" รักฟรีแลนซ์ คิดผิดคิดใหม่ ".. น้องใหม่รักฟรีแลนซ์อยากให้อ่าน..

" อยากรู้ว่าควรได้เงินค่าจ้างในอาชีพโปรดัคชั่นเท่าไหร่ 1 + 2 
http://www.thaidfilm.com/read.php?tid=8764&fpage=2&page=1
นี่คือบทความเดิมที่เขียนไว้ ( สำหรับพนักงานประจำ ) ขอสรุปเนื้อย่อมาให้อ่านอีกครั้ง...
-โปรดัคชั่นเกรด3ทำได้แต่ไม่ดีที่สุด เพียงสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเองได้ถ้าจะรับสมัครคนเข้าทำงาน ในแต่ละเกรด จำต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง
คนทำงานเกรด3 มี3 ข้อเท่านั้น- อย่าถ่ายหัวขาด / - อย่าถ่ายเบลอโฟกัส / - อย่าถ่ายภาพคนหันตูดเข้ากล้องมากกว่าคนหันหน้า
นอกนั้น อยากทำอะไรทำมาเถอะไม่สน ( ห้าม 3 ข้อ ไม่ควรทำ เพราะคอมแก้งานที่เสียให้ออกมาดีไม่ได้ )
                                          ………………………………………………
- โปรดัคชั่นเกรด 2 ทำได้ทุกอย่างจริงเหมือนเกรด 1 
คนทำงานเกรด 2 เยอะหน่อย รวมเกรด 1 และรวมสิ่งใหม่เข้าไป
- ระวังเรื่องอารมณ์ของภาพ ( เศร้า สนุก ดีใจ ภาพต้องแสดงออกมาคล้อยตาม )
-   "    เรื่องจังหวะของภาพ   ( อารมณ์สนุกภาพควรเร็ว ซึ้งเศร้าควรช้า )
-   "    เรื่องเวลาของภาพ      ( น้อยไปไม่เด่นชัด มากไปเหมือนยัดเยียด ) 
-   "    โทนของเรื่องทั้งหมด ให้ไปในทิศทางเดียวกัน ( เนื้อเรื่องไม่ขัดกัน - ภาพ/ตัดต่อ ) 
                                           ………………………………………………
โปรดัคชั่นเกรด1 โปรดัคชั่นแน่นด้วยความรู้( ทุกทฤษฏี) มากด้วยประสบการณ์ ( ทุกประเภทของงาน ) รอบรู้ทุกเรื่องอย่างอาจารย์
คนทำงานเกรด 1 มีข้อเดียว (ระดับเทพ ) ไม่รู้จักคำว่า " ไม่ " รู้จักคำเดียวคำว่า " ต้อง "
   - ไม่มี  - ต้องมี
   - ไม่ทำ - ต้องทำ
   - ไม่ได้ - ต้องได้ และอื่นๆอีกที่ต้องๆๆๆๆๆได้ๆๆๆๆๆ....
                                          ………………………………………………
... หลายคนที่พยายามก้าวขึ้นเกรดสูงแต่ไม่สำเร็จ เพราะ …
- ไม่เข้าใจวิถีทางเดินและวัฒนธรรมในเกรดนั้นๆ......( อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ก็กลับไปอ่านซำ้ได้ )
ที่ต้องกลับมาเขียนใหม่อีกครั้ง เพราะมีน้องเม้นท์ส่วนตัวมาถึงว่า" การทำโปรดัคชั่นมีวิถีทางเดินและวัฒนธรรมด้วยหรือ" 
    ถามตรงตอบตรง ม่ายรู้เหมือนกัน เพราะเป็นคำพูดที่เขียนขึ้นเองจากความคิดของตัวเอง ที่เห็นพี่ๆฟรีแลนซ์ในวงการทำผิดเล็กๆน้อยๆโดยไม่รู้ตัว..
 ( แต่มีผลถึงปัจจุบันทำให้มีงานหรือไม่มีงาน ) ก็เลยคิดอยากเขียนถึงพี่ฟรีแลนซ์ ในหัวข้อ " รักฟรีแลนซ์ คิดผิดคิดใหม่ " ..น้องใหม่ไม่ควรมองข้าม...
1. คิดผิด   - เมื่อฟรีแลนซ์ถูกเรียกตัวไปทำงาน มาถึงก็พยายามพูดอธิบายถึงสรรพคุณความสามารถที่ผ่านมาของตัวเอง เช่น ใช้กล้องยี่ห้อ รุ่นอะไร , 
                   การใช้โปรแกรมตัดต่อ , ลักษณะรูปแบบงาน ทำกับใครที่เป็นผู้กำกับดังๆมาแล้วบ้าง ฯลฯ…..
