สอบถามข้อสงสัยเรื่องความคมชัดของไฟล์ HD ครับ

อยากสอบถามว่า ในการตัดงาน HD นั้น มีวิธีการอย่างไรให้งานที่ออกมามีความคมชัดมากที่สุด คืออ้างอิงจากงานของฟิลลิปบลูม ซึ่งชัดมาก มีคนบอกว่าเกี่ยวกับเรื่องของไฟล์ Apple Prores กับ H.264 หรือ function หรือ plugin หรืออยู่ที่การตั้งค่าในการ Export หรือ Bitrate หรือ Production รบกวนสอบถามการตั้งค่าในการ export ของแต่ละคนที่คิดว่าชัดที่สุดด้วยครับ(MOV) ขอบคุณมากครับ 

มาหาความรู้หน่อยนะครับ ยังไม่ค่อยชัดเจนในเรื่องขนาดและความคมชัดของไฟล์ HD

ตอนนี้กำลังรอทุนของ แม่โขงครับ น่าจะสรุปได้พรุ่งนี้ ว่าจะได้มากพอที่จะทำ สารคดี ดีๆ แบบที่หาได้ยากในไทย หรือ ได้แค่ ทำไรเล่นๆ อยู่ชายแดนครับ ถ้ามีอะไรดีๆ ซักตอนจะนำมาขอคำติชมครับ ตอนนี้มีแต่ งานห่วยๆ ผมออกเดือน เมษา ที่ Travel Channel (คืออยู่ๆ โดนจับทำ สารคดีแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนเลย โง่ และ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ VDO เลย แต่ก็ดันทุรังทำจนจะเสร็จละครับ) ซึ่งทำงานนี้ทำให้ผม รู้เรื่อง VDO และ งานสารคดี (ก็เสียค่าโง่นั่นแหละ) อีกเยอะเลยครับ แต่ยังต้องเรียนรู้ต่อไปครับ

ตอนนี้สนุกกับงาน VDO ครับ เหมือนได้เรียนรู้อะไร ใหม่ๆ มีอะไร ให้เรียนรู้อีกเยอะมากๆ หลังๆ แทบไม่ได้จับกล้องภาพนิ่งเลย ยกเว้นงานส่วนตัวครับ

ที่นี่เจ๋งดีครับ คนมีความรู้เยอะ แอบเข้ามาเก็บความรู้เรื่อยๆครับ

เมื่อมีโอกาสและความสามารถและความพร้อม .......ผลิตออกมาเลยครับงานดีๆมีคนรอชมครับ....งานทั่วไปเพื่อความอยู่รอด
สนใจรอบข้างมากเกินไปไฟเราจะมอดไหม้ดับลง....เรื่อยๆ

ผมว่าอีกไม่นาน (จริง ลุ้น 1Ds Mark IV) ว่าจะสามารถ ถ่าย H264 ที่ คุณภาพเกิน 60-80 Mbit/s ครับ

ผมว่า  RAW (ไม่น่าเป็นคำว่า LAW มันแปลว่ากฏหมาย) มันไม่จำเป็นสำหรับ การถ่าย VDO เท่าไหร่ครับ เพราะ เอาจริงๆแล้ว มัน "เร็ว" เกินกว่าจะไปสนใจเรื่อง Quality แบบเนื้อๆ ครับ ขอแค่ H264 แบบ compress น้อยๆ ชีวิตผมว่าน่าจะมีความสุขละครับ คุณภาพไฟล์ระดับ RED ไม่ได้ไกลเกินฝันครับ เพราะทางเทคนิคแล้ว CMOS ของ Canon มีความละเอียด และ ให้ Dynamic range สูงกว่า RED อยู่แล้วในทุกวันนี้ (พท/pixel มากกว่าเยอะ) แต่ไปติดที่ CPU กับการ บีบอัด และการ write ลง card ต้องมีขนาด file ที่ไม่เกิน 4 GB  มากกว่า ทำให้ Canon เองตัดสินใจบีบอัดกันซะหน้าเขียวครับ

