คนโลวเทคโนโลยี แต่ไอเดียดีจะเป็นผู้กำกับหนังได้ไหมครับ

มีรุ่นพี่ผมคนหนึ่งเรียนปี 4 แกไอเดียดีมากนะครับ เขียนบทก็เก่ง ผมเห็นแกทำหนังทีซีสส่งอาจารย์ก็โอเคเลย

ผมว่าแกน่าจะเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ได้ แต่แกบอกไม่อยากเป็นผู้กำกับหนัง แกจะไปทำอาชีพอื่น ผมถามว่าทำไมล่ะพี่ แกตอบว่า

"พี่โลวเทค เรื่องกล้องก็ไม่รู้เรื่อง ตัดต่อหนังก็ไม่เป็น อุปกรณ์อะไรใช้ไม่เป็นสักอย่าง ไม่อยากไปถูกใครเหน็บเจ็บๆแสบๆใส่"

ตอนทำหนังสั้นแกก็ไม่ได้ถ่ายภาพเอง ไม่ได้ตัดต่อหนังเองนะ แต่แกเล่าเรื่องได้ดีนะพี่  รู้มุมกล้องหมด ว่าต้องวางยังไง จับภาพยังไง แกรู้หมด สั่งงานในกองก็โอเค ใจดีมาก ทีมงานรักแกทุกคน แต่แกมาเข้าใจว่าโลวเทคคงเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ไม่ได้ ผมว่ารุ่นพี่เข้าใจผิดนะ ผมว่าน่าจะเป็นผู้กำกับได้  เพราะแกเองก็ไม่เคยไปฝึกกองหนังใหญ่ ไม่เคยเจอของจริง  

ผมหรือรุ่นพี่คนนั้นเข้าใจผิดกันแน่ครับ

ได้ความรู้มากเลยครับ ได้รู้จากเนทก่อนก็ดีครับ เพราะพวกเด็กม.ต้นแบบผมไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไหนไปทำงานกองถ่าย ผมเคยไปเ็็ป็น extra เรื่องคุณชายพุฒิพัฒน์อยู่สองวัน ก็รู้เลยว่าไม่มีใครมาตอบข้อสงสัยของเราได้แน่ ๆ เพราะทุกคนต่างทำงาน  ถ้าไปถามมีหวังโดนด่า  ถ้ามีใครมาสอนงานกองถ่ายในอินเตอร์เนทให้อ่านก็ถือว่าเป็นการดีมากเลยครับ  เป็นความรู้เบื้องต้น ขอบคุณจริงๆทั้งคนถามและคนตอบครับ

ยืนยันตามนั้นครับ ความรู้ในกระบวนการทำหนังทุกขั้นตอนเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนเป็นผู้กำกับต้องรู้ แต่จะรู้ลึกรู้จริงขนาดใหน อยู่ที่ background ของคน ๆ นั้นด้วย รวมถึงประสบการณ์ที่ค่อย ๆ เพาะบ่มตามเวลา ...

ผู้กำกับบางคนอาจจะไต่ระดับมาจากลูกหม้อโปรดักส์ชั่น ก็ไม่ผิดที่จะรู้รายละเอียดอุปกรณ์ลึกซึ้ง ถึงขนาดใช้ได้ ทำเป็น แนะนำ/สั่งทีมงานได้ ... ผู้กำกับบางคนอาจจะมาจากสายงานโพสต์ ก็จะรู้เทคนิค-วิธี แม้กระทั่่งนั่งทำเองเลย ก็ไม่แปลก ... หรือ บางคน อาจจะเพิ่งจบมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ โปร-โพสต์โปรดักส์ชั่น ไม่เป็นประสา แต่ไอเดียดี วิธีคิดได้ สื่อสารชัดเจน จะถูกวางให้เป็นผู้กำกับเลย ก็มี ...

