สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 13163เข้าชม
  • 35ตอบกลับ

ถ้าได้สร้างภาพยนตร์จะใช้กล้องถ่ายกี่ตัวครับ

ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
25
เงิน
843
ความดี
938
เครดิต
859
จิตพิสัย
1267
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

หนังใหญ่ทำไมชอบใช้กล้องตัวเดียวถ่าย ทำไมไม่ใช้หลายตัวเหมือนละคร  จะใช้หลายตัวเหมือนละครจะผิดไหมครับ

ทราบมาว่าหนังพี่ต้อมยุทธเลิศ ใช้กล้อง2ตัวถ่ายทุกฉากเลย
แล้วสมมุติว่าถ้าได้ทำหนังใหญ่ พี่จะใช้กล้องถ่ายกี่ตัวครับ เอาฉากธรรมดานะครับ ไม่ใช่ฉากใหญ่ๆ ขอทราบเหตุผลด้วยครับ


บทความที่เกี่ยวข้อง

ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
87
เงิน
2468
ความดี
2784
เครดิต
2541
จิตพิสัย
3145
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 35#  โพสต์เมื่อ: 2016-03-15
กระทู้ดีๆแบบนี้เดี๋ยวนี้ทำไมไม่มีเลย
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
249
เงิน
798
ความดี
3490
เครดิต
3070
จิตพิสัย
8316
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 34#  โพสต์เมื่อ: 2014-02-19
ขอค้านคุณ  rotcerid ครับ ข้อความที่ว่า " กล้องฟิลม์ แบบ ถ่ายหนัง ความเร็วของสปีดชัตเตอร์ไม่มี เพราะการถ่ายหนังประตูฟิลม์ถูกยกขึ้นค้างไว้ เพื่อให้ฟิลม์วิ่งผ่านแสงที่รอดเข้ามาตามความเร็วที่ตั้ง ความเร็วที่ว่าเรียกเฟรมสปีด fps  ปกติอยู่ที่ 24 ถ้าจะจับความเคลื่อนไหวเร็วให้คมชัด เขาจะเรียกว่าถ่าย ไฮสปีด มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น ฟิลม์วิ่งเร็วขึ้น เปลืองมากขึ้น โปรดิวเซอร์ก็จะพูดมากขึ้น "

      สำหรับกล้องฟิล์มที่ใช้ถ่ายหนังนั้น ประตูฟิล์มที่ว่าไม่ได้ยกขึ้นค้างตลอดเวลานะครับ มันจะเปิดปิดตลอดเวลาตามเฟรมเรทของกล้อง ลองไปเซิทดูกลไกในกู้เกิ้ลเอาเองนะครับ ถ้าตั้งเฟรมเรทไว้ที่24/วิ มันก็จะเปิดปิด24ครั้งเท่ากับเฟรมเรท เพื่อแบ่งแสงที่ตกกระทบฟิล์มในเป็นเฟรมภาพ เพราะถ้าประตูฟิลม์เปิดค้างตลอดเวลา ภาพจะดูไม่ได้เลย มันจะเหมือนกับกล้องถ่ายรูปที่ตั้งสปีดชัตเตอร์ต่ำๆ ภาพจะวิ่งเป็นเส้นๆเหมือนแกว่งธูป แล้วภาพบนแผ่นฟิล์มก็จะไม่เป็นเฟรมสี่เหลี่ยม16:9 เพราะมันถูกแสงตกกระทบอยู่ตลอดเวลาไงครับ  แล้วการถ่ายแบบไฮสปีด 50-1,000เฟรม/วิ เขาไม่ได้ถ่ายเพื่อให้ภาพคมชัดขึ้นครับ แต่มันคือการถ่ายเพื่อไปทำภาพสโลว์( Slowmotion ) เช่นถ่ายลูกกระสุนปืน ถ่ายน้ำกระเซ็น ถ่ายตีลังกา กระโดดบู๊สู้กัน หรือถ่ายหน้าตอนน้ำตาไหล ที่ต้องปรับเป็นไฮสปีดหรือใช้กล้องไฮสปีดในกรณีที่ต้องการสปีดสูงมากๆ ก็เพราะว่าถ้าถ่ายด้วยเฟรมเรท 24/วิ แล้วไปทำสโลว์ในห้องตัดภาพมันจะกระพิบยังไงล่ะครับ จึงต้องถ่ายด้วยสปีดสูงๆแล้วไปเพลย์ด้วยสปีดที่ 24/วิ จึงจะได้ภาพสโลว์ตามที่ต้องการโดยภาพไม่กระพริบครับกระผม             

