สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 12457เข้าชม
  • 34ตอบกลับ

C I N E M A T O G R A P H Y คืออะไร

ระดับ : สมาชิก I
โพสต์
4
เงิน
107
ความดี
103
เครดิต
44
จิตพิสัย
305
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
มักมีคุณลุกค้าต่างถามกันว่า cinematography ต่างจาก video วันงานอย่างไร
 มาร่วมให้คำนิยามดังกล่าว เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลในการอธิบายลุกค้าและขอเผยแพร่ทางเว็บไซด์
ขอบคุณมากๆค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 34#  โพสต์เมื่อ: 2011-01-02
สรุปสั้นๆนะครับ มันคือ การนำศาสตร์ภาพยนตร์มาใช้ในการผลิตงานเพื่อผลลัพท์แบบภาพยนตร์ครับ

บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
wayufilm เงิน +1 2011-01-02 -
โพสต์
1027
เงิน
33105
ความดี
27831
เครดิต
28064
จิตพิสัย
29772
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 33#  โพสต์เมื่อ: 2011-01-02
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 30 ต้นฉบับโพสโดย tanum เมื่อ 2010-12-30 13:07  :


ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้ครับ การใช้กล้องภาพนิ่งถ่าย ไม่ใช่ส่วนสำคัญของการเข้าใกล้คำว่า ภาพยนต์เลยครับ

อุปกรณ์ เป็นเพียงส่วน นึงของการทำงานเท่านั้นเองนะครับ
.......



ครับผมเข้าใจดีครับ จากบทความของผมเองซึ่งไม่ได้หมายความว่าใช้กล้อง HDSLR ถ่ายแล้วจะได้งานเป็น CINEMATOGRAPHY
เพียงแต่อยากให้เห็นถึงอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการบันทึกภาพ แทนที่จะเป็นกล้องถ่ายภาพยตร์ ซึ่งต้องยอมรับครับว่า HDSLR คงเป็นอุปกรณ์ที่เลือกใช้เป็นอันดับแรกๆ
และที่สำคัญบุคคลที่เข้ามาหาความรู้ในเวปนี้ ส่วนใหญ่ใช้ HDSLR ในการบันทึกภาพครับ
ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ครับ

ปล. CINEMATOGRAPHY คือ ศิลปะของการสร้างสรรค์ผลงานให้เหมือนภาพยนตร์มากที่สุด โดยใช้กล้องภาพนิ่งที่มีคุณสมบัติถ่ายวีดีโอได้ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว เหตุการ์ต่างๆ  (ซึ่งจริงๆใช้กล้องอะไรบันทึกภาพก็ได้ครับ แต่ HDSLR เป็นเพียงคำตอบแรกๆของพี่น้องในวันนี้เท่านั้นเอง) แล้วนำมาลำดับภาพเล่าเรื่องในรูปแบบภาพยนตร์
[ แก้ไขล่าสุดโดย video_p เมื่อ 2011-01-02 00:12 ]
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
34
เงิน
730
ความดี
848
เครดิต
807
จิตพิสัย
907
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 32#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-30
คำว่า cinematography นั้นมีมานมนานพร้อมกับการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างประเทศยุคเริ่มต้นน่าจะประมาณ150-160 ปีมาแล้ว และความหมยที่ถูกต้องก็คือ วิชาการถ่ายภาพยนตร์ คราวนี้มาดูที่คำถามของเจ้าของกระทู้ คำว่าลูกค้า ต้องดูว่าลูกค้าอะไร เช่น ลูกค้าเวดดิ้ง ลูกค้าmv  ลูกค้าหนังโรงฯลฯ แต่ในเคสนี้เท่าที่เข้าใจน่าจะเป็นลูกค้าเวดดิ้งนะ ฉะนั้นผมคิดว่าคำว่า cinematography ของลูกค้าน่าจะเป็นงานที่เราๆทำกันอยู่นั่นแหละ คือเปิดกันในงานมีความเป็นมาของบ่าวสาว ฯลฯ ส่วนคำว่า video น่าจะเป็นการบันทึกงานแต่งทั่วๆไป ในงานแล้วมาตัดต่อส่งให้ลูกค้าทีหลังมั้ง....
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
487
เงิน
18012
ความดี
15686
เครดิต
16044
จิตพิสัย
15903
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 31#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-30
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 22 ต้นฉบับโพสโดย motion-a เมื่อ 2010-11-30 18:22  :
ถ่ายยังไงก็ได้  ให้มันดูเหมือนภาพยนตร์ คนชมบอก โอ้โหเหมือนดูหนังเลย จบ!!