ผู้กำกับ (เก่า ๆ) ที่ผมเคยร่วมงานด้วย มักจะมาจากสายโปรดักส์ชั่นซะส่วนมาก และค่อนข้างอ่อนแอเรื่องเทคโนโลยีคล้าย ๆ กันทั้งนั้น แต่งานก็ออกมาดีถึงดีมาก ... เพราะสุดท้ายไม่ว่า background จะมายังไง ประสบการณ์ขนาดไหน หน้าที่ของผู้กำกับในกองก็คือ "กำกับ" ครับ ...

ครับปีหน้าขึ้นปี 4 ผมต้องไปฝึกงานในกองถ่ายแน่นอนครับ

ตอนนี้เพิ่งเรียนปี 3 เทอม 1 เองครับ

         รบกวนหยุดทะเลาะกันครับ    ผมสรุปให้ว่าต่างคนต่างถูกก็แล้วกัน ที่ว่าเรื่องเรียนทฤษฎีก่อนมันก็ถูก เพราะคนเราเกิดมาก็ต้องเข้าโรงเรียนศึกษาหาความรู้ก่อนอยู่แล้ว พอเรียนจบเมื่อไร(วุฒิไหนก็แล้วแต่) นั้นแหละมันถึงเวลาที่เราต้องค้นคว้าขวนขวายหาทั้งทฤษฎีที่เรายังไม่รู้และแนวทางปฏิบัติว่าต้องทำอย่างไรบ้างกับสายงานที่เราจะทำ ยิ่งหาประสบการณ์จากการลงสนามจริงหรือไปขอฝึกงานในกองถ่ายก็ได้ความรู้เยอะเหมือนกันน่ะครับ
        
         สิ่งไหนที่เขาไม่รู้ก็ไม่ผิดครับ แต่ตอนนี้น้องเขารู้แล้วว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรในเว็ปนี้ ให้อภัยก็จบครับ ถ้ายังทะเลาะกันอยู่ผมจะไม่เข้ามาตอบคำถามและเผยแพร่ความรู้ต่างๆแบบสาธารณะอีกน่ะครับ ผมจะถือว่าผมเข้ามาผิดเวปก็แล้วกัน   



      

ที่ผมบอกว่า ผมเข้าใจครับพี่ ผมแค่เปรียบเปรยน่ะครับ ว่าผู้กำกับต้องรู้ถึงขนาดไปทำแทนได้หรือเปล่า (ประชดน่ะ 555) เพราะจริงๆคงไม่มีผู้กำกับคนไหนไปนั่งทำแทนหรอก   555555555  

ผมขอชี้แจงนะครับว่า ผมกับเจ้าของกระทู้ค่อนข้างสนิทกัน แล้วรุ่นพี่ที่จขกท. เอ่ยถึงสมมุติชื่อพี่ อ.
ผมก็สนิทด้วย คือเคยไปช่วยงานตอนแกทำหนังทีซีส ก็มีคนพูดว่าแกน่าจะเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ได้  แกก็บอกว่าแกโลวเทคโนโลยีคงเป็นไม่ได้หรอก

คราวนี้เมื่อเร็วๆนี้เจอเจ้าของกระทู้และพี่คนนั้นก็คุยเรื่องนี้กันอีกก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ผู้กำกับต้องรู้ทุกอย่าง เราก็เลยมีเรื่องโต้แย้งกัน  ผมเลยบอกว่าจะมาถามพี่เจย์ให้ รออ่านในกระทู้ก็แล้วกัน

พอถามผมก็เลยประชดใส่ทั้งเจ้าของกระทู้และพี่อ.ครับ ว่าผู้กำกับต้องรู้ทุกอย่างขนาดนั้นเหรอ  แต่ผมไม่ได้ระบุรายละเอียดไปว่าผมประชดใส่ใครไงครับ ผมไม่ได้ประชดพี่เจย์นะครับ

ที่ผมมาถามในกระทู้นี้ก็เพราะว่าผมอยากให้เจ้าของกระทู้และพี่อ.อ่านน่ะครับ ประโยคที่คุยบางอย่างผมเลยอิงไปถึงพวกเขาด้วยน่ะครับ