ผมว่า step ต่อไป น่าจะเป็นไปได้ที่ H264 จะถูก compress น้อยกว่านี้ หรือ เลือก ระดับ compress ได้ และ ถ่ายกันลากได้ยาวๆ ด้วย  format ของ card แบบใหม่ ที่สามารถเขียน file ได้ใหญ่กว่า 4GB ครับ

สุดท้ายอยากได้ editor ที่ปรับ file ได้ละเอียดๆ แบบ PS ครับ ทุกวันนี้ ปรับได้หยาย เหลือเกิน และ อัลกอลิทึม แย่กว่า PS มากมายครับ

ทุกวันนี้ผมยัง drum scan ฟิล์มที่เป็นงานส่วนตัวอยู่ครับ  :D

จริงๆ พิมพ์ไปก็คิดไปนะครับ ว่า จะทำมาดีๆ ทำไม ในเมือง บ้านเรายัง PAL อยู่เลย ฮาๆๆๆ

ผมก็คิดเหมือนคุณนินนะครับ
จากตัวอย่างที่ได้เห็น....ผมถือว่าชัดแล้วในระดับกล้อง DSLR ที่สามารถถ่ายVDO เต็มที่ได้ที่ Full HD
แต่ถ่ายภาพนิ่งได้ขนาดใหญ่กว่ามากๆ

อนึ่งVDO ยังมีปัจจัยที่ ตาเรามองเห็นไม่ชัดเคลีย เท่า ภาพนิ่ง
เนื่องจากมี motion blur ซึ่งมีส่วนผกผันกับ shutter speed มาเกีียวข้องด้วย
การเซ็ตกล้องเพื่อถ่ายจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ภาพออกมาเช่นไร

ส่วนตัวแล้วก็ใช้เลนส์ราคา 3000 กว่า มาถ่าย VDO เหมือนกัน และก็ได้ภาพที่พอใจพอสมควรครับ
(ตัวอย่าง http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=2703 )

แต่เมื่อเทียบกับเลนส์อีกตัว ซึ่งราคาไม่ต่างกันมาก เพราะเป็นเลนส์เก่า มือหมุน แต่ทำมาจาก แก้วที่ต่างกัน
ความรู้สึก และ ความพอใจ ที่ได้ (ของผม)กลับต่างกัน (ตัวอย่าง http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=493 )
ผมชอบอย่างหลังมากกว่า


ส่วนตัวแล้ว....คุณภาพที่ต่างกัน(ทั้งเลนส์,กล้อง,ปัจจัยที่ต่างกัน)  ย่อมจะสร้างสิ่งที่ต่างกันอย่างแน่นอนครับ
(สรุปแบบ งงๆ ...แหง หละของต่างกัน ย่อมไม่เหมือนกัน ย่อมสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนกันสิ....ผมเพี้ยนไปแล้วครับ )

sweet spot เป็นเรื่องของ การ design เลนส์ครับ และ มีผลโดยตรงกับ คุณภาพความคมชัดของไฟล์

ถูกต้องแล้วครับ ที่ต้องเรียนรู้ จุดที่เลนส์ให้คุณภาพสูงสุด ซึ่ง ตามทั่วๆไปแล้ว กำลังแยกขยายจะมากขึ้น เมื่อ หรี่รูรับแสง และ จะตกลง เมื่อรูรับแสง เล็กเกินไป หรือ ใหญ่เกินไป แต่ .... อย่างที่ผมลองครับ ผมใช้เลนส์ EF 50 mm f/1.8 ถ่ายที่ f/2 ซึ่งหรี่มาเพียงนิดเดียว จาก f-stop ที่กว้างสุด ซึ่งเลนส์ตัวนี้มีคุณภาพดีมากตั่งแต่ f/2.8 ครึ่งขึ้นไปถึง f/5.6 ครับ แต่ .... มันดีเกินไปครับ ไม่จำเป็น

อย่างที่บอก แม้เลนส์ดีๆ มี กำลังแยกขยายมากๆ มาเจอขนาด file ที่ให้กำลังขยายไม่มาก ก็ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้เลนส์ที่มีกำลังขยายมากๆ เพื่อความคำชัดครับ และ สุดท้ายใช้ Unsharp mask ช่วยได้ยิ่งทำให้ file ดีมากขึ้นครับ