ชอบคำตอบนี้มากครับ Ha Ha
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 30#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-30
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 28 ต้นฉบับโพสโดย video_p เมื่อ 2010-12-28 08:04  :
CINEMATOGRAPHY คือ ศิลปะของการสร้างสรรค์ผลงานให้เหมือนภาพยนตร์มากที่สุด โดยใช้กล้องภาพนิ่งที่มีคุณสมบัติถ่ายวีดีโอได้ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
เหตุการ์ต่างๆ แล้วนำมาลำดับภาพเล่าเรื่องในรูปแบบภาพยนตร์

.......


ผมไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้ครับ การใช้กล้องภาพนิ่งถ่าย ไม่ใช่ส่วนสำคัญของการเข้าใกล้คำว่า ภาพยนต์เลยครับ

อุปกรณ์ เป็นเพียงส่วน นึงของการทำงานเท่านั้นเองนะครับ
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-30
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 18 ต้นฉบับโพสโดย sticky เมื่อ 2010-11-30 17:10  :
***แม้จะถ่ายด้วย Webcam หรือใช้ภาพนิ่งมาร้อยเรียงเป็นเรื่องก็เป็น Cinematography ได้ เพราะ Main หลักอยู่ที่แนวคิดและการเล่าเรื่อง***
.......


เอาไปแปดร้อยกระโหลกครับสำหรับประโยคนี้

แม้ว่าคุณจะถ่ายด้วยกล้องถ่ายทำภาพยนต์ แม้ว่าคุณจะถ่ายทำด้วยกล้อง D-slr  แต่หากว่าคุณเล่าเรื่องไม่ได้ หากว่าคุณสื่อสารไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชณ์ครับ

ในทางกลับกัน หากคุณใช้เพียงกล้องมือถือ ถ่ายออกมา แต่มันสามารถเล่าเรื่อง และสื่อสารออกมาได้ นั่นแล้วไซร้ คือ ภาพยนต์

เพราะ ภาพยนต์คือ Mass Media ชนิดหนึ่ง ที่สร้างมาเพื่อจุดประสงค์ของการสื่อสาร ส่งสารไปยังคนจำนวนมาก โดยนำเอา ศิลปะ และความบันเทิงมาเป็นสิ่งดึงดูดครับ


โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
โพสต์
1027
เงิน
33105
ความดี
27831
เครดิต
28064
จิตพิสัย
29772
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-28
CINEMATOGRAPHY ในสายงานการผลิตภาพยนตร์มักจะเรียกการถ่ายภาพยนตร์หรือผู้ที่อยู่ในต่ำแหน่งช่างภาพว่า CINEMATOGRAPHER
ซึ่งเป็นต่ำแหน่งที่จะต้อง Operate กล้องถ่ายภาพยตร์ และประสานงานกับผู้กำกับและผู้กำกับภาพ