ถ้าหากว่าทำให้พี่ๆไม่สบายใจหรือคิดว่าเป็นการไม่เคารพพี่เจย์อย่างไร ผมก็กราบขออภัยด้วยนะครับ

อ่านสิ่งที่ผมเขียนให้ดีๆครับ มันอธิบายไว้ได้ชัดเจนแล้ว
แสดงว่าคุณไม่เข้าใจถึงได้มีอาการแบบนี้

เงียบไปเลยทั้งคนถามคนตอบ
คุณ sticky ครับ ขอเถอะนะครับ  คนที่อยากรู้ไม่ใช่มีแค่น้อง shortfilm นะครับ ผมบอกได้แค่นี้
ให้เขารู้ทฤษฏีไปก่อนเป็นพื้นฐานก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ไม่อย่างนั้นมหาวิทยาลัยต่างๆคงจัดวิชาเรียนปฏิบัติหมดไปแล้ว ไม่ต้องมีทฤษฏีหรอก

เท่าที่อ่านดู
น้อง shortfilm คงคิดตามความเข้าใจของเขา
คุณ jaysoundman ก็คงไม่ได้ใส่ใจตรงส่วนนั้น
vfspostwork  ก็เตือนด้วยความหวังดี
dnh แฟนพันธุ์แท้ตามมาจากเวบอื่น ระแวงว่าจะมีปัญหาสะดุด กลัวไม่ได้อ่านต่อ
mr.nantawat  รอกินม่าม่า เผื่อมีมาม่าเกิดขึ้น

ทุกคนก็ล้วนมีเหตุผลของตัวเอง
ผมเองก็อายุ 30 กว่าใกล้เลข 4 แล้วนะ ผ่านโลกมาก็มาก ขอบอกว่าเรื่องพวกนี้มันเล็กน้อยเองนะ
ถ้าเทียบกับสิ่งที่เราต้องเจอกันข้างนอก
ผ่อนได้ก็ผ่อนกันบ้าง อย่าตึงอย่าหย่อนเกินไป อย่าเอาทิฐิของแต่ละคนเป็นที่ตั้ง เดินสายกลางกันดีกว่า

ขอบอกอีกครั้งครับว่า
ถ้าพบกันครึ่งทางกัน เดินสายกลางกัน ลดทิฐืแต่ละฝ่ายลง ก็รับรองไม่เกิดดราม่าขึ้นแน่นอนครับ
พี่ขอให้ทกุคนรักกันไว้ครับ วงการนี้แคบนักหนา     พี่หวังว่าจะไม่เกิดดราม่าขึ้นในกระทู้นี้นะครับ

ดูแนวแล้วจะออกไปทางอยากรู้ไปหมดน่ะ ผมก็เคยเป็นแบบนี้สมัยวัยรุ่น
สุดท้ายมานึกได้ว่าผู้ใหญ่เขาไม่ค่อยโอเคซักเท่าไหร่เลย
และความรู้หลายๆอย่างที่อยากรู้อยากเห็นไปหมด
เอาเข้าจริงไอ้ที่ถามๆไปแทบไม่ได้มีประโยชน์กับชีวิตมากมายนัก
มาได้คำตอบที่ชัดเจนและถูกต้องจากการทำงานจริงมากกว่า

ถ้าอยากลุยจริงทักษะเกิดได้จริง ก็ต้องเอาตัวเองไปประกบกับพี่ๆที่เป็นโปรเขาในการทำงานจริงๆไปเลย
ถ้าจะประกบพี่เขาในบอร์ดเราก็แค่คนอยากรู้ที่รู้มากจนความรู้เป็นพิษเพราะชีวิตไม่ได้ออกไปทำจริงซักที

หาวิธีลงสนามจริงไปเลย ของแบบนี้มันต้องวัดใจตัวเอง ต้องกล้าทุ่มกล้าเสี่ยง
มีหนทางสำหรับแต่ละคนแน่นอนที่มีความกล้าและยืนหยัด
ดีกว่ากลายเป็นพวกอยากทำแต่พอเจออุปสรรคก็มาโอดครวญว่าขาดโอกาส คนแบบนี้มีอยู่ถมเถไป
และมีเยอะขึ้นเรื่อยๆในบอร์ด

  



(ปูเสื่อ ต้มมาม่ารอ เผื่อมีมวย...)






