สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 18509เข้าชม
  • 18ตอบกลับ

interlace กับ progessive

ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
18
เงิน
475
ความดี
540
เครดิต
387
จิตพิสัย
346
จังหวัด
สระบุรี
— เพิ่มเข้าหัวข้อสำคัญ โดย nezzis เมื่อเวลา(2011-02-04) —
interlace กับ progessive



๑. มันคืออะไรครับ ต่างกันตรงไหน ๒. หากท่านผ่านเข้ามาก็อยากถามต่อเลย ผมเองอยากเป็น Editor ที่ครบทั้งภาพและเสียง แต่ความรู้ยังอนุบาลอยู่ ไม่ทราบว่าบรรดา Codec ต่าง ๆ มันมีมากมายไว้เพื่ออะไร แล้วมันต่างกันยังไง
๓. ผมงงกับการแปลงไฟล์เพื่อมาตัดในไฟนอลคัท แต่พอเอ็กซปอร์ตจะใช้ Codec H.264 : Apple proress : DV PAL หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีใน Export (ตามไฟล์แนบ) แล้วพอจะไรท์ลงแผ่นดีวีดีก็ยังมี Codec อีก(ตามแนบ๒) อยากให้ท่านช่วยกรุณาอธิบายตั้งแต่พื้นฐานก็จะดีครับ ผมเองไปเรียนมาหลายที่แต่กลับไม่ค่อย GET เลย 
๔. กำลังจะทำห้องอัดตัดต่อ เรื่องห้องได้ศึกษาไว้และวางแผนเกี่ยวกับวัสดุซับเสียงแล้ว แต่เรื่องกล้องนี่ยังไม่ชัวร์ ได้รับข้อมูลแบบกว้างมาก หากอยากใช้เผื่ออนาคต ราคาพอประมาณ สู้ได้แสนต้น ๆ ไว้รับงาน ตจว. ใช้ไฟนอลคัทเป็นหลัก 
ช่วยด้วยครับ
(คนใช้ไอแมค)


  • รูปภาพ:แนบ๑
    รูปภาพ:Screen shot 2011-02-03 at 9.06.24 PM.png
  • รูปภาพ:แนบ๒
    รูปภาพ:Screen shot 2011-02-03 at 9.19.01 PM.png

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
1226
เงิน
27006
ความดี
26182
เครดิต
27224
จิตพิสัย
24655
จังหวัด
* ต่างประเทศ *

ที่ถามมาส่วนใหญ่มีคนตอบไปหมดแล้ว ถ้าลอง search ดูจะพบเยอะแยะเลย เช่น http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=4549

ลองดูครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
306
เงิน
6006
ความดี
4188
เครดิต
4214
จิตพิสัย
5559
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
486
เงิน
8610
ความดี
6138
เครดิต
5733
จิตพิสัย
5409
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

