1 จริงๆแล้วถ้าลงตัว Adobe Production Premium หรือ Adobe Master Collection นั้นตัว Ae จะสามารถทำงานร่วมกับ Pr ได้เลยครับ ด้วย DynamicLink
ยังไงลองศึกษาดูครับ
http://www.adobe.com/products/creativesuite/dynamiclink/ http://www.real-type.com/support/viewtopic.php?f=2&t=11598 อธิบายง่ายๆ ก็คือเราสามารถเอาตัวโปรเจคของ Ae ไปเปิดได้ใน Pr โดยไม่ต้อง Render ก่อนครับ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ effect ที่ใช้ด้วยนะครับ ว่าPR ซัพพอทแค่ไหน โดยเฉพาะพวก Plugin นี่ก็อาจจะไม่สมบูรณื 100 นะครับ
แล้วก็ที่ ดูไฟล์ที่ render แล้วกระตุก อันนั้นปัญหาอาจจะอยู่ที่ Spec com ด้วยครับ ยังไงลองเอาไฟล์ที่ว่าไปเปิดดูกับเครื่องอื่นที่แรงกว่าดูก่อนครับ
2 จริงๆตอนเรนเดอร์หลังจากตัดต่อ ถ้าจะเอาไปทำเป็น DVD ปกติผมจะ Render เป็น Mpeg2 DVD เลยครับ แล้วเอาไปทำ Dvd Author ต่อ เพราะจะได้ไม่ต้อง render กันหลายครั้ง
คือถ้าเรายิง render มากครั้ง คุณภาพมันก็จะดรอปลงนะครับ
3 ผมใช้ nero ไว้แค่ไรท์นะครับ ไม่ได้ใช้ทำ dvd อันนี้ผมตอบไม่ได้ ปกติ พอผมได้ไฟลื Mpeg2DVD แล้ว ผมจะเอาเข้า sony dvd architech นะครับ ซึ่งมันจะไม่มีการแปลงไฟล์อีก แค่นำไฟล์ Mpeg2DVD มาจัดโครงสร้างให้เป็นตามมาตราฐาน DVD ทั่วๆไปนะครับ(เป็นไฟล์ Vob นั่นแหละครับ)
(ลองศึกษาพวก การทำ DVD author ดูครับ)
4.ที่ในหนัง Dvd ภาพมันดูคมชัดกว่า เพราะว่าต้นทางคือตั้งแต่ถ่ายมาเขาใช้กล้องที่มีคุณภาพดีกว่านะครับ ทำให้เวลาทำแผ่น DVD แล้วยังไงก็ชัดกว่าที่เราทำๆกันนะครับ
ผมขอสรุป Workflow ของผมนะครับ ปกติก็จะทำกราฟฟิคใน AE แล้วก็จะส่งมาที่ PR ตัดต่อ(แต่ตอนนี้ผมหันมาใช้ Avid แล้ว ผมก็เลยใช้ AE--composit--Make Movie เป็นไฟล์ mov โดยใช้ code ของ Avid ครับ) จากนั้นก็ใช้ PR Export เป็น mpeg2dvd จากนั้นเอาเข้าโปรแกรมพวก DVD Author(ผมใช้ sony dvd architech นะครับ)เสร็จแล้วก็จะได้ Folder ที่มีโครงสร้างของ DVD มาตรฐาน(เป็นไฟล์ Vob นั่นแหละครับ)แล้วค่อยใช้ nero ไรท์แผ่นครับ คุณภาพที่ได้สำหรับผม ถือว่าดรอปจากต้นฉบับไม่มากครับ
ปล.ที่ผมต้องใช้ โปรแกรมทำ Dvd Author เพราะผมต้องทำเมนูด้วยนะครับ แต่ถ้าจะไม่ทำเมนู โปรแกรมพวกนี้ก็ทำได้ครับ