เลนส์ดีๆ แพงๆ จะให้ภาพที่คุณภาพสูงที่รูรับแสงกว้างสุดครับ อย่างเช่น Leica-M หรือ เลนส์ EF 85/1.2 ของ Canon ครับ ถ้ารุ่นเก่าๆหน่อย  เทคโนโลยีการผลิตเลนส์ไปไม่ถึง หรือ เลนส์ซูมคุณภาพแย่ๆ เมื่ิิอเปิดรูรับแสงกว้างสุด จะทำให้ คุณภาพของภาพ ตกฮวบครับ ซึ่ง ผมเลี่ยงที่จะใช้เลนส์กลุ่มนี้ครับ อันนี้เป็นนิสัยที่คิดมาจากภาพนิ่ง เช่น เลนส์ AIS 50 f/1.2 ตัวนี้ เปิด f/1.2 แล้วหาที่ชัดไม่เจอ

ซึ่งสำหรับเลนส์กลุ่มนี้ Unsharp Mask ช่วยท่านได้ครับ ถ้าอาการไม่หนักเกินไป แต่ต้องเพิ่ม radusi ซักนิดครับ

พรุ่งนี้ 60D กับ 17-85 กลับมา จะลองทำ file จากเลนส์เกรดธรรมดาสุดๆตัวนี้ดู และ น่าจะเห็นได้ว่า Unsharp Mask ช่วยได้เยอะถ้ารู้จักใช้มัน หรือ เลนส์ kit 18-55 ที่ใช้ๆกันอยู่หลายๆก็เถอะครับ ถ้า Unsharp Mask ช่วย ก็ได้ภาพดีๆได้ครับ เพราะ อย่างที่บอกครับ เลนส์พวกนี้ แม้จะแย่ตอนที่เป็นเลนส์สำหรับ การถ่ายภาพนิ่ง แต่ พอมาเป็นเลนส์สำหรับ VDO แล้ว ผม "คาดเดา" ว่าน่าจะโอเค เพราะ กำลังแยกขยายของเลนส์พวกนี้ + ภาพ ขนาด แค่ 1920x1080 น่าจะยังโออยู่ครับ

พอดีลูกน้องเอากล้องไปถ่ายเล่นที่หัวลำโพงครับ พรุ่งนี้ กลับมาจากลองดู ผมเองก็อยากรู้ เหมือนกัน ตอนนี้เป็นแต่เพียงการคาดเดา

ส่วนเลนส์ตัวดีๆ อย่าง 24/1.4 , 35/1.4 , 50/1.2 , 85/1.2 ของ Canon เอง เป็นเลนส์ที่ หรี่รูรับแสงเพียงเล็กน้อยก็ให้ file ที่มีคุณภาพสูง จนบางครั้งไม่จำเป็นต้อง ทำ  Unsharp Mask ช่วยครับ ยิ่ง 100/2.8 IS นี่ให้ความคมชัด "เกิน" ความจำเป็นครับ คมไปจนรู้สึกว่า ลำคาญลูกกะตาครับ

