมั่กๆ แต่ถ้าไม่ได้ไปทำร้ายใคร ไม่ได้ไปโกงใคร และ ไม่ยอมแพ้ เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาด ตั้งใจพัฒนาในส่วนที่ตัวเองขาด ก็สามารถกลับเข้ามาได้ (ไม่ง่าย)
[ แก้ไขล่าสุดโดย rotcerid เมื่อ 2010-12-03 02:11 ]
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
อึด ทน ถึก และคึกอยู่ตลอดเวลาครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
192
เงิน
4624
ความดี
3484
เครดิต
3505
จิตพิสัย
4440
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
เรียนไรก็เรียนไป แต่ขอให้ตอนตื่นไปทำงานไม่ต้องกล้ำกลืนก็พอแล้ว
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
766
เงิน
20695
ความดี
16268
เครดิต
17564
จิตพิสัย
19614
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-03
ขอบคุณมากครับสำหรับคำถามและทุกคำตอบ

สิ่งที่ทุกท่านได้อธิบายไปผมขอเก็บไว้เป็นกำลังใจเพื่อสู้ต่อไปนะครับ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้