คิดใหม่   - ไม่ผิดในการอธิบายข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด เพื่อให้คนอื่นได้เข้าใจและมองเห็นภาพว่า ที่เรียกผมมาใช้งานน่ะรับรองไม่ผิดหวัง
                   เพราะประสบการณ์ผ่านงานเยอะ เพียงแต่ทำผิดที่ผิดทางเท่านั้น การอธิบายโดยละเอียดถึงข้อมูลส่วนตัวน่าจะทำสำหรับลูกค้าหรือคนที่ไม่ได้
                   อยู่ในวงการโปรดัคชั่นเท่านั้น ส่วนคนที่ทำงานโปรดัคชั่นอย่างเราๆ ไม่ต้องพูดเยอะ เขาถามทำอะไรบ้าง.... ตอบสั้นเข้าใจพอ เช่น..
                   " ถ่ายรายการวัยรุ่นแบบอินดี้ๆ, ละครนิดหน่อย , สารคดีชีวิตแบบคนค้นคน คับ…" ( ทำนองนี้สั้นๆพอรู้เรื่อง ไม่ต้องลงลึกกล้องโปรแกรม )
                   ที่ให้พูดสั้นเพราะ คนทำงานอย่างพวกเราเอียนจะตายกับคำพูดพวกนี้ ..เครื่องมือ โปรแกรม รูปแบบรายการ ฯลฯ เพราะโดนถามทุกวัน
                   ส่วนประสบการณ์งานมากน้อยไม่ต้องอธิบาย  เพราะพอทำงานจริงเขาก็จะเห็นเองว่าเราเก่งอยู่ในเกรดไหน พูดมากทำให้พี่คนจ้างรำคาญ
                   บางคนถึงกับพูดประชด " ถ้าฟังมันคุยแล้วข้าเก่งขึ้นด้วย ก็จะฟังมันคุยว่ะ "….
2.คิดผิด    -  เวลาไปถ่ายทำนอกสถานที่ เช่น ถ่ายละคร, MV เดินไปไหนใครถาม ( ถามเพราะเราเผอิญอยู่ใกล้ )  เราก็ช่วยอธิบาย.... 
    คิดใหม่   -  ถ้าไปทำงานแล้วมีผู้ช่วยไปด้วย ปล่อยหน้าที่นี้ให้เป็นของบริษัทฯที่จ้างเรามา เป็นคนพูดแทนเรา อย่าเข้าไปเอี่ยวด้วย การที่เราพูดอธิบาย
                   ยิ่งพูดมากยิ่งไม่จบ เช่น" ถ่ายเรื่องไรคะ..ใครพระเอก..ออกช่องไหน...กี่โมง..นางเองมาป่าวคะ.."( เดี๋ยวพี่คนจ้างเห็นจะหาว่าเราอู้งานเอาแต่คุย )
                   และไม่ใช่มีถามคนเดียวถามกันทั้งวัน เวลาใครถามก็โบ้ยไปนู่นเลย ผู้ช่วยยกขา หรือใครก็ได้ .. พี่คับถามคนนั้นได้เลย ให้คนอื่นทำหน้าที่แทนเรา ..
3.คิดผิด   -  พี่ฟรีแลนซ์หลายคนมักจะประสบการณ์เพียบ บางครั้งเห็นอะไรผิดพลาดก็แก้ไข แนะนำ ..
    คิดใหม่  -  หลายครั้งที่พี่ฟรีแลนซ์ทำอะไรลงไป ( ตั้งใจด่ี ) แต่อาจทำให้พี่คนจ้างลำบากใจ เช่น ไปถ่ายสัมภาษณ์ เห็นผู้ถูกสัมภาษณ์ทำผิด  เช่น พูดผิด 
                    มือเกาไปคุยไป แต่ทีมผู้จ้างมีโปรดิวเซอร์ผู้กำกับไปด้วย เขายืนเฉยไม่ทำอะไร เราก็ควรปล่อยให้เหตุการณ์นั้นผ่านไปไม่ต้องไปยุ่งสั่งเทค
                    เพราะเขาอาจไม่เอาตรงนั้น แต่ไปใช้ส่วนอื่น  การที่เราไปสั่งเทคหรืออธิบาย จะกลายเป็นไปข้ามหน้าข้ามตาของคนที่ทำงานอยู่ 
                   แต่ถ้าเกิดไม่มีผู้กำกับหรือโปรดิวเซอร์ไปเราก็อาจช่วยดูกำกับได้คับ..
4. คิดผิด   - พูดถึงผู้กำกับ หรือผู้ใหญ่ที่สนิทร่วมงานด้วย..
    คิดใหม่ - ถ้าจะเล่าถึงประสบการณ์การทำงาน พยายามพูดเฉพาะตัวงานที่ทำ อย่าพยายามพูดถึงตัวคนที่ร่วมงาน และความสนิทที่มี เพราะเกิดคนที่พูดถึง
                    ( นายเก่า ) มีอดีตกันระหว่างโปรดิวเซอร์ใหม่ ( นายใหม่ )  เดี๋ยวงานเข้า พลอยให้เราติดร่างแหโดนเกลียดไปด้วย อย่าลืมนะคับว่า วงการโปรดัคชั่น
