ผมเกริ่นเลยนะครับ ผมไม่ใช่คนเก่ง แต่จะมาแชร์เท่าที่แชร์ได้ ส่วนไหนดีรับ ส่วนไหนไม่ดีทิ้งไป
ผมชอบนะคำถามที่ดูเหมือนโง่ๆ แต่มันก็แฝงด้วยอารมณ์ไคร่รู้แบบแรงกล้า เนื่องจากโดนตำหนิมา เข้าใจครับ
ผมชอบตรงที่หาก เกิดคำถามโง่ๆ ขึ้นที่ใด มักจะมีคำตอบมากมาย บางคำตอบ บางคนยังไม่เคยรู้แต่ไม่กล้าแสดงตัวว่าตนไม่รู้ น่าเศร้าใจนัก
แต่การที่พี่บางคน เข้ามาแซว เข้ามาพูดเหมือนมีอารมณ์ อย่าเข้าใจผิดเลยครับ เขาแค่กระตุ้นและแนะแนวทางที่ดีให้เราเฉยๆ ลองตั้งสติดีๆ จะเห็นคำตอบ หากไม่เอาอารมณ์มานำทาง
เข้าเรื่องเลยครับ
คำถามคุณเกิดมาจากความไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง จึงทำให้กว้างมาก
ถ้าถามถึงเทคนิคมุมกล้อง อย่างที่พี่ๆ ทุกคนในที่นี้บอกไว้ มันเกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาล้วนๆ จึงทำให้คำตอบทุกอย่างอยู่ที่การ คิด ดู ปฏิบัติ อาจารย์ดีมีรอบตัวเต็มไปหมดถ้ามองเห็นนะ
แต่ถ้าเป็น วิธีการ คอนตินิวมุมกล้อง เรื่องนี้พอแชร์ได้ครับ
วิธีของผมคือ ขั้นแรก ผมจะวิเคราะห์ว่างานนี้ คืองานอะไร เจ้าภาพ นายจ้าง เจ้าของงานต้องการอะไร
สมมติ ผมถ่ายงานเลี้ยงสังสรรค
เปิดเรื่อง ผมต้องการสื่อถึง สถานที่ บรรยากาศงานช่วงจัดสถานที่ การเตรียมงาน
ผมก็จะใช้มุมกว้างกวาดสถานที่ก่อน และอาจคอนตินิวต่อ ด้วยภาพคนทำงานกำลังจัดสถานที่ โดย Rec ยาว แล้วมาปรับสปีด
หลังจากนั้น ผมอาจจะไปจับภาพ พระอาทิตย์ที่เริ่มคล้อยลับขอบฟ้า หรือ นกที่เริ่มบินกลับพร้อมแสงที่หมดลง
และคอนตินิวต่อด้วยแสงแรก ของไฟในงาน เจ้าภาพพูดอะไรซักอย่างเพื่อเปิดงาน แล้วก็ บลาๆๆๆ
มุมภาพที่ มันต่อเนื่อง กัน อย่างเช่น เจ้าภาพพูดอาจอยู่มุมขวาเฟรม ตัดมาคนฟัง อยู่หนักซ้ายของเฟรม เป็นต้น ความหมายคือ ผู้พูดกำลังพูดคุยกับผู้ฟัง ในทิศทางไหน (ต้องสังเกตุใบหน้าผู้พูดด้วยว่าหันไปทางไหน หากอยู่บนเวทีอาจต้องเปลี่ยนเป็นมุมถ่ายด้านหลังผู้พูดให้เห็นผู้ฟัง)
หรือแขกเดินเข้างาน จากหน้าประตู แพนกล้องตามแขกไปจนเห็นด้านหลังแขกคนเดิม แต่แบล็กกราวเป็นหน้าเวทีงาน เป็นต้น ความหมายคือแขกคนนี้กำลังมางาน งานนี้คืองานของเจ้าภาพนั่นเอง
ขอแค่นี้ละกันนะครับเป็นตัวอย่าง เดี๋ยวจะยาวเกิน จะเหมือนสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำเปล่าๆ