มาดูขั้นตอนที่ผมใช้อยู่บ้างครับ
มันต้องเริ่มจากใบเสนอราคานู่นครับ ถ้าจะเอาเข้าใจเรื่องใบวางบิล และยาวไปถึงใบเสร็จรับเงิน
หลังจากที่คุยรายละเอียดว่าลูกค้าต้องการอะไรจากเรา
เราก็บอกไปว่า เดี๋ยวผมส่งใบเสนอราคาไปนะครับ
ซึ่งในใบเสนอราคานั้น ก็จะประกอบไปด้วย ชื่อที่อยู่ของเราหรือบริษัทเรา และ ของคนหรือบริษัทที่เราจะเอาเงินเค้าโดยเราจะต้องขอจากทางเค้าเอง
รายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวกับงานนั้น เช่น ชื่องาน ถ่ายที่ไหน วันถ่ายเมื่อไหร่
รายละเอียดอุปกรณ์ หลังจากที่คุยรายละเอียดเราก็จะรู้ว่างานนี้เราจะใช้อะไรบ้าง ใส่ไปเลยครับ อยากใส่อะไรให้มันดูเยอะๆมากมายแต่ไม่เว่อร์นะครับ
เงื่อนไขเกี่ยวกับการเงิน ถ่ายเสร็จแล้วจะรับเงินสดทั้งก้อน หรือแบ่งกี่ % หรือวางบิล ซึ่งควรคุยกันหลังจากทราบรายละเอียดให้แน่ใจก่อนที่จะมาสรุปตรงนี้นะครับ
ลายเซ็นผู้อนุมัติ (ลูกค้า/คนจ้าง/คนจ่ายตัง) ลายเซ็นผู้เสนอราคา(ผู้รับจ้าง/คนโดนจ้าง)
หลังจากที่ส่งใบเสนอราคาไปแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารอกันไปนะครับ
หายเงียบไปก็มี โทรไปถามไม่รับสายก็เคยมี
โทรมาบอกว่าแพงไปอันนี้บ่อย แสดงเค้าเปิดทางให้เราต้องรีบเจรจา แพงตรงไหนอะไรยังไง
หรือลองบอกงานคร่าวมาให้ผมฟังหน่อย เพื่อผมจะได้จัดของให้เหมาะกับงานของพี่ บลาบลาๆๆๆ ก็ว่ากันไป
ทั้งๆที่ราคาเราก็บวกไปเวอร์อยู่แล้ว
ถ้าสรุปว่าจ้างกัน ถ้าจะเอาซีเรียสกันจริงๆก็ต้องเซ็นชื่อแล้วก็สแกนส่งเมล์กันเบื้องต้น
วันถ่ายงานก็เอาไปจริงไปล่าลายเซ็นเพื่อความสบายใจ เพราะมีเอกสารที่จับต้องได้ล่ะ
ในวันที่ถ่ายงานจริงควรจะมีใบส่งของมาให้คุณลูกค้าที่เคารพเช็คพร้อมเซ็นรับทราบด้วยว่าเราเอาของมาครบตามที่เราเสนอราคาไปมั้ย
เพราะมันเป็นหลักฐานในวันที่เราไปวางบิลครับว่าเราเอาของมาทำงานตามที่ท่านจ่ายเงินมา
และก็มาถึงขั้นตอนที่จะใช้ใบวางบิลกันแล้วครับ
ก่อนอื่นเราต้องขอระเบียบการ วางบิล/รับเช็ค ของบริษัทที่เราจะไปเอาเงินเค้า
ซึ่งบางที่ไม่เท่ากัน เช่น
วางบิลทุกศุกร์สุดท้ายของเดือน 14.00-16.00
วางบิลได้ทุกวันพุธ13.00-17.00
วางบิลได้ตั้งวันที่ 25-31
อะไรก็แล้วแต่เค้าจะตั้งระเบียบการนี้ขึ้นมา โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเค้าเป็นอับดับแรก
ใบวางบิลเราก็เอามาจากใบเสนอราคานั่นล่ะ แนบวางพร้องใบส่งของที่มีลายเซ็นลูกค้าในวันที่ออกกอง
แค่เปลี่ยนคำว่า ใบเสนอราคา / ใบส่งของ / ใบวางบิล / ใบเสร็จรับเงิน ด้วยโปรแกรมที่เราสร้างมันขึ้นมา รายละเอียดและองค์ประกอบทุกอย่างให้คงเดิมไว้
ถ้าทำงานกับบริษัทถ้า รายจ่ายเกินหลักหมื่นส่วนมากจะโดน 60 วัน แต่ทุกอย่างเจรจาได้ครับ แต่ต้องเจรจากันในขั้นตอนที่เสนอราคานะครับอย่าลืม
หลังจากวางบิลจะได้เอกสารกลับมา ให้เก็บไว้ดีๆ อย่าให้หาย หายไปเรื่องใหญ่ อดได้ค่าแรงไม่รู้นะ
