สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 11020เข้าชม
  • 35ตอบกลับ

ขอถามครับ เรื่องการทำให้เกิดอารมณ์ ของภาพยนต์

ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
53
เงิน
1680
ความดี
2016
เครดิต
1727
จิตพิสัย
1879
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 15#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-04
เอา Version Film Look มาให้ดูครับ ผมทำแค่ Color Corrector เท่านั้น ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะ โหลดงาน จากเวปมาแก้อีกที และโทนสีอาจเพี้ยนไปบ้างเพราะไม่ได้ทำ Color Corrector จากต้นฉบับโดยตรงครับ นี่เป็นเพียง หนึ่งความเห็นของผม เพื่อการพัฒนาของหนังครับ

http://www.youtube.com/watch?v=O5qhlE32tug
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
littletime ความดี +1 2011-05-05 ขอบคุณครับ
โพสต์
695
เงิน
13583
ความดี
11808
เครดิต
12362
จิตพิสัย
17399
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 16#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ผมอยากจะให้รู้จักแยกแยะระหว่างคำว่า "อารมณ์ภาพแบบภาพยนตร์" กับ "อารมณ์ภาพแบบฟิล์ม"
เพราะอารมณ์แบบภาพยนตร์มันไม่มีตัวชี้วัดหรอกครับ มันเป็นเรื่องของเจตนาหรือจุดประสงค์
เพราะภาพยนตร์เรื่องหนึ่งๆ ผู้กำกับจะเลือกใช้ภาพแบบไหนจากวิธีไหนก็ได้

คำว่า ภาพยนตร์ มันคือการสื่อสารเรื่องราวด้วยภาพเคลื่อนไหว ไม่ได้แปลว่า ภาพอารมณ์แบบฟิล์ม
(ฟิล์มคือระบบที่ใช้ถ่ายภาพยนตร์ได้เป็นตัวแรกๆเท่านั้นเอง เพราะไม่มีตัวเลือกอื่น และในยุคต่อๆมา ก็ยังไม่มีตัวเลือกที่ให้ภาพเป็นที่น่าพอใจมากกว่า
หรือเทียบเท่าฟิล์มจนถึงทุกวันนี้)

งานคุณแต้ ผมถือว่ามันคือภาพยนตร์ เพราะเจตนาของคุณแต้คือ ภาพยนตร์
แต่สไตล์ภาพไม่ใช่สไตล์ฟิล์มเท่านั้น (ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่ดี)
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
53
เงิน
1680
ความดี
2016
เครดิต
1727
จิตพิสัย
1879
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 17#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ขอตอบสั้นๆ บ้างนะครับในฐานนะที่ ทำงานด้านนี้มาหลายปี

การทำ video ที่ถ่าย ให้ออกมาดูเป็นอารมณ์ของภาพยนตร์นั้น  จริงๆ มีหลักอยู่มากมายครับ ขอ อ้างอิงข้อมูลใน google ก่อนล่ะกันนะครับ จากคำค้น Film Vs Digital และ Film Look ผมจะยกตัวอย่าง บางอย่างเช่น

1.การทำให้ video มี fps ที่ 23.976 หรือ 25 แบบที่เป็น fps แท้
คำว่า fps แท้ในความหมายผมคือ
1.ถ่ายจากกล้องที่ 50p แล้วลด มา 25p   (shutter 1/50)
2.ถ่ายจากกล้องที่ 25p  (shutter 1/50)
3.ถ่ายจากกล้องที่ 23.976p   (shutter 1/48)
4.ถ่ายมาที่ fps 60, 50, 29.97 แล้วนำมาแปลงเป็น 25p หรือ 23.976 แบบเฟรมแท้ (การทำเฟรมแท้จะไม่กล่าวถึงนะครับ)

