สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 5702เข้าชม
  • 25ตอบกลับ

เล่นเอาซะเราอิน...โธ่ที่แท้ก็....555+

โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-15
คนหูหนวกก็เล่นดนตรีได้ แต่ ... ?

คนตาบอดก็วาดภาพได้ แต่ ... ?

คนที่กามตายด้านก็มีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ ... ?

(ขออภัยที่เปรียบไม่เหมาะ แต่อยากให้ Hit The Point)
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2011-04-15
อ้างอิง
อ้างอิงโพส 13 ต้นฉบับโพสโดย mabsolute เมื่อ 2011-04-14 21:52 :
คนหูหนวกเล่นดนตรีได้ครับ ลองอ่านประวัติของ beethoven สิครับ คุณsticky

ผมบอกว่า "คนหูหนวก  ฝึก เล่นดนตรีไม่ได้"ครับ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
433
เงิน
8384
ความดี
6330
เครดิต
6526
จิตพิสัย
9379
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-16
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-16
จิตวิญญาณตัวพ่อ

มองว่า มันให้แรงบันดาลใจ ดีกว่า เช่น ทำดีได้ดี ความพยายามชนะทุกสิ่ง

ฝรั่งยัง โม้ให้ โลกแตก หุ่นยนตร์ตีกัน สัตว์พูดได้

ทำไมคนไทย อย่างเรา จะโม้ให้ คนหูหนวกเล่นดนตรีผมปลิว ไม่ได้

กวกๆๆๆๆๆๆๆ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
263
เงิน
3819
ความดี
9083
เครดิต
9415
จิตพิสัย
8770
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-16
บีโฟเฟ่น หูหนวกแต่ก็เล่นดนตรีได้ นะครับผมว่าคนหนูหนวกสามารถเล่นดนตรีได้
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 20#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-16
ประวัติ
                    
                   บีโธเฟ่นเป็นอัจฉริยะทางด้านการประพันธ์ดนตรีแนวคลาสสิก ที่มีผลงานทางดนตรีมีเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่และมีสีสันไม่น้อยไปกว่างานของโมสาร์ทเลย เขาถือกำเนิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 1770 ในครอบครัวที่ยากจน ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ตำบลไรน์ กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี พ่อของเขาชื่อ โจฮันน์ ฟาน บีโธเฟน มีอาชีพเป็นนักร้องเสียงเทนเนอร์ประจำวงดนตรีของเจ้าเมือง แม่ชื่อ มาเรีย มักดาเลนา เป็นผู้หญิงที่เรียบร้อย อ่อนหวาน ใจดี มีความรักและเอาใจใส่ต่อลูกๆ ทุกคน บีโธเฟนเป็นลูกคนที่ 2 ในจำนวนทั้งหมด 7 คน ความยากจนของครอบครัวทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเขาเป็นไปอย่างยากลำบาก ประกอบกับพ่อเป็นคนที่มีอารมณ์ร้าย เป็นคนขี้เหล้าเมาหยำเปใช้จ่ายเงินในการซื้อเหล้าหมด ไม่เอาใจใส่ดูแลต่อความทุกข์สุขของครอบครัวเท่าท่าควร

บีโธเฟนเป็นเด็กที่มีสารรูปขี้ริ้วขี้เหร่ เงียบขรึม และขี้อาย พ่อเริ่มสอนให้เล่นไวโอลินและเปียโนก่อนที่เขาจะมีอายุ 4 ขวบ แต่เขาเล่นได้ไม่ดีดังที่พ่อหวัง จึงทำให้พ่อโมโหและทำโทษเขาด้วยวิธีเอาไม้เคาะที่ตาตุ่มบ่อยๆ ปีที่บีโธเฟนเกิด "วูล์ฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท" นักดนตรีเอกของโลกมีชื่อเสียงกระฉ่อนทั่วยุโรปในฐานะนักดนตรีอัจฉริยะ โจฮันน์ ฟาน บีโธเฟน มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยานที่จะให้ลูกชายของเขามีความสามารถและมีชื่อเสียงทางดนตรีโด่งดังเหมือนกับโมสาร์ท พ่อของเขาพยายามเคี่ยวเข็ญลูกชายฝึกฝนเล่นดนตรีอย่างเข้มงวดกวดขันที่สุด จับเขาหัดไวโอลินตั้งแต่ 5 ขวบ เคี่ยวเข็ญให้ท่องจำ และให้ถือไวโอลินตลอดเวลา แต่กระนั้นก็ดี อัจฉริยภาพทางดนตรีของบีโธเฟนก็ยังไม่ปรากฏออกมา นอกจากจะฝึกซ้อมไวโอลินและเปียโนแล้ว พ่อยังบังคับให้เขาเรียนออร์แกนและคลาเวียร์กับเพื่อนคู่หูของพ่อ

