บันได 5 ขั้น สำหรับผู้เริ่มต้นจะเข้าวงการ ( p0p-it )

มีน้องเม้นท์ถาม
" ..พี่ ๆ พอจะแนะนำ คร่าวๆ ได้มั้ยครับ ว่าผมควรจะเริ่มเรียนรู้เรื่องอะไรก่อน เป็นบทๆ เป็นขั้นตอนไปน่ะครับ
    ผมก็เรียบเรียงคำพูดไม่ค่อยเก่งน่ะครับ..ไม่รู้จะถามยังไงดี "
…คำถามนี้ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตอนเริ่มต้นเข้าวงการใหม่ๆ และในวันนี้ผมก็ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในวงการ
    ด้วยวิธีการฝึกที่คิดขึ้นเอง เลยขอนำประสบการณ์ส่วนตัวมาเล่าสู่กันฟังสำหรับน้องใหม่ที่อยากจะเริ่มต้น
  ( หาทางเข้าไม่เจอ ) …ดีก็ลองนำไปลองใช้ ไม่ชอบก็ถือว่าอ่านได้ความรู้ไปบอกต่อ.. แล้วกันคับ


ขั้นตอน1. ขั้นเริ่มต้น ให้หาภาพนิ่งของครอบครัวหรือคนที่คุณรัก มาทำ MV แบบง่ายๆ ซ้อนภาพไปมา
                จะซูมหรือไม่ก็ได้ ( ทำเอฟเฟคเป็นก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ ทำตามอุปกรณ์ที่เรามี )
               โดยพยายามเลือกความหมายของภาพให้ไปได้กับทำนองและเนื้อเพลงที่เราเลือกไว้
ข้อดีคือ    จะช่วยให้คุณฝึกตีความหมายภาพจากเนื้อเพลง และ ฝึกให้คุณเขียนบททางอ้อมเพราะ
                คุณต้องหาเนื้อเพลงที่มีความหมายเข้ากับวัตถุดิบคือภาพที่คุณมี
                (ทำออกมาเป็นของขวัญให้คนรัก เก็บไว้ดูยามคิดถึงก็โรเมนติกดีนะคับ )..

ขั้นตอน 2. ขั้นสับสนให้ใช้ภาพนิ่งร่วมกับภาพเคลื่อนไหวจากวีดีโอที่เราถ่ายไว้ เริ่มยากขึ้น
               เพราะต้องทำผสมระหว่างกัน แบ่งโทนเรื่องให้ดี ให้สอดคล้องและไปด้วยกับทำนองเพลง
ข้อดีคือ   จะช่วยให้คุณฝึกหาความหมายของภาพระหว่างภาพนิ่งกับภาพเคลื่อนไหว ฝึกแบ่งอารมณ์
               ความแตกต่างของภาพให้ไปกับเนื้อเรื่อง สร้างเสน่ห์ในงานเกิดความประทับใจ
    
ขั้นตอน3.ขั้นหงุดหงิดเปลี่ยนจากการใช้ภาพนิ่งมาเป็นภาพจากวีดีโอที่ถ่ายจากเหตุการณ์จริง ( ไม่กำกับ )
            เช่น วีดีโอท่องเที่ยวของครอบครัว หรืออื่นๆนำมาตัดต่อทำเอฟเฟค ให้ร้อยเรียงมีความหมาย
             และอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อเพลง  ( เน้น..ใช้เฉพาะภาพจากวีดีโอแต่ไม่ใช้เสียง )
            ( เนื่องจากขั้นตอน 1 เป็นภาพนิ่ง จะตัดตอนไหนก็ได้ เพราะเราเพียงแต่ฟังเนื้อเพลง
            แต่ขั้นตอน 2 บางครั้งก็ทำไม่ได้ เพราะบางเหตุการณ์ยังดำเนินอยู่ แต่เนื้อเพลงเปลี่ยนช่วงไปแล้ว )  
ข้อดีคือ ทำให้เรารู้จังหวะของภาพควรตัดตรงไหนทิ้งไม่ให้เกิดความน่าเบื่อ และควรเพิ่มตรงไหนมากขึ้น
            เพื่อเน้นอารมณ์ ทำให้รู้จักการคำนวนเวลาที่ใช้ของภาพในแต่ละซีน ว่าควรสั้นหรือยาว เพื่อไม่ให้
            ไปกระทบกับเนื้อเพลงในท่อนต่อไป..(รู้จักแก้ปัญหาเมื่อเนื้อเพลงสั้น แต่ภาพเหตุการณ์ยาว
             หรือเนื้อเพลงยาวแต่ภาพสั้น )การตัดมั่วจะทำให้เหตุการณ์สับสน ดูไม่รู้เรื่อง ..ต้องทำให้ดีออกมาให้ได้

ขั้นตอน4.  ขั้นอดทน ใช้ภาพวีดีโอที่ถ่ายจากเหตุการณ์จริง ( ใช้เสียงด้วย )ขยับให้ยากขึ้น
            3 ขั้นตอนที่ผ่านมาได้ความรู้อะไรเพิ่มขึ้นบ้างหรือยัง ถ้าพื้นฐานการตีภาพไม่แน่น มาเจอขั้นตอนนี้
            จะไม่สามารถทำได้เลย เพราะขั้นตอนนี้เรากำหนดให้ใช้ทั้งภาพและเสียง จะตัดต่อทำเอฟเฟคอย่างไรก็ได้  
            จะโยกเสียงสลับไปมา ทำได้ไม่ผิดกติกา ส่วนเพลงให้ใช้เฉพาะทำนองไม่มีเนื้อร้องประกอบ  
           ( จะใช้เพลงตื่นเต้น ช้า ร่วมก็ได้ )
ข้อดีคือ   จะช่วยให้คุณละเอียดขึ้น จาก ขั้นตอน 3 ไม่ใช้เสียง ถ้าทำได้ดี มาถึงขั้นตอนนี้ให้ใช้เสียงจริงประกอบ                           ก็ไม่ยากเกินไปแล้ว แต่อาจใช้เวลาทำนานมากขึ้น ( เพราะมีเสียงจริงเข้ามายุ่งกับการทำงาน)
               บางช่วงเสียงดังฟังชัด บางช่วงเสียงใช้ไม่ได้ ต้องแก้ไขปัญหาให้ร่วมไปกับภาพให้ได้..

ขั้นตอน 5. ขั้นปล่อยของ ใช้ภาพวีดีโอที่ถ่ายตามที่เราต้องการ ( กำกับ เขียนบท ) ขั้นตอนนี้สบายแล้ว
                เพราะที่ผ่านมา เราจะรู้สึกหงุดหงิดและอดทน กับฝีมือห่วยๆของเราที่ไม่ได้ภาพตามที่เราต้องการ
                ฉนั้น ขั้นตอนนี้เราให้คุณแสดงฝีมือ และพลังที่อัดอั้นมาตลอด 4 ขั้นตอน ( ถ่ายไปบ่นไป ตัดไปด่าไป)
                แสดงออกมาให้สุดฤทธิ์สุดเดช ไม่ต้องออมฝีมือ ประกาศให้โลกรู้ว่า มืออาชีพคนนี้กำลังเกิดขึ้น
                และกำลังทำให้พี่ๆในเว็บร้องไห้...ทำเสร็จโพสมาให้ดูหน่อยนะ....


สรุป
ขั้น 1 ใช้ภาพนิ่งกับเนื้อเพลง ( ข้อจำกัดคือภาพนิ่ง+เนื้อเพลง )
ขั้น 2  ใช้ภาพนิ่งกับภาพเคลื่อนไหวและเนื้อเพลง ( ข้อจำกัด ภาพนิ่ง+ ภาพเคลื่อนไหว+เนื้อเพลง )  
ขั้น 3 ใช้ภาพเคลื่อนไหวไม่ใช้เสียง ( ข้อจำกัดคือ ภาพเคลื่อนไหว+เนื้อเพลง )
ขั้น 4 ใช้ภาพเคลื่อนไหวและเสียงจริง( ข้อจำกัดคือ ภาพ+เสียงจริง+เพลงประกอบ)
ขั้น 5 ใช้ภาพเคลื่อนไหวและเสียงพูด จากการเขียนบทและกำกับของเรา

