สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 2497เข้าชม
  • 11ตอบกลับ

ละครหลังข่าวเค้าตัดต่อกันยังไงนานมั๊ย

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
อยากทราบว่าพวกละครหลังข่าวยกตัวอย่าง" ธรณีหนี้นี้ใครครอง" 
-ทีมงานถ่ายทําเค้าถ่ายกันนานมั๊ย 
--เเล้วเวลาตัดต่อเค้าตัดทีเดวให้เสดเเล้วค่อยออกอากาศหรือป่าว หรือว่าตัดไปออกอากาศไป
---เเล้วทีมตัดต่อเค้ามีทีมเดวหรือป่าว หรือช่วยๆกันตัด พี่ๆน้องๆพอจะรู้มั๊ยเค้าเอาไรตัดต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
35
เงิน
1003
ความดี
376
เครดิต
279
จิตพิสัย
495
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
663
เงิน
14461
ความดี
10965
เครดิต
11436
จิตพิสัย
10563
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
งาน เดือดเสมอฮะ

บางราย แก้จนหยดสุดท้ายก็มี ^^
โพสต์
1064
เงิน
14841
ความดี
10868
เครดิต
10002
จิตพิสัย
15544
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เท่าที่ทราบมา...


ช่อง 7 นิยมละคร"สด" ถ่ายไป ออกอากาศไปอย่างที่ว่ามาตลอด แต่ไม่รู้หลังยุคเจ๊แดงจากไปแล้ว ยังอย่างนั้นอยู่รึเปล่า?

ส่วนช่อง 3 ส่วนมากจะ stock ถ่าย+ตัดจนเสร็จสมบูรณ์แล้วค่อยหาคิืวออก จำได้ว่าสมัยก่อน บางเรื่องโดนดองซะ 4 ปี แต่เดี๋ยวนี้ไม่ถึงขนาดนั้นแล้ว เผลอๆอาจจะมีถ่ายไปออนแอร์ไปด้วยแล้วก็ได้




(นอกเรื่องนิโหน่ย)
แต่เรื่องถ่ายไป ออนแอร์ไปนี่แหละ ช่อง 7 สมัยก่อน ทำแบบไม่แคร์สื่อกันจริงๆ คงจะยังจำกันได้ดี เรื่องใหนเรตติ้งดี ก็ยืดซะจนย้วย ทั้งตอนมีแต่นางเองเดินวนไปวนมาอยู่นั่นแหละ แต่พอเรื่องใหม่มารอจ่อคิิว ก็ตัดจบแบบดื้อๆ ปริศนาทุกอย่างคลี่คลาย(เหรอ?)ใน 2 เบรค
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
308
เงิน
6432
ความดี
5689
เครดิต
5521
จิตพิสัย
5867
จังหวัด
ชุมพร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
ตอบกลับโพส 3 โพสของ (mr.nantawat)
ตามท่านไปติด ๆ 555+ ย้วยยยยย คนดูก็ย้วยยยยตามไปด้วย 555+
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
329
เงิน
6834
ความดี
4806
เครดิต
5084
จิตพิสัย
6376
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
ทำละครก้อยังแยกงานภาพ งานเสียงอีก อย่างในออฟฟิศผมรับฝิ่นเจ้านายไม่ว่างานหลักอย่าเสีย
ก้อมีมาให้ตัดครับ ตัดไป ออนแอร์ไป เหมือนกัน แรกๆมาให้ช่วย ประมาณว่าบริษัทหลักทำไม่ทัน ทำไม่ไหว เราเหมาครึ่งหลังไป หลังๆรับทั้งเรื่อง
แต่เงินน้อยมากกว่าโฆษณาเยอะ อาศัยว่าแบ่งหน้าที่กันไปให้พอมีงานมาหมุนจ่ายค่าแรงลูกน้อง เร่งมาก ก้อมีหลุดมีพลาดกันไป
นั่งยิงเบต้ากันทั้งคืน
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
414
เงิน
10307
ความดี
9193
เครดิต
9018
จิตพิสัย
11251
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
เเล้วพอจะรู้มั๊ยครับ ว่าเค้าเอาโปรเเกรมไรไรมาตัด เเล้วอิกอย่างนึง ละครทําไมต้องใช้ไมค์ไวเลส ทําไมไม่ใช้ไมค์บูมเหมือนหหนัง มันมีข้อจําจัดหรืออะไรที่เเตกต่างกันมั๊ยครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
329
เงิน
6834
ความดี
4806
เครดิต
5084
จิตพิสัย
6376
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
ใช้ เอวิด กะไฟนอลคัท ครับ
เรื่องไมค์ตอบไม่ถูกแต่ไวเลสชัดคมกว่าเยอะจ้า
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
509
เงิน
13475
ความดี
9806
เครดิต
9997
จิตพิสัย
11317
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
น่าลองไปฝึกงานกองถ่ายละครจัง 5555++
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
148
เงิน
3793
ความดี
2253
เครดิต
2262
จิตพิสัย
4238
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-20
ละครยังตัดง่ายตรงที่แต่ละ Shot มันต่อกันเป็นฉากๆ มาจากรถบันทึกเทปอยู่แล้ว (3 กล้องผ่าน Switching)
งานตัดก็เลยเอาแต่ละฉากแต่ละช่วง มาต่อๆ กัน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสลับฉาก เพื่อให้จบแต่ละช่วงโฆษณา และแต่ละตอนให้ตื่นเต้นเร้าใจ (จะได้ไม่เปลี่ยนช่อง)
ยกเว้นฉากบู๊ ที่จะถ่ายกันเป็น Shot เหมือนถ่ายหนัง อันนั้นตัดนานหน่อย
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-26
เรื่องบันทึกเสียงละครผมตอบได้ละเอียดครับ เพราะผมทำละครกับรายการเป็นหลัก ^_^