ว่าแต่สมัครมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะรึเปล่าหนอ? แบบว่าสมัครมาปุ๊บ โพสต์แรก ก็ดราม่าปั๊บเลย...

  เอาเป็นว่าน้องเขารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็แล้วกัน แต่คิดว่าที่น้องเขาถามมามันคือสิ่งที่เขาสงสัยจริงๆ เรื่องการใช้ภาษาก็ถูกของคุณ  vfspostwork น้องเขาคงไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่ก็ได้ตักเตือนไปแล้ว ถ้าเขาได้อ่านเดี๋ยวเขาก็คงจะปรับปรุงเรื่องมารยาทและการใช้ภาษาเองล่ะครับ

#10 รอคำตอบจากใครเหรอ? ใครคนไหนที่จะทำให้น้องตัดสินใจได้? ...
นี่คุณ Iteam คุยกับเจ้าของกระทู้ไม่ใช่เหรอครับ ไม่ได้คุยกับน้อง shortfilm นะ อ่านให้แตกซิครับ

ใน# 14 คุณไปโควทข้อความ #9 มาไม่ใช่เหรอครับ ไม่ใช่ # 12 สักหน่อย
แต่ถ้า # 12 การที่ว่าน้อง shortfilm ประชดใส่นั้นเพื่ออะไรเป็นอันว่าให้เขามาตอบเองก็แล้วกัน
ส่วนคุณ jaysoundman  รู้สึกอย่างไรนั้น ไม่พอใจหรือเปล่าก็ให้เขามาตอบเอง อย่าเพิ่งไปตัดสิน เป็นเรื่องของเขา 2 คน
ผมขอเถอะนะเรื่องหยุมหยิมไม่เป็นสาระแบบนี้อย่าเอามาใส่ใจเลยจะดีกว่า ไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ น้อง shortfilm หยุุมหยิมหรือไม่นั้นผมไม่ทราบ แต่ที่ทราบคือคุณนี่ล่ะหยุมหยิมเหมือนผู้หญิงสุดๆ
ทุกอย่างสะดุดไปหมดเลย คนรออ่านเยอะอยู่นะคุณ

คุณ dhn งงอะไรครับ

หลังโพสต์ #9 ของน้อง shortfilm มีอีก 3 คนตอบแย้งในโพสต์นั้นอยู่ในทิศทางเดียวกัน รวมถึงเจ้าตัวก็ออกมาเฉลยว่า "เปรียบเปรย/ประชด" ... แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่า "จะมีการดูหมิ่นเกีรยติคุณ jaysoundman" ท่านไปเอามาจากไหน ผมเขียนอยู่แค่ 3 บรรทัด อ่านเข้าใจง่าย ๆ ผมบอกว่า "ขอให้มีความนับถือกันสักหน่อย" เท่านั้นเองครับ ...

#9

อ้างอิง

แต่ที่พี่พูดบอกว่า

ผู้กำกับต้อง รู้ด้านอุปกรณ์ถ่ายทำทั้งหมดด้วยทั้งภาพและเสียง รู้เทคนิคการถ่ายทำชั้นสูง เช่น บลูสกรีน CG ฉากรถชน ฉากเสียงตาย ต้องทำยังไงต้องรู้หมดครับ  

