สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 26383เข้าชม
  • 68ตอบกลับ

ลองนำผลงานที่ถ่ายด้วย RED One มาให้ดูครับ สั้นๆ 2 นาที

โพสต์
377
เงิน
14301
ความดี
12653
เครดิต
14363
จิตพิสัย
11618
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-31
สุดยอดครับ
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2010-05-31
ตอบกลับโพส 13 โพสของ (november)
เปรียบเทียบ RED One 35 mm Full Frame = 4k 16:9      Ratio: 4096x2304 ประมาณ 9.437 ล้านพิกเซล
เปรียบเทียบ RED One 16 mm Half Frame = 2k  16:9    Ratio: 2048x1152 ประมาณ 2.35 ล้านพิกเซล

การถ่ายให้มีขนาดใหญ่สุด จะเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีกว่าเยอะครับ แต่แน่นอนพื้นที่ก็เยอะขึ้นเช่นกัน
การที่ถ่าย  4k นั้น ถ้าใช้เลนส์ช่วง 25 mm ภาพออกมาเป็นแบบเลนส์ 25 mm ครับ (เหมือนกล้อง Fullframe)
ถ้าถ่ายที่ 2k  นั้น ถ้าใช้เลนส์ช่วง 25 mm ภาพออกมาจะเป็นแบบเลนส์ 50 mm ครับ(เหมือนกล้องตัวคูณ)
การถ่าย 2k นั้นภาพที่ออกมาจริงๆแล้วคือ 4k Crop เหลือแค่ 2k ครับ ดังรูปครับ




ไฟล์ที่มีความละเอียดสูงย่อมดีกว่าครับ ถึงจะต้อง Down Convert เหลือ 2k ก็เพียงพอในการใช้ Color Grading
เพราะห้อง Online ทั่วไป Run แค่ 2k โรงฉายก็ใช้แค่ 2k
บางทีเราสามารถมา  Re-Compose ได้ เช่น  ถ่าย 4k MS แล้ว Crop เหลือ CU ก็ยังได้ที่ 2k อยู่ครับ
RED One ส่วนใหญ่ตัด Off-Line ดีกว่าครับ

"มันยุ่งยากลำบากไปหรือเปล่าครับ งานที่ได้ละเอียดก็จริง
แต่ก็ต้องมายิงลง beta ให้เสียคุณภาพไป"

ตอบ ตัวอย่าง สมการขำๆ นะครับไม่ใช่ตัวเลขที่แท้จริง เพื่อจะได้เห็นภาพครับ
4k = 100 %   2k = 50 % Beta = หารด้วย 2 Product = X

4k            100 หารด้วย 2 = 50 % ในการลง BETA
2k              50 หารด้วย 2 = 25 % ในการลง BETA

ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่ถ่าย 4k เพื่อจะพยายามให้มีรายละเอียดใกล้ฟิล์มมากที่สุด
Digital คิดเป็น Pixel
Film คิดเป็น Gain  (ฟิล์มเก็บละติจูด เยอะกว่ามากครับ อนาคตไม่แน่)

RED Software ทำหน้าที่อะไรบ้าง (ต้องใช้ Software ของ RED ครับเพราะ R3D เป็นความลับเจ้าอื่นยังทำได้ไม่ดีเท่าครับ)
RED Alert = ทำ One Light หรือการทำ Primary Color ปรับสีโดยรวมครับ
RED Rushes = Convert File ทำ Dalies
RED CineX = คล้ายๆ RED Alert แต่จะสามารถตัดต่อคร่าวๆ ได้ครับ




[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2010-06-01 15:45 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ซ่อน
i-popba เงิน +1 2010-06-01 -
ake เงิน +1 2010-05-31 ได้ความรู้อีกแล้วครับ ขอบคุณครับ
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-01
Re:ตอบกลับโพส 13 โพสของ (november)
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 16 ต้นฉบับโพสโดย jobfilm เมื่อ 2010-05-31 17:52 ตอบกลับโพส 13 โพสของ (november) :
เปรียบเทียบ RED One 35 mm Full Frame = 4k 16:9      Ratio: 4096x2304 ประมาณ 9.437 ล้านพิกเซล
เปรียบเทียบ RED One 16 mm Harf Frame = 2k  16:9    Ratio: 2048x1152 ประมาณ 2.35 ล้านพิกเซล


.......


