โดนลูกค้าโกงเรื่องจิ๊บๆ

...ช่วงนี้น้องใหม่มาแรง มีคนติดต่อมาให้ทำวีดีโออำลาวัยเกษียณ " ความยาว15 นาที ขอมาควบคุมการตัดต่อด้วย
    รวมวันถ่ายทำทั้งหมด 5 วัน คิดค่าใช้จ่ายเท่าไรคะ" ลูกค้าโทรมาให้เสนอราคา ( พี่คนเก่งลองคิดเล่นๆก่อนอ่านต่อ)
...วางสายเสร็จ บวกลบคูณหารเผื่อแก้เผื่อมียาว ลูกค้าโทรกลับพอดี "บอกได้ทีมงานแล้วค่ะ
   มีน้องใหม่เสนอมา 20,000 ปิดจ๊อปแล้วนะคร้า

..นึกในใจ..."ให้ทำไปเลยครับ"  ดีใจแทนน้องใหม่ด้วยใจจริง เพราะถึงอย่างไร พี่คนเก่งคงไม่มีใครกล้ารับทำ
  ด้วยสาเหตุเพราะความกลัวนั่นเอง แต่น้องใหม่ไม่กลัวเพราะไม่เคยเจอ วันนี้เลยอยากนำเรื่องจริงของพี่คนเก่ง
  เพิ่งจบคดีที่ศาลมาเล่าสู่กันฟัง ..อ่านจบแล้วจะรู้พี่คนเก่งเขากลัวอะไร

...พี่คนเก่งวงการโฆษณา รับอาสาทำรายการฟรีทีวี 600,000 บาท โดยสัญญาแบ่งเป็น3ช่วง
   ทำจนงานเสร็จแต่เพิ่งได้เงินงวดแรก 200,000บาท ลูกค้าบอกไม่จ่ายส่วนที่เหลือด้วยเพราะทำผิดวัตถุประสงค์
   ไม่ตรงตามสัญญา (แต่เอางานไปใช้ออนแอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว) ภายหลังลูกค้าฟ้องศาลเรียกร้องค่าเสียหาย
   จากงานทั้งหมด1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เป็นผมคงนอนไม่หลับ เงินแสนยังหายาก
   เงินล้านไม่ต้องพูดถึง...มิน่าล่ะ กระสุนปืนจึงถูกกว่าชีวิตคนตามหน้าหนังสือพิมพ์
...เวลาผ่านไป2ปี ขึ้นศาลสืบพยานทั้ง2ฝ่าย สุดท้าย พี่คนเก่งหมดแรง ด้วยเพราะสัญญาที่ลูกค้าทำไว้รัดกุม
   จนไม่มีทางออก ศาลไกล่เกลี่ยพี่คนเก่งยอมจ่าย300,000 บาท (รายละเอียดไม่ขอเล่านะครับ)

...น้องใหม่ที่กำลังโต ต้องรู้จักเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของลูกค้าให้ดี ผมมีข้อคิดอย่ากลัว3ข้อมาฝาก
1 - "อย่ากลัวที่จะทำตามสัญญา" เป็นไปได้หรือที่พี่คนเก่งวงการโฆษณาจะไม่รู้ข้อนี้
      จำไว้นะครับ แม้ลูกค้าจะเป็นคนบอกให้ทำล่วงหน้าไปก่อน ก็ไม่ควรเชื่อ เคสนี้เจอบ่อย เช่น พอถึงกำหนดจ่ายงวด 2
      ลูกค้าเล่นลิ้นบอก ทำไปเลย กำลังเซ็นต์เช็ค กำลังเข้าแบงค์ กำลังนั่นนี่ ฯลฯ ...ห้ามทำเกินคำสั่ง รออย่างเดียว
     เงินไม่มาอย่าทำ อย่างพี่คนเก่งคนนี้ทำข้ามขั้นไปจนจบ เมื่อมีปัญหาเราจึงเป็นเบี้ยล่างไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ ..
2 - "อย่ากลัวลูกค้า" ลูกค้ามักจะสร้างภาพเป็นคนดี จ่ายไม่อั้น พากินร้านหรู
     พูดจาไพเราะนอบน้อม แอบถามพี่คนเก่ง"เงินยังไม่มาทำล่วงหน้าทำไม" พี่คนเก่งบอก"เห็นเขาเป็นคนดี"
     ระวังนะครับ ควรแยกกันระหว่างเรื่องส่วนตัวกับงาน อย่านำไปปะปนกัน ดีส่วนตัวแต่เรื่องงานอาจเป็นคนไม่ดีได้
     หัดสังเกตุดีๆ อย่างคนเรียบร้อยพอได้จับพวงมาลัยกลายเป็นอีกคนทันที...เคยเห็นใช่ปะ
3 -"อย่ากลัวสัญชาติญาณที่รับรู้ได้" เมื่อใดที่งานมีปัญหา หาทางแก้ไขในทันที
     แต่ถ้าลูกค้านิ่งเฉยหรือโอนเอียงเห็นด้วยกับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราเห็นแล้วว่าไม่ถูกต้อง ควรหยุดทุกอย่าง
     รีบปรึกษาหาทางออกให้ได้ ห้ามทำต่อโดยที่ปัญหายังไม่แก้ไข ..ไม่งั้นอาจได้หนี้ก้อนโตเป็นของแถมกลับมา