2.การทำ Color Corrector
สำหรับการทำ Color Corrector นี้ ไม่ได้มีสูตรการทำที่ตายตัวหรอกครับ มันอยู่ที่ว่าจะสื่อ อารมณ์ของหนังไปในทิศทางใด แต่ถ้าจะให้ผมอธิบายการทำในรูปแบบของผม คือ ผมจะทำสีตามความรู้สึกของผม พยายามใช้ฟิวดึงสีไปเรื่อยๆ จนความรู้สึกของตัวเองบอกว่า เหมือนภาพยนตร์แล้วจึงหยุด ผมใช้เทคนิคในการดูหนังเยอะๆ และสังเกตุ สี ความเข้ม ของหนังเอาครับ

ผมเคยโหลด เบื้องหลังของหนังหลายๆ เรื่องที่เขายังไม่ได้ทำ สี Color Corrector มาลองจูนสีเอง ให้เหมือนกับหนังที่ฉายจริงๆ (เรื่องเดียวกัน) จนได้รูปแบบการทำ Color Corrector

สมัยนี้มีโปรแกรมที่ย้อมสีหนังมากมาย เช่น Magic Bullet Look เคยทดลองเอามาใช้ แต่ไม่ work ครับ ยังไม่ได้ฟิวเท่าไหร่

3.การถ่ายหนังด้วยขาตั้ง และ ถ่ายด้วยมือ
การถ่ายทั้ง 2 แบบผมจะแยกถ่ายตามสิ่งที่ควรจะเป็นครับ โดยผมจะดูตัวอย่างการถ่ายทำ มุมกล้อง จากหนังที่ยอมรับว่ายอดเยี่ยม
เช่น ฉากที่ยืนคุยกัน ผมมักจะใช้ขาตั้ง Zoom ไปที่หน้า
ส่วน ฉากที่ใช้ มือถ่าย ถ้าผมใช้ DSLR ถ่ายผมจะต้องมี steadicam ช่วยถ่ายในทุกๆ ฉากเพื่อภาพที่ออกมานิ่ง การเคลื่อนไหวที่นิ่มนวล

4.การ Crop ภาพที่ 2.35:1 ซึ่ง ตอนถ่ายมาจะต้องกะไว้ก่อนแล้วว่าจะเอาภาพแบบนี้ ไม่ใช่เอา 16:9 มา Crop เพราะหากทำแบบนั้น รายละเอียดจะหายไปพอสมควร ผมใช้เทคนิคง่ายๆ คือเอากระดาษสีดำมาคาดบนจอ LCD ของกล้องตอนถ่ายไว้

5.การเพิ่มรายละเอียดเล็กน้อยให้ดูคล้าย Film เช่นการใส่เม็ด Film บ้าง การลบขอบที่ชัดเกินไป

นี่ก็เป็นเทคนิคการทำ video ให้เกิดอารมณ์ภาพยนตร์ของผมนะครับ

สำหรับผม ผมชอบที่จะทำ video ให้ภาพออกมาแบบอารมณ์ Film สำหรับผมมันได้อารมณ์กว่าเยอะครับ
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
littletime ความดี +1 2011-05-05 ผมชักอยากเจอคุณแล้ว อะ
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 18#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
แนะนำว่า packetnarok ควรจะไปหากระทู้ของ pop-it อ่านนะ  หรือเขียนแนะนำให้เป็นเรื่องเป็นราวแบบ pop-it เลย

แต่มีอย่างนึงแนะนำว่า ไม่ควรเหมือนกันคือ เอางานที่เคยทำ มาโพสแชร์ให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ได้ดูด้วย

จะได้รู้ว่าที่เขียนมาน่ะ นำไปใช้ได้จริง

แรกๆก็รู้สึกดีที่ เม้นต่าง แต่ เหนมาเรื่่อยๆ กับ ข้อความเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่ เหมือนกับว่า เนี่ยมันเปนแบบที่เขียนให้อ่านเนี่ย

ขออะไรใหม่ๆบ้าง ไอ้ที่เขียนอะ รื้อๆดู มีละเอียดกว่านี้ิอี๊ก

โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 19#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ขอถามครับคุณ packetnarok  
ด้วยความรู้เท่าหางอึ่งของผมจึงอยากรู้จากผู้รู้ที่ทำงานด้านนี้มาหลายปีครับ

