พี่ๆรับงานประเภทไหนกันบ้าง????

อยากรู้ว่าพวกพี่รับงานประเภทไหนกันบ้าง แล้วคิดค่าบริการยังไง (ประมาณเท่าไร?)
เผื่อว่างๆ อยากรับจ๊อบ ผมใช้ 7d อยู่ ชอบงานวิดีโอ ตัดต่อ AE ได้พอประมาณ-ดี
ตอนนี้หัดถ่ายเล่นๆ เรื่อยเปื่อย เผื่อจะยึดเป็นอาชีพอิสระ

ขอคำแนะนำด้วยครับ

ตอบไงดี กว้างมากเลยนะน่ะ555
ลองไล่ให้ฟัง

งานMV ตั้งแต่ 0.00-40,000บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถเราและกำลังลูกค้า (ศูนย์บาทนี่ถ่ายให้เพื่อนหรือโดนชักดาบ555)
งานถ่าย Wedding film ceremony 7,000-20,000 ต่อคิว ขึ้นอยู่กับ...เหมือนข้างบน
งานโฆษณา อันนี้ไม่รู้จะประมาณยังไง 15,000 ขึ้นไป...เรื่อยๆ... อยู่ที่ว่า ออกอากาศที่ไหน เคเบิ้ลท้องถิ่นหรือช่องหลักหรือดาวเทียม
ขึ้นอยู่กับScaleของงาน
Company Profile ประมาณ 15,000 - 200,000
และอีกมากมายครับ สารคดี รายการโทรทัศน์ ขึ้นอยู่กับเรามีโอกาสสัมผัสกับวงการไหน เรามีถิ่นฐานที่ไหน
แต่ละที่แต่ละจังหวัด โอกาส ตลาดงาน ต่างกัน ราคาต่างกัน
ราคาที่บอกไป เป็นราคาประมาณคร่าวๆ (มากๆ) จากการที่ประสบมา

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวข้อใหญ่ๆเลยคือ
1. ฝีมือ ความสามารถของเรา
2. รายละเอียดงาน
3. ลูกค้าเป็นใคร
4. เราอยู่ตลาดไหน

ลองเริ่มรับงานที่ตัวเองทำได้ดูครับ แล้วจะค่อยๆเริ่มเข้าใจตลาด เริ่มกำหนดราคาเป็น
แต่ก่อนอื่นศึกษาให้ลึกซึ้งพอที่ งานของเราจะเข้าเกณฑ์มาตรฐานก่อนรับงานมาทำนะครับ

โชคดี มีตังค์  

ขอนแก่นได้ราคาดีกว่าโคราชนะเนี่ย......ที่โคราชส่วนใหญ่ลูกค้ากำหนดราคามาในใจเค้าแล้วครับพอบอกราคาไปบางเจ้าก็ไม่ทำซะงั้น
ส่วนเรื่องอุปกรณ์ก็ไม่ค่อยสนใจ....ประมาณว่าขอให้ออกมาเป็น DVD 1 แผ่น ......   จบข่าว

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 1 ต้นฉบับโพสโดย nezzis เมื่อ 2010-06-23 04:50 ตอบกลับโพสของ (4701030316) :
ตอบไงดี กว้างมากเลยนะน่ะ555
ลองไล่ให้ฟัง

งานMV ตั้งแต่ 0.00-40,000บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถเราและกำลังลูกค้า (ศูนย์บาทนี่ถ่ายให้เพื่อนหรือโดนชักดาบ555)
งานถ่าย Wedding film ceremony 7,000-20,000 ต่อคิว ขึ้นอยู่กับ...เหมือนข้างบน
.......

รับลูกน้องมั้ยอะ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 1 ต้นฉบับโพสโดย nezzis เมื่อ 2010-06-23 04:50 ตอบกลับโพสของ (4701030316) :
ตอบไงดี กว้างมากเลยนะน่ะ555
ลองไล่ให้ฟัง

งานMV ตั้งแต่ 0.00-40,000บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถเราและกำลังลูกค้า (ศูนย์บาทนี่ถ่ายให้เพื่อนหรือโดนชักดาบ555)
งานถ่าย Wedding film ceremony 7,000-20,000 ต่อคิว ขึ้นอยู่กับ...เหมือนข้างบน
.......

