น่าสงสารเจ้าของงานตัวนี้ มันด่าเค้าซะเละเลย

คือผมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกะเค้าหรอกคับ แต่เห็นแล้วอดไม่ได้ http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V9533761/V9533761.html เค้าด่ากันแบบอย่ากะไอ้คนทำไปฆ่าแม่มันตาย ยอมรับงานตัวนี้ ไม่ได้หวือหว่าอะไรมากมาย เปลี่ยนแนว (เปลี่ยนมากไปเลยดูแปลกๆ) แต่คนวิจารผมว่าไม่เคยทำหนังสั้น กล้องแบบที่พวกเราๆใช้กัน มันก็ไม่น่าจะมี แต่เอางานชาวบ้านมาประจานในพันทิพย์ แรงอะครับ ในฐานะ ที่เข้าเล่นในเว็ปนี้ ช่วยไปเม้นใน  youtube ให้กำลังใจ เค้าหน่อยครับ ผมว่างานเค้าไม่ได้ดี แต่ด้วยงบ จำกัดหรือ อยากลองทำอะไรต่างๆ ทำให้เห็นว่า การพัฒนาของวงการหนังสั้นบ้านเรากำลังเติบโตนะครับ

ฉากตอนที่รถวิ่ง กล้องยังสั่นอยู่ น่าจะใช้ Stabilized cam หรือ Steady cam ภาพจะดูดีขึ้นมาก

มีอีกตั้ง 4 ตอนครับ  แล้ว MAY ก็ยังไม่ออกตัวเลย แต่ที่ผมชอบมากๆก็คือ โคตรกล้าทำเลย

เนื้อหาก็ดีนะครับแต่มันไม่ค่อยจะสื่อไปถึงตัวรถที่อยากจะขายสักเท่าไหร่

ปล. ฉากที่นางเอกปาดหน้าเพื่อจะถ่ายรูปพระเอก ถ้าเป็นผมนะ งานนี้มีโครมแน่ ฮ่าๆ แต่พระเอกเห็นนางเอกสวยมั้งเลยได้แต่นั่งยิ้มไม่ลงไปด่า อิอิ

นานาจิตตังครับ

ถ้าตัด super ออกไปไม่ต้องใส่ ผมว่ามันคงดูดีขึ้นนะ เพราะภาพมันกับเสียงมันก็สื่อถึงคุณสมบัติรถอยู่แล้ว น่าจะดูเป็นหนังสั้นมากกว่า
แล้วก็ลำดับภาพใหม่ตัดต่อให้เนียนอีกนิด คงดูดีขึ้นกว่านีเยอะ

ผมเดาว่างานคงไม่ได้ผ่านเอเจนซี่หรอกครับเพราะถ้ามีเอเจนซี่คงเก็บคอนเซปสินค้าได้เนียนกว่านี้
น่าจะลูกค้าคุยกับโปรดักชั่นโดยตรงและทำตามงบประมาณ
เพราะนึกถึงตัวเองตอนทำหนังโปรดักชั่นโฆษณา กว่าจะขายเอเจนซี่ให้ผ่านได้นี่ก็เหนื่อยแล้วยังไม่ต้องไปถึงลูกค้าหรอกครับ

โดยรวมแล้วหนังก็ไม่ได้เลวร้ายซะทีเดียว แค่ทุกคนคาดหวังกันสูงไปหน่อยสำหรับรถยนต์ฟอร์ด ลองคิดเล่นๆว่าถ้าไม่ใช่ฟอร์ดแต่เป็นสินค้าโนเนมมาเลยละ ความรู้สึกคงต่างไป

แค่หนึ่งความเห็นนะครับ

รถมันเจ๋งอยู่นะ คือถ้าผมไม่รู้มาก่อนว่ารถคันนี้มันมีดีอะไร

แล้วมาดู ผมไม่ซื้ออ่ะ รู้สึกเฉยยยยยกับโฆษณามาก

คือ ผมชอบอะ  มันเป็นวีดิโอพรีเซนท์ ที่โอเคนะ แต่ผู้กำกับอาจจะอ่อนประสบการณ์ไปนิด  ซึ่งเรื่องเค้าก็ทำมาได้ตอบโจทย์ของรถดี ลองตัดช๊อตบางช๊อตแล้วเกรดสีเนียน ๆ ผมว่ามันก็เป็นหนังโฆษณาดี ๆ ตัวนึงทีเดียวแหละ

คิดอีกมุมนึง แล้วจะดีกว่าไหม ถ้างานออกมาดี จนเราอยากมีรถคันนี้ และ ถูกพูดถึงในแง่บวก มันน่าจะเกิดนำไปโพสต่อๆกันมากกว่า

เกิดประโยชน์ กับ คนใช้ HDSLR มากกว่า

ทำให้ลูกค้าไว้ใจ โปรดั๊กชั่น ระดับเล็กๆ ถึง กลางๆ มากกว่า




ความเห็นอก เห็นใจ แบบไทยๆ ก็ดีครับ

แต่อีกมุมนึง บางทีอาจเป็นผลเสียภาพรวม ของ โปรดั๊กชั่น ระดับ เล็ก ถึง กลาง

"เห็นมะ ไปจ้าง House ใหญ่ๆ แล้วให้เขาหาเด็กๆ ในนั้นทำยังดีกว่า ตัวเลขได้ แถม เสถียรกว่า "

เอวัง




แต่ถ้าเขาจ้าง House ใหญ่ แล้วเด็กๆในนั้นทำกันได้เท่านี้ หรือ รุ่นใหญ่ในนั้นเขี่ยๆงานออกมา ก็มีพลิกล๊อคกันบ้างล่ะครับ