การเรียนก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล เรียนไม่เป็นเวล่ำเวลา เพราะเมื่อพ่อและเพื่อนของกลับมาจากร้องเพลงก็จะมาปลุกให้เขาลุกขึ้นมาท่องโน้ตและเล่นคลาเวียร์ให้ฟัง แม้ว่าเขาจะง่วงแสนง่วงจนลืมตาแทบไม่ขึ้น พ่อก็จะฉุดกระชากลากมาให้เล่นให้ฟังจนได้
ความพยายามอยู่ทีไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ในที่สุดการเขี่ยวเข็ญของพ่อก็เป็นผลสำเร็จ บีโธเฟนเริ่มมีความสนใจและชื่นชอบการเล่นดนตรี อัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของเขาเริ่มค่อย ๆ ฉายแววออกมา เขาเต็มใจในการเล่นดนตรีและเริ่มฝึกฝนไวโอลินและออร์แกนอย่างจริงจัง จนมีความชำนาญพอที่จะออกโรงได้

เมื่อเขามีอายุ 8 ขวบได้แสดงคอนเสิร์ตต่อหน้าประชาชนเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าได้รับการปรบมือจากผู้ฟังอย่างเกรียวกราวและชื่นชม ทำให้พ่อของเขามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเขามีอายุได้ 11 ขวบ บิดาก็ให้เขาไปเป็นพนักงานเปียโนชั้นรอง ต่อมาอีก 2 ? 3 เดือน ก็ได้เป็นผู้เคาะจังหวะดนตรีวงอุปรากร ประจำโรงละครอีเลกเตอร์ เขามีแววที่จะเป็นนักดนตรีที่ดีได้ ตลอดระยะเวลาที่เขาคลุกคลีอยู่ในงานชิ้นนี้ เขาก็มีความก้าวหน้าในทางที่ดีอยู่เสมอ จากความสามารถของเขานี่เอง พ่อจึงได้ส่งเขาเข้าโรงเรียนและให้ไปเรียนดนตรีอย่างจริงจังกับครูดนตรีที่มีชื่อเสียง เขาได้เอาใจใส่ฝึกฝนในการดนตรีอย่างจริงจัง เรียนอยู่ได้ 2 ? 3 ปี ก็สามารถเล่นเพลงยากๆ ของนักดนตรีที่มีชื่อเสียงได้หลายเพลง เช่น Prelude และ Fugue ของบาคได้ทั้ง 48 เพลง ซึ่งนับว่าเก่งมากสำหรับเด็กอายุเพียง 11 ขวบ

จะว่าไปแล้วช่วงชีวิตในวัยเด็กของบีโธเฟนนั้นถูกเลี้ยงดูจากคุณปู่ที่เป็นนักดนตรี สิ่งนี้เองที่ทำให้บีโธเฟนมีความสนใจทางด้านดนตรีตั้งแต่เด็ก แต่ก็น่าเสียดายที่ปู่ของเขาเสียชีวิตลงในตอนที่บีโธเฟนมีอายุได้เพียง 10 ขวบเท่านั้นเอง หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1786 บีโธเฟนเดินทางไปเวียนนาไปเรียนดนตรีกับโมสาร์ทนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น ภายหลังจากที่โมสาร์ทได้ยินเสียงดนตรีที่บีโธเฟนบรรเลงออกมานั้น เขาถึงกับกล่าวออกมาว่า ?จงคอยดูเด็กน้อยคนนี้ให้ดี สักวันหนึ่งเพลงของเขาจะดังก้องไปทั่วโลก? บีโธเฟนฝึกดนตรีอย่างหนักทุกวันและเริ่มแต่งเพลง  และไม่นานนักหลังจากที่เขามาถึงเวียนนา แม่ของเขาก็เสียชีวิตลงด้วยโรควัณโรค ในขณะที่แม่ตายนั้นเขามีอายุเพียง 17 ปี

