สมาชิก สถิติฟอรั่ม ธนาคาร
  • 4989เข้าชม
  • 9ตอบกลับ

ขอถามโดยความไม่รู้คับเกี่ยวกับไมค์กับ7Dคับ

ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
20
เงิน
692
ความดี
769
เครดิต
706
จิตพิสัย
749
จังหวัด
นครปฐม
ถ้าผมจะเอาไมค์โครโฟนที่มช้ร้อง คาราโอเกะ มาเเปลงเเจ็คเป็นหัวเล็ก  จะเอามาเสียบกับ 7Dใด้รึป่าวคับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ได้เฉพาะที่เป็น condenser มีถ่านอยู่ในตัวเท่านั้นครับ ... (แบบพ่วงไฟ phantom ก็ได้นะ แต่คงไม่ work มั๊ง)
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
20
เงิน
692
ความดี
769
เครดิต
706
จิตพิสัย
749
จังหวัด
นครปฐม
มีราคาขับต่ำเท่าไหรคับที่ใช้งานพอใด้  เเต่ที่ดีกว่าไมค์ที่ติดมากับกล้อง7Dอ่ะคับ
พอดีผมเพิ่งหัดเล่นคับ  ขอคำเเนะนำหน่อยคับพี่ๆ
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

ถ้าใช้แทนไมค์หัวกล้อง ลองมองหา Rode Video Mic ก็ได้ครับ สำหรับ 7D คงไม่แนะนำให้เล่นต่ำกว่านี้ ...
แต่ถ้าจะใช้แบบรับเสียงเฉพาะจุด องศาการรับแคบมาก ๆ แบบที่ใ้ช้ทำหนัง ก็เลือกที่ระบุว่าเป็น shot-gun mic ของ Rode ก็เห็นมีอยู่ครับ ...
หรือหากจะเอาที่แบบมีเครื่องบันทึกเสียงในตัวด้วย มีสเตอริโอไมค์ที่หัวด้วย รับไมค์นอกได้ ก็แนะนำ Zoom H1 ตัวเล็กสุด ...

งบประมาณคงสักราว ๆ 3-5 พันบาทครับ ถ้ามีงบเยอะกว่านี้ก็ขยับรุ่นกันไป คุณภาพจะไปตามเงิน ... ลอง search ในนี้ดู เห็นมีคุยกันไว้เยอะแล้ว ...
โพสต์
1215
เงิน
27382
ความดี
25465
เครดิต
27374
จิตพิสัย
30396
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 4#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-26
ผมใช้ไมค์คลิป ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ ราคาร้อยกว่าบาท  คุณภาพกับราคา มาด้วยกัน แต่เสียงดีกว่าไมค์ติดกล้องแน่นอน
โลกใบนี้ไม่มีโดเรมอนเราจึงไม่ควรทำตัวเหมือนโนบิตะ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
468
เงิน
11558
ความดี
9483
เครดิต
10056
จิตพิสัย
9235
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 5#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-26
ก่อนอื่นต้องเข้าใจเรื่อง balance / unbalance ก่อนครับ
สังเกตง่ายๆ  balance จะมี 3 ขาเป็นแจ็คแบบ XLR หรือ เป็นแจ็ค phone stereo ทั้งแบบ 1/4 และstereo mini jack แต่ให้สัญญาณเป็นโมโน

 
แบบนี้เป็น balance


ถ้า unbalance จะเป็นแจ็คแบบ phone ที่เราใช้กันทั่วไป ทั้ง 1/4 และ mini-jack โมโนก็ข้อเดียว stereo ก็ 2 ข้อ

แบบนี้ unbalance

จากนั้นก็ต้องรู้ก่อนว่าไมค์ที่เราจะใช้เป็นไมค์ชนิดไหน ไดนามิกหรือคอนเดนเซอร์
ถ้าไดนามิกไมค์ ไม่ต้องการไฟเลี้ยงเสียบปุ๊บใช้ได้ปั๊บแต่ก็จะมีความสามารถหรือความไวในการรับเสียงที่ด้อยกว่าคอนเดนเซอร์ ถ้าเป็นคอนเดนเซอร์ไมค์ก็ต้องการไฟเลี้ยง ที่เค้าเรียกว่า phantom power หรือใช้ batery 9V

7D ช่องเสียบมันเป็น unbalance
เพราะฉะนั้นสามารถใช้ได้กับไมค์ที่เป็นแจ๊คแบบ unbalance ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นไมค์ คาราโอเกะ ไมค์คอม ไมค์คลิปสำหรับกล้องแฮนดี้แคมที่ขายกันตามห้าง หรือไมค์ shotgun พวก video mic หรือไวเลสที่ทำภาค output เป็น unbalane แล้ว แต่สำหรับไมค์บางชนิดที่เป็นไมค์สตูดิโอ หรือไมค์รุ่นโปรที่เป็น Balance ก็จะต้องมีอุปกรณ์เสริมซึ่งจะทำหน้าที่แปลงสัญญาณเสียงที่เป็น balance ให้เป็น unbalance เสียก่อนครับ