หมายเหตุ..ควรเลือกใช้เพลงไม่ซำ้ทั้ง 5 ขั้นตอน  ควรใช้ต่างอารมณ์กัน เพื่อที่เราจะได้งานที่หลากหลาย
                  ไม่น่าเบื่อ บางขั้นตอนสามารถใช้ได้ ตั้งแต่ 1 เพลงขึ้นไป จนถึง 10 เพลง ความยาวไม่กำหนด

...บันได 5 ขั้นตอนสำหรับผู้เริ่มต้นจะเข้าสู่วงการโปรดัคชั่น ใครที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย หรือหาทางเข้าไม่เจอ
    ก็ลองฝึกทำดู พยายามปรับให้ใช้กับเรื่องใกล้ตัวของเรา เช่น ครอบครัว , คนรัก , เพื่อนพี่น้อง,ที่ทำงาน
    เพราะเมื่อทำเสร็จแล้ว เรายังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ภายหลังได้อีก เช่น ให้เป็นของขวัญ หรือทำขึ้น
    เพื่อโอกาสพิเศษ ( เก็บไว้รอเมื่อถึงเวลา ค่อยนำออกมามอบให้ )..เป็นการฝึกทำงานไปด้วยในตัว

....รีบฝึกปรือให้เก่งในวันนี้ ขั้นเริ่มต้น - ขั้นสับสน - ขั้นหงุดหงิด - ขั้นอดทน  
( 4 ขั้นตอนนี้ทำฟรีไม่ได้ตังค์ อย่าท้อ พยายามทำบทฝึกหัดให้ผ่านเต็ม 100 % ให้ได้ )
และเมื่อคุณผ่านมาถึงขั้นตอนที่ 5 รับรองว่า ...คุณได้ตังค์แน่..( ใครขายงานไม่ได้ มาบอกผม )..

  

อย่างนี้เราก็มาถูกทาง  ทำอย่างที่แนะนำเลย แล้วมอบผลงานให้กับคนที่เราอยากให้แล้วเช็คเรตติ้งได้เลย

ขอบคุณมากครับ

เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับมือใหม่จริงๆ

เพราะไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นไปไหน ยังไง

กระทู้นี้ ทำให้ผมรู้ว่า ตนเองอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร

จะได้ปรับปรุงพัฒนาฝีมือได้ถูกต้องตามขั้นตอนครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ ได้พลังขึ้นมาเลย เพราะเกือบจะท้อแล้ว
ทำงานคนเดียวทั้งหมด นี่ลำบากสุดๆครับ บางทีสัมภาษณ์
ตั้งถ่ายวีดิโอ นั่งสัมภาษณ์แขก จบงานพอจะตัด ภาพไปโฟกัส
ข้างหลัง ไม่มีโอกาสซ่อม ต้องยอมใช้ภาพแบบนั้น
.
แบบนี้ถ้าไม่มีผู้ช่วยอาจารย์ว่าควรจะแก้ยังไงครับ งานผมเป็น
งานอาสา การเรียนรู้เรื่องถ่าย เรื่องบท เรื่องตัดต่อผมทำเหมือน
อาจารย์ว่ามาทุกขั้นตอน และก็มาฝึกมาอ่านเพิ่มเติมจากที่นี่
เกือบทั้งหมด ถือเป็นแหล่งข้อมูลใหญ่ผมเลย

ถ่ายเสียโฟกัสผิด วิธีแก้คือใช้ภาพที่เสียให้น้อยลง โดยเพิ่มภาพนิ่งแทน ทำเอฟเฟคเบี่ยงเบนความสนใจไป
สิ่งอื่น พูดง่ายๆคือให้คนอื่นดำเนินเรื่องแทนสิ่งที่เสีย ...แต่บอกเลยว่า ไม่ว่าจะแก้ไขอย่างไรก็ไม่ดีเท่าต้นฉบับ
ลองส่งงานที่ทำลิงค์มา ผมจะลองแก้ไขปรับให้ อาจเป็นตัวอย่างสำหรับน้องๆในการแก้ไขงานผิดพลาดก็ได้คับ..

