ว่าด้วยเรื่องเผยแพร่หนัง สำหรับชาว DIY

หลายคนทำหนังแบบทุบกระปุกตัวเอง หาคนมาทุบกระปุกด้วย หรือยืมกระปุกคนอื่นมาทุบก็ตามแต่ แล้วก็ทำหนังจนเสร็จภายใต้ทรัพยากรที่พึงมี บีบงามประมาณกันจนหน้าเหลืองหน้าเขียว แล้วยิ้มภูมิใจกับหนังที่เสร็จออกมา

แต่ แต่ แต่ และแต่ หน้าที่ของหนังมันยังไม่สมบูรณ์ หนังจะมีตัวตนก็ต่อเมื่อมันได้เผยแพร่ และหนังเชิงพานิชย์ที่ดี ควรจะสร้างรายได้กลับมาได้ด้วย แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ

มาดูกันก่อนว่า ช่องทางการเผยแพร่มันมีอะไรบ้าง

แบบแรกเลยในความคุ้นเคยของทุกคนคือ "ฉาย" ครับ นั่นคือมีสถานที่ มีจอ มีเครื่องฉาย มีระบบเสียง และที่สำคัญต้องมีคนดู

ฉายแบบไหนได้บ้าง

แบบปกติคือฉายโรงทั่วไป
ที่ต้องมีเลย คืองบประมาณอีกก้อนเพื่อให้หนังเราได้ฉายโรง การฉายโรงก็มีหลายแบบ ฟอร์แมทปกติเลยคือทำหนังเสร็จ เอาไปจัดการเรื่องขออนุญาติฉาย ส่งคณะกรรมการการจัดเรทให้เรียบร้อย ตัวหนังเอาไปทำ DCP (Digital Cinema package) หรือโบล์วอัพปริ้นท์ฟิลม์ก็ตามแต่สะดวก ทำเสียงมิกซ์เป็น 5.1 หรือ 7.1 ซื้อลิขสิทธิ์ดอลบี้ให้เรียบร้อย แบกหนังไปหาผู้จัดจำหน่าย คุยกับโรงหนังว่าจะฉายกี่ก็อปปี้ เตรียมทำสื่อ PR เพราะคนได้รู้ก่อนว่ามีหนังเรื่องนี้อยู่ในโลก ทุกอย่างพร้อมก็วางโปรแกรม แล้วก็ออกฉาย ผ่านสี่วันก็รู้อนาคต เมื่อออกจากโรงก็ขายสิทธิ์ DVD โทรทัศน์ ต่างประเทศ อะไรก็ว่ากันไปครับ หรือจะเก็บสิทธิ์ไว้ขายเองก็ไม่มีใครว่าอะไร แต่การฉายแบบนี้ จะต้องมีเงินก้อนใหญ่อีกก้อน เพื่อทำกระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมา ซึ่งเอาเข้าจริงๆในหนังทุนต่ำอย่างเรา ก็จะพบความจริงที่โหดร้ายว่า ขั้นตอนต่างๆเหล่านี้อาจจะใข้เงินเยอะกว่าตอนทำหนังอีก... กับอีกอย่างนึงคือ หนังเสร็จขายสิทธิ์การฉายให้ชาวบ้านไปเลย อันนี้ก็รับเงินมาก้อนนึง เขาเอาไปจัดการต่อ ถ้าจัดการดีเราก็นั่งมองความสำเร็จของเราแบบทำตาปริบๆ

ฉายโรงแบบไม่ทั่วไป และแบบไม่ปกติ
ถ้าไม่ทำ DCP เราจะฉายได้มั๊ย คำตอบคือได้ครับ แต่ต้องมาดูกันว่าจะฉายแบบไหน จริงๆแล้วได้ตั้งแต่ DVD Blueray File ฉายได้หมดล่ะ แต่เครื่องฉายของโรงมักไม่ซัพพอร์ต ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ขออนุญาติฉาย ขอเรตเหมือนเดิม เมื่อหนังเสร็จเดินไปคุยกับโรงว่าเราจะฉายแบบนี้ โรงไม่น่าจะมีเครื่องฉายให้ หรือถ้ามีก็อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือ ไปเช่าโปรเจ็คท์เตอร์มาเอง หาเครื่องเล่นมา ไม่ว่าจะเป็น DVD Blurays หรือ File ก็ตาม ถ้าเป็นไฟล์ก็แบบคอมไปด้วยครับ
อย่างที่เห็นว่าการฉายแบบนี้จะยุ่งยาก และคนไปไม่ได้หลายโรง เพราะว่าเราต้องทำเองเยอะ เคยผ่านมาแล้ว บอกได้เลยว่า เหนื่อยสุดๆ
ส่วนโรงหนังนั้นจริงมีงบหน่อยก็เช่าเหมารอบฉายได้เลย หลักการคือไปคุยกับโรง ขอคิวฉาย เช่าโรงเลย โดยมากจะเป็น ค่าตั๋วนับทุกที่นั่งแล้วหารครึ่ง ที่เหลือเราก็มาบริหารเองว่าทำยังไงให้คนดูเยอะที่สุด

ฉายตามเทศกาล และงานประกวด
ตามหาเทศกาลหนัง ดูว่าสมัครอย่างไร มีค่าใข้จ่ายมั๊ย หรือส่งเข้าสายประกวดไปเลย อันนี้แค่ต้องดูว่างานนั้นๆต้องส่งชิ้นงานเป็นอะไร แล้วก็ส่งหนังไปให้เรียบร้อย แล้วก็มาโปรโมทแบบเราเอง

ฉายเหมือนกัน แต่ไม่อยู่ในโรง แต่ก็จอใหญ่เหมือนเดิมนะ
ชุดจอ โปรเจ็คท์เตอร์ เครื่องเสียงฉายหนัง ทุกอย่างมีให้เช่าครับ สิ่งที่เราต้องตามหาคือ สถานที่กับคนดู หาสถานที่ที่กว้างๆเหมาะๆ แล้วก็ฉาย ข้อเสียคือ อาจจะต้องเทสเยอะหน่อย ถ้าอยากเสียเงินน้อยลงก็หาที่ที่มีห้องประชุม ตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย มีจอ มีเครื่องเสียงอยู่แล้ว

นี่แค่ฉายในรูปแบบจอใหญ่ๆอย่างเดียวนะ เดี๋ยวค่อยมาดูกันต่อว่า มันมีช่องทางการเผยแพร่หนังเราอย่างไรได้อีกบ้าง

เพิ่งเห็นกันตนาจะทำโรงหนังชุมชน ค่าตั๋ว 30 บาท อาจเป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจครับ

ขอเพิ่มเติม  ขายลิขสิทธิ์แผ่น DVD   ฟรี TV   เคเบิ้ล   ขายสาย   ขายต่างประเทศ  และ  แถมท้ายด้วยขายโมษณา  สามารถขายร่วงหน้าได้   ( รู้รายรับร่วงหน้า แล้วมาลุ้น 4 วันอันตราย  พฤ. ศ. ส. อ. ถ้าไม่มีคนดู เข้าโรงได้อาทิตย์เดียว และ หลังจากออกโปรแกรม แบ่งรายได้กับโรงคนละครึ่ง )

ชอบๆ รอฟังด้วยใจกระดึ๊บ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