@@การิน ไม่มีพวกนาย ไม่มีพวกเรา@@

หนังเรื่องนี้มีคำว่า THAIDFILM.COM เกือบๆทุก 30 นาที

ฉายในโรงหนังแบบจำกัดรอบ และ ลงแผ่นวางขาย ทั่วไป

10 ปีที่แล้ว ถ้ามีใครสักคนจะทำภาพยนตร์ฉายโรงหนัง โดยไม่มีสตูดิโอสายหลักหนุนหลัง คงมีหลายๆคนถามว่า "บ้าหรือเปล่าครับพี่"

10 ปีต่อมา ถ้ามีใครสักคนจะทำภาพยนตร์ฉายในโรงหนัง โดยไม่มีสตูดิโอสายหลักหนุนหลัง คงมีหลายๆคนถามว่า "ฉายเมื่อไรครับพี่"

เพราะวันนี้ หนังไทยทางเลือก ที่มีสตูดิโออิสระหนุนหลัง พากันตบเท้าเข้าฉายแบบจำกัดรอบที่โรงภาพยนตร์สุดคลาสสิคอย่าง ลิโด้

หนังเรื่อง การิน THE MOVIE เป็นยิ่งกว่าหนังสตูดิโอสายอิสระ ที่ฉายแบบจำกัดโรงทั่วไปเสียอีก เพราะกว่าจะได้ฉายโรง
มันใช้ระยะเวลาร่วม 2 ปี กับแรงผลักดันนับพันคน

ปกติหนังเรื่องหนึ่ง จะเริ่มคิดทำและฉายโรงหนัง อาศัยคนประมาณสิบ ถึง ร้อย คน แต่กับหนังเรื่องนี้อย่างที่บอกไป หลักพันจริงๆ
เพราะจุดเริ่มต้นจริงๆ อยู่ที่แฟนหนังสือการ์ตูนของหนังเรื่องนี้

เป็นเรื่องปกติมากสำหรับเมืองนอก ที่แฟนการ์ตูนจะรวมพลังทำอะไรสักอย่างร่วมกัน
จนเห็นผลจริงๆ แต่กับบ้านเรา
น่าจะเป็นไม่กี่ครั้ง หรือ ครั้งแรกเลยก็ว่าได้

แฟนการ์ตูนช่วยคัดเลือกตัวแสดงนำ

แฟนการ์ตูนช่วยหาของประกอบฉาก

แฟนการ์ตูนช่วยมาเข้าแสดงเป็นตัวประกอบ

แฟนการ์ตูนช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อ

สิ่งเหล่านี้แหละทำให้ ผู้กำกับ และ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ผลักดันหนังจนฉายโรงหนังได้ สำหรับใครที่ไม่รู้
มีคำกล่าวๆขำเมื่อ 10 ปีที่แล้วในวงการหนังไทยว่า  "แค่เมิงทำจนมันเข้าฉายโรงได้ เมิงก็ถือว่า เก่งมากแล้ว"

ใครที่ไม่เคยเฉี่ยวเข้ามา ไม่มีทางเข้าใจครับ เส้นทางที่หอมหวาน ดูสวยหรู มีคนหล่อสวยราวกับเทพนางฟ้า
มีศิลปินสุดแนวแขนงต่างๆ มีพี่ๆแรงงานกล้ามเป็นมัด สิ่งที่ไม่น่ารวมกันได้ มารวมกันได้ ในการทำสิ่งๆเดียว

เห็นไหมครับ แค่เขียนให้อ่านยังดูดี แต่ทั้งหมดนั้นแหละที่ ผู้กำกับ และ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ต้องแบกรับ

คนทั่วไปมักมองผ่านว่า คนกำกับก็กำกับไป คนให้เงินก็ให้เงินไป ถ้ามันง่ายแบบนั้น
เราคงมี ผู้กำกับ และ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ยิ่งกับหนังไทยที่ไม่มีสตูดิโอสายหลักหนุนหลังด้วยแล้ว
ต้องบอกว่า ใจ เท่านั้นครับ ที่ทำให้พวกเขาผ่านกันมาได้

ซึ่งสิ่งที่ทำให้ ใจ เขาแข็งแกร่งได้ขนาดนั้น ก็มาจากความช่วยเหลือแบบปากพูดมือทำ ของบรรดาแฟนการ์ตูน นี่เอง

ส่วนตัวผู้เขียน รู้จักกับ ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ครับ ผู้กำกับ เมษ ยิ้มสมบรูณ์

