—
เพิ่มเข้าหัวข้อสำคัญ โดย ake เมื่อเวลา(2010-04-07)
—
การถ่ายทำภาพยนตร์ 1
เป็นเรื่องที่รายละเอียดเยอะอีกแล้วสิ....
หลายๆคนอยากทำหนังกันเพื่อรอวันนี้ วันที่ได้ออกกองถ่ายทำกันจริงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมาขอบอกว่าออกกองวันแรกโคตรตื่นเต้นเลย ยิ่งตอนออกกองงานที่เรามีนายทุน หรืองานจริงที่มีคนจ้างนะ ความกดดันมันเยอะไปหมด เรื่องบางเรื่องปัญหาบางปัญหาที่เราไม่เคยคิดมันโผล่มาให้เราเห็นหน้าไม่รู้จักหยุดจักหย่อน แต่ถ้าเรารู้จักมันก่อน ขอบอกว่ามันก็เป็นปัญหาเดิมๆที่เจอกันมาทั้งโลกแล้วนั่นแหละ
แล้ววันนี้เราจะคุยเรื่องอะไรกันดี....รู้แล้ว...เรามาพูดถึงภาพรวมกันก่อนดีกว่าว่าโปรดักชั่นหนังมันมีอะไรกันบ้าง
สิ่งที่ใช้ในการถ่ายหนัง
1.สถานที่ถ่ายทำ
ครับ...เราจะถ่ายหนังเราต้องมีที่ครับ ไม่มีที่ถ่ายไม่ได้ครับ แต่จะเป็นที่ไหนอย่างไรนั้น แล้วแต่บท แล้วแต่งบประมาณ แล้วแต่ความปากดี(ในกรณีที่ไปขอเขาใช้ฟรีครับ) สิ่งที่ต้องคำนึงนอกจากความสวยงามตรงตามบทแล้วนะครับ ยังจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องแวดล้อมอื่นๆอีกครับเช่น
จำนวนคน ของเรากับสถานที่ที่เราไปถล่มเขาเหมาะกับสถานที่ที่มีมั๊ย ถ้าคับแคบไปอาจจะเกิดปัญหาได้ครับ ถ้าแคบมากจะเอาทีมไปเก็บไว้ตรงไหนได้บ้าง
อาหารการกิน ห้องน้ำ ที่แต่งหน้า ที่พักนักแสดง สิ่งเหล่านี้ควรดูเผื่อคิดเผื่อไว้นะครับ เพียงเพราะเรื่องแค่นี้ทำให้กองถ่ายทำงานช้ากว่าที่ควรจะเป็นมานักต่อนักแล้ว เรียกได้ว่าวันถ่ายทำจริง เมื่อไปถึงสถานที่ ควรรู้หมดแล้วว่าอะไรอยู่ตรงไหน ไปถึงได้ทำงานได้ทันทีไม่ต้องมารอกัน
ที่เสียบไฟ ในกรณีที่เราไม่ได้รถปั่น แต่มีไฟที่ต้องใช้ และการต่ออุปกรณ์กล้องและมอนิเตอร์ ต้องเช็คจำนวนวัตต์ของสถานที่กับไฟที่เรามีด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นฟิวส์ขาด หม้อระเบิด จะเสียเงินเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า (เคยเจอมาแล้วครับ ดับทั้งตึก) และก็ตำแหน่งเต้าเสียบทั้งหลายกับจุดที่เราจะถ่ายจะได้เตรียมโรลพ่วงไปให้เรียบร้อยครับ ไม่งั้นทุกอย่างเยี่ยม แต่ปลั๊กเสียบไม่ถึงต้องมาหาปลั๊ก เสียเวลาไปอีก
เสียงรบกวน เสียงนี่เป็นเรื่องสำคัญครับ ถ้าเราถ่ายหนังอัดเสียงแต่สถานที่มีเสียงรบกวนเยอะมาก ตอนถ่ายไม่รู้สึกอะไรหรอกครับ แต่พอเข้าห้องตัดเท่านั้นแหละครับ กุมขมับกันเป็นแถว เพราะว่าเสียงมันจะโดดไปโดดมา ดังนั้นเลือกที่ที่สงบนิดหนึ่งก็จะดีครับ แต่ถ้าไม่ได้ก็อาจจะต้องเตรียมกำลังคนไว้คอยห้ามเสียงเหล่านั้นครับ
2.อุปกรณ์บันทึกภาพ
กล้องครับ มีสถานที่แล้วไม่มีกล้อง อันนี้ก็ไปนั่งเล่นปั่นแปะกันนะครับ หรือจะเล่นไพ่ก็ไม่มีใครว่าครับ...