อันล่าสุดที่ทำส่งชมรมครับ ฟังคำแนะนำอาจารย์แล้วคงต้องขยันขึ้นอีกเยอะครับ
ผมเพิ่งใช้ 650d กับ Gopro ถ่ายครับ ก่อนหน้าใช้คอมแพคธรรมดาถ่ายวีดิโอ



อันล่างให้ผู้ร่วมทริปช่วยแพลนกล้องให้ตอนผมสัมภาษณ์บอกวิธีคร่าวๆ
ขณะถ่ายเสร็จ คนอื่นพร้อมออกเดินทาง ผมยังไม่ได้เก็บเต็นท์และกินข้าว
สุดท้ายคืออดข้าว

ท่าทางน้องใหม่คนนี้กำลังหาความรู้ ขอมาจัดไปด่วน ( เครื่องกำลังร้อนก่อนหมดกำลังใจ )


..น้องใหม่หลายคนเครียดกับงานที่ทำแล้วออกมาดูไม่ดี ไม่ต้องกังวล งานนี้ไม่ดี งานหน้าแก้ตัว
  (มีเวลาก็แก้...ไม่มีเวลาก็ช่างมัน ) เพราะมัวแต่ทำงานเก่า งานใหม่มาก็ไม่ทำไม่ทัน
  สุดท้ายงานเก่าก็แย่ งานใหม่ก็แย่ เพราะไม่มีเวลา ….


  อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ผมมีหลักง่าย 3 ข้อ เมื่อคิดจะทำงานสื่อวิชาการ หรือ ปชส.กิจกรรมขององค์กร ดังนี้.-
1. มีวัตถุประสงค์อย่างไร? จึงจัดงานนี้ขึ้นมา...สรุปตัดต่อคำพูดหรือบทเรียบเรียงออกมาให้รู้เรื่องให้ได้.-
2. จัดแล้วมีประโยชน์อะไร ( สื่อให้ใครดู ใครดูแล้วได้ประโยชน์)..มีอะไรบ้าง? นำเสนอให้รู้เรื่อง
3. ทำภาพและเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับ ข้อ1-2 ..ภาพไหนไม่ตรง,บทสัมภาษณ์นอกเหนือ ข้อ1-2 ไม่เสนอ


…ใชัหลัก 3 ข้อนี้ท่องให้ขึ้นใจ รับรองงานออกมาดีแน่ ( เรื่องเทคนิค มุมภาพ ความสวย การต่อเนื่อง ช่างมัน )
   ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น


..สำหรับงานตัวอย่างแรก วัตถุประสงค์คือ ชักชวนให้เด็กอ้วนมาขี่จักรยาน, และแถมด้วยข้อควรรู้เกี่ยวกับจักรยาน
( ถูกต้องไมํคับ ) แต่เปิดดูจนจบ ไม่มีภาพเด็กอ้วนขี่จักรยาน , ภาพเด็กอ้วนน้อยมาก
  - การสัมภาษณ์ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีพิธีกรผู้ดำเนินรายการ ถ้าไม่จำเป็น ให้ตัดทิ้งไปเลย อย่าเอาเข้ามาเกี่ยว
    เพราะจะเข้ามาแย่งความสนใจของคนถูกสัมภาษณ์ไปหมด ให้สัมภาษณ์พูดคนเดียวมองกล้อง( คนดู )
    เน้นหน้าชัดๆ ไปเลย..
  - สัมภาษณ์แม่ควรมีลูกอยู่คู่ด้วย..