                   แคบมากๆ คนเก่งยังน้อยอยู่ ฉนั้นไปไหนอาจไม่รู้จักชื่อแต่พอเห็นหน้าร้องอ๋อตามๆกัน เซฟตัวเองไว้ ใครจะทะเลาะกับใครข้าไม่สน ขอทำงานก่อน..
5. คิดผิด  -   เจ้าของงานคือเจ้าของบริษัทฯ
    คิดใหม่ -  หลายคนที่เจอเจ้าของบริษัทฯ แล้วรีบเสนองานโดยไม่ให้ความสนใจโปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับ จริงๆแล้วเจ้าของงานตัวจริงคือโปรดิวเซอร์กับผู้กำกับ
                     ในการเลือกผู้ร่วมงาน เจ้าของอาจเสนอให้รู้ แต่ถ้าโปรดิวเซอร์ไม่เอาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ท่องไว้ ทำดีไว้กับพี่เหล่าๆนี้งานเพียบ...
6. คิดผิด   -  เมื่อพบเจอปัญหาแล้วไม่แก้ไข 
   คิดใหม่  -  พี่ฟรีแลนซ์หลายคนที่เวลาไปทำงาน เมื่อเจอปัญหาเฉพาะหน้าควรแก้ไขให้ลุล่วงไปก่อน บางครั้งอาจต้องใช้เงินส่วนตัวในแก้ปัญหาก็ควรทำ
                  กรณีไม่มีโปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับผที่เป็นผู้ใหญ่คุมไป เช่น ไปถ่ายแล้วหลอดไฟขาด ไม่มีสำรอง อาจต้องไปวิ่งหาซื้อจัดการแก้ไขแล้วค่อยกลับ
                  มาเบิกตอนหลัง คงไม่มีผู้ว่าจ้างคนไหนไม่จ่ายเงินให้ภายหลัง เพราะเห็นความตั้งใจดี ไม่ใช่หลอดไฟขาดก็ถ่ายมามืดๆแล้วกลับมารายงาน..
7.คิดผิด  -  โปรดัคชั่นให้ราคาเหมาในราคาประหยัด
   คิดใหม่ -  หลายโปรดัคชั่น ที่เรียกฟรีแลนซ์มาทำงาน ไม่ว่าจะให้เช่าห้องตัดต่อ , เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำ เนื่องจากครื่องมือไม่ทันสมัย อุปกรณ์ไม่ครบชุด
                  จึงคิดในราคาพิเศษ หรือคิดในราคาเหมาจนงานเสร็จ กรณีนี้อย่าคิดว่าฟรีแลนซ์จะชอบใจ ( เพราะเสียค่าใชจ่ายน้อย )แต่ได้ชั่วโมงทำงานมาก
                  จะกลับกลายทำให้ฟรีแลนซ์ค่อยๆหายหน้าไป เพราะแทนที่จะได้รับจ๊อบมากขึ้นจากชั่วโมงที่ใช้ในการทำงานที่น้อยลง กลับต้องทำงานมากขึ้น
                  แต่ได้จ๊อบงานน้อยลง ( ไม่คุ้มกับการประหยัดที่เสียค่าใช้จ่ายน้อย )
    ณ วันนี้ พี่คนเก่งที่อยู่ในวงการฟรีแลนซ์มานาน ไม่ค่อยห่วงใยเท่าไหร่นัก เพราะรู้ทิศทางเดินและวัฒนธรรมที่รุ่นพี่สอนและบอกต่อๆกันมา จะมีก็น้องใหม่
ที่ทำประจำแล้วอยากออกมาใช้ชีวิตฟรีแลนซ์แบบอดมื้อกินมื้อ ก็เลยอดจริงๆ เพราะไม่มีรุ่นพี่คอยบอก ตอนนี้ใครที่เคยมีลูกค้าเรียกใช้แล้วค่อยๆหายไม่เรียกใช้
ก็ปรับกลยุทธ์เอาใจลูกค้าเจ้าใหม่ก็แล้วกัน (เจ้าเดิมคงไม่เรียกแล้วล่ะ ) ส่วนโปรดัคชั่นที่มีเครื่อมืออุปกรณ์ล้าหลังก็ควรปรับตัวด้วยเหมือนกัน ( ลงทุนหน่อยนะ )
ต่อไปฟรีแลนซ์จะครองโลก เพราะตั้งแต่ฮิตรักษาสุขภาพลดอาหารเย็น เข้าทางฟรีแลนซ์เราเลย เพราะอดมื้อกินมื้อทำเป็นประจำอยู่แล้ว 
ทีนี้หายสงสัยกันแล้วนะคับ ถามกันเรื่อยว่า ..ทำไมฟรีแลนซ์ถึงหุ่นดีทุกคน ....( ความลับอยู่ตรงนี้นี่เอง )...