ข้อแรก
.ถ่ายมาที่ fps 60, 50, 29.97 แล้วนำมาแปลงเป็น 25p หรือ 23.976 แบบเฟรมแท้ (การทำเฟรมแท้จะไม่กล่าวถึงนะครับ)

ไม่ต้องพูดถึง shutter อะไรทั้งสิ้น ผมไม่ใช่ตากล้องผมเป็นคนตัดรายการต๊อกต๋อย เลยอยากรู้ว่าคำว่า แปลงมาเป็น 25 หรือ 23.976 แบบเฟรมแท้ ทำอย่างไรครับ

ข้อสอง
ผมจะทำสีตามความรู้สึกของผม พยายามใช้ฟิวดึงสีไปเรื่อยๆ จนความรู้สึกของตัวเองบอกว่า เหมือนภาพยนตร์แล้วจึงหยุด ผมใช้เทคนิคในการดูหนังเยอะๆ และสังเกตุ สี ความเข้ม ของหนังเอาครับ

งั้นในความหมายนี้หมายความว่าเรื่องสีเกิดจากความรู้สึกของคนทำ เพราะคุณพี่เอาความรู้สึกพี่เป้นหลักและถ้าไม่มีมาตรฐานตายตัวอย่างที่บอก มันก็แสดงว่าท่านไม่สามารถคอมเม้นงานคนอื่นได้ว่า ยังไม่ใช่ฟิวส์หนังเช่นกันน่ะสิ เพราะความรู้สึกว่าเหมือนภาพยนต์ของแต่ละคนไม่เหมือนกันและหนังแต่ละเรื่องคงไม่ใช่สีแบบเดียวกันกับที่ท่านอยากได้ ผมเข้าใจถูกใช่รึไม่

รบกวนขอความรู้หน่อยครับ
ปล.คุณทำให้ผมนึกถึงผู้ชายคนนึงใน TSF
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
bryan ความดี +1 2011-05-05 ท่านผู้นั่นนั่นเอง ผกก อิไกลัส
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
53
เงิน
1680
ความดี
2016
เครดิต
1727
จิตพิสัย
1879
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 20#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
จริงๆ เรื่อง Color Corrector จะให้พูดอธิบายโดยละเอียด ผมก็ไม่สามารถที่จะอธิบายได้ดีหรอกครับเพราะผมก็ไม่ได้เก่ง และก็ไม่ได้จบมาด้านนี้ด้วยครับ เอาเป็นว่าหน้าที่การงานผมในตอนนี้ งานชิ้นหนึ่งที่ผมต้องทำเกือบทุกวันคือ

การนำ video มาทำ film look ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทเองหรือลูกค้า (ผมก็เป็นลูกจ้างธรรมดานี่แหละครับ ใครให้ทำอะไรก็ทำ) มาตรฐาน film look ของผมคือ การเน้นภาพแบบ ภาพยนตร์ไทยครับ ลองสังเกตุ หนังเรื่อง สุดเขต สาระแนสิบล้อ สาระแนเห็นผี ซักซี้ และอีกหลายๆ เรื่อง จะใช้โทนแบบเดียวกันคือ จะเน้น เขียวอมฟ้า (ผมเข้าใจว่างั้น)  ก็สรุปง่ายๆ อ่ะครับ สำหรับแนว film look ที่ผมใช้ก็คือแนวแบบหนังไทย ทั่วๆ ไปแหละครับ

สำหรับการทำ Frame แท้นั้น ขออธิบาย เรื่องเฟรมที่ไม่แท้ก่อนนะครับ หลายๆ คนคงเคยแปลง fps จาก 60 และ 29.97 มาเป็น 25p แล้วรู้สึกว่า ภาพไม่สมูท มีการกระโดดในบางเฟรม ผมเรียกอาการแบบนี้ว่าเฟรมไม่แท้ คือแบบว่าพยายามบังคับให้เฟรมลดลงมา แต่ไม่ได้มีการจัดเรียงเฟรมให้มีความห่างของแต่ละเฟรมเท่าๆ กัน จึงเกิดอาการลื่นบ้างกระตุกบ้าง สมัยผมลองหัดทำเฟรมแท้ใหม่ๆ ผมใช้ภาพจากรถวิ่งผ่านไปผ่านมานี่แหละครับ ดูง่ายดี คือถ้าแปลงเฟรมมาไม่แท้ ไงภาพก็กระตุกแบบเห็นได้ชัดแน่นอน

