sensitive ของไวเลสรุ่นนี้ไม่มีผลต่อการรับกว้างหรือแคบครับ ไมค์ติดเสื้อของเซนไฮเซอร์ปัจจุบันส่วนใหญ่ที่ให้มากับตัวเครื่องจะเป็นรุ่น ME 2 การรับเสียงจะเป็น omni-directional ซึ่งรับเสียงรอบทิศทาง ส่วนแต่ก่อนเขาจะแถมเป็นรุ่น ME 4 ซึ่งรับเสียงแคบกว่าคือ cardioid แต่ด้วยรูปทรงของมันทั้งงานละครและรายการ ส่วนใหญ่จะใช้ ME 2
ผมจะบอกเลยว่าทุกวันนี้ ไมค์ของ sennheiser เสียงไม่สเถียรครับ คือลองเอาไมค์หลายตัวมาเทสพร้อมกัน ใช้เวลสตัวเดียวกัน EQ ปรับคงที่ไว้ แต่ละอันเสียงต่างกันเยอะครับเดี๋ยวนี้ บางหัวรับเสียงได้น้อย ทำให้ต้องไปเร่งเสียงขึ้นทำให้เสียงรอบข้างเพิ่มขึ้นอีก ทุกวันนี้ผมจะใช้ไมค์ที่ผมทำเองทั้งละครและรายการ แต่บางทีก็เช็คเสียงของไมค์sennheiserของแท้ก่อนว่าเสียงดีหรือป่าว บางอันก็ไวต่อการสัมผัสของเสื้อผ้า
ส่วนในเรื่องของเสียงพูดมันมีปัจจัยดังนี้ไล่จากที่สำคัญที่สุดน่ะครับ
1.คุณภาพของไมค์ บอกไปแล้วครับข้างต้น
2. ความดังของเสียงผู้พุด
3.ตำแหน่งที่ติดไมค์ ตำแหน่งที่เหมาะสมคือ1คืบจากคอหอย จะติดปกเสื้อด้านข้างก็ได้แต่ต้องติดในทิศทางที่พิธีกรหันบ่อยๆ อย่างตามสถานีที่เสียงสมูทไม่ว่าจะหันไปทางไหน เพราะว่าเขาตั้งค่าคอมเพรสเซอร์ในมิกซ์ดิจิตอลไว้ ส่วนอย่างเราๆก็ต้องใช้ระบบคอมเพรสเซอร์ในโปรแกรมเสียงมาช่วยครับ ซึ่งผมไม่สันทัดในกระบวนการPOST PRODUCTION
4.เสียงรอบข้าง รวมไปถึงระยะห่างของพิธีกรแต่ละคน ถ้าพูดในระดับเสียงเดียวกัน จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเสียงลอยไปเข้าไมค์คนอื่น แต่ถ้าคนนึงพูดดังมาก อีกคนเบามาก ยังไงก็เกิดปัญหาครับ เราต้องพยายามบอกให้เขาพูดดังๆ
ส่วนใครบอกว่า sensitive สามารถลดเสียงรอบข้างได้ ผมขอค้านครับ มันไม่ได้ช่วยลด แต่การตั้งค่ามันสำคัญตรงที่ทำให้เสียงไม่แตกและไม่พีค ปกติที่ตัวส่งผมจะตั้ง -48 ขึ้นไป ตัวรับถ้าเป็นรุ่นตั้งโต้ะจะตั้งไว้ที่ 0 ถึง +9 แล้วแต่ว่าเขาพูดดังหรือเบา ส่วนรุ่นติดกล้องตัวรับก็ตั้งไว้แล้วแต่กล้องแต่ละรุ่น ต้องพูดใส่ไมค์แล้วดูเรเวลที่กล้องแล้วค่อยปรับ AF OUT ครับ
เวปไซด์อ้างอิง ME 2
http://en-us.sennheiser.com/mini-lavalier-microphone-clip-on-live-speech-vocals-instrument-miking-me-2 ME 4
http://en-us.sennheiser.com/mini-lavalier-microphone-clip-on-live-speech-me-4 โพลาร์แพทเทิน
นานๆผมเข้ามาทีนึงน่ะครับ ใครมีอะไรให้อินบ็อกถามในเฟสบุ้คผมได้น่ะครับ ชื่อ Jay Jaysoundman Apiched ครับ