...สำหรับงานตัวอย่าง 2
  -  พิธีกรจำเป็นหรือไม่? ถ้าไม่ตัดทิ้ง ถ้าจำเป็นก็นำเสนออีกช่วง ยกให้เป็นพระเอกไปเลย ทำคนละช่วง
      พิธีกรพูดน้อยกว่าคนถูกสัมภาษณ์..( พิธีกรเด่นเกิน )
  -  แบ็คกราวนด์ ต้องการคนเดินไปมา หรือ บรรยากาศวิวสวย เลือกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง?..
     ถ้าต้องการคนก็ถ่ายให้เห็นคนเป็นกลุ่มๆเยอะแยะด้านหลังไกล , ไม่ต้องการคนก็อย่าให้ใครเดินเข้ามา
     เพราะแย่งความสนใจจากคนพูดไปหมด
  -  ภาพพจน์คนถูกสัมภาษณ์ ถือชานข้าว ไม่สุภาพนะ แต่ถ้าต้องการความแปลกไม่ว่ากัน..
  -  ระวังคำพูดกับภาพต้องไปด้วยกัน นาทีที่ 2.50 ไปเรียนรู้วิถี ชุมชน แต่ภาพคนยืนเฉย ( ไม่มีภาพตัดเสียงทิ้ง)
  -  บทสัมภาษณ์ซำ้ไปมา คน1พูด คน2พูด พยายามแจกบทอย่าให้พูดซำ้กัน
.....หัดตีความหมายจากบทเป็นภาพให้ถูกต้อง ( งานนี้ไม่ต้องแก้ไข งานหน้าค่อยปรับปรุง )...
     หัดถ่าย หัดตัดต่อ หัดเรียบเรียง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบอายุ 1 ขวบปีขึ้นไป จะเก่งขึ้นเอง

       ..ท่องไว้ในใจเสมอว่า "งานหน้าต้องดีกว่างานที่ทำในวันนี้ "
          และงานที่ทำในวันนี้ไม่ดีเพราะอะไร งานหน้าอย่าทำให้เห็น "...

ขอบคุณครับอาจารย์ ถือเป็นวิทยาทานที่มีค่าสำหรับผมมากๆที่คนไม่มีความรู้ด้านนี้
ได้มีผู้ติชมบอกสอน อย่างละเอียด แค่อดทนดูงานผมเพื่อวิจารยณ์ก็ดีใจแล้วครับ
จะพยามยามปรับปรุงตามคำแนะนำให้มากขึ้นเรื่อยๆครับ
.
สิ่งหนึ่งที่ท้อ ส่วนมากมาจากบางงานได้ภาพที่ไม่ตรงกับเรื่องเลย จนไม่อยากตัด
แต่ก็ต้องตัด เราสามารถเอาภาพนิ่งมานำเสนอได้มั๊ยครับอาจารย์
.

เลยขอตอบตรงนี้อีกครั้ง(สำหรับน้องใหม่คนอื่น)..
หลังจากได้พูดคุยส่วนตัวหลายครั้งแล้ว จึงรู้ว่า วีดีโอชุดต่างๆทำขึ้นเพื่อ ปชส.กิจกรรมในชมรมฯ
การทำ ปชส.สื่อในองค์กร มักจะเดินสวนทางกับ สื่อ ปชส.ที่ทำขึ้นเพื่อบุคคลทั่วไป คือ
ทั้งน่าเบื่อ และไม่น่าสนใจ ( อาจไม่เปิดดู  หรือเปิดนิดเดียว)  ฉนั้น น้องใหม่ที่โพสมาให้วิจารณ์
ควรวงเล็บอธิบายให้รู้สักนิดว่า( เป็นสื่อ ปชส.) ไม่ใช่ทำขึ้นเพื่อบุคคลทั่วไป เพื่อพี่ๆจะได้บอกแนวทาง
ที่ต้องปรับปรุงได้ตรงกับลักษณะงานที่ทำ ...
...ถ้าจะถามว่า เราสามารถทำให้ทั้ง2 ทางมาเจอกันได้หรือไม่ ทำได้คับ แต่ต้องใช้มืออาชีพจริงๆ
ที่สามารถจับประเด็นเก่ง แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้รวดเร็ว และ สามารถทำงานได้ดีในเวลาอันสั้น..
และขอขอบคุณเรื่องราวต่างๆที่ได้เขียนเล่ามา ทำให้ผมชักสนใจกิจกรรมของชมรมขึ้นมา
ว่างเมื่อไหร่จะเข้าร่วมด้วยคับ..และคำถามที่ต้องการใช้ภาพนิ่งร่วมกับภาพเคลื่อนไหว ทำได้คับ

เยี่ยมเลยครับ

ขอบคุณครับ