ทำไมหนังไทยไม่ค่อยมีหนังแฟนตาซีภาพสวยๆแบบฟรั่งเหรอครับ

คือผมสังเกตุมานานแล้วว่าหนังไทย หนังดังๆมีแต่หนังแบบ หนังรัก โรเมนติก ดราม่า หนังผี หนังตำรวจ ซึ่งหนังพวกนี้ไม่ค่อยได้ใช้เทคนิค CGI มากเหมือนหนังแฟนตาซีของฟรั่ง ที่มีเมืองลอยฟ้า มังกรตัวเท่าตึก หรืออะไรเว่อร์ๆ (หรือหน้าตานักแสดงคนไทยมันไม่ให้)

ผมว่านิยายไทยหลายเรื่องก็เหมาะจะทำมาทำหนังแฟนตาซีขายได้เลยนะ บางเรื่องไม่แพ้ฟรั่งเลย เพียงแต่เพราะภาษาไทยมันไม่ได้เป็นภาษาสากลเลยไม่ได้ดังไปประเทศอื่นแค่นั้น (รึเปล่า?)

เพราะผมอยากเห็นหนังแฟนตาซีเนียนๆฝีมือคนไทยบ้างซักครั้งจริงๆ

ทำได้ครับ   คนไทยทำ CG ขั้นเทพเยอะแยะถมไป  แต่ปัญหาก็คือว่า  
"ไม่มีผู้ใหญ่สนับสนุน "   บุคลากรไม่เพียงพอ แบบว่าทำคนเดียวก็อาจตายได้ !!
อุปกรณ์ทำ CG ก็ยังค่อนข้างแพง   (แม็คโปร เอามาทำ CG  อย่างต่ำทั้งชุดไม่น่าต่ำกว่า 500k)


แต่เดียวนี้ค่ายหนังเริ่มหันมาสนใจมากขึ้นแล้ว  มีโปรดักชั่นเฮาส์ที่รับทำ CG เป็นหลักเป็นแหล่ง
มหาลัยบางแห่งเปิดสอนคณะ มัลติ ทำ CG โดยเฉพาะแล้ว

อีกหน่อยคงทำได้แบบต่างประเทศเขาแหละครับ เด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก 55+

CGI เรื่องหนึ่ง ทุนสร้างมหาศาลครับ
ผมเองอยากจะบอกว่า บริษัทในไทยส่วนใหญ่ที่ทำงานให้เมืองนอกก็มีเยอะนะครับ เเต่เค้าไม่ค่อยประกาศเท่านั้นเอง (เช่นเรื่อง 20th Century Boy ก็ทำโดย
Imaginmax )  

ในไทยเท่าที่เห้นว่าเนียนเลยอย่าง นเรศวร และ ปืนใหญ่จอมสลัดนั่นก็ทำในไทยนะครับ แต่บริษัทพวกนี้สุดท้ายก็ปิดตัวลง (พร้อมมิตร VFX และ Blue Fairy)  สาเหตุเพราะอะไรผมก็ไม่รู้
จะเอาเนียนจริงๆ ขอให้ทุนถึง+เวลาเยอะๆ เถอะครับ คนไทยทำได้แน่นอน โฆษณาเรายังทำได้ดีจนฝรั่งมาจ้างทำหลายงานเลยครับ ถ้ามีนายทุนที่กล้าลงทุนจริงๆ บริษัทหลายๆ เจ้าไม่กล้ารับงาน เพราะค่าเหนื่อยมันไม่ค่อยคุ้มกับค่าตอบแทนเท่่าไหร่  (โปรแกรมแท้ๆ คิดต่อเครื่องครับ เอาแค่ที่ใช้หลักๆ ต่อเครื่อง/ปี มสัก 10 เครื่อง ก็หมดเป็นล้านๆ ได้)
ส่วนนายทุนก็ไม่กล้าลงเยอะมาก เพราะกลัวเจ๊ง เพราะหักลบกำไร มันไม่คุ้มกัน