...อ่านจบแล้วน้องใหม่รู้สึกกลัวไม๊ครับ ทำงาน3เดือนไม่ได้เงิน แต่ขาดทุน400,000 แถมเป็นหนี้อีก1,000,000 บาท
  และถ้าพี่คนเก่งคนนี้ไปกู้นอกระบบมารวมดอกเบี้ยทบต้นทบดอก..ทางรอดสุดท้ายก็คือฆ่าตัวตาย
  นี่คือตัวอย่างที่พี่คนเก่งเขารู้และกลัวกัน

....วงการโปรดัคชั่นตอนนี้เปิดกว้างจนไม่รู้ใครเป็นใคร ด้วยเพราะเครื่องมือราคาถูก ลงทุนปีเดียวก็คืนทุนแล้ว
   ทำให้ผู้จัดการหน้าใหม่(ดีและไม่ดี)ดาหน้าเข้าวงการเต็มไปหมด ในอดีตวงการโปรดัคชั่นแม้จะแข่งกันดุเดือด
  แต่เราก็มีนำ้ใจให้กันเสมอ เคยเจอแต่ลูกค้าเอางานไปใช้แล้วไม่จ่ายเงิน แต่ไม่เคยเจอลูกค้าฟ้องกลับ
  เรียกค่าเสียหายในภายหลัง..เริ่มกลัวกันแล้วยังครับ

  " บางสิ่งที่เห็นด้วยตาอาจไม่มีจริง (ลูกค้าสร้างภาพ)...และบางสิ่งที่มีจริงเราอาจไม่เห็น(ลูกค้าตั้งใจโกง)"
   หรือพูดง่ายๆก็คือ "คนดีอาจกลายเป็นคนไม่ดีได้เมื่อมีเหตุจำเป็น"

...หมายเหตุ กำลังเขียนรวมบทกลโกงลูกค้า..ภาคต่อครับ
www.p0p-it.blogspot.com

ประสบการณ์ใกล้เคียงกันครับ
ตัวย่อ ล กับ ม

หลักจากนั้นแข็งแกร่งขึ้นเยอะะะะะ

ตอนนี้ทำรูปแบบริษัทแล้วความเสี่ยงก็เยอะขึ้น
ลูกค้าชักดาบได้ แต่ทีมงานต้องได้เงินครบครับ
เจ็บมาเยอะ

ขนาดว่าผมระวังๆ ล่าสุดก็เพิ่งพลาดมาจนได้

แต่เป็นกรณีซื้อของจากในเว็บ คือเห็นส่งรูปของมาให้ดูก่อนเรียบร้อย+เห็นว่าของราคาไม่กี่บาท(พันเดียว)+แถมคนบ้านเดียวกันอีกต่างหาก ก็เลยประมาท โอนให้ก่อนง่ายๆเลย ก็เลยเรียบร้อย...

อย่างว่าแหละ คนสมัยนี้แม่งบาทสองบาทก็เอา


ปอลอ จริงๆไม่ได้เสียดายเงินอะไรขนาดนั้น แต่เสียเหลี่ยมที่โดนลูบคมซะจนทู่เลยมากกว่า ก็เลยแค้นนนนน

เป็นเรื่องใหม่มาก สำหรับผมที่ได้เรียนรุ้เรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันครับ