อยากทราบ Work flow ของพี่ๆครับ

อยากทราบ Work flow ของพี่ๆแต่ละคนครับ
ตั้งแต่ถ่ายจบจนถึงoutput เลยครับ
เผื่อนำมาปรับเป็นแนวทางในการพัฒนางานต่อไปครับ

ผมถ่ายจบแล้วส่งเข้าpremiere ตรงๆเลยครับ
ส่วน Effect ทำใน AE แล้วโยนมาลงอีกที (AEของผมชอบมีปัญหาเสียงหาย เลยไม่ลงเสียงแต่มาลงใน Premiere )แล้วสั่ง Render ใน Media Encoder เป็นoutput ครับ
ไม่ทราบว่าจะมีวิธีที่สะดวกแล้วเร็วกว่านี้อีกมั๊ยครับ

ทำเหมือนกันเลยครับ จริงๆใช้ Premiere กับ AE คล่องๆก็สะดวกแล้วนะครับ

ส่วนมากผม render เป็น SD โดย Encoder  ทำ effect HD ใน AE แล้ว render เป็นแค่ SD มาตัดต่อใน premiere

ทำ Voice Over ง่ายๆโดยอัดใน Premiere ตรงๆเลย (ใช้ USB mic ของ G-track คุณภาพดีใช้ได้)

ทำการตัดต่อจนพอใจแล้ว  render มาดูรอบนึง

จากนั้นเปลี่ยน Sequence setting เป็น HD และเปลี่ยน footage เป็น HD ทั้งหมด  ยก Project AE มาวางแทน คลิบ effect

ส่งเข้า Encoder แล้วนอนครับ

เป็น workflow เท่าที่นึกได้

เอาที่ทำงานบ่อยนะครับ
ไม่มี cg สักเท่าไหร่ ของผม footage จาก DSLR ล้วนๆ


DSLR ถ่าย 1920x1080 24fps หรือ 1280x720 50fps
Vegas ตั้ง project ตาม footage ที่มี แต่ถ้าผสมทั้ง 24fps กับ 50fps จะตั้งที่ 720 ครับ
ตัด footage โดยไม่แปลงไฟล์
Grading ก็ใน vegas นั่นล่ะครับ
Sound+อัดเสียง ก็ใช้ vegas อีกล่ะครับ
Render ปกติเป็น mp4 codec .h264 ขนาดเท่ากับ project ครับ

ถ้าต้องการใช้ AE ก็ใช้ sequence image เป็นช่องทางการติดต่อ


งานส่วนใหญ่ของผมเน้นเร็วก็จะใช้ work flow ของ vegas
ถ้าเป็นงานที่เน้นคุณภาพ หรือต้องการสีที่ดีก็ Finalcut ครับ work flow ก็ประมาณเดียวกัน

ส่วนตัวผมจะตัดเป็น Format ที่คุณภาพสูงที่สุดก่อน คือ ถ้าถ่ายมาเป็น HD ก็ตัดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น VDO, เสียง, ภาพนิ่ง (ผมทำทั้งหมดใน Premiere) แบบ HD ครับ ตัดเสร็จ Render ด้วย H264 เป็น MP4 จากนั้น ถ้าจะเอาไปฉายก็ดูว่าฉายด้วยอะไร ถ้าขึ้นจอ LCD ให้คนอื่นดู ก็ต่อจากคอมเข้าจอ LCD ไปเลย เปิดด้วย PurePlayer หรือ SplashPro ถ้าจะไรท์เป็น DVD ให้คนอื่นเอาไปเปิดดูที่บ้าน ก็นำไฟล์ HD แบบ MP4 ที่เรามีอยู่ไปแปลงให้เป็น .VOB ไฟล์ ใน ProCoder แล้วค่อยไรท์ .VOB ไฟล์ ด้วย Nero Express อีกทีหนึ่ง ถ้าจะอัพขึ้นเวปก็ใช้ ProCoder แปลงให้มีขนาดสำหรับเวป (มันมี Preset ให้เลือกอยู่แล้วว่าจะแปลงไฟล์เป็นอะไร แบบไหน แล้วแต่เราปรารถนา) สำหรับผมคือ ทำให้ชัดที่สุด ไฟล์ใหญ่ที่สุด ไว้ก่อน แล้วจะเอาไปใช้อะไรต่อ ค่อยแปลงไฟล์เอาตามแต่ความเหมาะสมครับ

ด้วยความเคารพ

ส่วนมากผม render เป็น SD โดย Encoder  ทำ effect HD ใน AE แล้ว render เป็นแค่ SD มาตัดต่อใน premiere

พี่ Pla2studio ครับที่แปลงเป็นSDก่อนเพื่อทำให้เวลาตัดไม่กินแรงเครื่องมากใช่มั๊ยครับ? ตัดจนพอใจแล้วค่อยเปลี่ยนเป็นHD แล้วเวลาเปลี่ยน footage มาเป็นHD นี่เราก้อต้องตัดอีกรอบหรือเปล่าครับ? ไม่รู้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า

อ้อ ไม่ต้องครับ  แต่มี trick ของผมเองเล็กน้อย

คือปกติหลังจากตรากตรำถ่ายมา ก็จะลากไฟล์เข้าคอม กด Render จาก 1080 เป็น  720  แล้วไปกินข้าว อาบน้ำ  เพราะยังไงก็ต้องพักอยู่แล้ว
(ใช้ MBP i5 ram4G  แปลงเป็น mpeg2 ใช้เวลาน้อยกว่าความยาว Footage ประมาณ 20%)

ปกติผมตั้ง project เป็น 720p เพราะส่วนใหญ่รายการมักใช้ความละเอียด SD (แค่ 720 ก็หรูแล้ว)  

ส่วนถ้าอยากโชว์ 1080 ก็เปลี่ยน sequence setting เป็น 1080 (ทีนี้ก็จะเห็นขอบดำๆทั้งเรื่อง)

แล้วแอบไปเปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์เก็บ Footage เล็กน้อย  Premiere ก็จะมึนๆ ถามว่า "ไฟล์ตูอยู่ไหน"

ก็ไปเลือกโฟลเดอร์ที่ Footage ที่เป็น 1080 แทนก็เรียบร้อยครับ  มันจะหาไฟล์อื่นๆเจอเอง
(หรือจะคลิ๊กขวาเลือก Replace footage ทีละคลิบก็ได้ แต่เสียเวลาพอควร)

แต่ในการทำ AE มักต้องทำ 1080 เลยตั้งแต่ต้นเลย เพราะการเปลี่ยน Composition setting มักจะมีผลต่อ
scale ของ object ต่างๆ ทำให้ต้องมารื้อทำใหม่ทีหลังครับ

ไม่รู้มีสะดวกกว่านี้มั๊ยนะครับ  ทำ Premiere AE ก็น่าจะสะดวกกว่า Vegus AE ครับ เพราะสามารถยกโปรเจคไปมาได้
ขนาด final cut เวลาส่งไปมากับ color ยังต้อง render เลยครับ (อันนี้ไม่ค่อยถนัดครับ)

  

ขอบคุณครับเข้าใจแล้ว  ถ้าAE มีวิธีทำที่คล้ายๆแบบนี้ได้คงจะดีไม่น้อยเหมือนกันนะครับ น่าจะทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น


ตัวอื่นไม่เคยใช้ครับ ใช้แค่ Premiere-AE ส่งกันไปมาง่ายดีครับ เดี๋ยวนี้มี Dynamic link ยิ่งง่ายขึ้นไปอีกมากโขเลยทีเดียว