เราเป็นรุ่นที่ล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกัน เป็นรุ่นตกค้างที่ค่อมอยู่ระหว่าง ยุคฟิลม์ กับ ดิจิตอล
ค่อมระหว่าง คลื่นรุ่นเก่า และ คลื่นรุ่นใหม่ เป็นช่วงคลื่นที่ซวยสุดๆก็ว่าได้

หลายๆคนอาจสงสัย เอ๊ะ ทำไมคนนี้มากำกับ จริงๆแล้วอย่างที่บอกไป เราเป็นรุ่นตกค้าง
ที่วงการมองผ่านไปมาเพราะพวกเราไม่ได้อยู่ในมุ้งไหน ทั้งๆที่ ผู้กำกับเมษ เนี่ย เป็นรุ่นคลาสสิคเลยก็่ว่าได้
ทำทุกอย่างที่คลื่นรุ่นเก่าบอกให้ทำ ทำแบบนี้แล้วจะดี

เสริฟน้ำกองถ่าย เสริฟมาแล้ว

เป็นมาแล้วทุกำตำแหน่ง ก้มหน้าก้มตาไต่ระดับมาเรื่อยๆ

จนมาเป็นผู้ช่วย1 สำคัญขนาด ผู้กำกับหนังชื่อดังอักษรย่อ(ภ)ขาดไม่ได้

และ ในที่สุดก็ได้มา กำกับหนังไทยสายหลัก แต่บุญมีเหมือนกรรมบัง เพราะการเป็น ผู้กำกับครั้งนี้

 คือ ผู้กำกับเงา

หนังเรื่องที่ว่า เกี่ยวกับจดหมายลูกโซ่ส่งแล้วตาย คิดว่าพอเริ่มนึกสักพักคงร้อง อ๋อ แล้วล่ะ พอหนังเรื่องทีว่าฉายแล้วรายได้พับฐานไป
สิ่งที่ผู้กำกับคนนี้สะสมมายาวาน ก็พับตามไปด้วยอย่างง่ายด่าย อย่างไม่มีใครเสียดาย สิ่งที่เขาสั่งสมสะสมมา

คร่าวๆกับ ผู้กำกับคนนี้ ที่ใช้ประสปการณ์ในวงการ นำทีมรุ่นใหม่ และ แฟนการ์ตูน ปลุกปั้นหนังเรื่องนี้เป็นเวลา 2 ปี

2 ปี เป็นเวลาที่เราทำอะไรได้เยอะมาก มันเหมือนช้า แต่พอมาถึงวันนี้ มันดูเหมือนเร็วมาก

ผมมองสีหน้าที่อิดโรยของเพื่อนร่วมอาชีพ ขอบตาที่ช้ำ จังหวะเสียงการพูดทีดูกังวล และ ท่าเดินที่สโลเสล
แต่โชคดีครับ ที่เขาอยู่ท่ามกลาง ผู้คนที่อยากเห็นอะไรใหม่ๆ ผู้คนที่เข้าใจเขาว่า เขาทุ่มเททุ่มพลังชีวิต ทำอะไรอยู่

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุยของผู้คนรอบๆที่สะท้อนไปมา ไม่มีทางเกิดขึ่้นในวันที่ 10 สิงหา 2552 ที่ผ่านมาได้ ถ้าไม่มี ผู้ชายคนนี้ ครับ

ผมจะไม่พูดถึงหนังว่าดีหรือไม่ดียังไง อยากให้ได้ไปลองพิสูจน์กันเอง แต่อยากบอกแค่ว่า ผมเป็นคนนึงเมื่อสมัยเป็นคนดู
ผมบ่นผมเรียกร้องเหมือนคนอื่นว่า ทำไมหนังไทยมันมีแค่ ตลก ผี กระเทย อยากดูแนวอื่นบ้าง พอมีแล้ว มันต้องไปดู ดีไม่ไดีไม่รู้
แต่กลัวว่ามันจะไม่มีให้ดู ถ้ามันเพิ่มจำนวนขึ้นไม่ได้ ก็อย่าให้มันน้อยลงไปเลย

จริงๆแล้ว ชีวิตพวกเราคนทำหนังไทยทางเลือก ตลกร้ายพอๆกับโรงหนังที่เราต้องอาศัยหนังเข้าฉาย ต้องบอกว่าเป็นสูตรที่สมบรูณ์แบบสุดๆด้วยซ้ำ

