จบนิเทศจุฬา ธรรมศาสตร์ จะมีไอเดียและทำงานดีกว่าคนอื่นๆมั้ยครับ

มหาลัยได้เรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องครับ เวลาไปสมัครตามเฮาส์หรือสตู ถ้ามรุ่นพี่ทำตำแหน่งใหญ่ๆ อยู่ก็อาจจะได้งานครับ  แต่ถ้าเรางานไม่ได้เรื่อง เราจะไม่ได้เป็นผู้กำกับหรอกครับ เพราะหลายๆ ที่เค้าพยายามรักษามาตรฐานไว้  เเละเอาคนเก่งๆ เข้ามาก่อน

ส่วนตัวผมไม่ชอบ GTH นะครับ ผมรู้สึกที่นี่ค่อนข้างหยิ่งๆ ถ้าคุณไม่ได้มาจากจุฬา (เตยไปทำงาน cg ให้เค้า)


เรื่องเกรด ไม่เกี่ยวครับ ส่วนมากคนสายนี้เก่งๆ ส่วนใหญ่เค้ามักจะไม่ได้คิดตามตำราครับ งานสายนี้ถ้าจะทำให้ดีมมันต้องคิดนอกตำราครับ แถมเวลาไปสมัครงานเค้าไม่คิดจะดูทรานสคริปแน่นอน เพระามันไม่ได้เป็นหลักประกันว่าจะทำให้งานเค้าขายได้


แต่เค้าจะดูจากรางวัลและผลงานท่เราได้ทำเป็นหลักครับ ถ้าเป็นไปได้เริ่มประกวดเยอะๆ พอจบมามันช่วยทำให้เรามีเครดิต

สุดท้ายอยากฝากอะไรไว้หน่อย
พี่เจ้ย, เป็นเอก, วิสิฏ ศาสนเที่ยง คนเหล่านี้ไม่ได้จบจุฬาครับ แต่หนังพวกนี้ขายคนทั้งโลกได้...  และเป็นที่ยอมรับของคนทั้งโลกมากกว่าหนัง GTH ครับ

GTH ผมว่าหลังๆ คุณภาพก็แย่ลงเรื่อยๆ แล้ว ชอบยุคสมัยที่พี่เก้ง (จิระ) ทำหนังยุคแรกๆ มากกว่า เดี๋ยวนี้หนัง GTH ยังกกะละครซิทคอม

เอางี้ ผมมีรุ่นน้องคนหนึ่ง มันสอบได้ที่หนึ่ง เตรียมอุดม แล้วก็มาสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้ที่ 1 ของประเทศ
ตอนนี้เป็น ผอ. TDRI ผมก็ไม่เห็นมันจะร่ำรวยอะไร สู้ไอ้เด็กหน้าปากซอยบ้านผม ตอนนี้เป็นเศรษฐีเงินกู้หลายร้อยล้านไปแล้ว

ผมก็จบจุฬาฯ เขาจะมีวิทยาการใหม่ๆ จากต่างประเทศมากกว่าที่อื่น แต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ทุกคนเก่งหมด การเรียนในมหาวิทยาลัยก็แค่การ
ได้ทักษะเบื้องต้นมาเท่านั้นเอง ยังต้องมาหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมทุกวัน

เข้าใจความรู้สึกคนถาม เพราะนั่นคือคำถามที่เคยถามตัวเองอยู่เหมือนกัน แต่มาวันนี้ผมมีคำตอบแล้ว ขอขึ้นหัวข้อใหม่..เรียน ม.เล็กจะสู้กับ ใม.ใหญ่ อย่างไรวันนี้เรามีคำตอบให้คุณแล้วคับ..

เก่งไม่เก่งอีกเรื่องครับ ผมว่าประสบการณ์กับความสามารถ แล้วก็ความคิดคับ สำคัญ

ความเห็นบางท่านบอกว่าอุปกรณ์ดีแล้วทำหนังดีอันนี้ผมว่าไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ
ส่วนตัวผมมีโอกาสเรียนกับ อ.ที่สอนที่จุฬา ธรรมศาสตร์ มานิดนึง และก็อ่านหนังสือทีท่านแต่ง
จะบอกว่าที่ผมได้คือวิธีคิด  วิธีเล่าเรื่อง  เขียนบท อ่านบท  แตกชอท ผมว่าตรงนี้ต่างหาก
ที่จะทำให้หนังประสบความสำเร็จ อ เคยบอกว่าหนังจะดีได้ต้องมาจาก บทที่ดีก่อน
ผมเห็นหลายๆคนทำหนังแล้วเล่าเรื่องไม่ดี ไม่โดนใจคนดูก้อเจ๊งมาเยอะครับ