คำว่า CINEMATOGRAPHER ได้เริ่มนิยมใช้เรียกแทนคำว่า Cameraman , Video man  , Videography
ในช่วงเวลาที่เทคโนลีด้านการถ่ายภาพนิ่งพัฒนาให้กล้องถ่ายภาพนิ่ง (DSLR) เพิ่ม Function  การถ่ายวีดีโอมาในตัวกล้อง
เพราะภาพและผลงานวีดีโอที่ได้จากกล้องภาพนิ่งที่ถ่ายวีดีโอได้ (HDSLR) นั้น ได้ภาพวีดีโอที่ได้ใกล้เคียงกับกล้องภาพยนตร์มาก
แถมยังมีคุณภาพในระดับ Full HD 1080P  (Resolution 1920 x 1080p) ซึ่งมีความละเอียดมากกว่ากล้องวีดีโอทั่วไป DV (Resolution 720 x 576)
จะทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น กล้องภาพนิ่งที่ถ่ายวีดีโอได้ (HDSLR) สามารถเปลี่ยนเลนซ์ได้หลากหลายระยะภาพ ทำให้ได้ภาพที่ได้ มีมิติมากขึ้นกว่ากล้องวีดีโอทั่วไป
จึงทำให้ช่างวีดีโอต่างให้ความสนใจในตัวกล้องภาพนิ่งที่ถ่ายวีดีโอได้ (HDSLR) และได้นำมาใช้ถ่ายวีดีโอกันอย่างจริงจังมากขึ้น ช่างภาพหรือช่างวีดีโอที่สร้างสรรค์งานโดยใช้ (HDSLR)
จึงมักเรียกตัวเองว่า CINEMATOGRAPHER และเรียกผลงานของตัวเองว่า CINEMATOGRAPHY

ซึ่งถ้าจะหาความหมายของคำว่า CINEMATOGRAPHY เมื่อแยกคำออกมาจะได้ 2 คำ คือ
CINEMA แปลว่า ภาพยนตร์
PHOTOGRAPHY แปลว่า การถ่ายภาพ
CINEMATOGRAPH แปลว่าอะไร ผมเองยังคงสงสัยอยู่ ผู้ที่ทำงานด้านนี้ต่างให้คำนิยามต่างๆกัน
และผมเองคงจะต้องให้คำนิยาม กับคำนี้ว่า CINEMATOGRAPHY
คือ การสร้างสรรค์งานในรูปแบบภาพยนต์ โดยใช้อุปกรณ์กล้องภาพนิ่งที่ถ่ายวีดีโอได้ (HDSLR) เพื่อให้ได้ผลงานที่ใกล้เคียงกับภาพยนตร์มากที่สุด

การผลิตภาพยนตร์ มีขั้นตอนการทำงานโดยใช้หลัก 3P
P ตัวแรกก็คือ Pre-production คือ ขั้นตอนของการเตรียมงาน ก่อนที่จะผลิตงานจริง เช่น การวางโครงเรื่อง Theme Concept Story รวมถึงการวางแผนกระบวนการผลิต
P ตัวที่สองคือ Production คือ การถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งในขั้นตอนนี้อาจต้องใช้อุปกรณ์บันทึกภาพ ซึ่งเป็นอุปกรณ์แบบไหนก็ได้ แต่สำหรับงาน CINEMATOGRAPHY
กล้องภาพนิ่งที่ถ่ายวีดีโอได้  (HDSLR)  คงเป็นคำตอบแรกในการเลือกใช้งาน (การเลือกใช้มุมกล้องในแบบภาพยนตร์จะเป็น Skill ของแต่ละบุคคล)
P ตัวสุดท้ายก็คือ Post Production หลังจากที่เราได้ Stock ภาพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องนำภาพที่ได้มาลำดับตัดต่อให้ได้งานตามที่เราจะต้องการสื่อสารออกไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่าเรื่องในแบบภาพยตร์

ภาพยนต์กับละครต่างกันอย่างไร ให้ดูที่วิธีการเล่าเรื่องซึ่งต่างกันอย่างชัดเจน การถ่ายทำมุมกล้องและการเลือกใช้ภาพมาตัดต่อก็ต่างกัน สีสันของงานที่ได้ก็ไม่เหมือนกันเลย
ส่วนต่างกันอย่างไรนั้น คงต้องในคุณผู้ชมตัดสินครับ คล้ายๆงานวีดีโอพิธีการที่มีภาพเหตุการ์ณต่างๆครบทุกรายละเอียด
เมื่อเทียบกับงาน CINEMATOGRAPHY ถูกสร้างสรรค์และเน้นไปที่อถรรสในการชม สร้างอารมณ์ เรื่องราว ความสวยงามของมุมภาพ
ถ้ามองถึงกระบวนการทำงานของงานวีดีโอพิธีการกับงาน CINEMATOGRAPHY แล้วแทบไม่ต่างกันเลย แต่งานที่ได้ออกมาจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ

CINEMATOGRAPHY คือ ศิลปะของการสร้างสรรค์ผลงานให้เหมือนภาพยนตร์มากที่สุด โดยใช้กล้องภาพนิ่งที่มีคุณสมบัติถ่ายวีดีโอได้ในการบันทึกภาพเคลื่อนไหว
เหตุการ์ต่างๆ แล้วนำมาลำดับภาพเล่าเรื่องในรูปแบบภาพยนตร์

[ แก้ไขล่าสุดโดย video_p เมื่อ 2010-12-28 08:10 ]
ระดับ : สมาชิก II
โพสต์
11
เงิน
313
ความดี
313
เครดิต
320
จิตพิสัย
276
จังหวัด
สมุทรปราการ
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2010-12-01
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 20 ต้นฉบับโพสโดย composecg เมื่อ 2010-11-30 18:07 :
ความคิดผมว่ามันเป็นคำนิยาม ที่พยามยามจะเรียกสิ่งนี้ว่าอะไร ซึ่งมันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ะคนว่า มันคือ CINEMATOGRAPHY หรือเปล่า
อาจจะไม่ต่างกับคำว่า "มืออาชีพ" ซึ่งมันก็ไม่ได้มีหลักเกณฑ์การตัดสินที่ 100 % ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ อยู่ที่คุณจะเรียกคนอื่น หรือตัวคุณเองว่าอย่างไร
หรือมันอาจเพียงแค่จำกัดความเพื่อให้ได้ราคาขายที่สูงขึ้น ตามกระแสคำจำกัดความ
เราจะทำงานเพื่อให้มันเป็น CINEMATOGRAPHY หรือควรจะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

.......

เห็นด้วยเลยครับ
ไม่ว่าจะมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น เพียงแค่ตั้งใจทำมันให้ออกมาดีที่สุด
ไม่ว่าจะเพื่อเงินหรือเพื่ออะไรก็ตามเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำมันแล้ว
แค่ความภูมิใจบางทีก็พอแล้ว

ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
48
เงิน
1290
ความดี
1396
เครดิต
1325
จิตพิสัย
1541
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
Cinema Photography (ศิลปการถ่ายภาพยนตร์ด้วยการใช้แสง) คือผู้มีความรู้เรื่องธรรมชาติของแสง
เป็นอย่างดี  และจับมันให้มาอยู่ในภาพได้อย่างสวยงาม
แต่ถ้าไม่มีความรู้เรื่องแสงก็ถ่ายไปอย่างไร้จุดหมาย ผิดทาง
 จับแสงมาได้ครึงๆ กลางๆ ขาดๆ เกินๆส่งผลให้ภาพออกมาไม่ดี

 ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยครับ เอามาจากความหมายของ Photography อะครับ
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
ตอบกลับโพส 24 โพสของ (gazang)
อืมดูออกจริงๆหละจารย์ปอนด์ ว่าทั่นไม่ธรรมดาจริงๆ
โพสต์
1345
เงิน
57739
ความดี
53590
เครดิต
54394
จิตพิสัย
60108
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 23 ต้นฉบับโพสโดย motion-a เมื่อ 2010-11-30 18:37  :

ศิลป์มาก ปรมาจารย์ปอนด์




จริง มะ พี่ เอ ทำยังไง มัน ก็ ดูออกและ แยก ออก
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 1 ต้นฉบับโพสโดย gazang เมื่อ 2010-11-30 15:08  :
มันคือ จิตวิญญาณ

มันแตกต่าง

มันแยกออก
.......

ศิลป์มาก ปรมาจารย์ปอนด์
โพสต์
1276
เงิน
25178
ความดี
37915
เครดิต
40757
จิตพิสัย
37283
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
ถ่ายยังไงก็ได้  ให้มันดูเหมือนภาพยนตร์ คนชมบอก โอ้โหเหมือนดูหนังเลย จบ!!
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
417
เงิน
12146
ความดี
9394
เครดิต
12497
จิตพิสัย
4890
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2010-11-30
โอ้วเหมือนเข้าห้องเรียนเลยสวดยอดปวยเลย
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้