ไว้พรุ่งนี้มีอะไร update จะมาขอคำแนะนำต่อครับ

ผมขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมใช้อุปกรณ์แบบบ้านและงานก็แบบบ้านและแก้ปํญหาแบบบ้าน...เหมือนที่คุณ kissb4dieพูดก็ถูกครับต่อให้ใช้เลนส์ดีขนาดใหนก็ไม่สามารถใช้ให้เต็มศักยภาพเพราะมันโดนบีบให้มันด็อบลงยิ่งแต่ละยี่ห้อบีบอัดไฟล์และccdไม่เหมือนกันในกล้องราคาที่ไม่เกินแสนบาท....ผมยังฝันเลยว่าเมื่อไรที่กล้องผมถ่ายแบบ Law File  Movie ได้ผมคงแบก HDหลายๆเทละไปท์ไปด้วยแน่นอนไฟล์มันคงมีข้อมูลมหาศาล HDใหญ่กว่ากล้องอีกผมใช้(GH13เล็กมากๆ)ผมมีและใช้เลนส์ไม่มีชื่อ ตัวละ พันกว่าบาทตอนนี้ได้ 55  1.8มาใหม่คมเหลือหลาย............ไฟล์วิดีโอหยาบกว่าไฟล์ภาพนิ่งเยาะครับ
สมัยก่อนผมรีทัชภาพต้องเอาฟิลม์สไลด์ไปดัมสแกนที่ที่กราฟฟิคโก้คิดเป็นMB (ไม่รู้จำชื่อร้านผิดหรือเปล่ามันนานพอควร)เครื่องดัมตัวเป็นล้านสแกนช้ามากมันหมุนเก็บค่าสีลักษณะการทำงานมันเคล้ายccdในกล้อง.... เมื่อก่อนทำไมเราไม่เอาไฟล์จากกล้องดิจิตอลไปรีทัช ภาพขนาดใหญ่ที่ต้องการความคมชัดสูง(พูดถึงกล้องดิจิตอลไม่เกินแสน) ......แต่ตอนนี้ผมสนใจกล้องREDมากที่ผมสนใจไม่ใช้กล้องREDผมสนใจไฟล์ของกล้องREDมันสุดยอดจริงๆแค่เห็นเป็นภาพต้องได้ไฟล์มาถึงจะแน่ใจแต่ไม่มีปํญญาซื้อกล้องRED คุณkissb4dieต้องใช้กล้องRED มาทดลองดู   ใช้แล้วมาเล่าสู่กันบ้าง
จะขอบคุณยิ่ง (ลองตัดกับAVIDและFCPแล้วมาเปรียบเทียบไฟล์ดูครับ)อาจจะชอบเพิ่มขึ้น ความคิดของผมแบบบ้านๆนะครับ

...วิธีของผมFCPตัดด้วยไฟล์ ProRes 422 QT......FCP OUT : ProRes 422 QT แล้วลงไป DV 16/9 แล้วDVD....... ส่วนมากงานผมแบบบ้านๆVCD dvd งานออกอากาศมีบ้างบางคราวน้อยมาก    ถ่ายกับDSLRลูกค้าก็ชอบบอกว่ามันคมชัดกว่าตอนที่ผมยังไม่ได้ใช้DSLR ผมก็ยิ้มแล้วรับเงิน .DSLR มันคมจริงๆ......

อ๊ะ ขออภัยครับ เพิ่งเห็นว่าคุยเรื่องของไฟล์ 555

ลองศึกษาเกี่ยวกับ sweet spot ของเลนส์ดูครับ  แนะนำว่าอย่าเล่น depth เล่นเบลอมากจนเกินไป
และก็ถ้าเราเข้าใจถึงประเภทของกล้องเรา เช่น ขนาดเซนเซอร์ (มีผลต่อ DOF) ฯลฯ    จะทำให้เราสามารถถ่ายได้ออกมาคมชัด สวย มีสีสันถูกใจตั้งแต่เริ่มเลย ขั้นตอน post จะได้ไม่หนักอะไรมาก

HDSLR เป็นกล้องที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานวีดีโอได้ง่ายเหมือนการถ่ายภาพ แต่อย่าใช้มากจนเกินไปครับ...

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

อ้างอิง

แต่ file ที่ได้ ผมถูกใจครับ :D

เป็นอันได้ข้อสรุป

ยังไงมองเรื่องการจัดสรรพทรัพยากร ที่เรียกว่า Bit Rate ด้วยครับ ส่วนกลไกการบีบอัดอย่าง Codec ในกล้องก็สำคัญ ... ถ้ารู้จักรู้ใจมันทั้ง Codec และ Bit Rate ช่วยให้งานดีขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการถ่ายเลย ... แล้วจะมาปรับเพิ่ม unsharpen อะไร ก็ว่ากันไป ... แต่ถ้า Codec มันบีบซะยับ เพราะจัดสรร Bit Rate ไม่พอ มาถึงโพสต์จะ unsharpen ยังไง ก็ไม่ดีขึ้น ...