อ้างอิง

อ้างอิงโพส 19 ต้นฉบับโพสโดย mana เมื่อ 2012-07-10 20:07 :
คห.เห็นบางท่านบอกว่าอุปกรณ์แล้วทำหนังดีอันนี้ผมว่าไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ
ส่วนตัวผมมีโอกาสเรียนกับ อ.ที่สอนที่จุฬา ธรรมศาสตร์ มานิดนึง และก็อ่านหนังสือทีท่านแต่ง
จะบอกว่าที่ผมได้คือวิธีคิด  วิธีเล่าเรื่อง  เขียนบท อ่านบท  แตกชอท ผมว่าตรงนี้ต่างหาก
ที่จะทำให้หนังประสบความสำเร็จ อ เคยบอกว่าหนังจะดีได้ต้องมาจาก บทที่ดีก่อน
ผมเห็นหลายๆคนทำหนังแล้วเล่าเรื่องไม่ดี ไม่โดนใจคนดูก้อเจ๊งมาเยอะครับ

เห็นด้วยเลยครับ บทมาก่อน
พวกถ่ายสวยไร้สมอง มันไม่หยั่งรากลึกในใจคนดูหรอก

หนังพี่ธัญวารินทร์ (ขออภัยหากจำหรือสะกดผิด)ที่ไปเมืองคาน
ผมว่ากล้องแก ภาพไม่สวยเท่า dslr เลย มิติภาพสู้ไม่ได้ ถ้ามัวแต่ดูแต่ภาพมีที่ติเยอะ แต่พออินกับหนังแล้ว มันลืมตรงนี้ไปได้ มันลึกซึ้งที่บทแล้วมันกินใจครับ

จบจุฬาฯ ได้คอนเนคชั่น GTH เต็มๆครับ งานทีสิสของเอกฟิล์มจุฬาฯ (เขาเรียกว่า "กางจอ") จะมีรุ่นพี่ที่มีชื่อเสียงเข้ามาวิจารณ์หนังให้ ซึ่งก้แน่นอนครับ รุ่นพี่เขาก้อย่างเช่นพี่ย้ง พี่หมู พี่เก้ง ฯลฯ จบนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ กันทั้งนั้น รุ่นพี่เขาปูทางกันมาดี เข้าไปทำ GTH กันเยอะ ไปเป็นเฮดของที่นั่น เวลาเขามาดูงานรุ่นน้องสถาบันเขา ถ้างานไหนเจ๋งๆ โดนๆ ก้ชวนไปทำงานด้วยกันกลางงานเลยครับ อย่างน้อยๆเขาสบายใจได้ว่าเป็นรุ่นน้องที่รู้จักมักคุ้น เคยเห็นงานแล้วว่าเป็นยังไง หรือบางทีอาจจะรู้ไปถึงนิสัยใจคอกัน ว่าน้องคนนี้เอาไปทำงานด้วยแล้วเวิร์คไม่เวิร์คยังไง

คอนเนคชั่นมันเป็นเรื่องสำคัญครับ แต่ฝีมือเราก็เป็นเรื่องสำคัญกว่า สองอย่างนี้มันต้องมีทั้งคู่ครับ
เก่ง แต่ไม่มีคอนเนคชั่นก้ยากหน่อยครับกว่าจะรุ่ง
คอนเนคชั่นดี แต่ไม่เก่ง...มีคอนเนคไปก้เท่านั้นครับ ไม่มีใครเอา

สรุปแล้วถ้าเราเก่งและดี(นิสัย กริยา) อยู่ที่ไหนก้มีแต่คนรัก คนชื่นชม แล้วเราก้จะประสบความสำเร็จครับ

ผมเรียนฟิล์มคลองหก เหลือวิทยานิพนธ์ตัวเดียวอาจารย์ไม่สอบให้ซักที ผมจบเองเลย
เขียนบทหนังส่งประกวดโครงการต่างๆมา 6 ปี ไม่เคยผ่านเข้ารอบเลยซักครั้ง แต่ยังทำต่อ
และทุกวันนี้ยังเขียนส่งโครงการประกวดและก็แป๊กตามเคย เป็นเพราะผมรักหนัง ตอนเด็กๆเก็บเศษฟิล์ม
ตามรถฉายหนังกลางแปลงมาส่องเทียนเล่น ผมว่าความชอบกับการเรียนเก่งมันต่างกันนะครับ
ค้นหาตัวเองให้เจอครับ.  อย่าไปสนใจค่ายครับ GTH ไม่ได้เก่งในความคิดผม เขาแค่มีกรอบในการทำหนัง
ที่ชัดเจนของเขา