      จากคำถามของ จขกท. ทำไมหนังถึงใช้กล้องเดียว มันเกี่ยวกับคุณภาพของงาน ดังนี้
      1.จัดแสงง่ายขึ้นและสวย ไม่ต้องย้ายไฟหลบกล้องตัวอื่นๆ การจัดไฟซัพพอตต์กล้องหลายๆตัวนั้น มันทำให้ทิศทางแสงมันมาจากหลายทาง ไม่สมจริงแบบธรรมชาติ เวลาทำละครจะสร้างจัดไฟส่องหน้านักแสดง ซึ่งจะวางตามไลน์กล้องทั้ง 3 ตัว ทำให้แสงในภาพสว่างขาวไปหมด
       2.ได้แอคติ้งและรีแอคติ้งของนักแสดงครบทั้งซีน ทำให้ตัดต่อได้ง่ายขึ้นได้อารมณ์ของภาพทั้งหมด ไม่ถูกตัดทิ้งเป็นบางจังหวะเหมือนระบบสวิตช์เชอร์ของละคร
       3.เวลาใช้กล้องแฮนด์เฮล(แบกบ่า) ถ้ามีกล้อง2ตัวขึ้นไป มันต้องพยาหลบกันเองอีก จะบุกเข้าไปใกล้ๆนักแสดงพร้อมกันลำบาก
       4.หนังทุกเรื่องส่วนใหญ่จะใช้การถือกล้องแบบแฮนด์เฮล(แบกบ่า)กับใช้สเตดิแคมบ่อยครั้ง ทำให้การใช้กล้องตัวเดียวสะดวกที่สุด ไม่ต้องมาหลบกล้องกันเอง
       5.กล้องถ้าใช้ฟิล์มม้วนใหญ่สุดคือแบบ 1,000 ฟิตจะถ่ายต่อเนื่องได้ 11นาที ซึ่งราคาม้วนละ 8,000 บาท ถ้าใช้ 2ตัวขึ้นไป แล้วถ้านักแสดงเล่นแล้วเทค ทำให้เสียเนื้อฟิล์มไป 2 เท่าครับ และอีกอย่างกล้อง2ตัวกดเรคคอร์ดฟิล์ม และกดหยุดเรคคอร์ดฟิล์มไม่พร้อมกันแน่นอน มันจะเกิดส่วนต่างของเวลาที่เหลือที่ใช้เรคคอร์ดได้ของกล้องทั้ง 2ตัว ทำให้กล้องตัวใดตัวหนึ่งฟิล์มจะหมดก่อนเพื่อน ทำให้เกิดปัญหาในการถ่ายทำครับ เพราะเวลาถ่ายหนังจริงๆผู้ช่วยกล้องอันดับสองจะคอยดูมิเตอร์ของฟิลม์อยุ่ตลอดเวลา ว่าเหลือเท่าใดและจะแจ้งทีมงานว่าถ่ายได้อีกกี่นาที เพราะต้องโหลดฟิล์มใหม่ เป็นผมผมก็ใช้กล้องตัวเดียวนะ
       หนังไทยเดี๋ยวนี้นิยมใช้ 2ตัวเพื่อรับภาพนักแสดง 2ฝั่งในเวลาเดียวกันส่วนใหญ่จะไม่ค่อยใช้ฟิล์มถ้างบประมานต่ำ และการใช้กล้อง 2ตัวจะเห็นเลยว่าแสงไม่สวยเท่าที่ควร ส่วนใหญ่จะเป็นหนังธรรมดา หนังวัยรุ่นหรือหนังคอมมาดี้พวกรวมตลกเล่นเยอะๆ แต่ถ้าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ๆอย่างนเรศวร จะใช้กล้องฟิล์มตัวเดียวครับ แสงและภาพจะสวยมากครับ
        ตอบแค่นี้ก่อนนะครับ บางอย่างอาจจะซ้ำกับคนอื่น

      
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
45
เงิน
1173
ความดี
1335
เครดิต
1166
จิตพิสัย
1462
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 33#  โพสต์เมื่อ: 2014-02-10
ขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
129
เงิน
4067
ความดี
2967
เครดิต
3177
จิตพิสัย
3118
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 32#  โพสต์เมื่อ: 2013-02-03
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
169
เงิน
3756
ความดี
3643
เครดิต
3390
จิตพิสัย
8662
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 31#  โพสต์เมื่อ: 2013-01-26
ความรู้ทั้งนั้น
โพสต์
834
เงิน
18821
ความดี
15969
เครดิต
16112
จิตพิสัย
16318
จังหวัด
ราชบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 30#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-19
กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-18
The primary reason that cinematographers adjust the shutter angle is to control the amount of motion blur that is recorded on each successive frame of film. A tight shutter angle will constrict motion blur. A wide shutter angle will allow it. A 180° shutter angle is considered normal.
So for instance, at 24p (actually 23.976 frames per second) the "Frame Interval" value is 0.04171 sec. ( = 1 / 23.976 ). Using an "Exposure Time" of 1/50 sec we get a "Shutter Angle" value of 173°, very close to 180° (normal motion blur effect).
This is the reason of the rule-of-thumb "Use an Exposure Time twice the value of the Frames-per-second to get normal motion blur".
Tight shutters create a stuttering stop motion animation look that has become popular in action and war films. In particular, tight shutters are used to capture particles flying through the air, such as dirt from an exploding mortar.
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จากข้อความใน วิกิที่พี่เอเอามาให้ดู ชัตเตอร์กล้อง จะมีความไวโดยคำนวนจากค่าองศา ซึ่งสุดท้าย ค่าองศาที่เปิดกับเฟรมเรท จะคำนวนออกมาเป็น ค่าความไวในการเปิดแสงได้ ถูกต้องมั๊ยครับ