ตอนนี้โปรแกรมที่แปลง Frame ง่ายสุดๆ ก็ Sony Vegas นี่แหละครับ Render ออกมาก็ได้เฟรมแบบที่ต้องการแล้ว ไม่มีสะดุด แต่โกสบานครับ เพราะฉะนั้นมันไม่ work แน่นอน ตอนนี้ที่ผมใช้อยู่ก็คือ Megui ครับ แปลงจาก 24p ไป 60p แปลงจาก 60p ไป 24p หรืออะไรก็แล้วแต่ แปลงได้หมดครับ อยู่ที่การเขียน code ว่าใครจะละเอียดมากกว่ากัน สำหรับ code ถ้าใครไม่อยากเขียนเองใน google ก็เยอะครับ โหลดมาลองทำดูแล้วจะชอบครับ แปลงจากกล้องมือถือถ่ายมาแค่ 15fps เอามาโยนใส่ megui ยังได้เฟรม 25p แท้สบายๆ

ตามความคิดผมนะ ถ้าใช้ Megui แปลงเฟรมจาก 59.94, 29.97 มาเป็น 25p ภาพมันจะคล้ายๆ 25p shutter 1/50 ครับ

สำหรับใน mac ก็ Final Cut ครับทำได้เหมือนกัน ใน youtube เยอะครับ
โพสต์
2233
เงิน
39418
ความดี
31452
เครดิต
30299
จิตพิสัย
73899
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 21#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ในที่สุด ก็มั่นใจที่จะพิมว่า ในงานเทคนิค อะไรที่รู้ไม่จริง ให้ศึกษาให้ดีก่อนนะ เพราะงานเทคนิค คือ การสอน บวก ลบ คูณ หาร ถ้าเข้าใจผิดๆมา แล้ว อธิบายเปนควุ้งเปนแควว อย่างมั่นใจ คนไม่รู้จริงๆจะเข้าใจผิดได้

ตอนแรกนึกว่า สายจิตวิญญาณ คิดต่าง

มีเวลาลองรื้อ ทู้ดีๆในนี้อ่านนะ ใบ้ให้ขึ้นต้นด้วย j จบด้วย m คนเนี้ยเขารู้จริง เรืื่อง ปิ้ง ย่าง

ตอนแรกว่าจะไม่อะไร แต่ไม่ได้และ เดี๋ยวกลายพันธ์ พลาดพลั้ง เขียนเปนตำรา เปนผลไม่ดีกับคนหัวอ่อน

กวกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 22#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ขอถามครับอ้างอิงจากผมตัดรายการ
ข้อแรก
จะใช้โทนแบบเดียวกันคือ จะเน้น เขียวอมฟ้า

แบบนี้ถ้าผมตัดรายการแล้วย้อมเขียวอมฟ้าอย่างที่ท่านกูรูบอก รายการผมก็เป็นฟิลม์ลุคสิ ใช่มั้ย

ข้อสอง
โปรแกรมที่แปลง Frame ง่ายสุดๆ ก็ Sony Vegas นี่แหละครับ
สำหรับใน mac ก็ Final Cut ครับ ส่วน Megui ผมไม่รุ้จักครับบอกตรงๆ

เท่าที่ผมรู้ final cut กับ Sony vegas มันไม่ใช่โปรแกรมแปลงครับมันเป็นโปรแกรมตัดต่อ แบบนี้พวกโปรแกรม Procoder / Tmpeg / Format Factory ไม่สามารถให้เฟรมแท้ได้เหรอครับ