เขาต้องรับภาระดูแลครอบครัวแทนแม่ เขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือเจือจุนครอบครัวด้วยการสมัครเข้าเล่นดนตรีในสำนักของเจ้าเมืองบ้าง รับสอนเด็กๆ ที่ชอบทางดนตรี เมื่อเขาอายุ  22 ปี เขาได้ย้ายไปอยู่ที่เวียนนา และเข้าเรียนดนตรีกับไฮเดิน ในตอนแรกเขามีความนิยมชมชอบในตัวครูมาก แต่ไม่นานนักก็เกิดมีความคิดเห็นขัดแย้งกับครูของเขา

ไฮเดินรู้สึกไม่พอใจกับลูกศิษย์คนนี้นัก เพราะเป็นคนแข็งกระด้าง ท่าทางเงอะงะ ตลอดจนมีความคิดเห็นนอกแบบนอกแผนเชื่อมั่นในตนเองเกินไป ไม่เอาใจใส่ในคำสอนของครูในเรื่องกฎความกลมกลืนของเสียง ทางฝ่ายบีโธเฟนก็เห็นว่าไฮเดินจู้จี้และแก่ทฤษฎีเกินไป ชอบดำเนินตามรอยแบบแผนเก่าๆ และที่สำคัญคือไฮเดินไม่ชอบเพลงทริโอของเขา จึงเกิดขัดใจกัน ในที่สุดเขาจึงออกไปเรียนกับคนอื่น

ณ นครเวียนนาบีโธเฟนก็ได้ตระเวนเล่นดนตรีไปในที่ต่างๆ จนชื่อเสียงทางเปียโนของเขาเป็นที่รู้จักกันดีทั่วเวียนนา ได้รับความนิยมมากการเล่นของเขาเต็มไปด้วยลีลาและความรู้สึกที่ระบายออกมาอย่างรุนแรงและงดงาม เขามีลูกศิษย์ตลอดจนชนชั้นสูงมาเรียนกับเขามากขึ้น พวกชนชั้นสูงของเวียนนาไม่น้อยที่นิยมเพลงและซื้อบทเพลงของเขาไปเล่นตามวัง จากความสามารถทางดนตรีของเขา ทำให้เจ้าชายและเจ้าหญิงลิคนอฟสกี้ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในหมู่ชนชั้นสูงนิยมในตัวเขา ได้เชื้อเชิญให้เขาไปพำนักอยู่ในวังและรับเป็นผู้อุปถัมภ์ในทางการเงินและอื่นๆ แก่เขา

ขณะที่เขาพักอยู่ในวังเขามีความสะดวกสบายและมีความสุขพอควร ถึงแม้ว่าหน้าตาของเขาจะขี้ริ้วขี้เหร่ มีกิริยาท่าทางซุ่มซ่ามเป็นบ้านนอก แต่งกายปอนๆ รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา และผิดนัดบ่อยๆ มีอิสระเต็มที่ อยากเล่นอะไร ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นโดยไม่ต้องเกรงใจใคร บางครั้งก็แสดงกิริยาหยาบคาย หุนหันเอาแต่ใจตัว ขณะที่เขากำลังเล่นเปียโนให้ฟัง ถ้ามีใครพูดคุยและหัวเราะคิกคัก เขาจะโกรธมากและเลิกเล่น แล้วเดินหนีไปเฉยๆ แต่ก็ไม่มีใครดูหมิ่นดูแคลนหรือแสดงอากัปกิริยารังเกียจเขา ทุกคนพากันมองข้ามสิ่งเหล่านี้โดยไม่เอาใจใส่ เพราะนิยมในความเป็นอัจฉริยะทางดนตรีของเขา

ตั้งแต่ ค.ศ. 1800 เป็นต้นมา บีโธเฟนก็เปลี่ยนไปเอาดีและก้าวหน้าในทางแต่งเพลง เริ่มต้นด้วยเพลง Kreutzer Sonata สำหรับไวโอลิน The Moonlight และ Pathetic Sonata และเพลงคอนเชอร์โตอีก 3 เพลงสำหรับเปียโน นับเป็น 6 เพลงแรกที่ใช้เล่นกับเครื่องดนตรีสำหรับเล่น 4 คน และเริ่มแต่งเพลงซิมโฟนี จากการแต่งซิมโฟนีอันดับ 1 และ 2 ทำให้เขาได้พบแนวใหม่สำหรับที่จะแต่งเพลงอันดับต่อๆ ไป โดยเห็นช่องทางที่จะใส่อารมณ์และความรู้สึกลงไปได้อย่างเต็มที่ เพลงที่บีโธเฟนแต่งเป็นเพลงที่แสดงออกมาอย่างเสรี แหวกแนว

