ฟูลเฟรมนั้น มันเป็นอย่างไรกันแน่เนื่องจากช่วงนี้ว่างครับ ไอ้เพื่อนเวรดันส่งบทความนี้มาให้อ่าน
กอปรจะได้กล้องใหม่ที่ใช้เลนส์ M43 เลยหาอ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เห็นว่ามีบางช่วงที่ผมก็เคยอยู่ในยุคนั้นเหมือนกัน และเก็บข้อมูลนี้มันสักพักแล้ว
เลยคิดว่า(อยากให้อ่านหนักหัวเล่นๆครับ)
(ปล.เนื้อหาหลักผมก็ก็อปเค้ามาครับ แต่จะใส่ภาพเพิ่มอรรถรสให้ชมไปด้วย เพื่อบทความจะได้สมบรูณ์)
เกริ่นนำ-จั่วหัวนับตั้งแต่เด็กจนสู่วัยทำงานของผมเคยสัมผัสกล้องมาหลายประเภท
ทั้งกล้องป็อกแป็กไปจนถึงกล้องฟิล์มถ่ายหนัง16มม.
ผมจำได้ว่าผมเริ่มถ่ายรูปตั้งรูปตั้งแต่ป.5 ด้วยกล้องkodak แบบเลื่อนฟิล์มเอง
ที่ไปถ่ายเพื่อนๆในใต้ถุนโรงเรียน และถ่ายเพื่อนผู้หญิงที่แอบชอบในห้อง
เมื่อถึงวัยรุ่นช่วงแรกก็ใช้ Yashica ของน้า เมื่อถึง ม.ปลายก็ใช้ Nikon FM2
มีช่วงเดียวที่เลิกไปพักนึงตอนเรียนมหาลัยเพราะไม่ค่อยมีตังค์
จะได้ถ่ายอีกทีก็ตอนเพื่อนรับปริญญา
พอวัยทำงานก็มาใช้ Nikon F4 พอมีลูกคนแรกก็กลับมาใช้ CANON 600
พอเข้าทำงาน ในบริษัทนั้นเค้าใช้กล้องฟิลม์ 16mm. ถ่ายหนังโฆษณากัน
ทั้งหมดที่เล่ามาแทบจะไม่มีความหมายเลยเมื่อมาถึงยุคนี้
อันที่จริงอยากจะเฉลยตอนท้ายเรื่องนะครับว่า "อะไรคือฟูลเฟรม....?"
แต่อยากให้อ่านกันไปเรื่อยๆก่อน เดี๋ยวท่านก็จะได้คำตอบกันเอง
(ตอบมาไม่มีรางวัลนะจ๊ะ....มีแต่ความรู้ที่ท่านได้ไป)
ก่อนที่ทุกท่านไปจะ 2K 2.5K 4K 8K ....K?
มาลองทำความเข้าใจเรื่องนี้กันก่อนเถอะ
ไม่พูดพร่ำกันแล้วเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นบทความอุดมไปด้วยข้อมูลที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรในการถ่ายภาพ รู้ไว้ให้หนักหัวเล่นงั้นแหละ
เป็นเรื่องราวทั่วๆ ไปเกี่ยวกับเรื่องขนาดเซ็นเซอร์ ที่ผมบันทึกเก็บไว้เป็นข้อมูลเบื้องหลังเฉยๆ
แต่คิดว่าอาจจะมีกลุ่มเพื่อนๆ บางกลุ่มที่สนใจทางเทคนิคเบื้องหลัง
เลยเอามาเรียบเรียงใหม่แบ่งกันอ่านสักหน่อยดีกว่า
ตามไปอ่านและไลค์ได้ที่นี่ เนื่องจากเมื่อก่อนนี้ตอนมีการพูดเรื่องฟูลเฟรม ครอปเฟรมกันอยู่บ่อยๆ ผมก็เลยค้นข้อมูลเอาไว้ตอบกระทู้
เราอาจจะเคยคิดว่า ฟูลเฟรมหรือครอปเฟรม มันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าสงสัยตรงไหนเลย มันก็เห็นอยู่ชัดๆ
ว่าเท่ากับฟิล์ม หรือเล็กกว่าฟิล์ม จะมีอะไรยาก
แต่ว่ามันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิครับ ถ้าไปดูในรายละเอียดกัน สิ่งที่เราเรียกว่าฟูลเฟรม มันกลับไม่เหมือนอะไรที่เราเคยเข้าใจมาก่อน
ไม่ง่ายที่จะตัดสินว่า อะไร หรือแค่ไหนถึงจะเป็น Full Frame
โดยดูแค่ว่าตัวรับภาพนั้นมีขนาด 24x36 มิลลิเมตรหรือเปล่าแบบที่เราคุ้นเคยกัน
