ปัญญา=ปัน+ยา
ปัน แปลว่า การแบ่งปัน การให้ด้วยความเต็มใจ
ยา แปลว่า เครื่องรักษา ในที่นี้ก็ รักษาความไม่รู้ หรือความโง่นั่นเอง
แต่ยาจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อเราป่วย หรือเรารู้ว่าเราป่วย
ก็หมายความว่า เราจะได้ประโยชน์จากยา ก็ต่อเมื่อเรารู้ว่ายังไม่รู้ และต้องการที่จะรู้
และพยายามที่จะรู้ คือพยายามจะหายามารักษาความป่วยของเราเองอยู่แล้ว
เมื่ออยู่ในสถานะนี้ เรียกว่า ผู้หายา
ผู้มียาก็คือ ผู้ที่รู้ว่าตัวเองนั้นมีความรู้ และยินดีที่จะแจกจ่ายความรู้นั้นแก่ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ
ยาถึงแม้ดีแค่ไหน แต่เก็บไว้ในตู้ ไม่เอามารักษาคนป่วย ก็ไร้ค่า
เมื่อผู้มียา กับผู้หายามาเจอกัน ประโยชน์ก็เกิด
ทุกคน อยู่ในสถานะของผู้มียา และผู้หายาด้วยกันทั้งนั้น
ถ้าสังคมรู้จักที่จะ แบ่งปันยาเพื่อรักษาความไม่รู้ หรือความโง่ ให้กันและกันแล้ว
สังคมนั้นก็จะไม่มีผู้ป่วยเลย