งงนิดหน่อยครับ

ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับกล้อง RED เ้ลย

แต่จากข้างข้อความข้างบนเนี่ย เลยงง ๆ กับระบบของ RED อยู่นิดหน่อย

ขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับกล้องภาพนิ่งนะครับ

กล้อง ฟูลแฟรม ขนาดเซ็นเซอร์เท่ากับ  24*36 มิลลิเมตร

กลอ้ง APS-C ขนาดภาพ คูณ 1.6 ในแคนนอน 1.5 ในนิคคอน

ไม่ว่าจะเลือกขนาดภาพเท่าไหร่ก็ตาม Focal Lenge ของเลนส์จะเท่าเดิมเสมอ กล้องจะใช้การลดจำนวนพิคเซลลง (ยกเว้น DX Crop ในกล้องนิคคอน ด้วยเหตุผลเรื่อง image circle )



ก็เลยแปลกใจว่า ถ้าต้องการที่ 2K เป็น 35 มิลเนี่ย กล้อง RED สามารถทำได้มั๊ยครับ หรือว่า ออกแบบมาเพื่อ 35มิลต้อง 4K เท่านั้น หากจะใช้ 2K ต้องเป็น 16มิลเท่านั้น(ซึ่งจะมีผลในเรื่อง ไวด์)

เพราะผมเห็นว่า หากการที่เราต้องการงานแค่ออนแอร์เนี่ย 2K ก็เพียงพอ แบบเหลือ ๆ สำหรับทุกอย่างแล้ว การที่เราถ่าย 4K มามันค่อนข้างใหญ่เกินไปหน่อย (ไม่หน่อยแหละ มากเลย)

ปล.ผมก็ไม่เคยตัดไฟล์ใหญ่ ขนาด 2K เลยไท่ทราบว่า เครื่องตัดส่วนใหญ่เนี่ยรองรับไฟล์ได้ ขนาดไหน แต่หากได้ 2K แล้วตัดออนไลน์ได้เลย คิดว่า น่าจะดีกว่าการถ่าย 4K แล้วต้องมาเสียเวลาในการ

Down Convert ไฟล์เพื่อตัดต่ออีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรก็ต้องสูญเสียรายละเอียดอยู่ดี
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
ระดับ : Shop Owner
โพสต์
628
เงิน
20236
ความดี
15548
เครดิต
17432
จิตพิสัย
15933
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-01
เยี่ยมๆ ติดตามชม
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-01
ตอบกลับโพส 17 โพสของ (tanum)
เป็นคำถามยอดฮิตมากในคำถามเกี่ยวกับ RED ครับ เฮอๆ ชินแล้วครับ...
ถ้าใครเคยถ่ายฟิล์ม 16 มม. แล้วเอาเลนส์ 35 มม. มาใส่ ก็จะเกิดการเปลี่ยน Focal Lenge
เช่นเดียวกันกับ RED Camera อย่างที่กล่าวมา ผมเลยเปรียบเทียบว่า เหมือน กล้อง 35 มม.
กับ กล้อง 16 มม.ครับ

หากอยากใช้ 2k จริงๆ ก็ได้นะครับ แต่ผมจะมีข้อสังเกตุเล็กๆ ให้ลองคิดตามนะครับ อิอิ
1. มีผลครับการเช่าเลนส์ใน Location บางที่ที่จำกัดระยะในการถอยกล้อง เช่น
    - การเช่าเลนส์ถ้าหากเช่าเป็นชุดจะถูกกว่าเช่าเป็นชิ้นเลนส์ครับ ไวด์สุดอยู่ที่ 18 mm 
      หากอยู่ในสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ถอยกล้องไม่ได้ต้องเช่าเลนส์พิเศษเพิ่ม (คือต้องเพิ่มเงิน
      ในการเช่าเลนส์ 10 mm ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)

