ขออนุญาตคอมเม้นต์ต่ามความรู้สึกส่วนตัวนะครับ ไหนๆ เจ้าของกระทู้ก็เชืญล่ะ อิอิ
เรื่อง production คุยกันนิดหน่อยก็พอแระ
เรื่องการถ่ายภาพ มุมมอง สวยงามอยู่แล้ว แต่อาจต้องระวังเรื่อง reflec นิดนึง อย่างที่ 8:16 8:25 กับ 9:04 นี่ ไมค์บูมโผล่มาเป็นก้อนเลย ในแว่นดำอ่ะ ฮ่าๆๆ
เรื่อง sound อาจจะค่อนข้างด้อย แต่ก็ช่างเหอะ เป็นเรื่องปกติของงานระดับนักศึกษามหาลัยอยู่แล้ว ยอมรับได้ครับ ไม่ว่ากัน
เรื่องตัดต่อ เพลงที่ใช้ก็ให้ความรู้สึกได้ดีตามครับ เลือกเพลงได้เหมาะสมดี ชอบๆ เกรดภาพก็สวยฮ่ะ แล้วก็โดยส่วนตัวอยากแนะนำอยากให้ลดใช้ fade to black แล้วก็ fadeเพลงออก ดื้อๆ เงียบๆ เพื่อแบ่ง scene อย่างที่ 2:28 แนะนำให้ลองหาภาพ establish หรือ ภาพสัญญะต่างๆ มาคั่นเป็น transition ก็ได้นะ แล้วเพลงก็เลี้ยงอยู่ แต่ค่อยๆให้มันจางๆไปในฉากใหม่ แบบหายไม่รู้ตัว ลองทำอย่างงี้ดูบ้างก็ได้นะ
เราขอมาคุยกันเรื่องการเดินเป็นหลักกันดีกว่า ในฐานะที่คุณเป็น ผกก
เรื่องนี้มีจุดแข็งหลายเรื่อง มี potential ดีแล้ว ประเด็นก็ ok ใช้ได้ ไม่ original ซะทีเดียว แต่ก็ผ่านอยู่ เอามาเล่นได้ บทคนตาบอดก็ดีครับ ชอบ หลายอันเลย คุณมีความพยายามในการค่อยๆคลายปมทั้งหลายได้ดี เช่น ยืนแหงนคอ เชคแฮนด์ตอนท้าย มันคลายปมเรื่อง ไอ่นี่ตาบอดจิงป่าวได้แบบ ok เลยแหล่ะ
คุณทำได้ดีมากแล้วในส่วนของบทคนตาบอดที่ค่อยๆชี้ทางให้นางเอก ตอนที่นั่งคุยกัน จนนางเอกค่อยๆเปิดใจยอมไปเที่ยวกับคนตาบอด
แต่มีอยู่ปมนึงที่คุณลืมแก้คือ ก่อนหน้าที่นางเอกจะคุยกับคนตาบอด ทำไมนางเอกของเราอยู่ดีๆ ก็นั่งใกล้ชิดและให้โอกาสกับผู้ชายแปลกหน้าตั้งแต่แรกขนาดนั้น เธอปิ้งคนตาบอดตั้งแต่แรกพบหรอ??? ดูแล้วก็ไม่น่าใช่ เธอเดินชนล้ม เห็นว่าตาบอด น่าสงสารมา เลยพาไปนั่งคุยด้วยหรอ??? ผมว่ามันก็ยังน้อยไปอยู่ดี ยังไม่มีน้ำหนักพอที่เธอจะยอมเปิดใจ แถมยังไร้เสน่ห์อีกด้วย
ลองเอาตัวเราเองมาเป็นตัวละครดูซิครับ ลองคิดว่าถ้าเราเจอสถานการ์แบบนนางเอก จะเป็นยังไง
ถ้าเป็นผม ถ้าผมอกหักอยู่ แล้วเดินชนคนตาบอดโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะกำลังเพ้อในโลกของตัวเอง ผมรู้สึกตัวทันทีเลยว่าผมผิด ผมจึงจะช่วยพยุงให้เค้าลุกเดินได้ ขอโทษ ขอโพยกันหน่อย อย่างมากก็พาคนตาบอดไปนั่งหน่อยก็ได้ ให้เค้าได้พักรักษาตัวบ้าง ส่งเค้าเสร็จแล้ว รู้สึกเค้าไม่เป็นอะไรมาก ก็ผมเดินจากไป ทำไมต้องอยู่ต่อ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่ใช่ คนแปลกหน้าชัดๆ กลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวของเราต่อไปดีกว่า กำลังอินกับตัวเอง แต่นี่นางเอกยังนั่งร้องไห้อยู่ต่อ อย่างใกล้ชิด มันเหมือนถูกเขียนบทมา ว่าเด๋วต้องรอให้คนตาบอดพูดด้วย อย่าพึ่งลุก อะไรทำนองนั้น
