สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 1696เข้าชม
  • 8ตอบกลับ

ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึกษาครับ!

ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
321
เงิน
7698
ความดี
7855
เครดิต
7178
จิตพิสัย
8977
จังหวัด
กระบี่
โพสของคุณ อาจช่วยเหลือเด็ก มัธยม อีกหลาย ๆ คนที่เข้าเสริชในกูเกิ้ล ทำนองขอคำปรึกษา    
ให้เขามีกำลังใจอีกมากมายก็เป็นได้
    ตอนนี้ผมอยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 6 กำลังจะเข้ามหา'ลัยแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ความฝันเปลี่ยนไปมามั่วซั่วไปหมด
ตอน ม.4 คิดว่าจบ ม.6 แล้วจะเรียนนิติศาสตร์
ม.4 เทอม 2 นี่ไง๊! "ผมอยากเรียนวนศาสตร์" (ป่าไม้)
มาตอน ม.5 เอ้า "อยากเรียนรัฐศาสตร์"
และแล้วมา ม.5 เทอม 2 โอ้ววว "อนาคตเราต้องเป็นโปรแกรมเมอร์"
มาม.6 >> เฮ้ยย มั่วไม่ได้แล้วว่ะ ต้องแน่วแน่ สรุปว่า "กูอยากเรียนนิเทศ" ที่สำคัญคือ นิเทศภาพยนตร์
    "โอ้ววว..!! นั่นไง๊ อยากเรียน มหาวิทยาลัยกรุงเทพเว๊ยยเฮ้ยย!"
เวลาผ่านไปครึ่งเทอมหนึ่ง ผมลองลงมือทำหนังสั้น และแล้วก็สำเร็จจากประสบการณ์การอ่านหนังสือมาเป็นร้อย ๆ เล่ม(ส่วนมากเป็นนวนิยาย และวรรณกรรมทุกประเภท) มุมกล้องจากหนังที่ดูสะสมมาตั้งแต่วัยเด็ก จินตนาการจากการฟังนิทานของปู่ย่า ณ หมู่บ้านที่สงบเงียบ และที่สำคัญที่สุด "จิตสำนึก" ที่แม่ปลูกฝังมาั้ตั้งแต่จำความได้ >>>> เรื่อง "รักธรรมชาติ" หนังสั้นเรื่องแรกของผมเลยเกี่ยวข้องกับ "ขยะ" และมีแนวคิดจะสานต่อหนังสั้นแนวนี้แบบไม่มีจุดจบสิ้น
    "วะฮะฮะ ฮ่าาาาาา นี่แหละความฝันของข้า และข้าก็กำลังทำความจริง ให้ไปถึงฝัน ไม่สนว่าใครจะมองยังไงทั้งน๊านนน" นี่คือความคิดลึก ๆ แบบแหกคอกหน่อย ๆ ของผม ผมจะเรียน "นิเทศฟิล์ม" เพื่อจบมาจะได้.............."เปิดร้านอาหาร!!!! เอ้าาาาาา!!!!! แล้วมึงไปเรียนนิเทศทำไมวะ ทำไมไม่ไปเรียน "คหกกรรม" โห่ ไอฟายเอ้ยย!" เอ่อออ... ไม่รู้ว่ะ
..........!!แค่อยากเรียนนิเทศ เพราะอยากเรียน เปิดร้านอาหาร และมาเรียนรู้เอาทีหลังก็ไม่สาย!!...........
    