คุณเนส

ผมกำลังคาใจอยู่เลยว่า มีลูกค้ารายหนึ่ง เห็นงานที่ผมถ่ายมินิ (mini series) แล้วอยากให้ถ่ายบ้าง แต่ไม่ช่ายรถแค่คันเดียว เป็นรถทั้งหมด 10 กว่าคัน
ถ่าย เก็บ detail และสัมภาษณ์เจ้าของรถ ความยาวหนังออกมาเกิน 10 นาที ถ่ายทำน่าจะสองวัน ผมบอกราคาไป 30,000 เท่านั้นแหละครับ ลูกค้าเข้า step ต้องไปถามเพื่อนๆก่อน แล้วก็หายไป

ผมคิดแพงไปช่ายไหม?

Step เดียวกัน เมื่อก่อน present องค์กร ขาย 25,000-30,000 ตอนนี้บอกไป 15,000 ยังบ่นว่าแพง.........

สงสัยต้องให้คุณเนสสอนวิธีขายของบ้างละ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 4 ต้นฉบับโพสโดย tenztudio เมื่อ 2010-06-23 10:34 Re:ตอบกลับโพสของ (4701030316) :


คุณเนส

ผมกำลังคาใจอยู่เลยว่า มีลูกค้ารายหนึ่ง เห็นงานที่ผมถ่ายมินิ (mini series) แล้วอยากให้ถ่ายบ้าง แต่ไม่ช่ายรถแค่คันเดียว เป็นรถทั้งหมด 10 กว่าคัน
.......

10 คัน ตกคันละ 3,000 เองนะครับ
อยากได้งานดี แต่ไม่ลงทุนเลย เจอเหมือนกันครับ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 4 ต้นฉบับโพสโดย tenztudio เมื่อ 2010-06-23 10:34 Re:ตอบกลับโพสของ (4701030316) :


คุณเนส

ผมกำลังคาใจอยู่เลยว่า มีลูกค้ารายหนึ่ง เห็นงานที่ผมถ่ายมินิ (mini series) แล้วอยากให้ถ่ายบ้าง แต่ไม่ช่ายรถแค่คันเดียว เป็นรถทั้งหมด 10 กว่าคัน
.......

ผมคิดว่าอุปกรณ์ของพวกเราอะที่ใช้ถ่ายงาน ไม่รวมค่าตัวค่าแรง เฉพราะของเค้าปล่อยเช่ากันอะทั้งหมดนะวันก็เป็น หมื่นแล้วนะ   DSLR+เลนส์+หัวขา+อุปกรณ์บันทึกเสียง ยังไม่รวมค่าแรงค่าหัวสมอง ค่าตัดต่อ +เครื่องมือตัดต่อ ผมว่าต่ำๆนะ ลงทุนไปแล้วทั้งหมด น้อยๆต้องมี 2-3แสน คิด 2 วัน30,000 บาท ไม่แพงแล้วว เพราะเราไม่ได้ถ่ายอย่างเดียวเราทำตั้งแต่เกิดจนจบเลย นะ แต่โดยปกติ คนเราชอบไรเยอะๆ 10 นาทีเลยดูแพง ผมก็จะเอาfootageที่ถ่าย มาใส่ให้อีก 2-3เพลงทำแบบให้ดูเยอะๆ อะ เวลาเสนอราคาก็แจงไปเยอะหน่อยย ให้ดูอลัง ช่วยได้นะ

แต่ถ้าพวกต้องการถูกก็จะเชิญเค้าออกทางประตู ถูกและดี ไม่มี ดีและเร็วไม่ได้ ดี แพง นาน

อูย...ทีแรกเห็นโพสนี้ไม่มีคนตอบ พอผมตอบมากันเป็นพรืด...555        
แสดงว่า ประเด็นเรื่องการกำหนดราคา มีปัญหากันทุกราย
ผมก็มีปัญหาครับ อย่างว่าราคาที่บอกไปมันคร่าวๆ


ผมคิดว่า คนที่อยู่ กทม. น่าจะมีปัญหาน้อยกว่าผมที่อยู่ขอนแก่น กะคุณkatang ที่อยู่โคราชนะ
เพราะ กทม.น่าจะแข่งขันกันสูง แล้วราคาน่าจะเข้าหาจุดสมดุล คือเกิดราคากลางขึ้นมา ไม่แกว่งมาก
แต่ขณะเดียวกัน เมื่อแข่งขันกันสูง ก็ย่อมมีพวกแข่งด้านราคา ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกนะครับ

ในทางกลับกัน ผมที่อยู่ขอนแก่น มีVDO PRODUCTION อยู่น้อยราย เรามีโอกาสเลือกลูกค้าก็จริง
แต่ ด้วยความที่น้อยราย ตลาดงานด้านนี้จะดูไม่ชัดเจน ทุกวันนี้ ใครจะถ่ายVDOทีนึง เค้ายังนึกไม่ออกเลยว่า
มีVDO PRODUCTION วิ่งหา สถานีวิทยุบ้าง เคเบิ้ลทีวีบ้าง ร้านWeddingบ้าง ซะงั้น


พูดถึงกรณีเฉพาะ DSLR VDO PRODUCTION เท่าที่พูดคุยกับหลายๆท่าน คือ ผมว่าเริ่มมีเยอะก็จริง
แต่ก็ยังเป็นช่วงที่ตลาดกำลังSetup อย่าเพิ่งรีบชิงตัดราคากันลงนะครับ
คุณค่าของงาน Cinematogrphy จะกลายเป็นของพื้นๆไปซะงั้น...จริงมั๊ย ทั้งๆที่เป็นสิ่งที่พวกเรา พยายามหาทางทำขึ้นมาจนได้


งานที่สามารถนับเป็นคิวได้ก็เสนอเป็นคิวครับ พวกถ่ายงานพิธีการอะไรเทือกนั้น ราคาต่อคิวอยู่ที่คุณภาพงานอยู่แล้ว จริงมั๊ย?


ผมขอพูดเรื่อง กรณีงานเหมา ที่มีราคาหลัก 50,000 - 200,000 ละกันครับ
หลักของผมคือ เสนอราคา 3 ระดับครับ


1. ราคาเปิดการเจรจา ไม่ใช่ราคาที่อยู่ใน Quotationนะ เราต้องให้ลูกค้า ทราบราคาที่แท้จริงของการผลิต
กรณีนี้ต้องคุยConceptงานจบแล้วนะ ตัวนี้เราคิดราคา จากการแยกคิดทุกๆอย่าง อธิบายโดยละเอียด ให้ลูกค้าเคลียร์ไปเลยว่า
เราจะต้องทำอะไร เค้าจะได้ชิ้นงานแบบไหน ออกมาบ้าง


2. ราคาต่อรอง ลำดับที่หนึ่ง เราต้องวัดใจกับลูกค้าครับ น้อยครั้งที่เราเสนอราคาเปิด แล้วเค้าจะไม่บ่นแพง กรณีที่เราจำแนกให้เค้าฟังเป็นอย่างๆแล้ว
เป็นการเปิดช่องให้เค้าต่อรองแบบเคลียร์ๆและเป็นการป้องกันตัวเองระดับนึงด้วยครับ ว่าจะมีราคาในรายละเอียดตัวไหน ที่เราลดให้เค้าได้บ้าง
อย่าลืมครับว่าเป็นงานเหมา ลดได้อยู่แล้วบางตัว


3.ราคานำเสนอ หลังจากเราลด นั่นโน่น นี่ให้ลูกค้าแล้ว แน่นอนลูกค้าส่วนใหญ่จะถามว่า ลดอีกไม่ได้เหรอ จริงๆเค้าจะเริ่มพอใจระดับนึง
เราแค่ปัดเลขหลักพัน ให้กลมๆครับ เค้าจะเริ่มโอเคแระ อย่าลดมากกว่านั้นนะ ให้ลองใช้วิธี แถม อย่างแถมDVDอีกซัก 5ชุด10ชุด 
ก็ไม่ทำให้ต้นทุนเรากระเทือนมากนัก จริงมั๊ยครับ เราก็เอาราคาสุดท้าย ทำQuotation เสนอโลด จบข่าว...