คุณกบ ครับ
สิ่งที่คุณอยากรู้ มันมากและละเอียดเกินกว่าจะมีใครหลายๆคนมานั่งเขียน หรือ อธิบายได้ในเว็บบอร์ด ครับ
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-03
ขอเวลาซักหน่อยนะครับเดี๋ยวผมมาอธิบายให้ครับ พอดีผมทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับ Digital Cinema อยู่มีเรื่องพวกนี้รวมอยู่ด้วยครับ (ทุกวันนี้นั่งอ่านไอ้พวกอย่างงี้จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว อ่านแล้วยิ่งงง เฮ้อ)
ข้อที่ 1 ตาม link ข้างต้นได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วครับสรุปง่ายๆ ก็คือ Interlace : คือการ Scan ของระหว่างเส้นคู่กับเส้นคี่ ตามระบบของ TV เพื่อในการส่งสัญญาณไม่ต้องเสียแบนด์วิดท์มากๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยให้ในการดู Smooth มากขึ้น ส่วน Progressive : คือการ Scan พร้อมกันทั้งเส้นคู่เส้นคี่จะให้ภาพมีลักษณะคล้ายฟิล์มมากกว่า
ข้อที่ 2 Codec มีขึ้นเพื่อใช้ในการบีบอัดไฟล์เนื่องจากกล้องแต่ละชนิดมีการบันทึกไม่เหมือนกัน มีการเข้ารหัส ถอดรหัสต่างๆ กันไป หรือที่เรียกว่า Encode Decode นั่นแหละจะมีการคำนวณเกี่ยวกับพวก Interframe และ Intraframe หรือพูดง่ายๆคือการสุ่มสร้าง Frame ขึ้นเพื่อให้ภาพในการบันทึกทันท่วงทีในเวลาจริง กล้องรุ่นโปรจะสามารถบันทึกเป็น RAW File,Native File ได้เลยทีเดียว ไฟล์พวกนี้จะมีรายละเอียดต่างๆ มากกว่าๆไฟล์ที่โดนบีบอัดครับ(มีอีกหลายอย่างมากที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบ เช่น ค่า YUV,YCbCr,Color Space,Gramma Space,Dynamic Range,Contrast,Grammut เป็นต้น) ส่วนในหมวดของการตัดต่อนั้นสร้างขึ้นเพื่อจะทำให้โปรแกรมตัดต่อเลือกการตั้งโปรเจ็คให้ตรงกับไฟล์ต้นฉบับ เพื่อทำให้คอมพิวเตอร์ถอดรหัสนั้นๆได้ไม่งง จึงทำให้เครื่องเล่นแล้วไม่กระตุก ในกรณี Multicode หรือการเอาไฟล์กล้องแต่ละชนิดกันมาตัดรวมกันจึงทำให้มีการแปลงไฟล์ให้เหมือนกันก่อนหรือเครื่องชอบฟ้องให้ Render บ่อยเพื่อที่ถอดรหัสให้ตรงกันเสียก่อน ก่อนที่จะเล่นได้
หมวดหมู่ของ Codec ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับชนิดของกล้อง และตามโปแรแกรมของระบบปฏิบัติการคร่าวๆดังนี้
Apple Prores : Codec ของตระกูล Final Cut
DVCPro : Codec ของกล้อง Panasonic
HDV : Codec ของกล้อง JVC
XDCam : Codec ของกล้อง Sony
MPEG : Codec ของตระกูล Moving Picture Experts Group
H.264/MPEG-4 Part 10 : Codec เป็นตระกูลเดียวกันกับ MPEG แต่จะเป็นประเภท AVC(Advanced Video Coding)จำพวก HD ไฟล์เล็กแต่ให้รายละเอียดสูง
JPEG2000 : Joint Photographic Experts Group 2000 เป็นความร่วมมือของ ISO/IEC เพื่อที่จะสามารถให้ทุกระบบเป็นค่ากลาง และให้รายละเอียดสูงเทียบเท่ากับการไม่บีบอัดเลยทีเดียว
MOV : Codec ของตระกูล Quick Time
REDCODE : R3D RAW File ของตระกูลกล้อง RED
MXF : Material eXchange Format คือ ระบบ ดิจิตอลทั้งภาพและเสียงพัฒนาโดย SMPTE



ที่เหลือคุณ vfspostwork อธิบายไว้ด้านล่างอย่างชัดเจนครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2011-02-04 00:15 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
noung เงิน +1 2011-02-04 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
306
เงิน
6006
ความดี
4188
เครดิต
4214
จิตพิสัย
5559
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-03
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-03
พออธิบายคอนเซ็บสั้น ๆ กันได้บ้างครับ เสริมกันไปคนละข้อสองข้อ เดี๋ยวพอคลำทางถูกแล้วก็ค่อย ๆ ต่อยอดเอา ...