ส่วนที่ผมอ้างอิงว่า 50P ไม่มี เพราะว่าในการออกอากาศจริงนั้น มันยังทำได้ไม่ทั่วถึงครับ จะมีก็เครื่องเล่นเฉพาะเท่านั้น ในเครื่องเล่นตามท้องตลาด หรือการออกอากาศ เท่าที่สมองอันน้อยนิดของผมจดจำได้มันยังไม่มี จะมีก็คือ ออกอากาศเป็น interective คือการเอา2เฟรมมาสแกนสลับกันเท่านั้น

หนังที่จะฉาย 48p ในปีหน้าเนี่ย ผมก็ยังไม่รู้ว่าตอนออกฉายจริงจะฉายแบบ 48p ได้ซักกี่โรง จะมีโรงไหนบ้างที่รองรับกับเทคโนโลยีอันนี้ได้(ยกเว้นสามมิติ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับสามมิติเลย) ซึ่งผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า หนังที่จะออกฉายส่วนใหญ่ จะถูกแปลงกลับมาเป็น 24p เหมือนเดิม
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
โพสต์
834
เงิน
18821
ความดี
15969
เครดิต
16112
จิตพิสัย
16318
จังหวัด
ราชบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-18
กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-18
เสริมเรื่องเฟรมเรทนะครับ
จริงๆ แล้วที่ใช้ 24fps อยู่ปัจจุบันนี้ มีผู้กำกับหลายคนกำลังจะก้าวข้ามไปละครับ

The Hobbits ปีหน้าจะเริ่มฉายในระบบ 48FPS เพราะว่าจะให้โมชั่นเบลอที่น้อยกว่า และภาพสมูทกว่า 24 fps
ส่วนเมื่อก่อน ผู้กำกับภาพเรื่อง 2001 : A space Odyssey เค้าคิดจะถ่ายหนังเรื่องนี้และฉายด้วยเฟรมเรท 120 FPS เพื่อให้ความรู้สึกตื่นเต้น

โดยมีผลการทดลองจาก  Douglas Trumball (คนๆ นี้เป็นตากล้องให้หนังดังๆ อย่าง 2001, Blade Runner, Close Encounter) กับนักวิทยาศาสตร์ด้านสมองกล่าวว่า คนเราจะรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ชมภาพอัตราส่วน 66 FPS ขึ้นไป

ซึ่งตอนนี้ในอนาคต ทั้งจอร์จลูคัส, เจมส์ คาเมรอน เองก็จะขยับไปใช้เฟรมเรทที่สูงขึ้นเช่นกัน
อ้างอิง http://nofilmschool.com/2011/04/peter-jackson-shoots-the-hobbit-48-fps/
โพสต์
834
เงิน
18821
ความดี
15969
เครดิต
16112
จิตพิสัย
16318
จังหวัด
ราชบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-18
กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!
[ แก้ไขล่าสุดโดย nakas เมื่อ 2011-10-18 13:01 ]
โพสต์
834
เงิน
18821
ความดี
15969
เครดิต
16112
จิตพิสัย
16318
จังหวัด
ราชบุรี
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-18
กระทู้นี้โดนบล็อค ระบบจะซ่อนข้อความหรือไฟล์แนบอัตโนมัติ สามารถมองเห็นได้เฉพาะผู้ดูแล!
[ แก้ไขล่าสุดโดย nakas เมื่อ 2011-10-18 13:05 ]
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-17
เพิ่มเติมความรู้ (ที่มีอยู่)
Shutter Angle
http://en.wikipedia.org/wiki/Shutter_angle
[ แก้ไขล่าสุดโดย motion-a เมื่อ 2011-10-17 16:19 ]
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-17
กล้องฟิลม์ แบบ ภาพนิ่ง ความเร็วชัตเตอร์คือการควบคุมความคมชัดของการถ่ายรูปอย่างนึง เปิดชัตเตอร์สูงๆเพื่อจับความเคลื่อนไหวเร็วๆได้อย่างคมชัด หรือ ลดการสั่นไหวของมือ การถ่ายรูปหนึ่งครั้งด้วยความเป็นภาพนิ่ง ความช้าเร็วของประตูฟิลม์ที่ยกให้แสงเข้ามากระทบกับฟิลม์เพื่อทำให้เกิดภาพนานเท่าใด เรียกว่า สปีดชัตเตอร์

