...มีลุกค้าบ้าน(ลูกค้าทั่วไป)ติดต่อมาให้ถ่ายภาพนิ่งลูกชายรับปริญญา(ยกตัวอย่าง)
คิดค่าใช้จ่ายอย่างไร ...ผมถามว่า ...ลูกชายชอบถ่ายรูปไม๊ ให้แอ๊กนู่น นี่ นั่น กระโดด ตีลังกา หกขะเมน ทำได้ไม๊
สามารถมาถ่ายอีก1วันได้ไม๊ รวมถึงพ่อแม่ต้องเหนื่อยอีกวัน เพราะคนน้อยสามารถเลือกมุมสวยได้
...ลูกค้าคนที่1 ตอบว่าไม่ทั้ง 2 ข้อ นั่นหมายถึงมีการทำงานวันเดียวคือ วันจริง
ผมบอกงั้นถ่ายกันเองเลยครับ เพราะในวันจริงคนจะเยอะมากจนขยับตัวไปไหนไม่ได้ หันกล้องไปทางไหน ก็มีแต่คน
ต่อให้เอาโปรมาถ่ายก็จะได้ภาพคล้ายกัน( ผมใช้คำว่าคล้าย เนื่องจากลูกค้าบ้านมักจะมองไม่เห็นความต่าง
ของภาพที่โปรถ่ายกับภาพที่เขาถ่ายเอง )
...ส่วนลูกค้าคนที่ 2 บอก ลูกสาวทำได้หายห่วง เพราะชอบแอ๊กถ่ายรูปมาก และครอบครัวก็รัก
ตามใจยอมเหนื่อยให้อีก1วันเต็ม ...โอเคร มีเวลาก็ต้องมีเงิน ตอบทันที..1x,ooo เสียงดังฟังชัด
(ถ้ามีการถ่ายวันซ้อมด้วยอีกราคา หรือต้องการ2กล้องราคาก็จะแพงขึ้นอีก) ลูกค้าร้องทันที"
ทำไมแพงจัง เพิ่มเงินอีกนิดเดียวได้กล้องใหม่แล้ว.." ถูกต้องแล้ว ไปซื้อกล้องมาถ่ายเองดีกว่าครับ ( ไม่ได้ประชด )
.
..ทุกวันนี้ ใครก็ถ่ายภาพออกมาให้สวยได้ เพียงใช้แค่โทรศัพท์ หรือแท็ปเล็ต พิกเซล18ล้าน ราคาไม่กี่พัน
มีให้เลือกจนเวียนหัว ปรับชัดตื้น ชัดลึก เกรดสี ละลายหน้าหลัง ก็ทำได้ง่ายเพียงนิ้วสัมผัส เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบัน
พัฒนาเทียบเท่ากล้องโปรแล้ว พลาดพลั้งมาปรับแก้ที่คอมได้อีก ความละเอียดภาพเยอะไม่ต้องกลัวภาพเสีย
บางครั้งลูกค้าทั่วไปอยากรู้จริงๆว่าทำไมถึงแพง ผมก็จะอธิบายแบบบ้านๆ(สมมติคุณพ่อเป็นช่างภาพ) - คุณพ่อต้องทนร้อน ตากแดดทั้งวัน
- คุณพ่อต้องตื่นเช้ามืดเพื่อมาถ่ายน้องก่อนเข้าหอประชุม..ตอนเช้าทุกอย่างสดใส ต่อจากนั้น
- คุณพ่อต้องนั่งรอถึงบ่ายแก่ๆ จนน้องออกจากหอประชุมจึงจะได้ถ่ายภาพกับเพื่อนๆ
ในขณะถ่าย คุณพ่อต้องคอยกำกับให้ลูกสาวทำแอ๊คชั่น น่ารัก ครอบครัวไหนไม่สนิท กลมเกลียว
ภาพออกมาเหมือนถูกบังคับ ออกอาการเหวี่ยงอย่างเห็นได้ชัด
- คุณพ่อต้องทนยืนและทนเมื่อย เดินรอบมหาลัย 2-3 รอบเพื่อหากลุ่มเพื่อนต่างคณะถ่ายรูป อาจถึง6โมงเย็น
