เบื่อหรือยังกับการแก้งานไม่รู้จบ เรามีงานที่ไม่ต้องแก้ให้ทำ?..

...น้องใหม่เมื่อวานยังอ่านบทความ จะซื้อกล้องยี่ห้อไรดีประกอบอาชีพ มาวันนี้บ่นเบื่อกับการปิดจ๊อบงาน
แสดงว่างานล้นมือ (ถึงต้องเร่งงานเก่ารับงานใหม่)

...การรับงานจากลูกค้ามี2ทาง
1. รับงานโดยตรง ว่าจ้างให้ทำแบบa ทำเสร็จขอเปลี่ยนเป็นb อย่างนี้ต้องเพิ่มเงิน
    ถือว่างานเก่าปิดจ๊อปไปแล้ว ลูกค้าดีส่วนมากเข้าใจ ยอมเพิ่มส่วนต่างให้อาจไม่มาก แต่ถ้าเจอลูกค้าแย่ให้แก้แถมไม่เพิ่มเงิน
     เจอแบบนี้แก้ปัญหาง่ายมากทางใครทางมัน... ใครจะกล้าทำต่ออีกล่ะคับ  ขืนทำจบลูกค้าเกิดขอแบบcอีก
     เลิกตอนนี้ ยอมขาดทุนดีกว่า ...
2. รับงานโดยอ้อม(ผ่านคนกลาง)กรณีนี้ล่ะที่เป็นหนามยอกอก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
     ด้วยเพราะคนให้งานกับคนรับงานเป็นคนละคน เลยไม่รู้จะเหวี่ยงกับใคร
  ...เริ่มงาน เจ้าของเรื่อง ดร.ส่งเจ้าหน้าที่ประสานงานบังคับให้ ถ่ายตามบท พอตัดต่อนำส่ง คนตรวจงาน
รศ.ดร. (ตำแหน่งใหญ่กว่า)บอกตกประเด็นถ่ายเพิ่ม เจอคนใหญ่กว่า ศ.ดร. สั่งแก้ถ่ายเพิ่มอีก(ถ่ายเสร็จอาจเจอ มรว.ศ.ดร.)
แต่ทุกขั้นตอนไม่มีใครพูดถึงเรื่องเงินที่ต้องจ่ายเพิ่ม จะทิ้งหนีแบบกรณี1ไม่ได้ เพราะคนส่งงานคืออีเว้นท์ ถ้าเราปิดจ๊อบไม่ได้
เขาก็เสียหาย แถมน้องประสานงานมากระซิบบอกความในใจ
..." พี่ขา นู๋เพิ่งทำงาน เขาก็ให้มารับผิดชอบงานนี้เลย ถ้าไม่ผ่าน นู๋ตกงานแน่ๆค่ะ พี่ไม่สงสารนู๋หรือคะ"
    (ฮือๆๆ ใครจะรับเลี้ยงน้องคนนี้ไม๊คับ)

...กรณีมีปัญหาแก้งานจนเบื่อไปข้างหนึ่ง ส่วนมากจะเกิดจากกรณี2 เพราะเกรงใจคนส่งงานที่เขาไม่รู้เรื่อง
    จะมาเสียหายไปกับเราด้วย
...ทีนี้เรามาดูต้นตอของปัญหากัน ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรบ้าง?..
1.- โปรดัคชั่นไม่รู้เชี่ยวชาญในงานนั้นๆ (แต่ลูกค้ารู้) เคยเจอทีมหนังสั้นกระบี่มือเดียว(กล้องเดียว)
     ถ่ายละครหนังสั้นโดยไม่มีความรู้แม้กฏพื้นฐานเส้น180รวมถึงการคอนตินิว ..คิดในใจโปรดัคชั่นนี้ช่างกล้ารับทำงานจริงๆ
    (ไม่บอกก็รู้มีถ่ายซ่อมแน่ๆ)
2.- ลูกค้าไม่รู้(โปรดัคชั่นรู้) อธิบายไปแล้วพยักหน้าเข้าใจโอเคตกลงให้ถ่ายแบบB พอจะปิดจ๊อบ
    อ้าวไม่ใช่แบบAหรือค๊ะ อธิบายให้ลูกค้าฟังใหม่อีกทีแล้วแก้งานใหม่ด้วยนร้า..(ทีนี้ลูกค้ารู้แล้ว)
3.- ลูกค้าไอเดียบรรเจิด(รู้แล้วเนี่ย) หลังจากดูงานที่ตัดต่อเสร็จแล้วเริ่มมีแนวคิดใหม่
    ต่อยอดขอเพิ่มนั่นนี่นู่นเต็มไปหมด การเพิ่มประเด็นใหม่ก็คือการทำใหม่นั่นเอง ( ทำใหม่อีกแล้ว)
4.ลูกค้ารู้โปรดัคชั่นรู้ อาจเกิดจากความประมาท หรือทีมงานโปรดัคชั่นมีปัญหาขัดกันเอง
    (ใช้ฟรีแลนซ์หลายเจ้า)
5. ลูกค้าไม่รู้ทีมงานไม่รู้ ส่งงานแรกผ่านเพราะไม่รู้ทั้งคู่ แต่พอรับงานใหม่เจอลูกค้าใหม่เท่านั้นล่ะ
    ปัญหาเกิดยาว เล่นเอาปิดบริษัทฯเลิกอาชีพนี้ไปเลย(เจอหลายรายแล้ว)
   ..อ่านมาตั้งนาน รู้แล้วยังว่าต้นตอปัญหาเกิดจาก  3 คำ " ความไม่รู้ "
    สิ่งที่โปรดัคชั่นกลัวที่สุดคือการแก้งาน เพราะนั่นหมายถึง  งานใหม่รับไม่ได้งานเก่าต้องแก้ไม่รู้อนาคต (ดับวูบ)
     คิดแล้วเหนื่อยแทนคนรุ่นใหม่จริงๆ

..เรามาดูวิธีแก้ปัญหากัน
- พยายามหาความรู้เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด เพื่อปิดจุดอ่อนของเรา
- หาวิธีคุย อธิบาย มีตัวอย่างให้ดู เพื่อไม่ให้เกิดการจับประเด็นผิด (ทั้งเขาและเรา)
- อย่าทำงานที่ยากเกินความสามารถที่เรารู้ เช่น การกัดคีย์ หากมีการแก้งานภายหลังอาจทำให้คุณ
    ปิดบริษัทได้
- อย่าหวังเพียงตัวเลขเงินสูงๆเยอะๆ ขั้นตอนการทำงานก็เยอะตาม ลองเปลี่ยนมารับรายเล็ก
     ปิดจ๊อบเร็วอาจทำให้รับงานได้มากกว่า
- อาจบวกราคาเพิ่มเป็น2เท่า ถ้าคุยงานกับลูกค้าแล้วรู้สึกว่าทำยาก ประกันความเสี่ยงไว้ก่อน
     เผื่อมีการแก้ไขภายหลัง

...การตั้งราคาชิ้นงาน ไม่มีกฏตายตัว เรียกแพงลูกค้าอาจเซย์โน เรียกน้อยเราอาจขาดทุน
    ขึ้นอยู่กับดวงเหมือนกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมื่อมีปัญหาอย่าเดินหนีหรือทิ้งงาน(อย่าทำนะขอร้อง)
    พยายามทำให้เสร็จไป ไม่ว่าจะทุกข์ทนกล้ำกลืนแค่ไหนก็ตาม

...การมีปัญหาทะเลาะกับลูกค้า ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องเจอมองทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
     เพราะยังไงก็หนีไม่พ้น ถ้ารักจะประกอบอาชีพนี้..
   " ทำงานได้เงินน้อย ยังดีกว่า ไม่มีงานทำ
      มีงานทำได้เงินแน่แต่ถูก(ลูกค้า)ด่า ยังดีกว่า ทำงานแล้วไม่ได้เงิน
      ทำงานแล้วไม่ได้เงิน ยังดีกว่า ทำงานแล้วเป็นหนี้ "

..และถ้าวันนี้คุณกำลังเบื่อกับการแก้งานที่ไม่รู้จักจบสิ้น ผมมีงานที่อยากจะแนะนำ
     ลูกค้าแก้น้อยสุดหรือแทบไม่ได้แก้เลย (สนไม๊คับ)..งานแต่ง งานบวช งานบ้านๆเหล่านี้ล่ะ
     เพราะไม่ว่าคุณจะทำมันออกมาแนวไหน ลูกค้าก็มีความสุขเพราะได้งานที่คุณสร้างสรรค์สุดฝีมือ
     คนทำก็มีความสุขเพราะได้เงินแน่นอน เสร็จเร็วก็ได้เร็ว
     คนตัดก็มีความสุขหันไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพคนยิ้ม ผมคนเขียนนึกไปเขียนไป ก็ยังมีความสุข..

ผมเคยเจอเคส "ลูกค้าไม่รู้ แต่คิดว่าตัวเองรู้"
โหดมาก ทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ ...
...จริงๆแล้ว ประเด็นนี้ ต้องยกผลประโยชน์ให้จำเลยคับ เพราะก่อนเริ่มงานเราต้องสมมติฐานก่อนว่า
" ลูกค้าทุกคนต้องไม่รู้ " ฉนั้น หน้าที่เราคือต้องอธิบาย แล้วก็พูด ๆๆๆๆๆ จนกว่าลูกค้าจะเข้่าใจ
ถ้าไม่เข้าใจก็ต้องหาภาพมาอธิบายเพิ่มเติม ...ทำอย่างไร?ก็ได้ให้ลูกค้าเข้าใจตรงกับที่เราเข้าใจ
ถ้าไม่เข้าใจตอนแรก ก็ขอถอนตัวเลยไม่รับงาน เพราะขืนทำแก้งานตายแน่คับ..
สำหรับกรณีนี้ ( ไม่รู้แต่คิดว่ารู้ ) เจอเยอะคับ ยิ่งบอกไปเรียนเข้าครอสกันตนามาด้วย
ผมเพิ่ม 2 เท่าเลย ทำก็ทำ ไม่ทำยอมว่างงาน ..เพราะพวกนี้ล่ะคับ ตัวปัญหาเลย อย่างที่คุณบอก
...สดๆร้อนๆ.. อินโฟร์กราฟฟิคกำลังฮิต เลียนแบบเมืองนอกทำแบบง่ายแต่เท่ห์ ผสมเอฟเฟค นำเสนอลูกค้า
( ผอ.ใหญ่ ) บอกทำไมคิดแพง แค่เอาภาพนิ่งมาขยับไปมา ง่ายแค่นี้ ต้องคิดถูกกว่าวีดีโอซิ ..เงิบไปเลยคับ

ผมเคยเจอเคส "ลูกค้าไม่รู้ แต่คิดว่าตัวเองรู้"
โหดมาก ทั้งเหนื่อยทั้งโกรธ ...

ขอบคุณครับ

ใช่เลยครับ
ที่เล่ามาทั้งหมด นี่ก็ประสพพบเจอมาหมดแล้วครับ
โดยเฉพาะงานใหญ่ๆทั้งหลาย..
ส่วนงานเล็กๆนี่ นานๆที ครับ