รบกวนอีกรอบขอบคุณครับ
ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
53
เงิน
1680
ความดี
2016
เครดิต
1727
จิตพิสัย
1879
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 23#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
เรื่อง Color Corrector FilmLook มันไม่ใช่แค่ว่า ดึงสีให้ออกเขียวอมฟ้าแล้วมันจะเป็น FilmLook หรอกครับ มันมีอะไรมากกว่านั้นเยอะครับ ต้องใช้ฟิวคนดึงสีด้วยครับ แต่ละ video ที่ดึงออกมา ก็ไม่ได้ใช้การตั้งค่าแบบเดียวกันครับ

โปรแกรม Procoder / Tmpeg / Format Factory และอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Vegas Megui Finalcut แปลง fps ได้ครับ แต่จะได้ fps ที่ไม่แท้

ทดสอบตามที่ผมบอกได้ครับ ลองไปถ่าย video รถวิ่งผ่านไปมา ที่ 60p 30p แล้วแปลงเป็น 25p ด้วยโปรแกรม ที่ไม่ใช้ vegas megui finalcut ดูครับ จะเห็นรถวิ่งสะดุดแน่นอน
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
224
เงิน
6463
ความดี
4642
เครดิต
4977
จิตพิสัย
5999
จังหวัด
* ต่างประเทศ *

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 24#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
ขอขัดจังหวะข้างบนซะหน่อย

ส่วนตัวแล้วคิดว่า หนังก็เหมือนกับงานศิลปะแขนงอื่น คือ เป็น subjective แต่ละคนมีความเห็น มีรสนิยมที่ต่างกัน
แต่สิ่งที่เป็นสากล คือความรู้สึกต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหนัง เช่น ดีใจ เสียใจ ตื่นเต้น.. อารมณ์ที่เราต้องการสื่อออกมา
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น Shutter speed,Color Correction ย่อมมีผลต่ออารมณ์ของหนังอย่างแน่นอน
และ Hand Held ก็ไม่ได้ทำให้ดูไม่โปรด้วย ถ้าเราใช้อย่างเหมาะสม
3 สิ่งที่ยกตัวอย่างมานี้ก็คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่ออารมณ์
ไม่มีผิดไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกใช้ได้ถูกต้องกับสิ่งที่เราต้องการจะสื่อหรือไม่

สำหรับหนังสั้นเรื่องนี้ ดูแล้ว ขอตอบในนี้แทนเลยละกันว่า
1.เวลามี shot ข้างในและข้างนอกพร้อมกัน เช่น shot ที่เดินออกไปที่ระเบียง ข้างนอก over มากๆ ไม่เหลือรายละเอียดเลย
เข้าใจว่าเป็นหนังนักศึกษา คงไม่มีเงินเช่าไฟใหญ่ๆ เช่า ND gel หรือ window scrim มาใช้
มีวิธีเดียวคือถ่ายช่วงเย็น หรือ เช้า ให้ความเปรียบต่างไม่มากนักคงพอช่วยได้

2.ถ่ายภายในที่มีโคมไฟอยู่ด้วย ให้ใช้ dimmer ทุกครั้ง เพราะโคมไฟเวลาถ่าย มันจะสว่างมากกว่ามองด้วยตา
ทำให้เหมือนมีลูกไฟสว่างมากๆ อยู่ข้างๆ นักแสดง

3.อยากให้ระวังเรื่องโฟกัสให้มาก ถ่ายตัวแสดงโฟกัสที่ตา ต้องให้คมกริบ
ลองดูหนังตัวอย่างที่ยกตัวอย่างมาเองก็ได้ แม้หนังจะดูฟุ้งๆ แต่โฟกัสคมทุกshot

แรกๆ ก็ตื่นเต้นที่ DSLR ออกมา มันช่างชัดตื้นได้ใจ ทำไมไม่ออกมาตอนเราเรียนบ้าง
หนังเราคงสวยขึ้น แต่ตอนนี้ดูไปดูมา บางทีมันก็ตื้นเกินไป ใช้บ่อยเกินไป ขยับนิดโฟกัสหลุดอีกแล้ว
ลองไปดูหนังทั่วไปอีกที มันก็ไม่ได้ชัดตื้นกันทุก shot ซะขนาดนั้น