สาเหตุที่ใช้ไวเลสก็เพราะว่า

1. ละครไม่ได้ถ่ายกล้องเดียว ส่วนใหญ่ 3กล้อง บางกอง 2กล้อง และเป็นระบบสวิตชิ่ง บางคนไม่รู้จักว่าสวิตชิ่งคืออะไร มันก็คือการกดสวิตตัดภาพสลับไประหว่างกล้องทั้ง 3 ตัวเหมือนที่เราดูละครในทีวี ภาพจะสลับหน้าพระเอกกับนางเอก หรือตัวละครอื่นๆ  ซึ่งนี่แหละเป็น 1ในปัจจัยที่ทำให้ใช้ไมค์บูมไม่ได้ เพราะการถ่ายละครตลอดทั้งซีนนั้น กล้องทั้งหมดเฟรมภาพจะไม่เท่ากัน อย่างน้อยกล้องที่อยู่ตรงกลางจะเป็นภาพกว้าง(ไวด์ช็อท) ส่วนอีก 2กล้องจะรับหน้าเป็นเฟรมแคบ(โคลสอัพ) ของนักแสดงที่กำลังพูดบท แต่ทั้ง 3กล้องจะไม่มีการฟิกส์เฟรมครับ จะมีการเปลี่ยนขนาดของเฟรมภาพตลอดทั้งซีน ตามคำสั่งของคนตัดสวิตชิ่ง(ศัพท์คือ ผู้กำกับรายการ) และบางครั้งเป็นคำสั่งของผู้กำกับแล้วแต่กรณี  ซึ่งพอกล้องทั้ง 3 ตัวมีการไวด์เป็นภาพกว้าง มันจึงทำให้ไมค์บูมไม่สามารถเข้าไปในระยะทำการได้ และอีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่าภาพจะกว้างเมื่อไรและแคบ(โคลสอัพเมื่อไร) เพราะแต่ละเทคมันไม่เหมือนกัน

2. ตำแหน่งการวางกล้องทั้ง 3 ตัวบางครั้งมันอยู่ห่างนักแสดงมาก ซึ่งไม่สามารถเข้าไปยืนคอนโทรลไมค์บูมได้เพราะตัวเราจะเข้าเฟรมกล้อง

3. เสียงของไวเลสได้เปรียบไมค์บูมตรงที่มันชัดทุกเฟรมภาพ บางคนที่ทำหนังจะมีอคติเรื่องมิติของเสียง ผมก็เคยคิดแบบนั้นครับ แต่เหตุผลหลักคือละครทีวีมันไม่จำเป็นต้องมีมิติของเสียง ซึ่งเป็นความต้องการของผู้จัดละคร ขอเสียงชัดฟังรู้เรื่องไม่มีเสียงช็อทหรือเสียงรบกวนอย่างอื่นพอแล้ว

4. ลองนึกภาพครับว่าทั้งเฟรม(เฟรมกว้างมากๆ)มีตัวละคร 10กว่าคน และพูดทุกคน ถึงเอาไมค์บูมเข้าได้แต่ยังไงเสียงก็ไม่ชัดและไม่บาลานซ์เท่ากันทุกคนครับ สู้ติดไวเลสทุกคนไม่ได้

5. แต่ก็ไม่ใช่ว่าละครจะไม่ใช้ไมค์บูม ฉากที่ไม่สามารถติดไวเลสได้เช่น ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกงใน มันติดไม่ได้เพราะมันจะตุงๆ แต่อย่างเรื่องขุนศึกติดได้เพราะชุดมันไม่รัดรูป และทีมงานออกแบบผ้าคาดเอวให้เป็นแบบนั้นไว้เผื่อไว้ติดหัวไมค์โดยเฉพาะ และจะบอกว่าเรื่องขุนศึกตัวละครชายที่ใส่เสื้อ ไมค์ไม่ได้ติดที่เสื้อนะครับ แต่ติดไว้ที่ผ้าคาดเอว(งงสิครับ) เหตุผลคือเวลาบู้สะบั้นหั่นแหละชายเสื้อมันจะเปิด ทำให้เห็นสายไวเลสครับ เพราะเสื้อมันเอวลอย