อ้างอิง
๑. interlace กับ progessive มันคืออะไรครับ ต่างกันตรงไหน


Interlaced - เป็นระบบเก่า ใช้กับทีวียุคก่อนจนมาถึงปัจจุบัน สร้างเฟรมภาพ 1 เฟรม ด้วยการซอยเป็น 2 ชั้น (field) แล้วยิงขึ้นจอด้วยความเร็ว 50 ฟิลด์ต่อวินาที ซึ่งจะได้ภาพ 25 เฟรมต่อวินาที (pal) หรือ 60 ฟิลด์ต่อวินาที ซึ่งจะได้ภาพ 30 เฟรมต่อวินาที (ntsc) ...
Progressive - เป็นระบบใหม่ ใช้กับจอคอมพิวเตอร์ และ จอทีวีรุ่นใหม่ สร้างเฟรมภาพ 1 เฟรม ด้วยการยิงครั้งเดียว ... ทีวีรุ่นใหม่ที่เป็น Progressive ก็จะสนับสนุน Interlaced ด้วยเสมอ, ส่วนจอคอมพิวเตอร์จะสนับสนุนด้วยการทำงานทางซอฟแวร์ ด้วยหลักการ De-Interlaced ขณะเล่นแทน ...

........... | ...........

อ้างอิง
๒. หากท่านผ่านเข้ามาก็อยากถามต่อเลย ผมเองอยากเป็น Editor ที่ครบทั้งภาพและเสียง แต่ความรู้ยังอนุบาลอยู่ ไม่ทราบว่าบรรดา Codec ต่าง ๆ มันมีมากมายไว้เพื่ออะไร แล้วมันต่างกันยังไง


ถ้าแบ่งกว้าง ๆ แบบนี้ก่อนก็จะเข้าใจง่ายขึ้น :
Codec สำหรับการตัด (Edit) - เป็นการบีบที่คงรายละเอียดไว้มากที่สุด มีเฟรมภาพจริงทุกเฟรม เพื่อสะดวกในการแสดงเฟรมแต่ละเฟรมได้รวดเร็ว ... ไฟล์จะมีขนาดใหญ่
Codec สำหรับการเล่น (Playback/Distribution) - เป็นการบีบเพื่อให้ได้ขนาดเล็ก มีเฟรมจริงสลับกับเฟรมที่เกิดจากการคำนวน พอที่จะเก็บลงสื่อ และ เล่นผ่านฮาร์ดแวร์ราคาถูกได้ เช่น VCD, DVD, Blu-Ray หรือ สตรีมมิ่งผ่านอินเตอร์เน็ต หรือ อุปกรณ์พกพา ฯลฯ เพื่อจะได้แพร่กระจายสู่ผู้บริโภคได้ง่ายนั่นเอง ... ไฟล์จะมีขนาดเล็ก

ที่มีออกมาเยอะเพราะมีหลายมาตรฐาน หลายอุปกรณ์ หลายผู้ผลิต บางอันก็เป็นกลาง ๆ ใช้ได้ทั่วไป บางอันก็ผูกอยู่กับอุปกรณ์ หรือ ผู้ผลิตนั้น ๆ เวลาจะนำมาใช้ก็ต้องศึกษาก่อน ...

การทำงานทางด้านภาพเรียนรู้ได้ไม่ยากครับถ้ามีจินตนาการ ความสร้างสรรค์ และ ความเพียร แต่งานด้านเสียงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ลึกลับกว่ามาก เพราะมันมองไม่เห็น ใช้โสตสัมผัสทางหูอย่างเดียว ซึ่งมีองค์ประกอบ ปัจจัยอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับการได้ยินมาเกี่ยวข้องเยอะแยะมากมาย ...

อ้างอิง
๓. ผมงงกับการแปลงไฟล์เพื่อมาตัดในไฟนอลคัท แต่พอเอ็กซปอร์ตจะใช้ Codec H.264 : Apple proress : DV PAL หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มีใน Export (ตามไฟล์แนบ) แล้วพอจะไรท์ลงแผ่นดีวีดีก็ยังมี Codec อีก(ตามแนบ๒) อยากให้ท่านช่วยกรุณาอธิบายตั้งแต่พื้นฐานก็จะดีครับ ผมเองไปเรียนมาหลายที่แต่กลับไม่ค่อย GET เลย