แต่ก็แอบชอบหลาย shot ของหนังเรื่องนี้ เช่น shot เปิดเรื่อง shot dolly หน้าประตู

โดยรวมก็เก่งกว่าพี่ตอนเรียนอ่ะนะ ว่างๆจะเอางานสมัยเรียนมาโชว์ อย่างฮา   


ระดับ : สมาชิก IIII
โพสต์
53
เงิน
1680
ความดี
2016
เครดิต
1727
จิตพิสัย
1879
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 25#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
Final Cut  Sony Vegas  Megui พวกนี้เป็นโปรแกรมตัดต่อ video ครับ แต่มันมีความสามารถ Insert frame ได้ครับ ซึ่งโปรแกรมอื่นๆ ยังไม่มี หรือถ้ามี ก็ยังไม่ดีพอครับ

Vegas
http://www.youtube.com/watch?v=YdZMAKjAF30

Finall cut
http://www.youtube.com/watch?v=Bwa1-5fnDMs
โพสต์
1168
เงิน
213
ความดี
29205
เครดิต
30232
จิตพิสัย
35008
จังหวัด
ขอนแก่น

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 26#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
พรีเมียโปรทำเฟรมแท้ได้มั๊ยครับ
ดึงสี ดึงตามฟิวคนตัดเลยเหรอครับ ผมนึกว่าดึงตาม Theme หนังซะอีก

อันนี้ขอถามนะครับ Cinematography กับ Film Look นี่เหมือนกันยังไงครับ
โพสต์
1036
เงิน
21774
ความดี
14792
เครดิต
14177
จิตพิสัย
24522
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 27#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
เรื่องโปรแกรมผมไม่รู้ ตลอดชีวิตการทำงานของผม อยู่กับ PPRO มาตลอด และแปลงไฟล์ผ่านโปรแกรมทั้งหลายที่ท่านบอกว่ามันได้ไม่แท้นั่นล่ะครับ และผมก็ไม่มีความรู้เยอะขนาดท่านเลยไม่สามารถตอบได้ลึกเท่าท่าน แต่สุดท้ายผมก็ยังเชื่อว่าโปรแกรมแต่ละตัวมีดี ที่สามารถทำให้ปิดงานได้เหมือนกัน และโปรแกรมแปลงไฟล์แต่ละชนิดมีดีในตัวมันถึงขายได้ ดังนั้นเรื่องนี้ผมขอผ่านละกัน ต่อให้ต้องตัดเฟรมไม่แท้ต่อไปก็ไม่เป็นไร เพราะจริงแล้วผมอาจจะอยู่กับเฟรมไม่แท้มาตลอดชีวิตการทำงานเลยก็ได้

เรื่องสี ผมก็ไม่รู้ลึกเท่าท่านอีกอยุ่ดีเพราะผมไม่ได้คลุกกับการทำสีฟิลม์ลุค เพียงแต่ว่าคำตอบท่านมันกำปั้นทุบดินมาก คือต้องใช้ฟิวส์คนดึงสีด้วย ผมถามท่านนิดนึงว่า หากท่านดึงสีแล้วคิดว่านี่ละฟิลม์ลุคของท่าน แต่ผมกลับมองว่าไม่ใช่ล่ะ เพราะมันไม่ใช่ฟิลม์ลุคในความหมายผม เพราะฉะนั้นผมว่าคำตอบที่ไร้แก่นสารนี้ ไม่น่าใช่คำตอบที่แท้จริง และเมื่อไม่มีแก่นก็ไม่ควรไปเม้นท์คนอื่นโดยที่ท่านยังไม่ชัดเจน มันจะทำให้ผู้อื่นที่เขาไม่รู้ ทำตามและกลายเป็นไม่รู้เหมือนกัน หากเป้นเช่นนั้นจริง อีกหน่อยใครถามว่า สีแบบฟิลม์ลุคคืออะไร คงได้คำตอบว่า ก็อยู่ที่ฟิวส์คนดึงสี ซึ่งดูแล้วคงจะไม่ดี

