ถึงเวลาที่โปรดิวเซอร์กำลังจะตาย,,,

..ขึ้นหัวข้อแบบเกรียนๆอย่าเพิ่งตกใจนะคับ ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้อยู่นานแต่หาตัวช่วยไม่ได้
จนวันหนึ่งได้ดูรายการ marketing ideas  ทางทรูวิชั่น แปลกแหวกแนว ทั้งมุมกล้อง
และตัดต่อใครยังไม่เคยดูอยากให้ดู จบแล้วค่อยกลับมาคุยกัน..( ดูแบบเร็วไม่ต้องฟังเสียงก็ได้คับ)
http://www.youtube.com/watch?v=EFt9HL_pNWY


...ดูจบแล้วต้องบอก รายการนี้ช่างกล้า ( กล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำ และกล้าแหกกฏทุกข้อที่ห้าม )
- ไม่ใช้เครน ,ไม่ใช้ดอลลี่,  ไม่ใช้ตัวบิน ไม่ใช่ขากล้อง ใช้เดินถ่ายอย่างเดียว ( มันส์มาก )
นาที 8.10 เห็นช่างภาพ นาที 27.59 เห็นกล้อง ( ไม่ต้องถามใช้กล้องรุ่นอะไร ช่างภาพเป็นใคร )
ใครที่เคยเม้นท์มาถามอยากทำรายการแปลก ทันสมัยไม่ซ้ำใคร นำไปใช้ได้เลยคับ...
..รายการแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ทุกอย่างต้องลงตัวพร้อมกัน เริ่มตั้งแต่ทางสภานี
ให้เช่าเวลา-ลูกค้าผู้เช่าเวลา-พิธีกร-ทีมผลิต-สปอนด์เซอร์ผู้สนับสนุน ทุกฝ่ายมีความคิดเห็น
ไปในทิศทางเดียวกัน รายการนี้จึงเกิดขึ้นได้ น้องใหม่ที่กังวลว่าตัวเองยังอ่อนเรื่องกฏเกณฑ์
นับแต่นี้ต่อไปไม่ต้องกังวลแล้วคับถ้าไปเจอลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่โดยไม่สนกฏ....

...และไม่เชื่ออย่าลบหรู่ รายการนี้ได้สร้างกระแสเป็นแม่แบบให้กับโปรดัคชั่นอื่นต้องปรับตัว 
หลายบริษัทได้เรียกประชุมทีมงานให้ผลิตแบบนี้ (เรื่องจริงไม่ได้โม้) โดยให้เหตุผลว่า เท่ห์
ทันสมัย แปลกไม่เหมือนใคร โปรดิวเซอร์บางคนคัดค้าน ก็ถูกมองว่ากระด้างกระเดื่อง
แข็งข้อ ไม่กล้าทำรายการรูปแบบใหม่เพราะทำไม่เป็น และนี่จึงเป็นที่มาของบทความนี้
...ถึงเวลาที่โปรดิวเซอร์ต้องปรับตัว
- อย่านิ่งเฉยสั่งมาทำทันที  ทีมงานเก่งอยู่แล้ว แต่ปัญหาจะมาเกิดตอนงานเสร็จ
  เพราะลูกค้ากับสปอนด์เซอร์เกิดไม่เห็นด้วยกับรูปแบบใหม่ ปัญหาจะวนกลับมา
  ที่โปรดิวเซอร์ " ทำไมถึงไม่บอกล่วงหน้าว่า ทำแล้วมีปัญหา "
- อย่าต่อต้าน หรือสู้หัวชนฝา ปัญหาจะเกิดกับโปรดิวเซอร์เหมือนเดิม กลับกลายเป็นว่า
  ไม่ให้ความร่วมมือ ทางแก้ที่ถูกคืออธิบายถึงปัญหาที่จะเกิดในอนาคต แล้วก็จงทำซะ
  เมื่องานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ลูกค้าหรือคนนอกเป็นคนพูดอธิบายแทนเรา
- อย่าโยนบาปให้ทีมฟรีแลนซ์ เพื่อตัดปัญหาไม่อยากทะเลาะกับเจ้านาย จ้างทีมนอกเข้ามาทำแทน
  ก็ควรบอกความจริงให้ทีมนอกได้รู้ ( อกเขาอกเรานะคับ ) และการอธิบายมอบงานควรให้
  เจ้านายใหม่นั่งฟังอยู่ด้วย มิฉนั้นเมื่องานออกมาไม่ดี โปรดิวเซอร์จะโดนด้วยเช่นกัน
  ในข้อหาอธิบายให้ทีมงานนอกไม่เข้าใจ จึงทำให้ลูกค้ากับสปอนด์เซอร์มีปัญหากับบริษัทฯ
- อย่าเดินหนีปัญหา จงยืดอกยอมรับความจริง หลายครั้งที่เจ้านายใหม่ มองปัญหาแบบคนละด้าน
  กับทีมงาน เขาอาจคิดถูกตอนแรก( ตอนเราอยู่ ) หรืออาจคิดผิดตอนหลัง ( ลาออกไปแล้ว )
      ณ วันนี้ โปรดิวเซอร์ต้องปรับตัวเขียนบทเป็น ตัดต่อได้ ถ่ายภาพสวย และรวมถึงกำกับก็ควรทำได้
  เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวเอง เพราะในปัจจุบัน นายทุนจะไม่ลงเครื่องมือเองแล้ว
( ตามเทคโนโลยีไม่ทัน ) โดยจะปรับเปลี่ยนให้ทีมงานนอกรับผลิตเป็นเรื่องๆไป ( ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ )
ด้วยทีมผลิตหน้าใหม่มีมากจนเลือกไม่ถูกนั่นเอง… ( ไม่ดีก็เปลี่ยนทีม )