    ย้อนกลับไป 1 ปี ช่วงปิดเทอม ผมกำลังนั่งวางแผน และจดรายละเอียด "การค้า" ลงในสมุดโรงเรียนเล่มสองฝ่ามือ ในนั้นเขียนเกี่ยวกับ "หลักฮวงจุ้ย" "เงินทุน 8000 บาท" "และก็ น้ำผลไม้ปั่น ประยุกต์" หลังจากนั้นเกือบเดือน ผมก็ได้ที่ที่จะขายน้ำผลไม้ปั่น ค่าเช่าวันละ 100 บาท อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมเพรียง และเริ่มขาย รายได้วันละ 500-700 บาท รายได้จริงประมาณ 300 บาท/วัน
    ระหว่างนั้นก็ทำงานที่ร้านอาหารตอนกลางคืน ได้คืนละ 120 ไม่รวมทิป และโบนัส ผมจึงมีรายได้กว่า 400 บาท/วัน
    ผ่านไป 2 เดือน ปรากฏว่า เจ๊งงงงง!! เลยทำให้รู้ว่า "มึงต้องเขียนบัญชีนะ" "มึงต้องรู้จักคำนวณรายได้ กับค่าน้ำปั่นนะ" (ขายแก้วละ 19 บาท แก้วกระดาษ มีฝาปิดเรียบร้อย และใส่ผลไม้เยอะม๊ากกก!!)
    เจ๊งได้ไม่กี่อาทิตย์ ไม่เข็ด ลุยต่อ ขายข้าวโพดปิ้ง ณ ถนนคนเดิน(ศุกร์-อาทิตย์ ตอนนี้เปิดเทอมแล้ว ม.5 เทอม 1) ฮวงจุ้ยดีเยี่ยม คนเดินหมุนเวียนเป็นพันต่อคืน คราวนี้ขายดีมาก ได้คืนละประมาณ 600 บาท ค่าที่ 100 ข้าวโพดซื้อมาฝักละ 7 บาท ขาย 20 25 และ 30 ผ่านไปเดือนกว่าๆ ปรากฏว่า เจ๊งงง!!
    ไม่เข็ดเว้ยยย เอาอีก ไปรับตุ๊กตาปูนปั้น สำหรับแต่งสวนนบ้านตัวเล็ก ๆ มาขาย ขายได้คืนละ 1000 - 1500 บาท/คืน ที่ถนนคนเดินที่เดิม รายได้จริง ๆ ก็หักครึ่งต่อครึ่ง คือ ประมาณ 700 บาท/คืน แต่แล้วก็เจ๊งงงเช่นเคย
    ..... มันเลยทำให้ผมรู้ว่า "แม้คุณจะเก่งมาจากไหน อดทนแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่รอบคอบ มันก็จบเห่กันหมด"


    เอ๊าาา แล้วผมเล่าทำไมล่ะ
เอาล่ะ กลับมาที่ผม "อยากเรียนนิเทศ" แต่จบมา "เปิดร้านอาหาร" อีกครั้ง
นี่คือเหตุผล ว่าทำไมผมถึงอยากเรียนนิเทศ แต่อยากเปิดร้่านอาหาร พูดกันตามจริง ไม่ได้ยกยอตัวเอง คือ "อยากเปิดร้านอาหารให้แม่" เพราะแม่ฝันมานานแล้ว และทำงานรับจ้างส่งผมเรียนมาเกือบ 20 ปี ผมเลยพยายามหัดค้าขายตั้งแต่อยู่ ป.6 เรื่อยยมาจนถึงมัธยมต้น และ มัธยมปลายที่เล่าไป


เอาล่ะ ที่เล่ามา  "ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" " มันไม่ตรงกันเท่าไหร่
แต่จะตรง นับจากนี้


    มีคนบอก ผมมีพรสวรรค์ด้าน "ทำภาพยนตร์" แต่ผมไม่เชื่อหรอก ผมมีพร "อยากทำ" มากกว่า และทำมันจริง ๆ
รู้สึกรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มต้นทำ ภาพยนต์เรื่องแรก (แม้เพิ่งจะมาเริ่มไม่นานมานี้) ก่อนหน้านี้เคยเขียนนวนิยาย บทกวีด้วย เอาง่าย ๆ คือ ผมชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับ "ศิลป์" แต่แก่นเรื่องสำคัญของโพสนี้ก็คือ


    ผมไม่ได้อยากเรียน "นิเทศฟิล์ม" แล้ว แต่กลับอยากเรียน "ศิลปศาสตร์จีน" มากกว่า
มีเหตุผลหลายประการ คือ ผมเรียนสาขาไรก็ได้ ถ้าผมรักการทำหนังจริง ๆ ผมก็ทำได้ ที่สำคัญ คือ จบภาษาจีนมา !! แน่นอน ทำภาพยนตร์ให้คนจีนดู "รวมทั้งต่างชาติ และไทย" ซึ่งไทยจะเข้า "สมาคมเศรษฐกิจอาเซีัยน ASEAN" ปี 2558 นี้แล้ว ใช่ไม๊ล่ะ ถ้าเราได้ภาษา อย่างอื่นไปเรียนรู้ทีหลังก็ไม่สาย โดยเฉพาะสิ่งที่เรารักนี่ได้เปรียบไปใหญ่ และ........นี่ไง อีกแก่นหนึ่งคือ อีกไม่กี่ปี ไทยเข้า อาเซีัยน คนต่างชาติไหลมามากมาย แน่นอน ในนั้นต้องเป็นพี่ใหญ่ สิงคโปร์(จีนชัด ๆ) และพี่ใหญ่มาก ๆ อย่าง "ประเทศจีน" ผม และหลาย ๆคนต้องเชื่อสิว่า "จีนเล็งเห็นช่องทางทางเศรษฐกิจ" ของอาเซียนเราขนาดไหน ดูได้จาก อาเซียน +3 ที่มี จีัน เกาหลี และญี่ปุ่น ในภูมิภาคอาเซียนเรา และผม จะเอาความได้เปรียบทางภาษาจีัน และความคิดด้านศิลป์ ประสบการณ์จากการค้าขาย(อยู่มหาลัยก็จะขายอีก) ..............>>> มาเปิดร้านอาหาร<<<...............