เพิ่มเติมซักนิดครับ

ถ้าไม่มีจอ Full HD ไม่น่าจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนสำหรับ file นี้ครับ เพราะ card จอ จะมีการคำนวน เพื่อ แสดงผลใหม่ ซึ่งไม่ได้ แสดงให้เห็นภาพ แบบ 1:1 pixel ครับ ผลที่ได้น่าจะผิดไปพอสมควรครับ

ผมลองเอา file ขึ้นจอ Full HD 40" เห็นชัดมากๆครับ ว่าคมกว่ากันเยอะ :D






เพิ่มเติม work flow 


Canon 5D Mark II H264 convert ด้วย MPEG Streamclip เป็น Apple ProRes 442 LT 
แล้วก็ Edit ด้วย Final Cut
Export ด้วย Compressor เป็น 
H264 1920x1080 @ 9000 bps , 
Quality = High , Single-Pass 


ซึ่งผมเองก็ไม่ได้เน้นคุณภาพอะไรมากครับ เอาเร็วเป็นหลัก ขี้เกียจรอ เพราะ คอมช้ามากกกกก


แต่ file ที่ได้ ผมถูกใจครับ :D 

workflow ของผมถ้างานด้านโพสจริงๆสุดท้ายปลายทางหรือFinalคือช่วงonline หลังจากพอใจกลับcuttingในช่วง offline แล้วก็จะreconform ไฟล์ตัวจริงกลับมา แล้ว Composite, เกรดสี  ส่วนไฟล์ที่ดีที่สุดที่ผมใช้คือ 10bit uncompress รองลงมาก็ ProRes 422 QT
หลังจากนั้นถ้าอยากได้เล็กหรือไฟล์เพื่อส่งให้ลูกค้าดูก็ไปcompressตามต้องการทีหลัง จะเป็น H.264, Lan H.264, Photo jpeg, ProRes ตามต้องการ

พอดีคุณจอบ เข้ามาขอผมเอา clip มา post ผมเลยขออณุญาติ อธิบายครับ

ต้องเกรินก่อน ผมมีความรู้เรื่อง VDO น้อยมาก ถึงมากที่สุด

แต่ผมทำงานภาพนิ่งมา เกิน 20 ปี และ อยู่กับ Photoshop มาตั่งแต่ version 3 ทุกวันนี้ กล้องมันถ่ายหนังได้ก็เลยมาถ่าย VDO สนุกๆครับ และ ก็เอาความรู้เรื่องการถ่ายภาพนิ่งที่สะสมมา 20 ปี เพื่อมาใช้กับ ภาพ VDO ไม่ว่าจะเป็น contrast , level ฯลฯ รวมถึง เรื่อง unsharp mask ซึ่งผมเรียนรู้ครั้งแรกตั่งแต่ 15 ปีที่แล้วใน "ห้องมืด"

พอมาเห็น unsharp mask ใน Photoshop ก็ดีใจ สุดท้ายมาเจอกันอีกทีใน Final Cut ผมก็ยิ่งดีใจ

ผมเลยลองเทส และ พูดคุยกับคุณจอบ หลายครั้งเรื่องนี้ เพื่อ เป้าหมายเดียวคือ "งานที่มีคุณภาพสูงสุด" ครับ

เพราะผมเอง พื้นมาจาก งานภาพถ่ายประเภท Fine-Art และทำให้ผมชอบงานที่มี "คุณภาพ" ที่ถึงสุดขอบของอุปกรณ์ หรือ system ทั้ง system ที่ผมมี

ผมเป็นคนแนะนำ Phillip Boom ให้กับคุณจอบ โดยที่ผมบอกกับเขาสั้นๆว่า เฮ้ย ผมอยากได้แบบนี้ และก็ค่อยๆ แก้ปัญหาด้วยกันว่า ทำไมอุปกรณ์เหมือนกัน แต่ ภาพสุดท้ายที่ได้มา "มันไม่เหมือนกัน" ซึ่งก็แปลกว่า มันไปได้อีก มันยังไม่ถึง limit ของอุปกรณ์ และ system ที่ผมมี ปัญหาเรื่อง unsharp mask จึงเกิดขึ้นครับ