ปกติเค้าใช้ PC ในการทำ หลายๆ ที่ใช้ลินุกซ์โดยเปลี่ยนสคริปเป็นวินโดวเพื่อความสเถียร แต่ที่แพงคือโปรแกรมที่ลง ยกตัวอย่าง

Maya หรือ 3dsmax : creative suit - ชุดโปรแกรม 3d หลักๆ 1 แสนกว่าๆ ต่อ/เครื่อง เช่าเป็นรายป
Adobe Production Package ตกราวๆ 6 หมื่น/เครื่อง (ถ้าปลักอินก็เเยกไปอกต่างหาก ซึ่งตกราวๆ 1 หมื่น/ปลั๊กอิน)
Foundry Nuke - ไม่ทราบราคา (เมืองนอกขายราวๆ 240,000/เครื่อง รายปี โปรแกรมคอมโพสิทกำลังมาแรง เวิร์คโฟลวสำหรับทำ 3d
โปรแกรม Track อย่าง PF track หรือ Boujou ไม่ทราบราคา
Zbrush สำหรับทำ texture ตกราวๆ 21,000
Realflow - ไม่ทราบราคา (เมืองนอก เช่าต่อปี/เครื่อง ตกราวๆ 120,000)


ลิขสิทธิ์วินโดวก็ตกราวๆ 8 พันต่อเครื่อง
ซึ่งพวกนี้ยังไม่รวม โปรแกรมปลั๊กอิน หรืออะไรที่นอกเหนือจากนี้


ไหนจะเรื่องเรนเดอร์ฟาร์มอีก สเป็กคอมพ์อีก บ้านเราส่วนมากถ้าทำงาน PAL สำหรับทีวี บางงานอาจจะต้องเรนเดอร์ถึง 1 สัปดาห์ แต่ถ้า 4k ก็น่าจะตกราวๆ 4-5 เดือนก็ได้
(ฟอร์แมตหนังบ้านเราผมไม่รู้นะว่าใช้อะไร)




เมกาดูเงินเยอะ ศิลปินเก่งก็จริง แต่เอาจริงๆ เมกาก็คล้ายๆ บ้านเรานะครับ มีปัญหาอะไรแบบน้อยู่
http://news.thaipbs.or.th/content/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A5-%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%84#.T5bY_iZF0N4.facebook

สุดท้าย งาน VFX บ้านเรา (เท่าหาเจอ)

DM VFX group


Yggdrazil Group


Zurreal Studio

มีอีกเยอะครับ แต่เอารีลมาลงไม่ได้ อยากลองเห้นงานเจ๋งๆ ลองไปดูงานเกีย่วกับ Multimedia สิครับ มีบริษัทมารวมๆ เยอะมากเลย

ว่าไป น้องๆ เดี๋ยวนี้ เก่งกว่ารุ่นผมมากเลย

Digital Art RSU

https://www.facebook.com/SDMTHESIS2012
ธีสิสศรีปทุม

http://www.youtube.com/user/ianimationsilpakorn
ธีสิสศิลปากร

ข้างบนนี่ งานปีล่าสุดทั้งนั้น



ผมเชื่อว่าอนาคตวงการ CGI ไทยคงขึ้นอยู่กับเหล่านายทุนแหละครับ ว่าจะสามารถดันไปทางไหน แต่ถ้ายังเป้นแบบทุกวันนี้คงยากท่จะเห้นหนังไทยเหมือนของญ่ปุ่น เกาหลี ไปตีตลาดต่างประเทศ

คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก  

ง่ายนิดเดียวเองครับคิดแบบง่ายๆ หนังไทยทำรายได้สูงสุดก็แค่ 100 กว่าล้าน ดังนั้นถ้าหนังเรื่องใด้ใช้ทุนเกิน 50 ล้านก็เตรียมเจ้งได้เลย มันคือเหตุผลง่ายๆที่ต้องคิดครับ ดังนั้นหนังแฟนตาซีเอฟเฟคสวยๆลงทุนหลายร้อยล้านก็ปิดประตูคิดที่จะทำเลย หรือถ้าคิดที่จะเสี่ยงก็คงยากเพราะการที่หนังจะส่งฉายทั่วโลกได้นั้นยากมากยิ่งเป็นหนังจากเอเชียแล้วผู้บริโภคต่างชาติไม่ค่อยยอมรับมาตรฐานเลย หนังเอเชียจะขายได้ก็ต้องถูกสร้างจากฮอลิวู้ดเท่านั้น
เงินหลายร้อยล้านจึงไม่มีใครที่จะกล้าเสี่ยง มันมองเห็นความหวังที่จะได้ทุนคืนยากมากครับ สรุปง่ายๆคือมันคือการลงทุนที่เสียงครับหนังแนวนี้เลยไม่มีให้เห็นกัน

สุดยอด ทั้งนั้น

ถ้าภาพยนตร์ขนาดยาวในไทยคงลืมไปได้เลยน่ะครับตามข้างบน(ถ้ายังมีพวกเอาเปรียบกันอยู่ เช่น เจ้าของโรงหนัง นายทุน รวมไปถึงนักการเมือง)  แต่ภาพยนตร์โฆษณาก็มีเมืองนอกมาจ้างเยอะอยู่นะครับ และคนไทยเก่งๆเยอะซะด้วย

คนไทยเก่งๆมีเยอะครับ แต่ไม่ค่อยออกสื่อ 555

ประเด็นก็คือ ปัญหาเดิม ๆ ในเรื่อง คนไทยไม่ดูหนังไทยไงครับ
เพราะตราบใดที่เรายังเอาตัวหนังไทยกับหนังต่างประเทศมาเทียบกันอยู่

แน่นอนว่า ทุนของเขากับของเรามันช่างห่างไกลกันเสียเหลือเกิน เปรียบเหมือนเครื่องบินกระดาษพับ กับโบอิ้ง 747

ในขณะที่หนังไทยดี ๆ หลาย ๆ เรื่องพยายามทำมันออกมา แต่ก็โดนเปรียบเทียบกับหนังเทศอยู่ดี
ทำออกมาก็โดนว่า "ลอกเขามานี่นา"  "ทำแล้วไม่ถึงจะทำให้ขายหน้าทำไม" ฯลฯ

สุดท้าย หนังที่ทำเงินในบ้านเรา มันก็คือ หนังรัก รักวัยรุ่น รักเด็กมัธยม หรือสาววัยทำงานกินเด็ก  นั่นแหละ เทรนด์หนังขณะนี้

ทำหนังคุณภาพ ๆ  ออกมาจังหวะนี้ มีแต่ปิดประตูตอกฝาโลงเท่านั้น


เชื่อว่าผู้กำกับทุกคนย่อมอยากทำหนังดี ๆ ให้มีคุณค่ากับวงการกัน
เพียงแต่ว่า ใครจะจ่ายเงินให้ล่ะ นายทุนเซย์โนแน่ ๆ

แต่ถ้ามีพล็อตหนังรัก ตลก วัยรุ่นน่ะ โอเค ยังพอคุยกันได้


เราว่า อาจเพราะตั๋วหนังก็ราคาเริ่มสูงแล้ว  แถมเศรษฐกิจก็ไม่ดี
ดังนั้น เมื่อคนจะดูหนัง เขาก็ย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ในค่าตั๋วที่จ่ายไป
หนังไทยจึงเป็นตัวเลือกท้าย ๆ

อย่าว่าแต่หนังซีจีดี ๆ เลยครับ
ทุกวันนี้ผมได้แต่ภาวนาให้มีหนังไทยคุณภาพดี ๆ ไม่ต้องเอาใจเด็กมัธยม ไม่ต้องตลกโขกหัว
แล้วทำเงินได้กำไรเยอะ คนดูเยอะ ๆ ก็ชื่นใจแล้วครับ

ปล. คน-โลก-จิต ของพี่อุ๋ย กับ Home ของมะเดี่ยว ก็น่าอุดหนุนนะ