2. หากเราถ่ายมาที่ 2k ยังไงก็ไม่สามารถนำ RAW ไฟล์มาตัดได้อยู่ดีต้องทำการ Down Convert
และเปลี่ยน Codec เพื่อให้เหมาะสำหรับโปรแกรมตัดเพื่อไปตัด Off-Line อยู่ดี
เหมือนกันกับถ่าย 4k ก็ต้อง Down Convert เพื่อไปตัด Off-Line เหมือนกัน ยังไงก็ต้องเสีย 1 Gen

3. ด้วยระบบ Digital นี้เองการ Color Grading ในภาพที่มีแสงแฟล์มากๆ จะเกิด Branding หรือเหมือนวงคราบของสี
และขอบของภาพจะมีรอยหยักของ Pixel มากหากปรับแต่งละเอียดมาก จะสามารถมองเห็นได้ชัดถ้า Zoom เข้าไปเปรียบเทียบกัน 

4. ถ้าอยากประหยัดพื้นที่ในเก็บข้อมูลใน Hard Disk ก็ไม่ได้ประหยัดไปเท่าใหร่หรอกครับ ตรงกันข้าม ตอนถ่าย 2k
เราใช้ประสิทธิภาพไม่เต็มที่ของกล้อง เขาก็ไม่ลดราคาเช่ากล้องให้เราหรอกครับ
งั้นใช้ให้เต็มที่ไปเลยไหนๆ ก็เสียเงินแล้ว (จะยอมใช้ 2k ก็ตอนถ่าย High Speed เท่านั้นแหละยังไง
ก็ต้องยอม เพราะ 100 fps ต้องลดจาก 4k เหลือ 2k

5. ถามว่าตอนที่เรา On-Line เราต้อง Exoprt DPX File ที่ 2k เพื่อใช้ในการทำ Color Grading ในโปรแกรมต่างๆ ที่แก้สีโดยเฉพาะ
(ยกเว้นโปรแกรม Scratch เท่านั้นที่ Conform ที่ R3D 4k ได้เลย) 2k R3D แปลงเป็น 2k DPX ความหนาแน่นของสีต่างกัน,
ความคมชัด(2k จะติด Soft), การไล่สีขาวไปดำ 4k ทำได้ดีกว่า (อธิบายเพิ่มเติม เปรียบเทียบกับภาพนิ่งนะครับ
ถ้าภาพนิ่งถ่ายด้วยกล้องฟิล์มจะไล่สีขาวไปดำได้ดีกว่า ถ่ายด้วยกล้อง Digital ครับ), ค่าความชันของกราฟไม่เท่ากัน
กับการแปลงจาก 4k R3D แปลงเป็น 2k DPX ทั้งๆที่ แปลงเป็น 2k DPX เท่ากันแต่คุณภาพของไฟล์ไม่เท่ากัน

บางทีก็แล้วแต่นะครับผมว่ามันต้องมีอะไรที่แตกต่างอย่างมากในคุณภาพของ 4k ไม่งั้น RED
ตัวใหม่คงไม่ทำที่ 5k หรอกครับ (เพื่อจะพยายามให้ใกล้เคียงกับฟิล์มให้มากที่สุดครับ

หากเราไม่อยากแปลงไฟล์ก็ตัดที่ Proxy ได้เลยเพราะ RED One มันสร้าง Proxy ให้มา 4 ไฟล์
4 ขนาด ตามความแรงของเครื่อง แต่ภาพที่เห็นจะเป็นแบบ VDO Look ถ้าเราแปลงไฟล์จะได้ภาพ
ไปทาง Film Look ครับ...