ในระยะแรกที่เพลงของเขาออกสู่ประชาชน ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เช่นว่า ?นักดนตรีที่นอกแบบแผนเป็นอันตรายต่อศิลปะทางดนตรี? แต่เขาก็ไม่แยแสว่าใครจะว่าอย่างไร และในตอนที่เขามีอายุได้ 31 ปี หูของเขาก็เริ่มมีอาการผิดปกติ ริ่มมีอาการปวดและอื้อจนขึ้น เจ็บปวดรวดร้าวทำให้เกิดความทนทุกข์ทรมานใจเขาเป็นอย่างยิ่ง หมอได้แนะนำให้เขาไปพักผ่อนตามหมู่บ้านแถบชานเมือง และในที่สุดเขาก็ไม่สามารถได้ยินเสียงใดๆอีกเลย

การคิดต่างเปนเรื่องดีนะ ทำให้เราสนใจไปค้นเพิ่ม ในบางส่วนก็เพิ่งรู้เหมือนกัน

เซิจจาก google

สนใจติดตามอ่านต่อได้ที่ >> http://www.tutorgohome.com/forum/index.php?topic=360.0
ระดับ : สมาชิก VII
โพสต์
585
เงิน
16710
ความดี
13655
เครดิต
14351
จิตพิสัย
14629
จังหวัด
ชัยภูมิ
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-16
  
ระดับ : สมาชิก V
โพสต์
102
เงิน
129
ความดี
3946
เครดิต
3774
จิตพิสัย
3782
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-20
โฆษณาดีๆ กลายเป็นประเด็นคนหูหนวกซะแล้ว หุๆ^^

แต่ผมคิดว่า ขึ้นอยู่กับว่าหูหนวกมาแต่กำเนิดรึเปล่าครับ บีโธเฟน มาเป็นหูหนวกทีหลัง จึงยังจำรูปแบบการเล่นตอนที่หูยังไม่หนวกได้
ตามที่พี่ Sticky บอกว่า
"ฝึก" ไม่ได้ ผมก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเมื่อเราศูนย์เสียการได้ยินไปแล้ว จะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่า
เสียงที่เรา ดีด สี ตี เป่า ไปนั้น ออกมาเป็นเสียงประมาณไหน ดังมากดังน้อย เพราะเป็นการ "ฝึก" ที่ไม่ใช่การจดจำความรู้สึกก่อนศูนย์เีสียทางการได้ยิน
จึงทำให้ผู้พิการทางการได้ยิน ไม่สามารถ "ฝึก" การเล่นเครื่องดนตรีได้ (เหมือนกับคนที่หูหนวก ที่แรกๆจะยังพูดได้ เพราะจดจำการขยับของกล้ามเนื้อ
แต่หลังๆจะเริ่มพูดไม่ได้)

แต่! ผมก็ชอบสิ่งที่เขานำเสนอนะ ถึงมันอาจจะไม่จริง แต่สามารถทำให้คนดู "เชื่อ" ไปกับมันได้ และยังสร้างแรงบันดาลใจ ความปลาบปลื้ม ฯลฯ
เพราะบางครั้ง "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ก็อาจเกิดขึ้นได้" ครับ ชอบๆ น้องเฟิร์น รุ่นน้องศิษย์เก่า จบจาก รร. เดียวกัน :))
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
20
เงิน
960
ความดี
470
เครดิต
397
จิตพิสัย
467
จังหวัด
ขอนแก่น
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-20
คนหูหนวกเล่นดนตรีได้นะครับ ...
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
460
เงิน
16242
ความดี
7641
เครดิต
7804
จิตพิสัย
10591
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-21
ชอบน้องใบเฟิร์นมั่กๆ
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2011-07-21
มาๆ เดี๋ยวผมจะสอนเล่นดนตรีให้ฟรีๆ อยากเล่นไรบอก
แต่ต้องอุดหูนะ ผมแถมตังให้ด้วย ถ้าเล่นแล้วเป็นเพลง

ประเดี๋ยวก็บอกว่าคนตาบอดถ่ายหนังได้มั่งซะเลยนี่
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้