ปล อยากรู้นอกรู้ใน คลุกวงในใกล้ชิด รู้จังหวะ วิธีคิด แหล่งวัตถุดิบทางความคิด การทำงาน ของเค้า หาแฟนเปน producer ใน GTH ครับ   
คือบอกตรงๆเลยไม่ได้อยากรู้ แต่หล่อนจะมาเล่าให้เราฟังเอง
หนังหลายต่อหลายเรื่อง สมัยเปิด house ใหม่ๆ ออกมาก้อดังทุกเรื่อง 
ผมไปตามดู reference ที่แฟนบอกมา ขอบอกว่า หมดศรัทธาในตัว ผกก หน้าใหม่ไปเยอะ ไอเดีย พล้อตเรื่อง มุมมอง กลิ่นอาย บรรยากาศหนัง 
มาจากเพื่อนบ้านรอบๆเราอย่างมาเลย์ สิงคโปร์นี่เองครับ


แต่เอาเหอะ หนังเค้าก้อเรียกเสียงหัวเราะ และน้ำตาได้ ผู้ชมแฮปปี้ นี่ผมว่าจะมีที่มาที่ไปยังไง ไม่ต้องคิดแล้วครับ ถือว่าผ่านสวยๆ

โอกาสในการทำงาน ไม่ว่าในอดีตหรือปัจจุบันสถาบันมีส่วน มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่องค์กร
แต่ไอเดียเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล สถาบันไม่เกี่ยวครับ

ชอบมากครับ

ผมจบ ม.กรุงเทพ นิเทศเอกฟิล์มครับ และเคยฝึกงานที่ GTH ใน แผนกสวัสดีทวีสุขครับ(ตัดต่อครับ) ซึ่งอยู่ในรั้วบ้านGTH ครับ  พวกพี่ๆเค้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนะครับถ้า เราขยัน และ ปรับตัวเข้ากับเค้าได้ จริงๆครับที่ส่วนใหญ่ ทุกคนจบ จุฬา แต่กราฟฟิค ทั้ง ออกแบบโปสเตอร์ และ พวกที่ทำAfter effect ก็จบ ม.กรุงเทพนะ จริงๆก็มีอีกหลาย ม.ครับที่ผมไม่ได้พูดถึง ตอนที่ผมฝึกงานก็มีเด็กจุฬามาฝึกกับผมด้วยครับ ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทและติดต่อกันอยู่เลย ซึ่งมันก็บอกว่าที่จุฬา ก็ปรกติิแต่อยู่ที่ตัวเรามากกว่า  ผมอยู่่ที่นั่น 3 เดือน ช่วงที่สร้าง ปิดเทอมใหญ่(กำลังจะออกจากโรงแล้ว) 4 แพร่ง  รัก สาม เส้า ผมคิดว่าที่เรามองว่า GTH เก่ง ไม่ใช่เค้ามาจากจุฬาหรอกครับผมว่าอยู่ที่บรรยากาศของการทำงานที่นั่นมากกว่า เค้าอยู่กันแบบ บ้าน(ถ้าใครเคยไป ​GTH มันจะเหมือนดัดแปลงออฟฟิสมาจากบ้านจริงๆเลยครับ) เค้าสนิทกันทุกคน และอารมณ์ดีมาก มันบอกไม่ถูกเหมือนกันครับ ต้องลองไปสัมผัส คือผลงานเค้ามันสะท้อนออกมาจากวิธีคิด เป็นขนบธรรมเนียมของบริษัท งานมันเลยออกมา feel goog อย่างที่เราเห็นครับ แต่พักหลังๆผมก็ว่า GTH อิงตลาดมากไปนะ บางเรื่องดูจบแล้วมันยังไม่อิ่มเอมใจเหมือนเรื่องก่อนๆ  แต่ยังไงผมก็ต้องขอบคุณพี่ทุกๆคนที่นั่นมากจริงๆ ที่ให้ประสบการณ์กับผมครับ ^_^

สุดท้ายผมก็เชื่อว่า เราไม่ต้องจบ จุฬา-ธรรมศาสตร์ก็ได้ครับ มันอยู่ที่ตัวเราจริงๆครับของแบบนี้ ฝึกฝนๆๆๆๆๆ ครับ

ธรรมศาสตร์เน้นภาครัฐมากกว่าเอกชนครับ

ตอนได้รางวัลสุพรรณหงส์ เกรดผมไม่ถึง 2.00 นะครับ

ผมมีเพื่อนเรียนจุฬา  ผมก็สอบติดจุฬา  แต่ผมไม่ได้เลือกเรียนจุฬา เพราะผมรู้ตัวว่าผมเรียนไม่เก่งนัก
ผมเปิดหลักสูตรดูแล้วผมก็รู้ว่า ผมไปไมไหว สุดท้ายผมเลือกเรียนฟิล์มที่คลองหกครับ   ก็ไม่ได้เสียใจนะที่ทิ้งโอกาสที่จุฬาไป
สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราทั้งนั้นหล่ะครับ   " จะ ม เล็ก ม ใหญ่ ถ้าคนมันใฝ่ ก็ มีชัยเหมือนกัน "