ตอนตัดควรใช้ Codec สำหรับการตัด ถ้าถ่ายมาเป็น Codec สำหรับการเล่น (เช่น AVCHD/H.264, Mpeg ฯลฯ) ก็ควรแปลงให้เป็นฟอร์แมทสำหรับการตัดเสียก่อน (ProRes, DNxHD, HDVCPro ฯลฯ) เพื่อจะได้ทำงานได้สะดวก ... เมื่อตัดเสร็จจะ Export ก็ใช้ Codec สำหรับการเล่น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอุปกรณ์อะไร VCD ใช้ Mpeg I, DVD ใช้ Mpeg II, Blu-Ray ใช้ H.264 ฯลฯ พรีเซ็ตที่มีให้เลือกจะเป็นตัวกำหนด Codec ให้อัตโนมัติอยู่แล้ว ...

สาเหตุที่นำ Codec สำหรับการเล่นมาตัดแล้วไม่สะดวก เนื่องจาก Codec การเล่นมีการบีบอัดสูง มีจำนวนเฟรมที่ไม่ใช่เฟรมแท้ (เกิดจากการคำนวนด้วยการเข้าสูตร) อยู่เป็นจำนวนมาก เวลาจะแสดงเฟรมแต่ละเฟรมต้องจึงต้องใช้เวลานาน จังไม่เหมาะกับการตัดที่ต้องการความฉับไวโดดไปตำแหน่งโน้นนี้ตลอดเวลา ต่างกับการเล่นที่มักจะเป็นลำดับตั้งแต่ต้นจนจบ ...

อ้างอิง
๔. กำลังจะทำห้องอัดตัดต่อ เรื่องห้องได้ศึกษาไว้และวางแผนเกี่ยวกับวัสดุซับเสียงแล้ว แต่เรื่องกล้องนี่ยังไม่ชัวร์ ได้รับข้อมูลแบบกว้างมาก หากอยากใช้เผื่ออนาคต ราคาพอประมาณ สู้ได้แสนต้น ๆ ไว้รับงาน ตจว. ใช้ไฟนอลคัทเป็นหลัก


ถ้าเป็นงานที่ต้องถ่ายยาว ต้องเก็บทุกวินาทีตลอดงาน ควรใช้กล้องวีดีโอ (Canon XL, Pana DVX, Sony PD VX Serries ฯลฯ) ...
ถ้าเป็นงานถ่ายเป็นช๊อท ๆ แบบหนัง ต้องการภาพสวย หรือ ถ่ายยาวได้แต่ไม่นานนักสัก 15 นาที 20 นาที (แต่จะอัดยาวกว่านี้ก็พอได้อยู่ หรือ สลับกล้องเอา เพราะมันอาจจะร้อนเกินไป) ควรใช้กล้อง DSLR (หมายถึง Canon 550D 60D 7D 5D Mark II, Nikon D7000, Pana GH1 GH2, Sony ฯลฯ) ... รวมถึงอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ทำงานสะดวกด้วย เช่น พวก steadicam, รางเลื่อน, jib, rail/rig, follow focus/zoom, matte box, ไฟ ฯลฯ

ฟังหูไว้หูครับ อย่าเพิ่งเชื่อทั้งหมด รอฟังท่านอื่น ๆ พร้อมกับลองศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองไปด้วย ...
[ แก้ไขล่าสุดโดย vfspostwork เมื่อ 2011-02-04 00:40 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
noung เงิน +1 2011-02-04 -
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
306
เงิน
6006
ความดี
4188
เครดิต
4214
จิตพิสัย
5559
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-03
สุดยอดในที่สุดก็มีประธานมาตัดริบบิ้น...   ชัดเจนเลยครับ