    55555+!!! แล้วทั้งหมดนี่ ขอคำปรึกษาตรงไหนวะ...?
    ผมพิมพ์ไป 2 บรรทัดกว่า ๆ เลยว่า


......................."ถ้าคุณกำลังจะไปเรียนมหาลัย ลังเลระหว่าง "คณะที่ฝันใว้เรียนแล้วมีความสุขแน่น๊อน ได้เรียนในสายที่เราอยากเรียนเต็มที่" กับ "คณะแห่งความจริง รู้ว่ามีประโยชน์มหาศาลสานฝันได้ในอนาคต แต่ตอนเรียนมหาลัย อาจไม่เต็มที่กับการทำสิ่งที่ตนรักมากมาย(หนังสั้น)" ".....................


คุณไม่อยากเรียนอะไร >> และเำพราะอะไร


ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ขอบคุณจากใจ คืนนี้ ฝากพระจันทร์แสนสวยบอกคุณ ฝันดี


http://www.youtube.com/watch?v=L5UXK8QpLyk อันนี้หนังสั้นผมเองครับ!



ปล.บอกก่อนว่า ไม่ได้ปั๊มวิว ถ้าไม่เต็มใจจะดู ได้โปรดอย่ากดเข้าไป
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
544
เงิน
9933
ความดี
7297
เครดิต
6890
จิตพิสัย
8542
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2012-12-09
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
ทำหนัง แนะนำลองทำหนังจริงๆ จังๆ ถ่ายให้ดีๆ  ใช้นักแสดง มีบทพูด จัดไฟ ลองลงทุนสักหน่อย
ตรงนี้แหละครับที่หนังมันจะเครียด เพราะทุกนาทีคือเงิน
ถ้าทำเยอะๆ แล้วจะรู้เองว่าเราชอบทำหนัง มีความสุขกับมันจริงๆ รึเปล่า
เพราะหนังเองมันก็มีหลายตำแหน่งครับ  หนังก็เป็นสินค้าตัวหนึ่งเหมือนกัน ถ้าชอบทำทั้งคู่ เป้นโปรดิวซ์ได้ครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
321
เงิน
7698
ความดี
7855
เครดิต
7178
จิตพิสัย
8977
จังหวัด
กระบี่
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2012-12-09
ตอบกลับโพสต์ของ([w]riterpict)
     ผมมาคิด ๆ ดูอีกทีแล้วแหละ
         ตั้งแต่เด็กจนโตมานั้น ผมก็ได้ลองขายของอะไรมากมาย คนรอบตัว พี่ ป้า น้า อา ย่า แม่ ก็ค้าขายกันทั้งนั้น ผมเลยมีโอกาสได้ทดลองงานตั้งแต่เด็ก ๆ และรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ของของเราขายได้ และคนซื้อไป "รู้สึกถูกใจ" เมื่อล้มเหลว พลาด เจ๊งงง คราวใด ผมรู้สึกได้ทันทีเลยว่า "หัวใจเต้นแรงมาก ๆ" อยากเอาชนะใจตัวเอง อยากทำให้ได้ดีกว่านี้ ไปกินอาหารที่ไหน ซื้อของร้านไหน ก็คิดไปมั่วซั่วไปหมด อยากเปลี่ยนโน่น เปลี่ยนนี่ เพิ่มโน่น ต้องอบรมพนักงงาน (สงสัยเป็นความโรคจิตส่วนตัว) ตั้งแต่อยู่ประถมแล้วล่ะ 5555!!
         ไม่รู้สินะ แต่ตอนนี้ ผมอยากเรียน "ศิลปศาสตร์จีน" มากกว่าแล้วล่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรมากมายหรอก แค่ว่า ตอนนี้ผมเรียนมัธยม ผมยังทำหนังสั้นเป็นเลย (คนอื่นบอกมา) ถึงมัธยมจะเรียนหนักไม่เท่ามหา'ลัยก็เหอะ แต่ถ้าผมเรียนมหาลัย ผมขยันจริง ๆ "ซึ่งปฏิญาณตนใว้แล้ว" ก็ทำหนัง ควบคู่ไปกับเรียนภาษาได้...
         อีกอย่าง มหา'ลัยที่ผมจะไปเรียน มีกลุ่มลูกค้าเยอะ นักศึกษาเป็นหมื่นคน มีตลาดในมหา'ลัย เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่สำคัญเวลาจะกลับบ้านก็ง่ายเพราะอยู่ห่างกันไม่กี่จังหวัด..............

