สำหรับประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ การเปิดแอร์ ยังไงเสียงก็เข้าครับ แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ขึ้นกับอุปกรณ์และความต้องการครับ
1. อุปกรณ์อัดเสียงเป็นอย่างไร ----
1.1 ถ้าอัดเสียงด้วยกล้อง อันนี้เสียงแอร์เข้าแน่นอนครับ (แถมเสียงอู้อี้
)
1.2 ถ้าเป็นไมค์บูม อันนี้เสียงลมจะเข้าน้อยหน่อย แต่ยังมีเสียงงื่อๆอยู่บ้าง (คนถือเมื่อยแน่นอน
)
1.3 ถ้าเป็นเครื่องอัดเสียง หรือ wireless เสียงเข้าปานกลาง (ควรกังวลเรื่องเสียงลมจากปากนักแสดง กระแทกไมค์มากกว่า
)
2. ถ้าอัดเสียงแล้วยังไงก็มีเสียงแทรก จะทามยางงายแม่เจ้า
-----
2.1 การถ่ายหนัง เมื่อตัดต่อแล้ว สิ่งที่ทำให้ดูสะดุดหูสะดุดตาที่สุดก็ เสียง background ไม่ต่อเนื่องละครับ (เจอกับตัวเลย
) ทางที่ดี เมื่ออัดเสียงนักแสดงเสร็จแล้ว อย่าลืม อัดเสียงบรรยากาศรอบตัวเอาไว้ซัก 1-3 นาทีครับ แล้วเอาไปใส่เป็นเสียง background ทีหลัง ถึงแม้ว่า เสียงนักแสดงไม่ได้ใสกิ๊ก100%แบบ the voice แต่มันจะดูกลมกลืนไปกับ scene อย่างประหลาดอึ้งทึ่งงงเลยทีเดียว
2.2 เอาดนตรีคลอ เป็นการลดความสนใจกับเสียง noise ได้ครับ
2.3 พากษ์ทับ โดยอัดเสียงใหม่ในสถานที่เงียบๆ แต่ความยากอยู่ที่การซิงค์ปากครับ ใช้สำหรับแก้ไขงานหลังถ่ายเสร็จแล้วแต่เสียงฟัง (ก็เคยโดนมาแล้วเหมือนกัน แทบอยากร้องไห้
)
ก็ประมาณนั้นละครับ ถ้าถามผม การปิดแอร์นั้น จะทำให้เสียงเงียบและใสที่สุด แต่ก็เฉพาะฉากในบ้านเท่านั้น พอออกไปข้างนอก เสียง noise เต็มไปหมดเลย (ตั้งแต่เสียงมอไซค์ ยันกล้วยปิ้ง
)
เป็นทางเลือกครับ มันทำได้ทั้งสองวิธีครับ ลองเช็คดูก่อนว่า เสียงที่อัดตอนเปิดแอร์นะ มันทำใจรับได้หรือเปล่า ถ้ารับไม่ได้จริงๆ ก็ต้องยอมร้อนกันหน่อยละครับ
สรุปแล้ว ผมมั่ว อย่าเชื่อ