  เจ้านายใหม่มีสิทธิ์สั่งให้พนักงาน...ทำทุกอย่างตามที่เขาต้องการ ( เราไม่เห็นด้วย )
                             แต่เราก็มีสิทธิ์เลือกเจ้านายใหม่ …ทำทุกอย่างตามที่เราอธิบาย  ( เห็นด้วยกับเรา )

www.p0p-it.blogspot.com

ทุกวันนี้ผมรู้สึกว่าทำรายการยากยิ่งขึ้น ลูกค้าจ้างให้ถ่ายรายการขอแบบสั่นๆ กระตุกๆ ถามในใจว่า
จะให้สั่นแค่ไหน สั่นน้อย สั่นเยอะ สั่นมากๆ แล้วถ้าให้ลูกค้าเลือก ก็ยังกลัวว่าไอ้ที่ลูกค้าเข้าใจกับผมเข้าใจน่ะตรงกันหรือเปล่า
.. .จากตัวอย่างนี้ถ้าลูกค้ามาจ้างถ่ายรายการ พิธีกร1คน จะถ่ายแบบไหนก็ได้ ถ่ายผ่านรู ถ่ายผ่านหลังไม่เห็นหน้า
เห็นทีมงานช่างกล้อง เห็นช่างไฟ เห็นคนยืนดูรายการรับได้หมด รวมถึงขอแบบ เดินถ่ายให้ภาพกระตุก ไม่นิ่ง แพนไปมา ฯลฯ
ผมคงนึกด่าในใจลูกค้าบ้าแน่ ......

...ฉนั้น ผมจึงขึ้นหัวข้อไว้ว่า "โปรดิวเซอร์กำลังจะตาย " เพราะลูกค้าไม่เชื่อคำท้วงติงของโปรดิวเซอร์( ที่พี่ๆได้คอมเมันท์ )
ผมจึงมักเน้นเสมอว่า งานทุกงานขึ้นอยู่กับลูกค้าแต่ละคน ความต้องการไม่เหมือนกัน
ถ้าผมอยู่ world record คงให้รายการนี้ได้รางวัล " รายการสัมภาษณ์แปลก แหวกแนว สั่นกระตุก "
รายการวาไรตี้ / เกมส์โชว์ / ละคร /กีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ เคยเห็น แต่ไม่เคยเห็นใครทำ รายการสัมภาษณ์ถ่ายในลักษณะแบบนี้