ถ้าจะบอกว่า จริงๆแล้วข้างใน เธอมีเรื่องอัดอั้นตันใจ ต้องการคนพูดด้วย จะรู้จักหรือไม่รู้จักก็เหอะ มันก็ยังขัดธรรมชาติของผู้หญิงอยู่ดีที่จะไว้ใจใคร และยอมนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ยิ่งเธออยู่ในช่วงอกหัก เธอต้องขาดความไว้ใจผู้ชายมากเป็นพิเศษ และคุณได้บลิ้วผูกปมเรื่องความไม่ไว้ไจในตัวผู้ชายมาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เธอยังนั่งอยู่ตรงนั้น มีท่าทางเหมือนจะเปิดใจ อยากคุยกับผู้ชาย(แปลกหน้าด้วย) จึงขัดต่อสิ่งที่คุณพยายามบลิ้วมาทั้งหมดนะครับ
ขอยกตัวอย่างจากเรื่อง กวนมึนโฮ คือ ใช่ว่านางเอกจะยอมช่วยพระเอกตั้งแต่แรก มันแปลกๆอยู่ที่ เธออยู่ดีๆไปช่วยผู้ชายแปลกหน้า เม้าค้าง ตัวเหม็น แต่พระเอกก็ตื้อๆๆๆ นางเอก (นี่แหละ เทคนืคจีบหญิงให้ติด วิธีหนึ่ง) บอกนางเอกว่าไม่มีคนช่วย หลงทาง กลับไม่ถุก พูดเกาหลีไม่ได้ อังกฤษไม่ได้ จนนางเอกสงสาร ใจอ่อน ก็ต้องยอมช่วยพากลับโรงแรม ไรงี้ แล้วก็จึงค่อยๆได้รู้จักกัน เดินเรื่องกันต่อไป
หันกลับมามองเรื่องนี้ ผมอาจจะลองแก้ปมนี้อย่างง่ายๆ อย่างน้อยที่สุด ก็คือ ให้นางเอกเดินมาส่งคนตาบอดนั่ง แล้วกำลังลุกเดินไป แต่ทันใดนั้นคนตาบอดก็ทักขึ้นทันทีว่า “เธอมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึป่าว เราเห็นเธอร้องไห้” แล้วนางเอกก็งงว่าเห็นได้ไง (นางเอกเริ่มสนใจในคนตาบอด) คนตาบอดพูดไปเรื่อยๆจนเธอเริ่มเปิดใจ แล้วมานั่งคุยกับคนตาบอด
ผมว่าอย่างงี้ดูมีเหตุผลมากกว่า มีน้ำหนักมากกว่า เป็นธรรมชาติมากกว่านะ แต่ยังไงก็แล้วแต่คุณจะตีความละกันนะ
ส่วนเรื่อง acting ของนักแสดงหญิง ผมว่าเค้ามาได้ ok ระดับนึงแล้ว แบบพอเล่าเรื่องได้ แต่ผมยังรู้สึกว่าเค้ายังไม่มั่นใจในตัวเอง ยังเล่นแบบมีกังวลบ้าง เหมือนเค้าพยายามเล่นมากกว่าตามคำสั่งผกกมากกว่า เล่นจากความรู้สึตัวเองข้างใน (ที่เข้าชอบเรียกว่า inner อ่ะ) สังเกตุได้จากสีหน้าหน้าตาเค้า เวลาเค้าพูดจะมีสีหน้าอย่างหนึ่ง เวลาหยุดพุดเค้าจะมีสีหน้าอีกย่างหนึ่ง ทำไปตามบท ไม่มีบทกูก็ไม่รู้จะทำอะไร บางครั้งก็เลยเหมือนเธอกำลังรอบทของเธออยู่ อย่างตรง 8:42 นี่ชัดมากกกกก ว่าท่องบท แบบว่านะ เปลี่ยนสีหน้า ทันทีทันใด ตามบท จริงๆน่าจะทิ้งมีจังหวะ ไตร่ตรอง เหมือนคนที่กำลังคิดจริงๆ แต่นี่เล่นเปลี่ยนสีหน้าตามบทเลย ฮ่าๆๆ
มีบางครั้งก็แสดง hard sell ไปหน่อย เช่นตอนที่ 4:53 เธอส่วยหัวซะละครเวทีเชียว แบบว่ากลัวคนดูแถวหลังไม่เห็นว่ากำลังรู้สึกอย่างไรอยู่ ฮ่าๆๆ (หรือว่าต้องการให้เป็นอย่างงี้ ก็ขออภัยด้วยครับ) จริงๆ ในหนังไม่ต้องส่ายหัวก็ได้ อยู่นิ่งๆเฉยๆ ให้แสดงออกทางสีหน้า+แววตาลึกๆ คนดูก็สามารถเข้าใจได้แล้วว่า เธอกำลังไม่พอใจ น่าจะเน้นตรงนี้มากกว่าส่ายหน้านะครับ
เอาอย่างที่ 1:45 มาเล่นแทน น่าจะ impact คนดูมากกว่านะครับ
ฝากไว้นะครับ แหม่ เสียดายหนังเหมือนมาได้ดี ได้สวยล่ะ พลาดเรื่องรายละเอียดนิดเดียวเอง ไม่เป็นไรครับ ของแบบนี้แก้กันได้รอบหน้า
[ แก้ไขล่าสุดโดย victormc49 เมื่อ 2011-03-09 10:26 ]