กล้องมีหลายประเภทครับ ตั้งแต่กล้องฟิล์ม16 ฟิล์ม 35 กล้องวีดิโอ ระบบเบต้า กล้องมินิดีวีแบบโปร 3ccd กล้องแฮนด์ดิแคม การถ่ายหนังเราก็ต้องเลือกกล้องให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราจะนำเสนอ เดี๋ยวรายละเอียดคงอยู่ในบทถัดๆไปครับ เรื่องนี้คุยกันยาว อ้อ...ก่อนไปถ่าย ก็ศึกษาวิธีการใช้ซักนิดนะครับ เดี๋ยวไปเหวอเอาหน้ากองจะไม่งาม
ขาตั้งกล้องครับ นี่ก็จำเป็นครับ ถึงแม้ว่ากองเราจะเป็นแฮนด์เฮลแบกถ่ายกันทั้งเรื่อง แต่การมีมันไว้ตั้งยามที่พักกอง หรือปรึกษากัน มันก็ลดความเสียงที่ใครจะเดินมาเตะกล้องเราพังได้นะครับ แต่ถ้าไปถ่ายแบบกองโจรอย่าเอาไปนะครับ วางปุ๊บเก็บตังค์ปั๊บ นี่ก็เคยโดนมาแล้วครับ
เทป, ฟิล์ม อันนี้โคตรสำคัญครับ! เตรียมไปให้พอกับที่เราจะถ่ายในวันนั้นนะครับ มันเป็นสิ่งที่จะบันทึกเงินและความทุ่มเทของเราครับ
มอนิเตอร์ สายเชื่อมต่อต่างๆ สำหรับคุณผู้กำกับครับ เดี๋ยวนี้อาจจะไม่จำเป็นเพราะมีวิวไฟน์เดอร์ที่กล้องเป็นแอลซีดีก็ไปเหน็บดูกับตากล้องได้ แต่มีไว้ดีกว่าครับ ถ้าเราเป็นพวกต้องเห็นทุกอย่าง ไม่มีมอนิเตอร์ก็แบกทีวีไปก็ได้ครับ สำหรับกองถ่ายทุนต่ำ แล้วอย่าลืมโมสายสัญญาณยาวๆไปนะครับ กล้องเขาจะได้มีอิสระหน่อย แล้วก็เตรียมปลั๊กพ่วงอะไรไปให้เรียบร้อยนะครับ เดี๋ยวจะขนไปแล้วไม่ได้ใช้เพราะไม่มีที่เสียบไฟ (เดี๋ยวนี้มีจอทีวีติดรถยนต์ เอามาโมให้เสียบแบต แบกไปไหนมาไหนได้ก็สะดวกดีครับ)
สเลจ (ขากตุ๋ย... อันนั้นไม่ใช่ครับ) สำหรับหนังที่ถ่ายแยกบันทึกเสียง จำเป็นมากครับ เพราะมันมีหน้าที่เอาไว้ซิงค์เสียงให้ภาพกะเสียงตรงกัน และไว้บันทึกข้อมูลการถ่ายทำของซีนนั้น ให้คนตัดต่อได้รับรู้ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาว่ากันอีกทีในรายละเอียดนะครับ แต่ถ้าบันทึกเสียงในกล้องเลย ก็ใช้เป็นไวท์บอร์ดเล็กๆ กระดาษหรืออะไรที่เขียนแล้วถ่ายออกมาได้ก็แทนกันได้เหมือนกันครับ
อุปกรณ์เสริม ดอลลี่ เครน แพลทฟอร์ม เดี๋ยวเราว่ากันในเรื่องของภาพดีกว่านะครับ
3.อุปกรณ์กำเนิดแสง
ไฟครับ... อาจจะจำเป็นหรือไม่จำเป็นก็ได้ อันนี้แล้วแต่ครับ มีสองแบบครับ ทังสเตนออกเหลืองๆ กับ เดย์ไลท์ออกฟ้าๆ (เดี๋ยวเรามาลงรายละเอียดกันในบทถัดไปนะครับ) สมัยก่อนตอนถ่ายหนังสั้นเรื่องแรกๆ ผมเคยใช้ไฟ 60 วัตต์ 80 วัตต์มาโมครับ ใช้ได้เหมือนกันแต่อาจจะดูห่วยๆหน่อย แต่ภาพที่ออกมาก็โอเค พอดูได้ครับ