  

Slot Online ม้าแข่ง ฯลฯ ไม่ต้องเดินทางไปถึงเขมร เล่นง่าย อยู่บ้านก็รวยได้ ลุ้นมันผ่านระบบออนไลน์ Internet ความเร็วสูง โปรโมชั่น goldclub slot ซึ่งนับว่าเป็นช่องทางการเข้าถึงกิจกรรมเกมเสี่ยงโชคที่สะดวกสุดๆแห่งยุคและเปิดความหวังรอบทิศสำหรับการเข้าถึงแหล่ง คาสิโนออนไลน์ แก่ผู้คนทั่วโลกเลยก็ว่าได้เนื่องจากโลกกิจกรรมบนระบบออนไลน์นั้นเป็นการสื่อสารไร้พรมแดนหรือข้อจำกัดทางระยะทาง โดยจะว่าไปแล้วการที่ธุรกิจเกมคาสิโนขยายตัวบนโลกออนไลน์มากมายและเกิดการแข่งขันการตลาดอย่างเข้มข้นเนื่องจากช่องทางการทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์สามารถเจาะถึงทุกกลุ่มและเป็นที่เห็นด้วยและมีความนิยมค่อนข้างสูงในยุคสมัยนี้โดยเฉพาะแดนอิสานใต้ที่นักพนันเข้าออกกันวันละเป็นพันๆคนในแหล่ง คาสิโน แต่กระนั้นในสังคมการดูชมกีฬาอย่างฟุตบอลนั้นก็มีเรื่องของการเล่นวางพนันผลการแข่งขันมาเอี่ยวทุกครั้งที่เกิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลเลยก็ว่าได้หรือในภาษาบ้านบ้านว่า goldclub เราพร้อมบริการคุณด้วยความจริงใจและซื่อตรง ติดต่อเราได้ตลอด 24 ชม. สำหรับวิธีเล่นกีฬาในแต่ละอย่างนั้นมักจะมีประโยชน์ที่แตกต่างกันมากแล้วการเล่นของแต่ละกีฬาค่ะเพราะกีฬาแต่ละกีฬานั้นมักจะใช้การเคลื่อนไหวที่แตกต่างกันอยู่บ้าง