หมายถึงต้องรู้ประมาณไหนครับ ต้องรู้แบบชนิดที่ว่า ถ้าพี่เจย์ป่วยผู้กำกับสามารถไปคุมเสียงแทนพี่เจย์ได้เลยเหรอครับ สั่งพี่เจย์ปรับเสียงแทร็คโน่นแทร็คนี่ได้เลยว่าเสียงแตกเสียงเบา รู้ชื่อเครื่องมือที่พี่เจย์กำลังคุมเสียงหมดทุกอย่าง ปุ่่มอยู่ตรงไหนรู้หมดสั่งงานพี่เจย์ได้หมดเลย  ,ถ้าตากล้องไม่มาผู้กำกับสามารถไปถ่ายภาพแทนตากล้องได้  ตากล้องใช้เลนส์ไม่ไดนใจผู้กำกับสั่งเปลี่ยนเลนส์ใหม่ได้เลย เพราะผู้กำกับรู้เรื่องเลนส์หมด ,หรือว่าคนทำ CG จากบลูสกรีนไม่ถูกใจผู้กำกับก็สามารถไปนั่งทำ CG แทนได้เลยอย่างนั้นหรือเปล่าครับ

ผมถามเพราะไม่รู้จริงๆนะครับ ตอนนี้ผมกับเพื่อนรออ่านคำตอบของพี่หลายคนเลยครับ

#10 รอคำตอบจากใครเหรอ? ใครคนไหนที่จะทำให้น้องตัดสินใจได้? ...
#11 ที่น้องคิดมามันผิดครับ ...
#12 ผมเข้าใจครับพี่ ผมแค่เปรียบเปรยน่ะครับ ว่าผู้กำกับต้องรู้ถึงขนาดไปทำแทนได้หรือเปล่า (ประชดน่ะ 555) เพราะจริงๆคงไม่มีผู้กำกับคนไหนไปนั่งทำแทนหรอก   555555555 ...
# 14 อ่านแล้วก็รู้สึกว่า "ไม่เหมาะ" นะครับ ...

พอจะมองออกไหมครับ เด็กเล่นหัวผู้ใหญ่จนเลยเถิดแบบนั้น มัน "ไม่เหมาะ" ไงครับ เห็นก็ถึงได้เตือนไป ถ้ายังไม่กระจ่าง อ่าน #9 กับ #12 น่ะครับ จะมาเปรียบเปรย-ประชด-หยอกล้ออะไรกันเป็นย่อหน้าขนาดนั้น เพื่อจุดประสงค์อะไร ทั้ง ๆ ที่ตัวเองบอกรู้แล้ว มันจึงไม่เหมาะ เพราะคุณ jay ตั้งใจตอบ ดูเฉพาะประเด็นที่ว่าเปรียบเปรย/ประชดใน #9 นั่น คุณ jay เสียเวลาทั้งอธิบาย-ทั้งยกตัวอย่างอย่างตั้งใจไป 1 โพสต์ใน #11 ก่อนจะมาบอกว่า "ผมเข้าใจ ผมแค่เปรียบเปรย / ประชดน่ะ 555" ... ในเมื่อเข้าใจอยู่แล้ว จะมาประชดใคร ? อะไร ? ยังไง ? มันใช่เวลาที่จะมาทำแบบนั้นหรือ ? เพราะ ณ.ตอนนี้เห็นแต่มีคนที่กำลังให้ความรู้ให้ประสบการณ์ตรงกับคุณอยู่ ...

เมื่อมีผู้ใหญ่ยินดีสละเวลามาให้คำตอบ ควรจะใช้คำถามแบบสร้างสรรค์และไม่ฟุ่มเฟือย ถูกไหมครับ ไม่ใช่มายอกย้อน/ประชดอะไรแบบนั้น ควรให้ความนับถือกัน นาน ๆ จะมีคนมาสละเวลาให้ความรู้แบบนี้กันสักที คนทำงานไม่ได้มีเวลามากนักนะครับ ... พอเห็นผ่านหูผ่านตาลักษณะนี้ผมก็ต้องตักเตือนกันไปเท่านั้นเองครับ ...

