การตัด Off Line จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่ เอาเป็นว่าผมสรุปแบบรวบรัดเลยแล้วกันนะครับ
ต้นกำเนิดมันเกิดมาจากระบบฟิล์มครับ มันคือการ Digitize ความหมายคือ เราถ่ายทำมาด้วยระบบฟิล์มแล้วเราไปล้างฟิล์มเสร็จแล้วเราอยากตัดต่อ
ในโปรแกรมจำพวก NLE (None Linear : โปรแกรมตัดต่อในระบบดิจิทัล เช่น Premiere, Avid, FCP, Vegas ที่เราใช้ทั่วๆ ไป) ในระบบฟิล์มเราต้องทำการ
Telecine ก่อนเพื่อเปลี่ยนข้อมูลภาพทั้งหมดที่ล้างฟิล์มมาเป็นระบบดิจิทัลลงใน เทป BETA, MiniDV, HD แล้วแต่ตามที่เราต้องการแล้วมันจะมีการทำ
Edge Code หรือ Time Code Number ตามขอบฟิล์มเพื่อจะให้เวลาในฟิล์มกับดิจิทัล ตรงกันเพื่อการย้อนกลับไปใช้ฟิล์มอีกครั้งเรียกว่าการ Conform
เพื่อไปตัด Negative ในขั้นตอนการทำสีต่อไปนี้คือระบบฟิล์ม
ส่วน Off Line ในระบบดิจิทัลนั้นคือ การแปลงไฟล์ นั่นเองครับตามที่เข้าใจมาแล้วบางส่วน
ก็คือเราไม่อยากตัดไฟล์ต้นฉบับโดยตรงเนื่องจาก Codec พวกนี้มันเป็น Acquisition Codec หมายความว่ามันเป็น Codec ที่โดนบีบอัดสำหรับการถ่ายเพื่อให้กล้องมีความสามารถในการบันทึกได้ในขณะถ่ายอยู่และสามารถเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด เช่น MXF, HDCAM, AVCHD, MP4(H264),R3D, XDCAM, HDV, DVCProHD อะไรพวกนี้ถ้าจะตัดโดยใช้ไฟล์ Codec นี้เลยได้ไหม คำตอบคือได้แต่บาง Codec มันต้องทำการ Encode Decode ตลอดเวลาหากมีการขยับ Timeline หรือการ Trimming ต้องคอยเรนเดอร์ตลอด หรือเล่นแบบกระตุก ไม่ Real Time ซึ่งต้องอาศัยเครื่องที่มีสเปคคอมค่อนข้างสูงเพื่อมาใช้ในการประมวลผลข้างต้นนี้เขาจึงต้องทำการแปลงไฟล์เป็นไฟล์ Codec ที่เหมาะกับโปรแกรมนั้นๆ เพื่อให้โปรแกรมตัดต่อเล่น Real Time ได้แม้ว่าเครื่องจะมีสเปคคอมต่ำก็ตามเนื่องจากไม่ต้องคอยไป Encode Decode อีกแล้ว เช่น Avid ก็จะแปลงเป็น OMF,MXF, FCP ก็จะแปลงเป็น Prores ซะส่วนใหญ่, Vegas แปลงเป็น AVI,MPEG แล้วสุดท้ายเราต้องการกลับไปใช้ไฟล์ต้นฉบับเราก็ทำการ Conform หรือการ Reconnect กับไป On Line อีกครั้ง ถ้าหากเราไม่ใช้โปรแกรมที่เราตัดต่อ Conform เพราะเราต้องไปทำสีในโปรแกรมอื่นๆ เราต้องทำ EDL,XML ออกไปเพื่อให้ Cutting ตรงกันกับที่เราตัดเอาไว้พอมันเรียกใช้ไฟล์ต้นฉบับ Cutting จะได้ตรงกัน
ในกรณีการถ่ายด้วยกล้อง Canon DSLR มันจะบันทึกไฟล์เป็นระบบ MP4 โค้ด H264 ซึ่งบีบอัดเยอะมากและเป็นแบบ Inter Frame (เฟรมไม่แท้มีการสร้าง B Frame P Frame เพื่อให้ครบ Fps) ยิ่งทำให้เครื่องต้องเข้ารหัสหนักเลยมันจึงกินทรัพยากรณ์เครื่อง ที่สำคัญเดือดร้อนต้อง Upgrade เครื่องเราด้วยแต่ส่วนใหญ่เรานิยมแปลงเป็นไฟล์ใหญ่ไปเลยโดยไม่ย้อนกลับไปใช้ไฟล์ต้นฉบับอีก เพราะคุณภาพตอนแปลงไฟล์ใกล้กับต้นฉบับมาก เช่น แปลงเป็น Prores 422 ,หรือ MPEG, AVI อย่างนี้ถือเป็น Off Line ทั้งหมดถ้าไม่กลับไปใช้ไฟล์ต้นฉบับไม่ว่าจะแปลงเป็นไฟล์ที่มีขนาดเล็ก หรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่
แล้ว Proxy คืออะไร มันคือ ไฟล์ที่เป็น Script แค่เชื่อมต่อไปที่ไฟล์ต้นฉบับพูดง่ายๆ คือ Short Cut แต่มันจะมีเรื่องของ Resolution ที่ต่ำแต่ไช้ข้อมูลภาพจากต้นฉบับทำให้สามารถตัดต่อได้แบบ Real Time เช่นเดียวกัน
[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2011-05-16 03:29 ]