ขอบคุณอีกครั้งที่อุตสาห์อ่านกันแบบไม่เบื่อ ..บางคนอ่านแล้วบอกแค่นี้หรือที่มีปัญหา สมมตินะคับ..
ข้อ1 คุยจ้อไปต่างจังหวัดกัน 3 วัน เห็นปัญหาแล้วยัง พูดตลอดทั้งในรถนอกรถและตอนถ่ายทำ ทีมงานก็เบื่อเหมือนกัน
ข้อ2. ไปถ่ายที่ไหน มีคนถามจริง แล้วไอัคนที่ถามดันเป็นคนสวยซะด้วยซิ มันอดไม่ได้ที่จะตอบ.. ตอบทุกที่ อธิบายทุกคนที่ถาม คนจ้างหันมาเจอ
         ก็เห็นไอ้นี่คุยจัง เขากลัวว่าเราไม่มีสมาธิในการทำงานให้เขา
ข้อ3. สั่งคัททั้งที่โปรดิวเซอร์ยังไม่สั่ง..อันนี้เจอบ่อย ระวังนะคับ โปรดิวเซอร์บางคนก็กร่างซะ หรือรักษาฟอร์มมากกว่าชีวิต เขาจะว่าเราไปฆ่าเขา
         กลางงานให้ลูกค้าเห็น
ข้อ4. เจอปัญหาไม่แก้ไข ก็เยอะ งานโปรดัคชั่นมีให้แก้ไขตลอดทุกงาน มีก็แก้สุดชีวิต ผู้ใหญ่คนจ้างเห็นเราแก้ปัญหาได้เขาก็วางใจว่าไปถ่ายงาน
         ใหญ่ๆ ไกลๆ ก็ไม่ห่วง...
ข้อ5.โปรดัคชั่นเครื่องมือเก่าแต่คิดราคาถูก เจอเยอะเหมือนกัน..
.......บางทีลูกค้าเราหลุดเพราะปัญหาที่เราคาดไม่ถึง ( ก็คนจะทำงานนี่ ) ฉนั้น เอาเป็นว่า มองดูเจ้าของงานสักนิด เขาชอบคุยชอบฟังหรือเปล่า
โปรดิวเซอร์บางคนก็ชอบเงียบๆ เราก็อย่าไปกวนเขาให้มาก แต่ถ้าคนไหนชอบคุย โยนคำถามว่า .." เอ้าน้องเล่ามาซิทำอะไรมาบ้างพี่อยากฟัง"
นั่นแสดงว่างานเราเข้าตาเขาแล้ว เขาอยากดูว่าพื้นเพมาจากไหน ก็เล่าไป อย่างที่บอกเจ้าของงานตัวจริงคือโปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับคนเดียว
......หลายโปรดัคชั่นติดต่อเจ้าของบริษัทฯ แต่โปรดิวเซอร์บอกไม่ดี ( จริงไม่จริงไม่รู้) บริษัทฯก็ไม่กล้าบังคับเหมือนกันกลัวงานเสีย
..... ฉนั้น ถ้ารักฟรีแลนซ์ไปทำงาน นิ่งไว้เฉยไว้ คุยนิดเดียวพออย่าคุยเยอะ เกิดคุยไปว่าเราทำกับคนนี้ ดันกลายเป็นคู่อริกับโปรดิวเซอร์คนใหม่
      ซวยงานเข้าเลย ( เหมือนในเว็บที่ทะเลาะกัน ) ทางที่ดีที่สุด นิ่งไว้เฉยไว้เล่าเฉพาะตัวงานอย่าเล่าชื่อคน ถ้าเขาถามก็ค่อยบอก ถ้ารู้สึกว่ามีอดีต