คนทำหนังคลื่นรุ่นใหม่ ได้รับแรงสนับสนุน จากโรงภาพยนตร์ที่บางทีเกิดก่อนผู้สร้างหนังบางคนเสียอีก
ถ้าเรื่องที่จะทุบที่แห่งนี้เป็นเรื่องจริง นั่นเท่ากับว่ากลุ่มคนที่คิดและอนุมัติ มองได้เฉียบคมมากๆ

นอกจากไม่หวงแหนอดีตแล้ว ยังขยี้อนาคตของวงการหนังไทยทิ้งไปด้วยในอีกทางหนึ่ง


คนที่จะช่วยพวกเราได้ ก็มีแต่พวกคุณคนดู ภาษาวิชาการที่ผมเล่าเรียนมา เรียกพวกคุณว่า      


มวลชน

อ้างอิงจาก >>> http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12498384/A12498384.html

ตัวอย่างน่าสนุกนะป้อม

น่าดูครับ

หนังโหดอีกแล้ว !!

ดูแล้วครับ เจ๋งทีเดียว สนับสนุนหนังที่สร้างด้วยใจครับ

อ๊ะ !! ติดงาน ไม่ได้ไปเรย รอดูตอนออกเป็น DVD หนังในตำนานมากเรื่องนี้ 5555

เป็นตัวอย่างที่ดี สำหรับคนสนใจใช้DSLR ถ่ายหนังนะครับ 90% ของหนังเรื่องนี้ ถ่ายด้วย60D และ 5D ช่วงคิวถ่ายเพิ่มประมาณ10%(เพราะผมขาย60Dไปแล้ว)
เป็นการทำงานที่สนุก และโหด!! บนข้อจำกัดต่างๆมากมาย คิดถึงเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนในกองถ่าย "การิน" ครับ
มันอาจจะไม่ใช่หนังที่สุดยอดด้วยองค์ประกอบต่างๆนานา แต่ก็เป็นครั้งแรก ที่ผมได้ทำงานกับกองถ่าย ที่ทำงานระบบ "ภาพยนตร์" กันจริงจัง
ขอคาราวะงานครู "การิน ปริศนาคดีอาถรรพ์" ที่ทำให้ผมรู้จักกับวิชาการ"ภาพยนตร์"นะครับ
จากใจ DPเนส

น่าสนุกดีครับ ถึงไม่เคยอ่านคอมมิคเรื่องนี้มาก่อนแต่ดูในตัวอย่างแล้วน่าสนใจดีครับ

เพิ่งได้เข้ามาครับ ชีวิตช่วงการินที่ผ่านมาเป็นช่วงที่วุ่นวายมาก ไว้เดี๋ยวจะมาเล่าสู่กันฟัง

งานชิ้นนี้เป็นงานที่เบื้องหลังประทับใจมาก ตัวหนังเองบอกตรงๆว่ายังห่างไกลความสมบูรณ์แบบ และทั้งนี้ทั้งนั้นมันเป็นความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียวครับ มันเป็นงานที่ทะเยอทะยานและไม่เจียมตัวเอาซะเลย แต่ว่านั่นล่ะครับคือสิ่งที่อยากทดลองทำ เราอยากรู้ว่า ด้วยเงินเพียงน้อยนิดกับการทำหนังในรูปแบบนี้ เราจะพามันไปได้ไกลได้ซักเท่าไหร่

และในที่สุึด หนังเรื่องนี้ก็ได้คลอดออกมา หลังจากผ่านระยะเวลาการฟูมฟักมาถึงสองปีเลยทีเดียว

การิน ก็เป็นครูของผมเช่นเดียวกันครับ เนส และเนสก็เป็นครูของผมในหลายๆเรื่องเช่นเดียวกัน

อย่างน้อยบอกตามตรงว่า ไม่มีเนส การินจะไม่มีทางออกมามีัหน้าตาที่มีลักษณะเฉพาะตัวแบบนี้ครับ

ขอบคุณ ThaiDFilm ที่เข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจ็คท์ เดี๋ยวพอหนังออกแผ่นจะจัดส่งแผ่นให้ทางเวป และทีมงานทุกคนครับ



หากชีวิตคือการเดินทาง สำหรับผมก้าวนี้คือก้าวที่เป็นหลักไมล์สำคัญของชีวิต เป็นหลักไมล์ที่ผมภูมิใจกับมัน หวังว่าความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นกับผู้ร่วมโปรเจ็คท์ทุกคนนะครับ  

รอ! แผ่น