- คุณพ่อต้องทนเหนื่อยถ่ายงานเลี้ยงตอนเย็นต่อ จนถึง3ทุ่ม
- ขั้นตอนต่อไป ต้องเอาภาพทั้งหมดกว่า3,000ภาพ(ถ่ายทั้งวันถึงอยู่แล้ว) นำมาปรับแสงสีให้สมบูรณ์ครบทุกภาพ
รวมถึงปรับลบสิว ตีนกา ให้ดูใสสวย ทำเสร็จเร็วที่สุด..(ช้าคุณพ่อมีสิทธิ์ตายได้ถ้าเพื่อนๆทุกคนได้ภาพกันหมดแล้ว)
...รายละเอียดนอกนั้นอีกเยอะ แดดร้อนพ่อเริ่มหน้าหงิก เพื่อนโทรชวนถ่ายตึกอีกด้านไม่กล้าไป(เพราะพาพ่อเดินมา3รอบแล้ว)ฯลฯ
...ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าจ้างช่างภาพมือโปรลูกชายขี้อายช่างภาพก็มีวิธีเรียกให้กล้าแสดงออก
หรือเลือกมุมแอ๊กชั่นสวยๆเพื่อชดเชยความอบอุ่นของครอบครัวที่ขาดหายไป (สิ่งเหล่านี้ลูกค้าบ้านมองไม่เห็น)
..,วงการโปรดัคชั่นตอนนี้กำลังเจอปัญหาคล้ายๆกันคือ รัอยทั้งร้อยลูกค้าต้องมีญาติพี่น้องที่เรียนมาทางด้านการสื่อสารฯ
ถ่ายวีดีโอได้ ตัดต่อเป็น จ้างทำงานซะเลย งานที่ได้อาจไม่ดีเท่ามือโปรแต่ก็ทดแทนได้ไม่น่าเกลียด..ทุกวันนี้ลูกค้าฉลาดขึ้น...เพราะเทคโนโลยีมาช่วยทดแทนการทำงานได้สะดวกขึ้น (เลยไม่จ้างโปรดัคชั่น)
หรือว่า.
.คนทำงานโปรดัคชั่นโง่ขึ้น...เรียนมาทางนี้ ปรับตัวให้ไปทำงานอื่นก็ทำไม่เป็นแล้ว เราเอาท์จริงๆ
หรือว่า..
.ความอดทนน้อยขึ้น...ขี้เกียจอธิบายงานให้ลูกค้าใหม่ได้เข้าใจ (อย่างเช่น ลูกค้า1 ต้องอธิบายว่าภาพเราสวยกว่าของเขาตรงไหน ลูกค้า2 ต้องใช้หลักคำนวณทางฟิสิกซ์อธิบายแสงควอนตั้มเดินทางกระทบจากแฟลชไปยังรีเฟล็กซ์สะท้อนไปยังตัวน้อง)
.
.. ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลใดที่ตอนนี้ไม่มีงาน ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆทุกคน ถือซะว่าช่วงนี้เป็นการพักฟื้นให้กับร่างกาย
หลังจากใช้งานหนักมาหลายปี ยามว่างก็เรียนรู้กราฟฟิคใหม่ๆทางยูทูปที่เราอยากรู้มานาน หาอาชีพเสริมที่ไม่ต้องลงทุนมาก
เผื่อมีงานจะได้กลับมาทำเหมือนเดิมได้ รอโอกาสหน้าฟ้าใหม่เมื่อลูกค้าบ้านมีความรู้และเริ่มเข้าใจการทำงานของโปรดัคชั่น
ก็จะหันกลับมาจ้างเราเหมือนเดิม ถึงตอนนั้นคงบ่น"ผมทำไม่ไหวเพราะแก่แล้วครับ"(รอนานไปหน่อย)www.p0p-it.blogspot.com