ผมว่ามันดีเกินไปกว่าจะเป็นหนังสั้น น่าจะเป็นละคร หรือไม่ก็หนังยาวไปเลย

อย่าคิดมากครับ...งานชิ้นนี้จริงๆมันก็คืองานโฆษณาชิ้นนึงที่พยายามจะอิงกระแสหนังสั้นด้วยโจทย์ที่ลูกค้ามีให้กับ agency แต่โจทย์ที่ได้มากลับกลายเป็นข้อจำกัดที่ต้องนำประสิทธิภาพของรถยนต์ Ford Fiesta มาใส่ในเนื้อหาของหนังสั้น ด้วยปัจจัยหลายๆอย่างมีส่วนทำให้เจ้าของผลงานชิ้นนี้ต้องทำงานในลักษณะ
ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง (พูดง่ายๆตามใจลูกค้า) ผลงานที่ออกมาเลยไม่โดนใจใครหลายๆคน....แต่ในมุมมองของผม ผมมองว่าประสบความสำเร็จในเรื่องของงาน
โฆษณาเพราะ 1.ชิ้นงานออกมาตรงตามความต้องการของลูกค้า ( บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด )
                        2.การถูกวิจารณ์ทางด้านลบ(ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของสินค้า)ในแง่ของการโฆษณาประชาสัมพันธ์ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะได้รับการกล่าวถึงมากมาย
งานนี้คุ้มครับ....อย่างน้อยก็จะมีอีกหลายๆคนได้รู้จักกับรถยนต์ฟอร์ด เฟียสต้า

น้องสงสัยว่าเขาจงใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ บางทีเหมือนมันสะท้อนอะไรบางอย่าง เหมือนเขาจะพยายามอยากสร้างตัวตนอีกด้านให้กับสินค้าหรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกตุเขาทำงานออกมาให้แหกกฎ ขัดใจ และ ไม่ตรงหลักซักอย่าง มันเหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่า เราจะไม่ตามใครและจะไม่ให้เหมือน อะไรเทือกนั้น และผมว่าถ้าเขาคิดแบบนั้นจริงๆ ผมว่าก็กล้าบ้าบิ่นดี เพราะจะมีซักกี่คนที่อยากเป็นตัวโกงมากกว่าพระเอกหน้าใส ส่วนตัวชอบนะครับ มันขัดหูขัดตาได้ซะใจผมดีจริงๆ จะลองติดตามดูตอนต่อไป (โดนทฤษฎีสื่อเล่นงาน ด้วยคน อิอิอิ...ไม่ชอบนะ แต่ก็รอดู เอ๊ะมันยังไง..? งง กับตัวเองจริงๆ)

ประมาณนั้นครับ
ตัวงาน ต้องทำหน้าที่ของมัน
ถ้าเป็นงานศิลปะ ก็เรื่องนึง
งานโฆษณา ต้องขายของ
งานประชาสัมพันธ์ต้องให้ข้อมูล

ถ้าหากเราไม่ได้ทำงานเพื่อโฆษณา ทำเพื่อศิลปะ จะไม่มี ผิด ถูก ดี รึไม่ดี
รุ่นพี่ท่านนึง กล่าวไว้ ผมจำขึ้นใจ
ไม่มีงานชิ้นไหนดีที่สุด
แต่จะมีงานที่เราพึงพอใจ มากที่สุด

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นกรณี งานศิลปะ
ผมให้ทรรศนะ เป็นแนวคิดว่า

ถ้างานชิ้นนั้นๆที่เราทำ แล้วเราชอบ ก็เอาออกมาให้คนอื่นดูได้ครับ
เพราะ อย่างน้อย งานชิ้นนั้น มีหนึ่งคนบนโลก พึงพอใจมันแล้ว(เราไง)
มันได้ทำหน้าที่มันแล้ว

แต่ถ้างานชิ้นนั้น เราดันไม่ชอบ ก็อย่าปล่อยออกมาหวังว่าคนอื่นจะชอบ
เพราะอย่างน้อย มีคนนึงบนโลก ที่ไม่พอใจมัน และดันเป็นคนสร้างซะด้วย

งงมะครับ....

ขอบคุณทุก เม้นครับ ถึงแม้เจ้าของงานเค้าไมได้มาอ่าน แต่เด็กรุ่นหลังมาอ่าน แล้วจะได้รุ้ว่า การทำงานไม่ได้มีแค่การถ่าย ทำการผลิต มีองค์ประกอบอีกมากมาย การตลาด คนดู คนวิจารณ์ และยังต่อเนื่องไปแบบไม่มีวันจบ

เอ่อ คือ ผมเองก็ยังมือใหม่อะนะครับ ผมไม่ทราบว่างานดีงานแย่ นี่มันต่างกันมากแค่ไหน

เท่าที่ผมรู้สึก คือ มันเล่าเรื่องแปลกๆนะครับ vdo นี้ แล้วก็ มุมกล้องเองก็แปลกๆไปด้วย วิธี speed ภาพก็ดู .....


แต่ผมว่าเค้าย้อม tone ภาพใช้ได้อยู่นะครับ






ผมรู้เท่านี้แหละครับ ใครที่รู้ลึกกว่าผมช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่างานนี้มันแย่ในจุดไหนบ้างครับ ผมจะได้ไม่เอาไปทำกับ MV ตัวที่ 2 ของผม

งานนี้ผมว่าต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆเลย
เท่าที่ตาเห็นด้วยตาตัวเองกับภาพที่ออกมามันแปลกๆนะ