เจล เอาไว้แก้อุณหภูมิสีครับ หน้าตาคล้ายๆกับกระดาษแก้วห่อขนม แต่ทนความร้อนกว่ามหาศาล ใช้หลักๆสองสี เป็นทังสเตนกับเดย์ไลท์เหมือนกันครับ เรียกกันเป็นเบอร์ๆครับ เดี๋ยวค่อยว่ากันเนื้อที่ใกล้หมดแล้ว
เทรซซิ่ง เป็นแผ่นๆฝ้าๆ หน้าตาเหมือนกระดาษไข หนังทำมืออย่างเราก็เลยใช้กระดาษไข เอาไว้กรองแสงครับทำให้แสงนุ่มขึ้น
รีเฟล็กซ์ เป็นอุปกรณ์สะท้อนแสง มักใช้โฟมครับ ใหญ่เกินก็หักได้ เอากระดาษกาวต่อได้อีก เอาหนาๆหน่อยจะได้ไม่ขยันหัก หรือจะใช้แบบเป็นฟลอยก็ได้ครับ แล้วแต่การใช้งาน
อุปกรณ์เสริมต่างๆ ขาไฟ จำเป็นที่สุดถ้ามีไฟ ถุงทราย แอ็ปเปิ้ลบ๊อกซ์ คัทเตอร์ โคโบ สคริมป์ แคลมป์ เอาเป็นว่ามันอีกเยอะจริงๆ ไว้คราวไหนที่พูดถึงเรื่องไฟเยอะๆ เรามาคุยกันยาวๆ แล้วลองไปหาของประยุกต์ใช้กันดูก็ได้ครับ จะได้ถูกๆ
4. สิ่งที่จะถูกถ่าย
มีสถานที่ กล้อง ไฟ แล้ว ก็ต้องมีสิ่งที่เราจะถ่ายครับ อาจจะไม่ใช่คนหรือนักแสดงเสมอไป อาจเป็นสิ่งของ สัตว์ หรือ อะไรก็ได้ ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้กวนนะครับ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องคำนึง เพราะ การถ่ายอะไรก็ตามบางทีมันมีลักษณะเฉพาะของมันที่เราต้องเตรียมเพิ่มเติมไป เช่น ถ่ายรถ รถมันสะท้อนได้ทั้งคันด้วยความมันวาวของตัวรถ เราก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้รถไม่สะท้อนไฟ ทีมงาน หรืออื่นๆที่จะเข้าไปเสนอหน้าเป็นดารารับเชิญกัน
สิ่งที่จะบอกคือทุกอย่างต้องคิดไปก่อนออกกองครับ แล้วการออกกองของเราจะราบรื่น ฉลุย พอถ่ายตามแผนจบ ได้ทุกอย่างครบตามที่ต้องการแล้ว จะงอกอะไรเพิ่มเติมก็ไม่มีใครว่าครับ
เสริมนิดนึงครับ
ถ่ายกลางแจ้งฤดูร้อน สิ่งที่ควรเตรียมไปอีกสิ่งแล้วมักจะลืมกันคือ ร่มครับ เตรียมไปเถอะครับ ไม่งั้นอาจจะสุกจนเอาเนื้อมาแล่แบ่งกันกิน ประหยัดค่าอาหารไปได้อีกมื้อได้นะครับ
แต่ถ้า ถ่ายฤดูฝนกลางแจ้ง แต่ไม่ต้องการฝน ให้เตรียม ตะไคร้ และสาวบริสุทธิ์ ไปปักให้ฝนหยุดด้วย ของอย่างนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะครับ ลองมาแล้ว เมื่อก่อนตอนถ่ายฝนตกตลอดแทบถ่ายไม่ได้ ก็มีน้องฝึกงานอยู่คนเธอเป็นสาวบริสุทธิ์ครับ เธอจะรับหน้าที่นี้ตลอด แล้วฝนก็หยุดทุกครั้ง แต่มีวันหนึ่งครับฝนตกแบบปรกติ เราก็เรียกน้องเขามาเหมือนเดิม แต่วันนี้ดูน้องเขากล้าๆกลัวๆ น้องเขาก็ต้องปักครับ พอปักไป มาเป็นพายุเลยทีนี้ ทุกคนหันไปดูน้องเขาเป็นตาเดียว
น้องเขายิ้มเขินๆ "หนูโตแล้วนะพี่....แล้วก็ เอ่อ อย่าบอกแม่หนูนะ"
สรุปวันนั้นยกกองครับ หุหุ
|