และก็มาถึงวันที่เช็คจะออก
ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นแบบนี้ครับ
วันศุกร์สิ้นเดือน ช่วงเวลาหลังเที่ยง 14.00-16.00
สองชั่วโมงทองคำเท่านั้นถ้าพลาด รอรอบเดือนใหม่เลยนะครับ
เคยโดนมาแล้ว แรกๆก็ไม่เข้าใจ
นึกขึ้นได้ในอาทิตย์ต่อมา วิ่งไปขอเช็ค ฝ่ายบัญชีลูกค้าบอกว่า จ่ายให้ไม่ได้ ไม่ใช่วันจ่าย
ทำไมวะ เช็คกู เงินกู มันก็อยู่ในห้องบัญชี เดินไปหยิบมาให้ง่ายๆแค่นี้ไม่ได้หรอวะ
สรุปก็ไม่ได้อยู่ดี
ถ้าบุคคลธรรมดาก็เอาสำเนาบัตรพร้อมใบที่เค้าให้มาไปรับ
ถ้าให้คนอื่นไปรับ ต้องเขียนกำกับในสำเนาบัตรทั้งของเราและของคนที่ไปรับแทนว่าเราอนุญาตให้คนนั้นไปรับเช็คแทน
ถ้า บจก หจก ใครก็ได้ ถือใบเสร็จรับเงินจาก บจก หจก ของเราและก็เอกสารที่เค้าให้มา ไปให้เค้าแล้วเซ็นแกร๊กเดียว
ความน่าเบื่อของวันรับเช็คคือ
ในช่วงเวลานั้นจะเต็มไปด้วย เมสเซนเจอร์หลายคนมาก
คิวยาว วุ่นวาย ยืนเขียนนู่นเขียนนี่ วุ่นวายอ่ะ
แล้วถ้ารีบใช้เงินก็อย่าหวังว่าจะเอาเช็คไปขึ้นเงินทันนะครับ
วันศุกร์เราได้เช็คเวลา 15.00 น.
ถ้าออฟฟิตที่ไปรับเช็คมันมีธนาคารตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็มีลุ้นหน่อยว่าจะขึ้นเงินทัน
นั่นในกรณีที่เราบัญชีธนาคารเดียวกันกับเช็คใบนั้นนะครับ
ถ้าไม่ทันก็รอวันจันทร์
ถ้าคนละธนาคารก็รอเรียกเก็บอีกสองวัน
หรือใครใจร้อนก็เปิดบัญชีใหม่ซะ ธนาคารได้ตังส์อีก
จริงแล้วมันเป็นความตั้งใจของออฟฟิตทุกที่ครับที่จ่ายเช็คในวันศุกร์โดยให้เวลารับเช็คช่วงสั้นๆ
เพราะถ้าใครพลาดขึ้นเงินไม่ทัน เงินก็อยู่ในบัญชีนานขึ้น เวลาแค่นั้นก็มีค่านะครับ
ใบหัก ณ ที่จ่าย
จะเป็นเอกสารอีกชุดที่เราจะได้มาพร้อมกับเงินสด หรือ เช็คที่เราไปรับ
รวบรวมเก็บไว้ให้ครบทุกใบ ไม่หายจะดีมาก
เพราะเราต้องยื่นให้สรรพากรแสดงรายได้ครับ
บริษัทที่จ้างเราก็จะบอกสรรพากรว่า เค้าจ่ายเงินให้ใครบ้าง
สรรพากรจะรู้ว่า เรามีรายได้จากที่ไหนบ้าง จากใบหัก ณ ที่จ่าย
จะมีรอบวันที่ยื่นแบบอยู่ ลองหาข้อมูลดูนะครับ
ถ้ารายรับเราไม่ถึงขอบเขตที่จะเสียภาษี เราก็จะได้คืนครับ
ใครไม่เคยยื่นก็เริ่มซะ เงินของเราอย่าทิ้ง ช่วงที่ผมเป็นฟรีแลนซ์ผมได้คืนปีล่ะ 4-5 พันบาท
ในกรณีที่เรามีทีมงาน
ถ้าเราเป็นบุคคลธรรมดาเรามีสิทธิหักภาษีทีมงานนะครับ แต่ไม่มีสิทธิออกใบหัก ณ ที่จ่าย
ก็ขึ้นอยู่ว่าเราตกลงกับทีมงานยังไง
รายได้ของทีมงานที่คุณจ่ายก็จะเป็นรายได้เถื่อน ไม่มีหลักฐาน
แต่ผู้ที่ไปรับงานมาก็จะมีปัญหาเรื่องรายได้บุคลธรรมดาอีก
แต่ถ้าเป็น บจก หรือ หจก
หัก ณ ที่จ่ายได้ครับ ออกใบหัก ณ ที่จ่ายได้
รุ่นพี่ผมคนนึง สะสมใบหัก ณ ที่จ่าย เอาไปกู้แบงค์ซื้อบ้านได้มาแล้วครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย kabko เมื่อ 2010-11-27 12:28 ]