เนื่องจากที่จริงแล้ว FF มันมีหลายนิยาม แล้วแต่ว่าจะเอาเซ็นเซอร์เป็นหลัก หรือจะเอาเลนส์เป็นหลัก
หรือจะว่ากันตามแพลตฟอร์ม/ซิสเต็ม ถ้าว่ากันคนละนิยาม มันก็ไม่มีทางเข้าใจได้ตรงกัน
แต่ก่อนที่จะเข้าใจแต่ละนิยามได้ ต้องย้อนกลับไปในยุคต้นประวัติศาสตร์ ของฟิล์มถ่ายรูปขนาด 35 มม. ด้วย
เพราะเป็นสิ่งที่เรานิยมใช้อ้างถึงคำว่าฟูลเฟรมมากที่สุด และชวนให้เข้าใจผิดมากที่สุดด้วย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....เรารู้ และคุ้นๆ กันดีอยู่คือ ฟูลเฟรมแปลว่าขนาดเซ็นเซอร์เท่ากับ 24x36 มม. หรือขนาดเท่าฟิล์มฟอร์แมท 135
หรือที่นิยมเรียกว่าฟิล์ม 35 มม. นั่นเอง
ก่อนจะไปไกลกว่านั้น คำถามแรกคือ ฟิล์ม 135 หรือ 35 มม. มันใหญ่แค่ไหน และมันเท่ากับ 24x36 มม. จริงหรือ?
จริง (ในบางกรณี) ก็ในเมื่อเรียกฟิล์มขนาดนี้ว่าฟิล์ม 35 มม. มันก็ต้องกว้าง 35 มม. สิไม่เห็นยาก
หากเราวัดขอบจรดขอบ ฟิล์ม 135 จะมีความกว้าง 35 มม.(บันทึกไว้เป็นข้อมูลทางเทคนิค
ตัวเลขที่แน่นอนคือ 34.98 มม. คลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.03 มม.)
ขนาดเฟรม 24x36 มม. ที่คุ้นๆ กันเป็นขนาดเฟรมภาพยอดนิยมในยุคสุดท้ายของฟิล์มถ่ายภาพ
(ข้อมูลทางเทคนิค: วัดจากขอบเข้ามาถึงด้านในของรูหนามเตย จะประมาณ 5 มม. และจากจุดนั้นอีก 0.5 มม.
จะเป็นขอบเฟรมภาพ ซึ่งเฟรมภาพจะกว้าง 24 มม. ยาว 36 มม. เว้นทางยาวอีก 2 มม. ก่อนจะเป็นเฟรมถัดไป)
ที่บอกว่ายอดนิยม เพราะขนาดเฟรมของ 135 ไม่จำเป็นต้องเป็นขนาดนี้เสมอไป ในยุคก่อนหน้าไม่กี่ปี
ฟอร์แมท 135 มีขนาดที่นิยมรองลงมาคือ 24x18 มม. เฟรมขนาดนี้ในวงการภาพนิ่งเรียกเป็น half frame
แต่วงการภาพยนต์เป็น single frame เพราะเป็นขนาดปกติของเฟรมภาพยนต์ 35มม. (academic ratio)
ในสมัยก่อนที่ในโฆษณาภาพยนต์เก่าๆ เรียกกันว่าภาพยนต์ 35 มิลฯ ก็คือเฟรมภาพขนาดนี้แหละ
กล้องภาพนิ่งขนาดฮาล์ฟเฟรมยอดนิยมในยุคนั้นคือ Olympus PEN และยังมีกล้องอื่นที่ใช้ฟอร์แมทนี้เป็นสิบๆ ยี่ห้อ
ถ้าตามรอยประวัติศาสตร์ไปจนถึงที่สุดของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม 35 มม. แล้ว ในยุคต้นสุดของการใช้ฟิล์ม 35mm
มันคือฟิล์มภาพยนต์ และมีสิ่งหนึ่งที่แสดงว่าฟิล์ม 35 มม. เป็นมรดกตกทอดมาจากกล้องถ่ายภาพยนต์คือ
รูหนามเตยถี่ยิบ ที่ใช้กำกับจังหวะชัตเตอร์ กับจังหวะเสียงของกล้องถ่ายภาพยนต์ และเครื่องฉายภาพยนต์
ฟิล์ม 35 มม. กลายเป็นฟิล์มภาพนิ่งในยุคต่อมา ขนาดภาพที่ยอดนิยมที่สุด
มาตรฐานที่สุดในโลกคือขนาด 24x18 มม. ขนาดเดียวกับเฟรมภาพยนต์นี้แหละ
เพียงแต่ว่ากล้องในสมัยนั้นไม่ได้ถ่ายเพื่อเอาคุณภาพของภาพนิ่ง เนื่องจากว่าฟิล์มสมัยนั้นคุณภาพต่ำมาก