ขออนุญาตเพิ่มเติม ในข้อ3 นะครับ workflowของผมที่ทำงานอยู่ (ค่อนข้างจะยุ่งสักนิด)ผมจะExport เป็น Quick Time Movie ก่อน โดยไฟล์ที่ได้จะเป็นฟอร์แมต  Final Cut QuickTime ถือเป็น Master หลังจากนั้นจะทำเป็นอะไรต่อก็โยนเข้า Compressor แปลงไฟล์เป็นCodec ตามที่ต้องการ
ส่วนการจะนำไปเป็น DVD ก็โยนMasterที่ได้ลงในโปรแกรม  Compressor ถ้าเป็น version 3.5 ก็ง่ายหน่อยเพราะจะมีTemplate ที่เป็น Create DVD ให้เลือก 
ถ้าเป็น Versionที่ไม่มีTemplate ก็ไปเลือก DVD : Best Quality 90 min จากเมนู Setting เมื่อCompress เรียบร้อยแล้วจะได้ ไฟล์2ไฟล์คือDolby Digital Professional 2.0(เสียง) และMPEG-2 6.2Mbps 2-pass (ภาพ) แลัวนำไฟล์ทั้ง2ไปทำต่อในโปรแกรม DVD Studio Pro ครับ เพราะในโปรแกรมนี้ผมสามารถทำ Function ต่างๆ ของDVD ได้ครับ เช่น เมนูเลือก Chapter, ลงเสียงหน้าเมนู ,ทำหลายภาษา ฯลฯ 
ขอย้ำว่าทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียง workflow ของที่ทำงานผม ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันคือขั้นตอนมาตรฐานการทำงานทั่วไป (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  555) ขั้นตอนการทำงานของแต่ละที่ แต่ละบุคคลอาจไม่เหมือนกัน แตกต่างกันไปตามความคล่องตัว ความถนัด และโปรแกรมที่ใช้ครับ ผมแค่นำประสบการณ์อันน้อยนิดมาแชร์ครับ

[ แก้ไขล่าสุดโดย bank_mc เมื่อ 2011-02-04 00:44 ]
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
361
เงิน
11859
ความดี
9359
เครดิต
9848
จิตพิสัย
9986
จังหวัด
จันทบุรี

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
พอได้คำตอบก็จะเพิ่มคำถามแน่นอนเพราะมันเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความเข้าใจกันอย่างละเอียด     คงมึนมากกว่าเดิม สงสัยเอ็กพอรท์งานไม่ถูกและออกมาไม่ดีแน่   ทุกท่านที่ตอบคำถามให้น้องเข้าใช้ประสพการณ์ที่สั่งสมมาพอสมควรขอให้น้องมุ่งมั่นอีกมากๆตำราก็มีมากมายที่นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่จะให้ความรู้ได้ จงสู้ต่อไปไอ้มดแดง ในโลกมีสิ่งที่ให้เรียนรู้ไม่มีวันหมดสิ้นจงพึ่งตนเองให้มากที่สุด จะเป็นผลดีกับเรา
[ แก้ไขล่าสุดโดย kai35 เมื่อ 2011-02-04 10:21 ]
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
486
เงิน
8610
ความดี
6138
เครดิต
5733
จิตพิสัย
5409
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 10#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
" จงสู้ต่อไปไอ้มดแดง ในโลกมีสิ่งที่ให้รียนรู้ไม่มีวันหมดสิ้นจงพึ่งตนแองให้มากที่สุด "


ลงท้ายงามดี
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 11#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
ขอบคุณมากครับ มีคำผิด อยู่2ตัวของผมแก้แล้วนะครับจะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
486
เงิน
8610
ความดี
6138
เครดิต
5733
จิตพิสัย
5409
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 12#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
ไปเจอข้อมูลล่าสุดของเจ้านี้มา เลยเอาลิงค์มาฝาก

http://www.atomos.com/

ตัวกล่องจะรับสัณณาญด้วย HDMI แล้วบันทึกลงฮาร์ดดิสเป็น Apple Pro Res 422 10 bit   สร้างสรรค์ออกมา
เพื่อ FCS โดยเฉพาะ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
306
เงิน
6006
ความดี
4188
เครดิต
4214
จิตพิสัย
5559
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 13#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
734
เงิน
20336
ความดี
17622
เครดิต
19309
จิตพิสัย
17084
จังหวัด
สงขลา

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 14#  โพสต์เมื่อ: 2011-02-04
รุ่นนินจาแสดงมันเหมือนการล่องหนหายตัวเข้าใจตั้งชื่อตามความเป็นจริงน่าใช้ไม่ต้องบีบอัด
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้