และสุดท้ายนี้สิ่งสำคัญคือความชำนาญ +ประสบการณ์ +วิชามาร ของช่างเสียงครับ ผมบอกตรงๆเลยครับว่า ไวเลสมันมีปัญหาเยอะกว่าไมค์บูม ขออนุญาติบอกปัญหาที่ต้องแก้บ่อยๆ

1. เจอลมแรงเหมือนริมทะเล ถ้าตัวละครใส่เสื้อรัดรูปก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเสื้อหลวมมากแล้วเสื้อมันสบัดตามแรงลมด้วย ก็แก้จนปวดหัว เพราะไวเลสจะมาใส่ขนแมวแบบไมค์บูมไม่ได้ เทคนิคผมเวลาเจอลมทุกชนิดคือ สั่งให้ตัวละครไปใส่เสื้อกล้ามแล้วย้ายหัวไมค์ไปติดในเสื้อกล้าม และถ้าเอาลมไม่อยู่ก็ตัดถุงมือผ้าส่วนที่เป็นนิ้วก้อยครับ ตัดมาครอบหัวไมค์แล้วเย็บไม่ให้มันหลุด สูตรนี้เอาชนะลมได้ดีมาก แต่ต้องเลือกถุงมือผ้าที่นุ่มที่สุดไม่งั้นมันจะเสียดสีกับหัวไมค์ครับ

2. เจอฉากลงน้ำ ถอดเสื้อปล้ำกันบนเตียง(เลิฟซีน) กอดกันแน่นแล้วพูดไดอะล็อก(แต่ใส่เสื้อสูทหรือชุดที่เสียดสีกับไมค์ได้ง่าย) แต่ฉากฝนตกไม่มีปัญหาครับทำง่าย

3. ต้องซ่อนไมค์ให้เนียนที่สุด อย่าให้เห็นรอยหัวไมค์และสายไมค์ ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อเจอเสื้อที่บางมากๆ ต้องอ้อมสายจากด้านหลังขึ้นมาบนไหล่ครับ แล้วแปะเทปกาวให้อยู่กับที่

4. ชุดรัดรูปหมดเลยยัดบอดี้แพ็คไวเลสไว้ตรงไหนก็เหน อันนี้ต้องดูเฟรมกล้องครับ ด้านไหนไม่เหนก็ไว้ด้านนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงก็ให้ไว้ในหน้าอกเลยครับ(นม) มีประโยชน์ทำให้อึ๋มขึ้นด้วย นักแสดงที่ชอบไว้ในหน้าอกตลอดก็คือนุ่น วรนุชครับ ซ่อนจนหาไม่เจอ ^_^

5. นักแสดงชอบนั่งทับบอดี้แพคไวเลส ทับแล้วก็ช็อทบาง สายขาดบ้าง เมนบอร์ดแตกบ้าง เป็นบ่อยๆก็อารมณ์เสียได้ครับ(ทั้งเราและนักแสดง)

ขออภัยที่พิมพ์เยอะไปหน่อยน่ะครับ เพราะจริงๆแล้วเรื่องพวกนี้ไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย และปัญหาการทำเสียงละครผมบอกเลยมันไม่จบสิ้น อยู่ที่เราว่าจะแก้ปัญหาได้หรือป่าวเท่านั้นเอง เพราะการทำงานของเรามันมีผลต่ออนาคตครับ ไม่จำเป็นต้องเก่งต้องเทพ ขอแค่ขยันทำในหน้าที่ เจอปัญหาก็ต้องรีบแก้ตั้งแต่ตอนซ้อม อย่านั่งอยู่กับที่แล้วคิดว่าเดี๋ยวนับ 5 4 3 2 ถ่ายจริงมันคงไม่มีปัญหา ผมก็เคยทำครับ แต่ก็ต้องวิ่งไปแก้อยู่ดีทำให้เสียเวลา  ใครที่อยากรู้ผมก็ยินดีตอบคำถาม อธิบายและถ่ายทอดให้ครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคนที่ใช้ไวเลสนะครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 4 คะแนน ซ่อน
moobin34 ความดี +1 2012-08-23 -
mr.nantawat ความดี +1 2012-07-27 -
tanum ความดี +5 2012-07-26 ขอบคุณครับ
monkeymagic ความดี +10 2012-07-26 น้ำใจงามแท้..ขอบคุณมากครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2012-07-26
ส่วนคำถามก่อนหน้านั้นก็เหมือนกับที่ท่านอื่นๆบอกครับ ตรงเผง
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้