หากอยากจะถ่ายภาพนิ่งเพื่อเอาคุณภาพกันจริงๆ แล้วมักจะใช้ฟิล์มใหญ่กว่านี้กันเสียมากกว่า
จุดประสงค์หลักของการใช้กล้องภาพนิ่ง 35 มม. จะมีไว้เพื่อวัดแสงในการถ่ายภาพยนต์เป็นหลัก
โดยเอาฟิล์มภาพยนต์ที่ใช้ในล็อตนั้น มาใส่กล้องภาพนิ่ง เพื่อทดลองถ่ายด้วยการเปิดรับแสงหลายๆ ค่า
พอเอาฟิล์มไปล้าง แล้วค่อยมาเลือกค่าเปิดรับแสงที่พอดีกับฟิล์มที่ใช้จริง และการจัดแสงนั้นๆ
เพราะฟิล์มสมัยก่อนความไวแสงในแต่ละล็อตไม่ค่อยคงที่เท่าไหร่ เลยต้องมีการถ่ายทดสอบก่อน
ด้วยกล้องภาพนิ่งเพื่อหาค่าความไวแสงที่แน่นอน หรือเช็คการจัดแสงจัดไฟ หรือองค์ประกอบ
อาจจะมีจุดประสงค์อื่นบ้างเช่นถ่ายไว้เพื่อเป็นบันทึกการทำงานในกองถ่าย
ตัวอย่างกล้องภาพนิ่งที่ใช้กันในสมัยนั้น
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10202256033550910&set=a.10202254347908770.1073741849.1492667919&type=3&theaterขนาดเฟรมภาพนิ่งอื่นๆ ที่มีใช้กันเยอะๆ นอกเหนือจากสองแบบนี้ คือพาโนรามา 24x65 mm
ในกล้องแฮสเซลบลัด กับฟูจิ X-Pan/TX-1
และขนาดประหลาดอื่นๆ อีกเกือบสิบขนาดบางขนาดก็มีใช้อยู่กล้องเดียว บางขนาดก็เป็นที่นิยมอยู่ในระดับหนึ่ง
ขอผ่านไปไม่เล่าถึงละกันแต่แค่นี้ก็เห็นแล้วว่า จะบอกว่าฟิล์ม 35 มม. มีขนาดภาพเท่าไหร่กันแน่
ก็ต้องว่ากันยาว เพื่อให้แน่ใจว่ากำลังคุยเรื่องเดียวกันอยู่
ขนาด 24x36 มม. ยอดนิยม ที่จริงมันคือ double frame ของฟิล์มภาพยนต์
เพราะตอนมันเกิดขึ้นมาเป็นครั้งแรก มันเกิดจากเอาฟิล์มภาพยนต์ 35 มม. มาตัดม้วนใส่กลัก (cassette)
แล้วกำหนดให้ขนาดเฟรมภาพนิ่ง 1 ภาพ มีขนาดเท่ากับเฟรมภาพยนต์สองเฟรม แล้วให้บันทึกภาพแนวนอนตามยาวฟิล์ม
แทนแนวขวางฟิล์ม เพื่อให้ได้ขนาดภาพใหญ่ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
แก้ปัญหาฟิล์มคุณภาพต่ำในการเอาไปใช้งานในการถ่ายภาพนิ่งเป็นหลัก
เราไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นผู้ริเริ่มเอาฟิล์ม 35 มม. มาใช้ในกล้องถ่ายภาพนิ่งเป็นงานเป็นการ
เคยเชื่อกันว่า
Oscar Barnak นำมาใช้ไลก้าเป็นเจ้าแรก
แต่ตามหลักฐานที่พบบอกว่า ไลก้าก็เอามาจากคนอื่นอีกทีเหมือนกัน เพราะตอนที่ Leica Ur ยังเป็นกล้องต้นแบบอยู่ในปี 1913
ตอนนั้นกล้อง Smith 1912 ที่ใช้ฟิล์มฟอร์แมทนี้ก็วางขายมาเป็นปีแล้ว กว่าไลก้าจะวางตลาดจริงก็ในปี 1925 โน่น
ซึ่งตอนที่ไลก้าวางตลาดกล้องที่ใช้เฟรมภาพ 24x36 มม. ก็มีกล้องบริษัทอื่นวางขายอยู่นับสิบรุ่นมานานหลายปีแล้ว
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10202254311147851&set=a.10202254347908770.1073741849.1492667919&type=3&theaterมีต่อ...............