"Down Convert ไฟล์เพื่อตัดต่ออีกครั้ง เพราะถึงอย่างไรก็ต้องสูญเสียรายละเอียดอยู่ดี"

ปล.จะเห็นผลมากในการทำ On-Line

การ Down Convert ไฟล์มีประโยชน์สำหรับการตัดต่อไฟล์ให้สะดวกเท่านั้นเราไม่ได้ใช้ไฟล์นั้นมาทำ Color Corect
พอตัดเสร็จเราถึง Export EDL เพื่อจะได้นำ Time Code ในช่วงเวลาตัดต่อเพื่อ On-Line, Conform ที่ R3D File หรือ RAW File
ตรงจุดนี้แหละว่าทำไมถึงต้องถ่ายที่ 4k เพราะตอนทำสีต้องกลับมาเอารายละเอียดที่ไฟล์ต้นฉบับ
(โปรแกรมอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Scratch ต้อง Conform แล้วแปลงไฟล์จาก R3D เป็น DPX 2k หรือบางที่เขาเอาแค่ DPX FullHD 1080p)

ถ้าเราไม่มีงบประมาณพอเข้าห้อง On-Line เราต้องแปลงไฟล์เป็นประเภท Low Contrast เพื่อจะได้เก็บรายละเอียดของ
Toe (Under) และ Shoulder (Over) ให้มากที่สุด

[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2010-06-01 23:39 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 2 คะแนน ซ่อน
nezzis เงิน +1 2010-06-02 อ้าปากค้าง
ake เงิน +1 2010-06-02 :-O โอ้โห
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
101
เงิน
2443
ความดี
1445
เครดิต
1462
จิตพิสัย
2585
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 20#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
โพสต์
1410
เงิน
42427
ความดี
44960
เครดิต
45642
จิตพิสัย
51478
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02

อธิบายได้ดีมากครับ เกือบๆเข้าใจ ทั้งๆที่ยังไม่เคยแตะRed
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
ตอบกลับโพส 19 โพสของ (jobfilm)
อ่อครับ อันนี้เข้าใจแล้ว ทีแรกผมคิดว่า ไฟล์ที่ได้มาเนี่ย สามารถนำมาตัดต่อได้เลย เรื่องที่บอกว่าประหยัด ไม่ใช่เนื้อที่ครับ แต่เป็นเรื่องของเวลาในการแปลงไฟล์

แต่ก็ยังติดข้อสงสัยในเรื่อง Focal Lenge ของเลนส์กับขนาดภาพ ตรงที่ว่า

ถ้าถ่าย 2K จะได้ Focal Lenge = เลนส์ 35 MM

ถ้าถ่าย 4K จะได้ Focal Lenge = เลนส์ 16 mm

ซึ่งมันเหมือนกับ DX Crop ในกล้องนิคคอน คุณภาพลดลงไปเยอะมากจนรับไม่ได้ (D3 ถ่าย DX Crop ไฟล์ออกมาห่วยกว่า D 70 อีก)

แต่หากเราถ่าย ภาพ โดยลดความละเอียดลง คุณภาพของไฟล์ ก็ยังไม่ได้ลดลงจนเกินยอมรับ อีกทั้ง Focal Lenge ของเลนส์ก็ไม่เปลี่ยนอีกด้วย




ที่ผมสงสัยจริงคือ ทำไม ถ่าย 2K ต้องเป็นฟอร์แมต 16มิล ถ้าจะถ่าย 35มิลต้อง 4K เท่านั้น เราสามารถถ่าย 2K ที่35มิลได้มั๊ย


ปล.ปกติเวลาผมใช้กล้อง ผมตั้งใหญสุดเสมอครับ แหะ ๆ
ปล.2 ไฟล์ขนาดใหญ่เนี่ย ใหม่มาก ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ ผมทำงานกับ SD มาตลอด
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
xay
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
152
เงิน
4661
ความดี
3501
เครดิต
3753
จิตพิสัย
3990
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
เยี่ยม ยอด ตามไม่ทันแล่ะ ต้องลงมือทำจริงถึงจะเข้าใจสำหรับผม
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
ตอบกลับโพส 22 โพสของ (tanum)
ถึงบางอ้อเลยทีเดียวครับ

เป็นการที่ผมพิมพ์แบบรวบรัดทำให้เข้าใจผิดกันครับ

"เปรียบเทียบ RED One 35 mm Full Frame = 4k 16:9      Ratio: 4096x2304 ประมาณ 9.437 ล้านพิกเซล"