ส่วนประเด็นนี้เป็นประเด็นที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่ผมถามเลย ผมแค่รู้สึกส่วนตัวว่า ในการที่ท่านโหลดงานคนอื่น แล้วเอามาทำสีใหม่ โดยไม่ได้ขออนุญาติเจ้าของงาน แล้วมาบอกว่ามันน่าต้องทำแบบนี้ แบบนั้น ผมว่ามันเป็นการดูถูกคนอื่นครับ งานของใคร ของใครก้รักครับ หัดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำอะไรขออนุญาติเขาบ้าง รู้ว่าเพื่อการพัฒนาครับ แต่มารยาทก็เป้นส่วนนึงที่ควรพัฒนาครับ เพราะทุกงานกว่าจะออกมาได้มันถูกคนสร้างกลั่นกรองและใช้ความพยายามสร้างมาแล้วครับ ผมเคยเป้นครับการคอมเม้นท์ในสิ่งที่เราอยากให้เป้น แต่สุดท้ายคนสร้างมันไม่ใช่คุณ งานไม่ใช่ของคุณ เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ได้กลายเป้นแบบที่คุณต้องการครับ ติเพื่อก่อได้ครับ แต่อย่าคิดจะเปลี่ยนอะไรทุกอย่างให้กลายเป้นของคุณ เพราะคุณจะกลายเป้นคนใจแคบและเห้นแก่ตัวครับ

ขอบคุณครับ
โพสต์
2938
เงิน
58400
ความดี
38732
เครดิต
38299
จิตพิสัย
54804
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 28#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
อย่าไปซีเรียสครับเรื่องแบบนี้
ในมุมของผู้ผลิตผลงาน
1.ต้องมีจุดยืนเป็นของตัวเอง เมื่อนำเสนอผลงานแล้ว ยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็น ในมุมมองที่ต่างออกไป โดยไม่โต้แย้ง เพราะเรารู้อยู่แล้วว่า สิ่งที่เราทำ เราทำอะไร ทำๆ ไม มีต้นสายปลายเหตุอย่างไร
2.ผู้วิจารณ์ๆ ตามหลักการณ์ที่เป็นไปได้ ไม่เลื่อนลอย นำไปใช้ได้ พัฒนาได้จริงๆ โดยไม่เอาอารมณ์หรือ อีโก้ อีแก้ ที่ไหนมาใช้ในการณ์วิจารณ์ ก็จะทำให้ ผู้ดู ผู้ทำ นำไปใช้พัฒนาต่อยอดได้

เพราะถ้าเราเอามาให้ดูแล้วไม่ยอมรับคำวิจารณ์ หลังๆ ใครเขาก็ไม่อยากวิจารณ์ เพราะวิจารณ์ไปก็โดนตอกกลับหมด หรือโกรธที่วิจารณ์
หรือถ้าเราวิจารณ์แล้วไม่มีมูลความเป็นไปได้เลย ก็จะโดนผู้อื่น ว่ากล่าวตักเตือน หรือไม่ได้รับความยอมรับในความคิดเห็นต่างๆ ด้วยเหมือนกัน
ต้องเปิดใจกว่างทั้งสองฝ่ายครับ อย่าเอาผิดเอาถูกเอาเป็นเอาตายกันกับงานศิลปะ
กฎเกณฑ์ต่างๆ เขาสร้างเอาไว้เป็นไกด์ไลน์ให้เราพอจะมองเห็นลู่ท่างในการทำงานต่างๆ เท่านั้น
แต่มันไม่ได้เป็นกรอบปฏิบัติตายตัวที่จะต้องทำตามตลอดเวลาครับ
    
โพสต์
1243
เงิน
38524
ความดี
32363
เครดิต
33584
จิตพิสัย
35336
จังหวัด
สมุทรปราการ

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 29#  โพสต์เมื่อ: 2011-05-05
เอ้า เรื่องใหญ่แล้ว
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้