เสียงจะดีหรือไม่อยุ่ที่ไมค์ที่เราเลือกและสายสัญญาณที่เราใช้
ถามว่าระหว่าง balanceและ unbalance อันไหนจะดีกว่ากัน คำตอบคือ balance เพราะมันทำการแยกกราวด์ต่างหากออกจากสัญญาณเสียง จึงลดการกวนกันของสัญญาณประเภท nosie และเสียงหลัก
[ แก้ไขล่าสุดโดย tkratt เมื่อ 2011-09-26 13:08 ]
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 6#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-26
ไมค์หัวกล้อง ไม่ต้องไปคิดเรื่อง Balance/Unbalance ก็ได้ครับ ระยะมันสั้นขนาดนั้น ไม่มีนัยยะสำคัญเลย ถ้าต้องลากสายยาว ๆ ผ่านพื้นที่ ๆ มีสัญญานรบกวน แบบนั้นค่อยมาว่ากัน ... พวกรายละเอียดอย่าง ประเภทของไมค์ ?, องศาการรับเสียง กว้าง-แคบ ? (polar pattern), การตอบสนองความถี่ ? (ดูตรง frequency response table) พวกนี้มีผล ยิ่งถ้าได้ low-cut ติดมาด้วยจะประเสริฐอย่างยิ่ง ...

ส่วนหลักการของ Balance มันทำงานอย่างนี้ครับ คือ เมื่อต้นทางรับสัญญานเสียงมา จะยังไม่ส่งออกไปในทันที แต่จะเข้าวงจรขยายแยกเป็นสองช่อง + ช่อง - ช่อง กลับเฟสกัน จากนั้นถึงส่งออกไป ... พอเจ้าสัญญาน 2 ช่อง (ต่าง phase) นั้นวิ่งถึงปลายทาง ก็จะมีวงจรรับเข้ามา แล้วจับผสมกัน ตรงนี้แหล่ะครับทีเด็ด เพราะปกติแล้วถ้าเอาสัญญาณเดียวกันแต่กลับเฟสมาผสมกันแล้วมันจะหักล้างกันหมด แต่ถ้าดันมีสัญญานรบกวนปนเข้ามา มันจะเหลือ ซึ่งสัญญานที่เหลืออยู่จากการหักล้างนี่เอง คือ สัญญาณรบกวน (ที่มันวิ่งเข้ามาในสายเวลาลากยาว ๆ) จากนั้นจับสัญญานตัวนี้หักลบกับสัญญานที่ได้มาีอีกรอบ ก็จะได้เสียงแท้ ๆ เหมือนกับต้นทาง ...





บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
focus ความดี +1 2011-09-26 รู้จักไมค์ขึ้นอีกเยอะ
ระดับ : สมาชิก VI
โพสต์
468
เงิน
11558
ความดี
9483
เครดิต
10056
จิตพิสัย
9235
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 7#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-26
ช่ายเลย
หลักการทำงานของ Balance ตามนั้นเลยครับแม่นแล้ว ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับเรื่อง อิมพีเดี้ยนของไมค์ครับ ซึ่งคืออะไรในทางเทคนิคอธิบายกันยาวเลยขอละให้ไปลองหา seach ในเน็ตกันเองหละกันครับ

ลองสังเกตุไมค์รุ่นโปร ที่ใช้งานในสตูดิโอหรือ shotgun รุ่นใหญ่ ที่เราเห็นว่ามันเป็น balance XLR มักจะเป็นไมโครโฟนที่มีค่าอิมพีเดี้ยนที่ต่ำ
ในขณะที่ไมค์บ้านๆ ไมค์คาราโอเกะมันจะเป็น unbalance หรือแจ็ค phone หรือ RCA จะเป็นไมค์ที่มีค่าอิมพีเดี้ยนสูง

ทีนี้มันก็มาสู่เรื่องการ matching impedance กันแล้วครับ หลักการก็คือใช้อุปกรณ์ที่มีค่าอิมพีเดี้ยนที่สอดคล้องกันเชื่อมต่อกัน เช่นอิมพีเดี้ยนต่ำไปหา อิมพีเดี้ยนต่ำ ค่าสูงไปหาสูง

สังเกตุง่าย ๆ MIxer จะมีช่อง mic/line ให้เราเลือกเสียบ ช่องmic ก็จะเป็น XLR ช่อง line ก็จะเป็นแบบ phone นั่นแหละเค้าแยกอิมพีเดี้ยนของช่องสัญญาณเอาไว้ครับ ซึ่งจะให้ดีก็น่าจะเสียบให้ตรงช่องเพื่อให้ค่ามัน match กัน

จากเว็บในต่างประเทศ " A low impedance microphone should generally be connected to an input with the same or higher impedance. If a microphone is connected to an input with lower impedance, there will be a loss of signal strength."