ถ้าจะย้อนกระทู้เก่า ๆ ของน้อง shortfilm นี่ผมก็เห็น ๆ อยู่ ก็ออกแนวล่อเป้า ๆ หน่อย ๆ เป็นเรื่องหยุมหยิม ๆ ไม่ค่อยเป็นสาระ ดีแต่ว่าไม่ค่อยมีคนสนใจสักเท่าไหร่ ผมก็เคยแนะนำไปว่า กระทู้ลักษณะนี้เข้า thaishortfilm ดีกว่าครับ เพราะอันนั้นเป็นแนวทำหนังโดยตรง ...

คุณ dhn พอจะกระจ่างบ้างแล้วนะครับ ความจริงอยากเตือนแค่สั้น ๆ เท่านั้นเอง (ตอนแรก msg ด้วยซ้ำ แต่ส่งไม่ผ่าน) ไม่ได้อยากจะสาธยายยาวขนาดนี้เลย ...

อ้างอิง

อ้างอิงโพสต์14 ต้นฉบับโพสต์โดยvfspostworkเมื่อ2013-06-13 11:15เผยแพร่ :


อ่านแล้วก็รู้สึกว่า "ไม่เหมาะ" นะครับ ถึงพี่เค้าจะดูแลด้านเสียง ไม่ได้ใหญ่โตคับกองถ่าย แต่ก็มีน้ำใจ นำประสบการณ์ในส่วนงานระดับอาชีพจริง ๆ มาถ่ายทอดให้พอประติดประต่อเรื่องราวได้ และ ตอบคำถามใครหลาย ๆ คนที่ยังนึกภาพการทำงานในกองถ่ายอาชีพไม่ออกได้มากทีเดียว ... จะร้อนวิชามาจากไหนก็ขอให้มีความนับถือกันสักหน่อยนะครับ

ผมอ่านแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรไม่เหมาะสมตรงไหนนะครับ  คิดเยอะไปหรือเปล่า
ผมก็ติดตามอ่านกระทู้ที่น้อง shortfilm ถามคุณ jaysoundman มาหลายกระทู้ก็ไม่เห็นว่าจะมีการดูหมิ่นเกีรยติคุณ jaysoundmanตรงไหน


เห็นน้องช๊อตฟิล์มกราบคุณ jaysoundman แทบทุกรี แสดงว่าน้องนับถือคุณ jay อยู่มากทีเดียว ผมเองก็อ่านจากเวบไซด์อืนที่น้องคนนี้เอาไปลง น้องเรียกอาจารย์ jay ด้วยซํ้า ผมเลยตามมาอ่านที่นี่ล่ะ  ผมว่าน้องไม่มีเจตนาดูหมิ่นอะไรคุณ jay นะครับ ดูที่เจตนาดีกว่าไหมครับ เขากำลังให้ความรู้กันอยู่ดีๆ ผมว่าอย่าชักใบให้เรือเสียดีกว่ามั้ง  คนกำลังตามอ่านกันเยอะนะ  แต่เขาพยายามไม่ถามแทรก เพราะรู้ว่าจะเสียมารยาท เดี๋ยวเกิดการสับสน เหมือนพิธีกรกำลังสัมภาษณ์ผู้ชำนาญงานก็ควรฟังให้จบก่อน มีอะไรไม่เข้าใจค่อยยกมือถามทีหลัง แต่กรณีการยกมือขัดของคุณ มันดูแล้วไม่เข้าที่เข้าทางเลย จะว่าไม่เข้าใจก็ไม่ใช่ เพราะเป็นการพูดที่ไม่เข้าประเด็นของเรื่องเลย  


ผมว่าต่อไปน้อง shortfilm และ คุณ jaysoundman ก็คงต้องมาเคลีย์กันอีก (เห็นไหมล่ะ แทนที่คำถามจะดำเนินต่อไป ก็สะุดุดจนได้กับเรื่องไร้สาระ คิดเยอะของคุณนะครับ)