หมายถึง ผมเปรียบเทียบว่าเหมือนกล้องฟิล์ม 35 มม. ที่ใช้เลนส์ของกล้อง 35 มม. ขนาดภาพออกมาปกติครับไม่ว่าจะใช้เลนส์ช่วงไหนๆ พูดง่ายๆ คือ Full Frame

"เปรียบเทียบ RED One 16 mm Half Frame = 2k  16:9    Ratio: 2048x1152 ประมาณ 2.35 ล้านพิกเซล"

หมายถึง ผมเปรียบเทียบว่าเหมือนกล้องฟิล์ม 16 มม. ที่ใช้เลนส์ของกล้อง 35 มม. ขนาดภาพออกมาโดนซูมเข้าไปเท่าตัวครับไม่ว่าจะใช้เลนส์ช่วงไหนๆ พูดง่ายๆ คือ เลนส์ตัวคูณ

เลนส์มีมีผลกับภาพครับ

ถ้าใช้เลนส์ของกล้องฟิล์ม 16 มม. มาใส่กล้องฟิล์ม 35 มม. ภาพจะมีขอบดำเข้ามาเหมือน Vignett ใน
กล้อง Full Frame

ไฟล์ใหญ่พอสมควรครับผมเคยออกกองเยอะที่สุด ใน 1 คิว+ 6 OT ถ่าย 6.00 น. - 24.00น. ใช้เนื้อที่ Hard Disk ไป
350 GB แล้วผมต้อง ทำ Backup ไปพร้อมๆ กัน 2 Hard Disk รวมเป็น Hard Disk 3 ตัวรวมกันได้ 1,050 GB
เพื่อป้องกันการที่เขาเอาไปใช้แล้วเผลอลบครับ ส่วนผมจะเก็บ Backup ไว้ป้องกันไว้กับผมอีกที
ตอนออกกองถ่ายเอาตัว 4 TB ไป 2 ตัวเลยทีเดียว ส่วนอีกลูกของลูกค้า...

Censer ของ RED Full Frame เหมือนกับ ฟิล์ม 35 มม. แนวตั้งครับ เล็กกว่า กล้องภาพนิ่ง Full Frame เหมือนกล้องภาพนิ่ง
35 มม. แนวนอน ครับ

ขอบคุณครับ...ที่ทักท้วง ครับ

[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2010-06-02 03:47 ]
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
76
เงิน
4240
ความดี
2581
เครดิต
2900
จิตพิสัย
2399
จังหวัด
ร้อยเอ็ด

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
ลำดับภาพได้ดีมากครับ... ทำได้ดีมากครับ...นับถือ
ake
โพสต์
4768
เงิน
34014
ความดี
117475
เครดิต
125435
จิตพิสัย
118050
จังหวัด
เชียงใหม่

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
Re:ลองนำผลงานที่ถ่ายด้วย RED One มาให้ดูครับ สั้นๆ 2 นาที
การลำดับภาพที่ดี เป็นอย่างไรครับ รบกวนชี้หน่อยครับ
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
ตอบกลับโพส 24 โพสของ (jobfilm)
อ่อ ครับผม ขอบคุณครับ