................... ผมจะเรียน มหาวิทลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต หาดใหญ่ ครับพ๊มมม!
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
93
เงิน
2555
ความดี
1895
เครดิต
1995
จิตพิสัย
2023
จังหวัด
นคราชสีมา
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2012-12-09
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
XD มันเป็นเรื่องธรรมดาครับตั้งแต่เด็กจนโต บ้านผมอยู่ในค่ายทหารมีคุณลุงเป็นทหารอากาศ ผมฝันตลอดว่าโตขึ้นผมอยากจะเรียนโรงเรียนนายเรืออากาศจบมาเป็นนักบิน แต่พอ ตอนจะเข้ามัธยม ผมก็ลืมความฝันที่เป้นนักบินไปเกือบทั้งหมด ผมเริ่มมั่นใจว่า ผมไม่ได้อยากจะเป็นนักบินผมแค่ชอบที่มันเท่เฉยๆ ในที่สุด ผมก็ตัดสินใจเรียนมัธยม นอกจากนั้นที่บ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านคอม ผมอยู่กับคอมมาตลอด ทำเวป ทำโน้นทำนี้ ที่บ้านผมอยากให้ผมเรียนคอม แต่เค้าก็บอกตามใจในทางเลือกและสุดท้ายถึงเวลาที่จะต้องตัดสินใจจริงๆ ผมก็ค้นพบว่า "ทุกครั้งที่ผมได้ถ่ายภาพแล้วผมมีความสุข ทุกครั้งที่ผมได้ออกแบบกราฟฟิคแล้วผมมีความสุข ทุกครั้งที่ผมได้ถ่ายวีดีโอแล้วผมมีความสุข XD รวมถึงตัดต่อด้วยครับผมเลยมั่นใจว่า ผมอยากเรียนนิเทศ" และสุดท้ายผมก็ได้เข้าเรียนนิเทศศาสตร์ครับ ส่วนจบไปจะเป็นอะไรนั้นตอนนี้มีความฝัน แต่ ถึงเวลานั้น มันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันก็ได้ครับ จนกว่าจะเรียนจบ สุดท้ายนี้ อย่าไปซีเรียสเลยครับว่า งานไหนมันทำแล้วรวย งานไหนมันมีประโยชน์ เลือกเรียนในสิ่งที่เรารักครับ ผมเห็นเพื่อนผมที่เข้า ปี 1 มาพร้อมๆกัน ลงเรียนในคณะที่ตนเองไม่ได้ชอบแต่คิดว่าจบไปแล้ว รวย งาน สบาย สุดท้ายก็เรียนไม่จบครับ เพราะมหาลัย มีการบ้าน มีงาน ที่เป็นปฏิบัติในสายอาชีพนั้นๆ พอต้องปฏิบัติมันไม่ใช่ตนเอง สรุปก็ลาออกไปเข้าคณะอื่นครับ อย่างสายนิเทศเอง ผมเรียนที่นิเทศราชภัฏ มีเพื่อนที่เข้ามาเรียนนิเทศเพราะตามเพื่อน สุดท้าย คนพวกนั้นก็ต้องออกไปเพราะมันไม่ใช่ตนเองครับ อย่าง เรียนวิชาข่าว อาจารย์ให้ลงพื้นที่ไปหาข่าว เมื่อเราไม่ได้ชอบที่จะทำงานแบบนี้ ก็ไม่ทำ
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2012-12-09
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
อายุคุณยังน้อย ยังมีเวลาอีกมาก อยากทำอยากลองอะไร ก็ลองก็ทำมันเสียให้หมด อนาคตของชีวิตมันไม่ได้ถูกจำกัดหรือตัดสินกันแค่การเข้ามหาวิทยาลัย หลายคนทิศทางชีวิตเพิ่งจะเริ่มชัดเจน เมื่อจบออกมาเป็นสิบปีแล้วด้วยซ้ำ ...
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
142
เงิน
2055
ความดี
1216
เครดิต
1027
จิตพิสัย
1626
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2012-12-09
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
คืออย่างงี้นะ อะไรมีความสุข ก็ทำไปเถอะ

อันที่จริงผมก็ไม่กล้าบอกใครๆว่า ควรเรียนอะไร เพราะ ผมก็ไม่ได้เรียน ตอนนี้ วุฒิก็แค่ ม.6

อายุก็21ไปแล้ว แต่ก็ไม่ยอมเรียนสักที เหตุผลที่ผมอ้างเพื่อไม่เรียนก็มีมากมายตามแต่ว่าใครเป็นคนถาม

แต่เหตุหลักๆ ที่ผมถามตัวเองคือ เรียนไปทำไม ?