      กันอยู่ก็รีบเลี่ยงๆหรือเปลี่ยนเรื่องผมไม่ค่อยรู้เรื่องส่วนตัีวเขาเท่าไหร่ แต่ก็มีแนวโน้มอย่างที่พี่บอก ( เอาใจนายใหม่หน่อย ) แล้วการที่เรานิ่ง
      จะทำให้เราตั้งรับเหตุการณ์ถูก  นั่งดูบทคิดถึงปัญหาที่จะเจอล่วงหน้าไว้หลายๆทาง ถ้าคิดผิดพี่คนเก่งท้วงมาก็บอกเลยว่า เราตั้งใจเพราะ
      นั่นเพราะนี่ ไม่มีใครรู้เหตุผลจริงหรอกคับ เพราะงานอาร์ตอาจคิดไม่ตรงกันได้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีคือดีของเราเพียงแต่พี่เขาไม่ชอบ (มุขนี้ผมใช้บ่อย )
     บางทีคุยมากๆพอเจอปัญหาเราอาจตั้งรับไม่ทัน  (เพราะความรู้ไม่แน่น ) ทำให้ผู้ว่าจ้างมองว่าเรามองงานไม่ขาด...
.... งานบางงานที่โปรดิวเซอร์จ้างประจำ ไม่ใช่ว่าฟรีแลนซ์คนนั้นเก่งนะคับ ( ดูงานแล้วห่วยสุดๆ ) เพียงแต่เขามีนิสัยคล้ายกันเลยไปกันได้  
     บริษัทฯก็ลำบากใจเหมือนกัน ส่งคนเก่งไปกี่คนเด้งหนีกลับมาไม่ทัน ถ้าเจอโปรดิวเซอร์แบบนี้ก็ทำใจไม่มีงานก็ไม่เป็นไร หาพี่คนอื่นร่วมงานก็ได้..
.....ในเมื่อโปรดิวเซอร์มีสิทธิ์เลือกฟรีแลนซ์ทำงาน เราฟรีแลนซ์ก็มีสิทธิ์เลือกโปรดิวเซอร์ ที่จะทำงานร่วมด้วยเหมือนกัน ( มีความสุขในการทำงาน )
.....( ใครอ่านบทความนี้แล้วซำ้กับบทความหลัก ก็ขออภัย เพราะผมไอ้ปรับบางส่วนของบทเดิมให้แน่นขึ้น ..เพิ่งนึกขึ้นได้นะคับ...)

ขอบคุณครับ อ่านได้ความรู้ดี 

ขอบคุณมากครับได้ความรู้ควบคู่วีธีการนี้สุดยอดครับ

ขอบคุณครับ กำลังเป็นช่วงชั่งใจ จากงานประจำไปฟรีแลนซ์เหมือนกัน คิดไม่ตกจริงๆ

ขอบคุณพี่ๆครับสำหรับข้อมูลดีดี หุ่นดีด้วยคนครับ 555++

ขอบคุณครับผม

ขอบคุณครับ ไม่น่าทำไมถึงหุ่นดี 55+

อ่านไปกินมาม่าไป คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่าผมทำประจำหรือ freelance

อ่านแล้วเหมือนรวบความรู้ทุกอย่างมาไว้ตรงหน้า...

ขอบคุณครับ

โดนๆใจๆๆครับ