เท่าที่อ่าน หลายคนยังไม่เข้าใจเรื่อง unsharp mask อย่างจัดเจนครับ

unsharp mask เป็นการเพิ่ม local contrast ในระดับ pixel ครับ รายละเอียด ผมว่าหาอ่านใน web ต่างประเทศมีเยอะอยู่ เสียเวลาที่จะอธิบาย

มาดูดีกว่าว่า "ทำไม" ต้อง unsharp mask

ปรกติแล้ว กล้อง D-SLR ที่เอามาถ่าย VDO กันมี CCD หรือ CMOS ที่ให้ file ขนาดใหญ่กว่า file Full-HD มากๆครับ เพราะฉะนั้น ภาพที่ได้จากกล้อง ก็น่าจะเกิดการจาก down sampling ลงมาโดยใช้ CPU ของกล้อง ซึ่ง ในความเป็นจริงๆแล้ว CPU ของกล้อง มันไม่ได้ ฉลาด หรือ แรงพอที่จะทำอะไร ยุ่งยากมากมายได้ครับ มันทำได้แค่เท่าที่จำเป็นครับ

ซึ่งเท่าที่ผมทำสอบ ผมสามารถเพิ่มความคมของภาพที่ได้จากกล้องได้ และ ทุกวันนี้ผมก็เพิ่มไว้ระดับนึงครับ เพราะผม "เกลียด" การ post process ผมอยากจะให้จบในครั้งเดียวที่ถ่าย จะได้ตัดต่อง่ายๆ แต่ การเพิ่ม sharp ในกล้อง อัลกอลิทึม มันโง่ๆครับ พอเพิ่มมากขึ้น มันคมไปหมดจนน่าเกลียด ไม่สามารถ คุมส่วนที่ เป็นพื้นผิว และ ส่วนที่เป็น เส้นขอบได้ ทำให้การ sharp ในกล้องมันทำได้แค่ระดับเดียวครับ

ทำให้ภาพที่ผมถ่ายมา ถ้าอยากจะได้ภาพที่รู้สึก "คม" ผมว่าเอาออกมาทำ unsharp mask ข้างนอก ด้วย CPU ของ computer และ  อัลกอลิทึม ที่ฉลาดกว่าใน Final Cut น่าจะดีกว่า ซึ่งทำให้ผมทำ file จากความรู้เรื่อง Unsharp Mask ในภาพนิ่ง ออกมาให้คุณจอบดูครับ

อีกข้อนึงที่ผม เน้นว่า เลนส์ราคา 3200 บาท เพราะเห็นหลายคนบอกว่า ต้องใช้เลนส์ดีๆ เท่านั้น ผมเลยลองเลนส์เกรดธรรดา เพื่อที่จะทดสอบ idea ว่าจำเป็นไหมว่าต้องใช้เลนส์เกรดสูงๆ ภาพถึงจะคมชัดเหมือนหลายๆคนบอก เพราะในใจผมเอง "ไม่เชื่อ" ครับ

ความคมชัดมันเป็นเรื่องของ system resolution หรือ กำลังแยกขยายของทั้งระบบ ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ ส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ ซึ่งสำหรับ VDO ที่ถ่ายจาก D-SLR แล้ว มันไปขึ้นอยู่กับ ขนาดของ file Full-HD (1920x1080) ซึ่ง ถือว่ามีกำลังแยกขยายต่ำมากๆ เพราะฉะนั้น แม้จะใช้เลนส์ดีมากขนาดไหน แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่า ภาพที่ได้จะตอบสนองกำลังแยกขยายสูงๆของเลนส์ได้เต็ม 100% ครับ ซึ่งผม "เดา" ว่า file ระดับ 1920x1080 เลนส์เกรดกลางๆ ก็มีคุณภาพมากพอที่จะถ่าย VDO ให้ดีได้แล้วครับ

โดยสุดท้าย จะใช้ unsharp mask มา correct system resolution ทั้งหมดอีกที เพื่อ ให้ได้ภาพที่ คมชัดในแบบที่ผมต้องการครับ

แนะนำได้เลยครับ ผมชอบการถกเถียงแบบสร้างสรรครับ อยากมีความรู้มากขึ้น และ อยากรู้ว่า อะไรดีที่สุดครับ