ตัวอย่าง

ผมเพิ่งปิดราคากับลูกค้าประจำมารายนึง KRAFT FOOD THAILAND ปกติผมทำเป็นชิ้นๆ
คือเค้าอยู่ที่18,000 - 20,000ต่อชิ้นทำงานประมาณ3วันเสร็จ 
ทีนี้มีงานเหมา ถ้านับจริงๆมันจะเป็น 5ชิ้นย่อยๆ กรณีที่เราเริ่มสนิทกับลูกค้า เราสามารถตะล่อมถามงบเบื้องต้นได้
จะทำให้ไม่เสียเวลาในการคุยและความรู้สึก เค้าบอกมาว่ามีงบ70,000 ผมลองหารต่อชิ้นเหลือ14,000 ผมบอกไม่ไหวครับ
เลยขอไปสรุปสคริปท์และลองเสนอราคาให้พิจารณาอีกที ผมทำการแจกแจงรายละเอียดการทำงานให้เค้าเห็น และตั้งราคาไปที่ 95,000
ทำราคาลด 10%เบื้องต้นเลย เหลือ 85,500 เค้าถามขอลดอีก ผมลดให้เต็มที่ด้วยการบอกว่า เอาครั้งเดียว แบบสุดๆเลยนะครับ 
80,000 ถ้วน(เป็นราคาที่ตั้งไว้ในใจตั้งแต่แรก) สรุปตามนั้น ไม่ยากครับ แต่ต้องมีจิตวิทยาในการต่อรองนิดนึง
งานนี้ทำประมาณ 7 วันเสร็จ(นับเฉพาะเวลางานจริง) กำไร 75% ดีมั๊ยครับ...
จบการเสนอราคาปุ๊บ ยังไม่ได้เริ่มถ่ายเลย เค้าก็พอใจระดับนึง มีงานVDO TRAINING ให้ทำต่ออีก20ตัว เริ่ดมะครับ อิ อิ       


ปล. ราคาสุดท้าย ต้องไม่ห่างจากราคาในใจที่เราคาดหวังไว้มากนะครับ เด๋วจะทำงานด้วยความห่อเหี่ยว
ปล.2 เราทำงานที่จัดอยู่ในประเภทงานบริการนะครับ
อย่าได้มีคำว่า งานแบบนี้ก็ราคาเท่านี้แหละครับ ให้ลูกค้าเสียความรู้สึก อย่าลืมว่า คนซื้อของย่อมต้องการของดีราคาเหมาะสม


ปล.3 เชิญลูกค้าออกทางประตูกรณีอยากได้ของดีและถูก ไม่ดีนะครับคุณLittleTimeแฮ่ๆ      
ผมมีเทคนิดนึงเวลาลูกค้าต่อรองประมาณว่า เราเสนอ15,000แล้วลูกค้าโวย ทำไมแพงจัง เจ้านั้นแค่4,000เอง
...เราต้องคิดนิดนึงอย่าโมโห เพราะลูกค้าอาจยังไม่เข้าใจคุณภาพของงาน บอกไปว่า ถ้าอย่างนั้น ลองใช้บริการเจ้านั้นดูก่อนก็ได้ครับ
ราคา4,000ผมทำไม่ไหวจริงๆ ลูกค้าจะเริ่มต่อรองครับ เพราะจะฉุกคิดว่า ราคาต่างนาดนี้ ต้องมีเนื้องานต่างครับ หรือเค้าไปใช้บริการ4,000จริง
เราก็จะไม่เสียน้ำใจ คราวหน้า เค้าไม่พอใจงาน4,000 เค้าจะกลับมาหาเราอีกทีครับ ผมทำมาแล้ว ลูกค้าอยู่ติดหนึบกันเป็นเบือ...


ปล.4 สำคัญมาก ถ้าเป็นไปได้ ควรต่อรองราคากับลูกค้าด้วยการพูดคุยโดยตรง ไม่ควรโทรศัพท์ e-mail
ทำแบบนั้นมีโอกาสที่ลูกค้าจะมีเวลาไตร่ตรองมีเวลาปรึกษาคนอื่น(ที่ไม่รู้เรื่อง)หรือชิ่งไปเลยสูงมาก ควรนั่งคุยกัน ต่อรองกันเบื้องต้น
ผมเรียกHuman Touch จะมีเปอร์เซนต์สำเร็จสูงกว่า ความพึงพอใจในราคา มีหลายองค์ประกอบนะครับ
ผมใช้การทำให้เกิดFirst Impression ความประทับใจแรก ดูว่าลูกค้าเป็นใคร เพศไหน
เป็นผู้หญิง เป็นเกย์ ผมคุยเดี่ยว(ระวังตัวกับเกย์นิดนึงนะ555) ถ้าเป็นผู้ชาย เป็นอาเฮีย เหน็บลูกน้องสาวสวยผมไปด้วย


มีเคสนึง เซลล์ผู้หญิงสองคน คนนึงแต่ชุดฟอร์มบริษัท คนนึงแต่งชุดไพรเวทแบบดูดีติดเซ็กซี่เล็กๆอย่างกับนางแบบความสวยพอกัน
ไปเสนอราคาพร้อมกัน ทายสิครับ คนไหนได้งาน...นั่นแหละเห็นมากับตา..