ถ้าคุณตอบได้อย่างชัดเจนและเข้าใจในสิ่งที่คุณตอบจริงๆว่า "เรียนเพื่อหาความรู้" คุณก็เรียนไปเลย เพราะมันคงเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด แต่ถ้าคุณตอบคำถามนี้ว่า เรียนเพื่อจะได้จบ เพื่อจะได้มีวุฒิการศึกษา เพื่อจะได้มีงานที่ดีทำ เพื่อจะได้มีเงินเยอะๆ อันนี้คงไม่ใช่คำตอบที่คุณควรจะเรียน เพราะการศึกษาจะไม่ให้สิ่งนั้นแก่คุณ แต่คุณจะได้กระดาษใบนึงอย่างเขาว่ากัน

มีคนเคยถามผมว่า ผมอยากเป็นอะไร เมื่อไม่นานมานี้ ผมบอกเขาว่า ตอนนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาจึงบอกผมว่า
งั้น ทำอะไรที่ชอบ ค่อยๆทดลองไป อันไหนชอบไม่ชอบ ไม่เป็นไร ถ้ามันไม่ไหวก็กลับบ้าน ที่นี่ยินดีต้อนรับเสมอ  ที่นี่คือบ้านของคุณ

ถามใจคุณเองก่อนให้ได้ว่าคุณต้องการอะไร

อ่อ ละอย่าตัดทางเดินชีวิตของตัวเอง บางทีเราเป็นได้หลายๆอย่างในคนๆเดียว

ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
50
เงิน
1369
ความดี
1246
เครดิต
1181
จิตพิสัย
1213
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
เรียนนิเทศ แล้วไปหัดพูดจีน อ่านจีน เขียนจีน...ก็ได้นี่ครับ  ยากตรงไหน?

บางอย่างไม่เห็นต้องเลือก...ลุยมันทั้งสองเลยดิ ใครมาออกกฏเหรอว่าอยากได้

ภาษาจีนต้องเข้าศิลปศาสตร์ ^^ จริงป่ะครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
415
เงิน
2800
ความดี
4360
เครดิต
4000
จิตพิสัย
7415
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
Re:ทางเดินชีวิต! ที่ต้องเลือก "นิเทศฟิล์ม" กับ "ศิลปศาสตร์จีน" ปรึก ..
ผม งงๆกะชีวิตคุณ  เหมือนคุณจะเด่นไปด้านค้าขายมากกว่านะ....เพียงแต่คุณพลาด เพราะคิดว่ายังไงก็ขายได้....

แนะนำแบบคนที่เคยเรียน ช่าง จบ ปวช ไป ปวส  เรียนต่อวิศวะตรี แล้วหันหัวมานิเทศ จนทำงานด้านนิเทศ....

เรียน 2 อย่าไปพร้อมกันเลยดีไหม๊ครับ...ให้ความห่าง ต่างกันอย่างละ 1 เทอม  ( ถ้าไหวนะ.. )

เลือก หลักที่  มหาลัยที่อยากเรียน ..... ผ่านไปซักเทอม มองมหาลัยเปิด ที่เป็นโอกาสให้กับคนส่วนใหญ่ ที่พลาดหวังจากการเรียนในระะ แอด..

แนะนำ ตามนี้....  1. เรียน หนัง กับ มหาลัยที่น้องว่า่ แล้ว มาเรียนภาษา ที่มหาลับเปิดดีกว่าครับ...

ภาษา ด้านทักษะ มหาลัยเปิดและปิดคงไม่ต่างกันมาก แต่นิเทศด้วยความพร้อมหลายๆด้านคงต่างกันเหันๆ  เลือกให้ดี....

จบข่าว..
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
321
เงิน
7698
ความดี
7855
เครดิต
7178
จิตพิสัย
8977
จังหวัด
กระบี่
ตอบกลับโพสต์ของ([w]riterpict)
http://www.youtube.com/watch?v=L5UXK8QpLyk ขอโทษครับ!
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้