กล้องฟิลม์ แบบ ถ่ายหนัง ความเร็วของสปีดชัตเตอร์ไม่มี เพราะการถ่ายหนังประตูฟิลม์ถูกยกขึ้นค้างไว้ เพื่อให้ฟิลม์วิ่งผ่านแสงที่รอดเข้ามาตามความเร็วที่ตั้ง ความเร็วที่ว่าเรียกเฟรมสปีด fps  ปกติอยู่ที่ 24 ถ้าจะจับความเคลื่อนไหวเร็วให้คมชัด เขาจะเรียกว่าถ่าย ไฮสปีด มอเตอร์หมุนเร็วขึ้น ฟิลม์วิ่งเร็วขึ้น เปลืองมากขึ้น โปรดิวเซอร์ก็จะพูดมากขึ้น

แล้ว ชัตเตอร์ ไปไหน ในกล้องถ่ายหนังระบบฟิลม์ ชัตเตอร์จะทำหน้าที่เป็นองศา คือองศาของใบชัตเตอร์ที่วิ่งอยู่ในนั้นอะไรซักอย่างเนี่ย ทำหน้าที่คล้ายๆชัตเตอร์ภาพนิ่ง แต่เพียงเปลี่ยนหน้าการยกขึ้นลง เป็นบิดใบพัดให้เกิดการตกกระทบของแสงในการเข้าสู่ฟิลม์ เพื่อให้มีความคมชัดมากขึ้นในรายละเอียดสูงสุดระเบิดทีเห็นเม็่ดดิน หรือ เกิดโมชั่นเบลอสั่นไหวเหมือนวิญญาณ

ส่วน กล้องดิจิตอลแบบภาพนิ่ง และ แบบถ่ายหนัง ชัตเตอร์กลายเป็นอิเล็คโทรนิคชัตเตอร์ หาไม่เกิดจากการควบคุมความเร็วการยกประตูฟิลม์ หรือ เป็นใบพัดหักเหแสงเหมือนองศาชัตเตอร์ มันถูกออกแบบให้เป็นค่าตัวเลข01ผกผันกับเซ็นเซอร์รับภาพในแบบการคำนวญการให้เกิดภาพแบบอิเล็คโทรนิค แต่ใชัหลักอ้างอิงมาจากระบบฟิลม์ ชัตเตอร์สูงคมชัด ชัตเตอร์ต่ำโมชั่นเบลอ ปัญหาที่เกิดจากชัตเตอร์ดิจิตอล จะได้ยินบ่อยๆเวลาเกิดฟีลภาพ "ทำไมภาพมันเปนฟีลๆวะ " คงคุ้นเคยกันดี

ส่วนเรื่องการกระพริบของหลอดไฟ หรือ ทีวี หรือ คอม ถ้าตาคนเราตั้งชัตเตอร์ได้ เราก็เห็นทุกอย่างกระพริบได้ เพราะมันกระพริบอยู่ตลอดเวลาแหละ พวกค่าต่างๆที่เขาค้นคว้าพัฒนากันมาเป็นเกณฑ์ที่ให้เราได้ใช้กันขนาดนี้ ก็ใช้ความเร็วในการรับแสงกระพริบของสิ่งพวกนั้นจากตามนุษย์เป็นหลัก ทำไมหนังต้องถ่าย 24 ก็เพราะว่าตอนขึ้นตอนสุดท้ายที่ฉายหนังให้เราดูในโรงหนัง ตาเรารับภาพในความเร็ว 24 เฟรม นั่นเอง

พวกสาวก 24 25 30 50 60 เกิดจากความชอบส่วนบุคคล สุดท้ายมันถูกแยก เพราะระบบฉายทั้งนั้นแหละ ระบบFilm ระบบPal ระบบNtsc เพื่อรองรับสิ่งที่ ตามนุษย์รับได้สมบรูณ์ที่สุด  

ความเข้าใจจาก ประสปการณ์ส่วนตัวล้วนๆนะ ไม่ได้อ้างอิงที่ไหน

    
โพสต์
1168
เงิน
213
ความดี
29205
เครดิต
30232
จิตพิสัย
35008
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2011-10-17
เข้ามาดู สู้ๆครับ อย่าปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิดๆต่อไป
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้