เค้าบอกไว้ว่า ไมค์ที่มีอิมพีเดี้ยนต่ำหรือ balance จะต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่อิมพีเดี้ยนต่ำด้วยกันหรืออิมพีเดี้ยนสูงกว่าได้ แต่ถ้าไมค์ที่อิมพีเดี้ยนสูงหรือพวก unbalance เมื่อต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่อิมพีเดี้ยนต่ำกว่ามันจะเกิดการสูญเสียสัญญาณบางอย่างไป จึงต้องมีอุปกรณ์ประเภท  direct box ซึ่งก็เหมือนเป็นหม้อแปลงชนิดหนึ่งมาแปลงนั่นเองครับ

แต่ในทางปฏิบัติจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร มีผลกับเสียงบ้างแต่ฟังผ่าน ๆ ก็ไม่มีใครรู้สึก ถ้าเจอแจ็คแบบ XLR ก็รวบขา 1และ 3 เข้าด้วยกันมันก็เป็น unbalance แล้วครับ เห็นบางคนเอาสัญญาณ unbalance เสียบเข้าช่อง balance เลยก็มีไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เรื่องเหล่านี้พวกซาวน์เอ็นจิเนียร์เค้าถึงจะซีเรียส
[ แก้ไขล่าสุดโดย tkratt เมื่อ 2011-09-26 21:59 ]
บันทึกคะแนนนี้โพสต์ล่าสุด: รวม 1 คะแนน ซ่อน
focus ความดี +1 2011-09-26 รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่า...  ขอบคุณครับ
โพสต์
3280
เงิน
49028
ความดี
67852
เครดิต
78389
จิตพิสัย
62308
จังหวัด
กรุงเทพมหานคร

เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 8#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-26
เริ่มมึนตึ๊บ 555+ ...

เอาว่าอย่าเพิ่งไปคิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่อง impedance เลยครับ ประเดี๋ยวพากันปวดหัวเปล่า ๆ ... ถ้าจะทำความเข้าใจ ก็ลองมองง่าย ๆ แบบนี้ว่า impedance มันก็คือ ความต้านทาน (ในอุปกรณ์) นั่นเอง เห็นได้จากใช้หน่วยเป็นโอห์มเหมือนกัน ... สำหรับกรณีไมค์ ค่า impedance จะนำมาพิจารณาในเรื่องระยะใช้งานด้วย ไมค์ที่ระบุว่าเป็น low-impedance แสดงว่ามีความต้านทานต่ำ พอมีความต้านทานต่ำ ก็ทำให้ลากสายได้ยาว โดยมีการสูญเสียของสัญญานน้อย เพราะฉะนั้นบริษัททำไมค์ สำหรับงานเวที-งานกลางแจ้ง ก็จะพยายามทำให้ไมค์ตัวเองเป็น Low-Impedance เสมอ ไม่งั้นก็ขายไม่ออก ...

ส่วนไมค์ที่ใช้ระยะสั้น ๆ อย่างไมค์หัวกล้อง จะเป็น Low เป็น Hi ก็เหมือนกับเรื่อง Balance/Unbalance นั่นแหล่ะครับ คือ ไม่มีผลอะไร ยกเว้นพวกไมค์ติดกล้องประเภท ENG ที่นักข่าวใช้ จะเป็น Balance / Low-Impedance เสมอ เพราะนอกจากติดหัวกล้องแล้ว นักข่าวมักดึงออกไปใช้สัมภาษณ์ ซึ่งทำให้ระยะใช้งานยาวขึ้น รวมถึงสัญญานรบกวนที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายด้วย ...
ระดับ : สมาชิก III
โพสต์
20
เงิน
692
ความดี
769
เครดิต
706
จิตพิสัย
749
จังหวัด
นครปฐม
เฉพาะตอบกลับของผู้โพสต์ 9#  โพสต์เมื่อ: 2011-09-27
ขอบคุณมากๆนะคับพี่ๆ
รายละเอียดไฟล์แนบ
กล่องตอบกลับด่วน

คุณไม่มีสิทธิ์ใช้งานส่วนนี้, กรุณาเข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
กรุณาใช้ข้อความที่สุภาพ คุณสามารถบันทึกฉบับร่างได้