ว่าด้วยเรื่อง Jib Crane ราคาประหยัด

ผมมีโครงการทำ Jib Crane ราคาประหยัดครับ ตอนนี้ยังไม่มีรูปร่าง แค่คิดโครงการไว้

อยากทราบว่า อะไรคือความต้องการของ Jib Crane ในราคาขาย 4000 บาท

น้ำหนัก- ควรมีน้ำหนักซักเท่าไหร่เพื่อจะติดตั้งบนขาตั้งกล้อง
ความยาว- ควรมีความยาวพื้นฐานสักเท่าไหร่ในงบที่ว่า
การก้ม-เงย ตัวกล้อง- ฟังชั่น ก้ม-เงย กล้องที่หัว Crane จำเป็นแค่ไหนในงบที่ว่า
การแพนซ้ายขวาตัวกล้อง- ฟังชั่น แพนซ้ายขวา กล้องที่หัว Crane ควรมีไหมในงบที่ว่า

ตอนนี้กำลังเร่งศึกษารูปแบบ เก็บเกี่ยวประสบการ เพื่อนำมาพัฒนาตัว  Jib Crane ให้มีประสิทธิภาพสูง
เพื่อใช้เองเป็นงานอดิเรก(ใจรักเฉยๆ) และจัดจำหน่ายในราคาถูก(ราคานักศึกษา ผมเข้าใจดีผมเปฌนมาก่อน)

ก่อนหน้านี้ผมมีโครงการ Steadicam ราคาถูก(นักศึกษาอีกนั้นแหละ) ตอนนี้ได่สรั้งโมเดลกระดาษ 1:1 เสร็จแล้ว
แต่ด้วยความที่ไม่ว่าง ต้องเลี้ยงลูก เลยไม่ได้ออกไปจัดการสร้างตัว DEMO อลูมีเนียมซักที

ขอบคุณครับ

อัพเดท ขณะนี้ตัว เครน ทำการออกแบบเสร็จเรียบรอย
สเปคคร่าวๆ
-ยาว 1.2 เมตร หรือตามต้องการ
-สามารถ ก้ม-เงย ที่หัวเครนได้
-สามารถหมุนตัวเครนโดยไม่ใช้ใหั pan บนขาตั้งกล้อง
-ปรับหนืด ในการยก ขึ้น-ลง ได้

ส่วนฟังชั่นแพนซ้ายขวาตัวกล้องที่หัวเครน ผมออกแบบแล้ว แต่มันเกินงบไป เลยไม่ได้จัดอยู่ในชุด

สนใจ ครับ รอติดตามชมผลงาน

ขอบคุณท่าน vfspostwork มากครับ ยังไงผมก็พร้อมรับฟัง และผมถือว่าสิ่งที่เขียนมาเป็นประโยชน์มากสำหรับผม

ผมยังอ่อนประสบการในมุมมอง ตากล้อง, ผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์, ช่างตัดต่อ แต่ผมถนัดไปทาง คิดวิเคราะและออกแบบ (แต่ไม่ได้จบทางนี้)

ตอนนี้ตัวเครนผมออกแบบไป 60% แล้ว รวมถึงระบบก้มเงยหัวกล้องโดยไม่พึ่งหัวแพนจากขากล้อง ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นระบบที่ผมคิดในเครนยี่ห้อไดๆ

ยี่ห้ออื่นๆ ต้องพึ่งหัวแพนบนขากล้องอีกที ผมจะทำโดย สวมเครนเข้าไปบนขา แล้วใช้ได้ทุกฟังชั่นเลย

ผมศึกษาหลักการหลักๆและใส่ลูกเล่นเข้าไป

ส่วนตัว steadicam ผมก็คำนึงถึงการ copy และการใช้งาน  ดีครับ เพราะตอนนี้ ตัวโมเดลที่ผมมีอยู่ ไม่เหมือนกับตัวต้นแบบ ซื่งต่างกันราว 80 %

ซึ่งตัวโมเดลผมออกแบบมาให้ยืดหยุ่นต่อขนาดกล้องหลายขนาดอยู่แล้ว แต่จะดีแค่ไหน ต้องไปว่าและปรับปรุงกันจากตัว DEMO

สิ่งเดียวที่คล้าย แต่ไม่เหมือน ตัวต้นแบบขาของตัว steadicam ใช้อลูมีเนียมทรงกลมเหมือนกัน แต่ขนาดความยาว และรูปลัก รวมไปถึงการประกอบ ต่างกันครับ

จริงๆแล้วตัวต้นแบบ ผมก็คิดจะ COPY แต่พอจะทำผมก็ได้คำนึงถึงความเหมาะสมว่ามันไม่ควร และเราไม่ทราบเสป็คที่แท้จริง ผมจึงเปลี่ยนออกแบบใหม่

จนตอนนี้ผมคิดได้ว่า steadicam ตัวนั้น เป็นตัวจุดประกายของผมไปแล้ว แทนที่จะเป็นต้นแบบเหมือนตอนแรก

ผมได้ทำการติตต่อพี่ช่างภาพไว้ส่วนหนึ่งแล้ว เพื่อทดสอบอุปกรณ์ให้ผ ตอนทำ DEMO เสร็จ ซึ่งผมคาดหวังว่าจะช่วยผมคอมเม้นได้ในเรื่อง บาล้าน

ยังไงคอมเม้นเข้ามากันเยอะๆน่ะครับ ต้องการคำแนะนำ และความต้องการของผู้ใช้งาน

พยายามมองงานในมุมของคนที่ทำงานให้ชัดเจน แล้วก็จะได้เหตุผลของความจำเป็นในการมีอยู่ของอุปกรณ์และฟังชั่นต่าง ๆ นั้นเองครับ ...

ความชัดเจนตรงนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อได้ลองพยายามเป็น-คิด-ทำในมุมของ ตากล้อง, ผู้กำกับ, โปรดิวเซอร์, ช่างตัดต่อ หรือใครก็แล้วแต่ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับด้านภาพ, ลำดับภาพ, คิดเรื่อง, เล่าเรื่อง, คุมอารมณ์ของภาพ ฯ แล้วจึงคิดอุปกรณ์มาตอบสนองตรงนั้น แล้วใช้ความสามารถในเชิงช่างนำเสนอความคิดในเชิงสร้างสรรค์ต่อยอดออกไปให้ได้มากกว่าความจำเป็นพื้นฐานและความความคาดหวังของกลุ่มผู้ใช้ ...

สิ่งที่ควรระวัง และ มีโอกาสทำให้ไม่ประสบความสำเร็จ คือ การก๊อปปี้สิ่งที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะแต่เพียงโครงสร้าง โดยไม่ได้เข้าใจหลักการ-หัวใจของอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างแท้จริง, การคิดและทำในมุมมองของช่างแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้เข้าไปสัมผัส-ไม่ได้ไม่เข้าไปเรียนรู้เข้าใจงานให้ถ่องแท้ ก็จะนำมาซึ่งการนำสนอหรือยัดเยียดอะไรก็ตามที่ผู้ใช้ไม่ต้องการได้ ...

* เสริม : เช่นกรณี steadicam คุณควรกำหนดของเขตของน้ำหนักที่ steadicam จะแบกรับเสียก่อน ว่ากว้างแค่ไหน เช่น อาจจะให้รับตั้งแต่กล้อง handycam ไปจนถึง dslr ติดเลนส์ ช่วงน้ำหนักอาจจะประมาณ 300 กรัม ไปจนถึง 1,500 กรัม แล้วจึงร่างแบบ steadicam คร่าว ๆ ออกมา แล้ววางน้ำหนักเพื่อคำนวนจุดศูนย์ถ่วงเมื่อวางอุปกรณ์แต่ละขนาดลงบน steadicam นั้น (300-1,500 g) แล้วจึงทำการปรับแต่งแบบจากค่าที่ได้ ถึงจุดนี้คุณถึงจะได้ขนาดและรูปทรงที่แท้จริงของ steadicam ว่าควรจะเป็นเท่าไหร่ ระยะปรับควรจะเป็นเท่าใด เพื่อให้สามารถรับช่วงน้ำหนักดังกล่าวได้ ... ในทางกลับกัน ถ้าคุณลอกแบบ/ตัวอย่างมา โดยไม่รู้/เข้าใจเลยว่าตัวเลขที่คำนวนก่อนจะมาเป็นสเปคในแบบนั้นเป็นอย่างไรมีค่าเท่าไหร่ คุณก็จะจบและหยุดอยู่แค่ตรงนั้น ยิ่งเมื่อไปถึงผู้ใช้แล้วปัญหาเกิด อาจจะมาจากแบบได้ทำไว้ไม่รองรับ ฯลฯ คุณจะตอบและแก้ไขให้ลูกค้าได้ไม่ชัดเจน ส่วนการจะคิดหาทิศทาง/แนวทางการพัฒนาต่อยอดนั้นยิ่งเลือนลาง ...

ทำได้หมดนั้นไหม เอาจริงมันก็ทำได้ครับ อยู่ที่กรรมวิธีการออกแบบ แต่ด้วยงบที่จำกัด จะทำได้ดีพอหรือไม่นั้นอีกเรื่องนึงครับ อาจจะให้ผลลัพที่ดีไม่พอจนบางครั้งต้องตัดฟังชั่นออกไป

ยังไงผมรอคำแนะนำจากหลายๆคนอยู่น่ะครับผม ยิ่งเยอะ ยิ่งเรว ยิ่งดี

เพราะตอนนี้ผมว่างงานอยู่บ้าน มีภาระอย่างเดียวคือลูก แต่ก็มีเวลามากโขเลยที่จะนั่งคิดออกแบบ กลไก อยู่กับลูกที่บ้าน

ว่างจนขนาดคิดโครงการไปถึง ดอลลี่ไฟฟ้า ราคาประหยัดแล้วครับ โทรเชคสอบถามอุปกรอะไหล่กันวุ่นเลยทีเดียว แต่ราคาประหยัดฟังชั่นก็มีจำกัด คือทำได้เฉพาะการควบคุม ซ้ายขวา และความเร็ว เท่านั้นเอง

ขอบคุณครับ

4000 ได้หมดนั่น ผมจองคนแรกเลยครับ