ว่าแต่ ไฟล์มันใหญ่มาก คิดสภาพการย้ายไฟล์ไม่ออกเลยครับว่ามันจะเหวี่ยงขนาดไหน
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
หลักการลำดับภาพผมว่ามันไม่ตายตัวมันขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบมากๆ ครับ อันดับแรกเลยสำหรับผม
นะครับไม่ได้เป็นทฤษฎีแต่อย่างไร
1. เป็นนักเล่าเรื่องที่ดี เราจะรู้ว่า Mood & Tone ของหนังจะออกมาในรูปแบบไหนเราอาจจะคิดไว้คร่าวๆ ผูกช็อต
แต่ละช็อต ให้เชื่อมโยงกัน หรือไม่เชื่อมโยงก็ยังได้เลย (ภาพนิ่งจะเล่าเรื่องทุกอย่างครบในภาพๆ เดียวครับ
ส่วนภาพยนตร์จะเล่าเรื่องเป็นช็อต แต่ถ้าแต่ละช๊อตนั้นมีความหมายที่แตกต่างกันมาเล่าเรื่องเรียงช็อตกัน
ก็เกิดความหมายอีกอย่างได้ครับ เป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์เลยครับ
2. การวางแผนการถ่ายที่ดี มีภาพในหัวชัดเจน ยกตัวอย่าง MV ข้างบนนะครับ คร่าวๆ
ผู้กำกับตั้งใจให้ MV มี Look แบบแฟชั่น และใช้ช่วงแสงแฟล์ในแต่ละช็อตเป็นตัวเชื่อมช็อต(Transition) แต่ละช็อต
และการใช้ Forgound มาทำเป็น Slide Transition เพื่อให้เกิดการ Smooth ในการเชื่อมช็อตครับ
3. จังหวะในการเลือกช็อต  โดยเฉพาะ MV จังหวะช็อต กับจังหวะของดนตรี อาจต้องมีความสัมพันธ์กันเพื่อให้เกิด
ความ Smooth ของการลำดับภาพ (MV ตัวนี้ตอนถ่ายไม่ได้ Sync Sound คือไม่มีการอัดเสียงใดๆให้ผมเลย ผมต้อง
ใช้เวลาในการเลือก Footage นานพอสมควร โดยเฉพาะช่วงร้องนี่ ต้องนั่งอ่านปากกันเลยทีเดียว การถ่าย MV ต้องอัดเสียง
ไกด์มาด้วยครับจะช่วยให้ตัด ง่ายขึ้น)
3. จริงๆ มันมีเรื่องของการเล่าเรื่องแบบ เชิงลึก เชิงซ้อน เล่าเรื่องแบบแนวดิ่ง แนวราบ อื่นๆ อีกมากเลยครับ
สำคัญที่สุดคือเป็นคนช่างสังเกตุ ดูหนังเยอะ ดูเทคนิคการเล่าเรื่องของคนอื่นแล้วนำมาประยุกต์ใช้ได้ การใช้ Match Cut
(แอคชั่นต่อเนื่องของช็อต) ลองให้คนอื่นดูที่เราตัดแล้วคนอื่นรู้สึกเหมือนไม่มีช่วงการเปลี่ยนช็อต หรือดูราบเรียบ Smooth
ไม่มีการ Jerg ของขนาดภาพ เป็นใช้ได้แล้วครับ
ผมก็ยังตัดต่อยังไม่เก่งครับกำลังฝึกฝนครับ ของอย่างนี้ต้องลงมือทำบ่อยๆครับ ต่อไปจะเชี่ยวชาญเองครับ(ฟังเขามาอีกที)

แค่นี้ก่อนครับ เดี๋ยวค่อยทำกระทู้เกี่ยวกับการตัดต่ออย่างละเอียดอีกทีครับ ขอบคุณครับ
โพสต์
420
เงิน
10004
ความดี
8399
เครดิต
7587
จิตพิสัย
6783
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2010-06-02
ตอบกลับโพส 27 โพสของ (tanum)
ผมใช้ Hard Disk Raid 5 ครับ ใช้ผ่าน Firewire 800 บางทีไม่ทันใจก็ใช้ e-Sata ต่อเข้าเครื่องครับ
มีโปรแกรมในการช่วย Download ไฟล์ ชื่อ R3D Datamanager ครับมันจะช่วยแยกไฟล์ไป Master และ Backup ได้พร้อมกันทีละหลายลูก
เพราะมันจะทำการ Vertify และ Buffer ข้อมูล ไม่มีการตกหล่นของข้อมูล และจะฟ้องถ้ามีการ Copy Error และจะ
สร้าง Log File ให้เสมอในการ Transfer ขนาดไฟล์ ถ่ายที่ 4k 16:9 REDCode 36 ใน 1 นาทีใช้พื้นที่ประมาณ 2 GB  ครับ
[ แก้ไขล่าสุดโดย jobfilm เมื่อ 2010-06-02 13:01 ]
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้