...เคยเขียนไว้นานแล้ว ( เรื่องจริง ) มีช่างภาพทะเลาะกับผู้กำกับ ด้วยเพราะช่างภาพถ่ายตามที่ผู้กำกับต้องการไม่ได้
ขณะโต้เถียงกันช่างภาพยืนถือกล้องแกว่งไปมา ผู้กำกับเหลือบไปเห็นภาพในมอนิเตอร์ แล้วบอก
" ภาพแบบนี่แหละที่ผมต้องการ " ช่างภาพก็ถ่ายตามที่อยากได้จนจบ แล้วหันมาพึมพำพูดกับตัวเองว่า
..." ถ้าต้องการภาพกระตุกแบบนี้ เอากล้องไปผูกคอหมาแล้วให้มันวิ่งไปเรื่อยๆก็ได้ภาพแบบที่ต้องการ
     ไม่เห็นต้องจ้างผมมาถ่ายให้เปลืองเงินเลย ".....( งานนี้ไม่เกี่ยวกับตัวอย่างนี้นะคับ )

ผมก็คิดว่าเห็นได้ทั่วไปครับ  ผมก็เป็นคนนึงที่คิดว่าทุกอย่างมันต้องมีที่มาที่ไป เช่นวิธีการสื่อสารด้วยภาพ ด้วยเสียงต่างๆ มันสื่ออะไร คนดูจะรู้สึกยังไง คนฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร ถ้าพูดถึงเรื่องสไตล์จริงๆผมว่ามีตัวอย่างที่น่าเรียนรู้กว่านี้เยอะนะครับ

ไม่มีทุน งานออกมาห่วยๆ เลยตั้งประเด็ฯว่าแนวใหม่ แหกกฏ  ตลกครับ อย่างนี้หาดูตามช่องเคเบิ้ลทั่วไปได้ครับ

ผมรู้สึกเพลงของไตเติ้ลรายการคุ้นๆ เหมือนได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ

เท่ดีนะครับ แปลกใหม่ดี และก็ ทำให้หลายๆคนที่คิดจะทำรายการ ไม่ต้องไปคิดมากเรื่อง อุปกรณ์ เทคนิค เอาเวลามาคิด คอนเท็น เท่ๆ ดีกว่า ฮุๆๆ เยี่ยมคับ

ขอแจมหน่อย  คือ แบบนี้  ทำกันมานาน และหลายรายการแล้วนะครับ  แต่ส่วนมาก มันจะอกแนวรายการทองเที่ยว

แบบไม่ใช้ขาตั้งกล้อง เดินพูด แล้วถ่าย  โดยใช้ริก หรือ ไม่ใช้ อุปกรณ์อะไรเลย  ตัวย่างฟรีทีวี ที่เห็นได้ชัด คือ รายการ ที่นี่หมอชิต ทางช่อง 7   หรือ แม้กระทั่งรายการในสตู ที่ใช้กล้องแบกบ่า แล้ว พิธีกร เดินตาม  ดูรายการที่เด็กนักศึกษาทำก็ มีมากมาย อาจจะด้วย งบ หรือ การไม่มีซึ่งอุปกรณ์  แต่รายการนี้ คงเน้นความดิบ เล่าเรื่อง ไม่ต้องการ4าพสวย แนววิชาการมาก  ผมในฐานะคนผลิตคนหนึ่ง  เจอ รายการแนวนี้มา ตั้งหลายปีแล้ว  ต้องขอบอกว่า  มีมาตั้งนานแล้วครับ  หนัง ซี่รี่ย์ เอ็มวี  ก็ถ่ายแบบนี้กันเยอะ

ส่วนอุปกรณ์ภาคสนาม  ปกติรายการทีวี จะมี ขาตั้งกล้อง กับ ไมค์ แบบไวเลส หรือ บูมเท่านั้นนะครับ
เครน ดอลี่ อะไรไม่ใช้กัน เพราะไม่คุ้มทุนและ การทำรายการภาคสนามจะ ใช้การทำโดยให้กองถ่ายเล็กที่สุด เพื่อความสะดวกในการเคลื่นย้ายและถ่ายทำ

มาแชร์ข้อมูล เพื่อจะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดๆ
  
ความเห็นส่วนตวนะครับ  มาแชร์ขอมูลกัน.....ขอบคุณครับ