เค้าจะมีความพึงพอใจทางอ้อมครับ
ปฏิเสธไม่ได้เรย เพราะเป็นTactic ที่ได้ผลดีมาตลอดสำหรับผม
เราต้องดูฉลาด สุภาพ ให้ลูกค้าเห็นนะครับ อย่าลืม งานบริการน่ะนะ

[ แก้ไขล่าสุดโดย nezzis เมื่อ 2010-06-23 15:58 ]

ผมก็ลอง email กลับไปง้อแล้วครับ ชี้แจง อย่างละเอียด พร้อมลดราคาด้วย
แต่ก็กลับเจอแต่ความเงียบ

เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าราคาที่เปิดไปมีผลกระทบต่อลูกค้าอย่างรุนแรง
ดังนั้น คราวหน้าผมคิดว่าควรจะ วิจัยลูกค้าให้ละเอียดก่อนบอกราคา

น่าเห็นใจมากครับ เจอคนรวยขี้เหนียว
คราวหน้า ลองแยกเป็นชิ้นเล็กๆครับ อาจเพราะเค้าคาดหวังราคาเท่ากับงานชิ้นแรกที่คุณเท็นทำน่ะนะ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 10 ต้นฉบับโพสโดย nezzis เมื่อ 2010-06-23 15:41 ตอบกลับโพส 9 โพสของ (tenztudio) :
น่าเห็นใจมากครับ เจอคนรวยขี้เหนียว
คราวหน้า ลองแยกเป็นชิ้นเล็กๆครับ อาจเพราะเค้าคาดหวังราคาเท่ากับงานชิ้นแรกที่คุณเท็นทำน่ะนะ

ผมก็อ้างอิงให้เค้าฟังแล้วนะครับตอนแรกว่างาน mini อ่ะ คนนั้นเค้าจ้างผมประมาณ 15,000
ผมก็บอกเค้าเลยว่ารถเยอะขนาดนี้ผมเพิ่มกล้องอีกชุดด้วยมาช่วยกันถ่าย พอเค้าเงียบผมก็เลยเสีย self อย่างรุนแรง ประมานว่า 10 คันต้องเอาให้เหลือคันละ 1000 ถึงจะโอช่ายไหม

อีกใจนึงก็อยากได้เป็นผลงานเก็บไว้ โดยการตัดราคาตัวเอง คิดไปคิดมา ถ้าตัดราคาแล้วมันคงไม่มีทางขึ้นมาได้อีก

ก็เลยต้องรอต่อไปเผื่อโชคดีมีหลุดเข้ามาอีก จะได้ทำตามที่คุณเนสบอกไว้

อย่าเสียใจไปเลยครับ ทำธุรกิจ ถ้าได้งานทุกครั้งก็รวยกันหมดสิครับ
ทนครับ รักษาคุณภาพงาน
กับรักษาราคา สำคัญมาก ยิ่งงานคุณภาพโปรแบบคุณเท็น ไม่ควรลดราคาอย่างแรง
สู้ๆครับ เด๋วก็ดีเอง

ผมอยู่ วงการนี้ตั้งแต่เด็กมีทุกยุคนะครับ กับเรื่องการตัดราคา เค้าอยากตัดราคาให้เค้าตัดไป เด๋วันนึง เค้าตายไปเองแหละ ลูกค้ามีตังอยากได้งานดีดีเยอะ แยะนะ ผมว่า ขึ้นอยู่ว่า งานเราออกมาดีแล้วหรือยังราคาไม่เกียวครับมันคืองานศิล์ป ประเมินค่าไมได้ ขึ้นอยู่กับผู้ ทำและผู้จ้าง วงการนี้มันแคบครับ ได้บ้างไมได้บ้าง ปกติ อย่าไปเครียด หนังใหญ่ลงทุนไปหลายล้านยังเจ้งมีเยอะแยะไป เค้าลงทุนไปก่อนที่จะได้ตังอีกเรียกว่าวัดดวงเลย เรายังสบาย เค้าไม่จ้างก็ไม่ต้องทำ ก็เท่านั้น การต่อราคาผมถือว่าดูถูกฝีมือกันนะ ต่อได้แต่อยากมากไป ส่วนใหญ่ผมจะแถมมากกว่าลดราคา เพราะเวลา คุยเรื่องราคา เราก็เกรงใจลูกค้าไม่กล้าฟันหรอก

อย่างน้อยก็ดีที่ไม่ได้ผิดใจกันกับลูกค้า
ต้องทน และพยายามต่อไป รักษาและพัฒนาคุณภาพ
และถ้าจะให้ดีต้องไปเรียนการตลาดเพิ่ม อิอิ

ขอบคุณครับ