ไปถ่ายงานเจอน้องใหม่ หิ้วกล้องDSLRฟลูเฟรม ( 2แสนกว่าบาท ) มาตั้งด้านข้าง เห็นแล้วตาโตอยากได้เข้าไปลูบคลำ
สอบถามถึงเหตุผลที่ซื้อรุ่นนี้
น้องบอก.." ตอนซื้อผมไม่มีความรู้ถามใคร ใครก็บอกดี แต่มาตอนนี้ผมรู้แล้วว่า ผมคิดผิดมากๆ "(จำคำพูดประโยคนี้ไว้ให้ดี ) เลยขอน้องเปิดดูงานที่ถ่าย เห็นแล้วต้องบอกน้องใหม่จิงๆ
ภาพไม่สวย กากมาก ดูแล้วไม่สมกับเป็นกล้องฟลูเฟรมที่ทุกคนอยากได้...
..เรามารู้ถึงข้อดีของกล้องฟลูเฟรมกันก่อน แบบบ้านๆนะคับ ถ้าแบบวิชาการก็ไปหาอ่านเพิ่มเติมเอา
- ข้อดี กล้องฟลูเฟรม( ตัวเซ็นเซอร์ใหญ่ ) 1. ไม่รู้จักน้อยซ์ หน้าตาเป็นยังไงใครรู้ช่วยอธิบายที สามารถถ่ายสภาพแสงตำ่ได้ หรือไม่ต้องใช้ไฟ
ภาพสวย สีที่ได้จะอิ่ม ( กล้องธรรมดาจะมีเม็ดหยาบ-น้อยซ์) การจะถ่ายภาพโดยใช้แสงน้อยออกมาให้สวยได้
หลักง่ายๆที่ต้องรู้นั่นก็คือ ต้องมีแสงมาตกกระทบด้านใดด้านหนึ่งของวัตถุที่เราจะถ่าย ถ้าเป็นที่บ้านก็อาจเป็นแสงนีออนด้านบน
ในห้องนอนแสงจอทีวี เมื่อจับแสงได้แล้้วก็เร่งภาพที่มืดให้สว่างตามที่เราต้องการ แสงที่ตกกระทบก็จะสว่างขึ้นเป็นการเน้น
....และนี่คือเหตุผลที่ทำไมวงการภาพนิ่งถึงอยากได้กล้องฟลูเฟรมกันนัก เพราะ ไม่ต้องเสียเงินซื้อแฟลช , ไม่ต้องเปลืองถ่านแฟลช
ไม่ต้องมานั่งแก้เงาจากแสงแฟลช ( แค่นี้ก็ประหยัดได้เป็นหมื่น ) ถ่ายงานแต่งก็ใช้แสงจากธรรมชาติจากในงานแล้วก็กดถ่าย
ไม่เบลอ ไม่เป็นเม็ด สีอิ่มเหมือนใช้แฟลช เรามีตัวอย่างการถ่ายภาพของกล้องฟลูเฟรม nex vg 900 ดูตอนต้นๆนะคับ
อย่าดูจนจบ และอย่าอ่านคอมเม้นท์ด้านล่าง ( ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับแน่ๆ.. เราเตือนคุณแล้ว )
ราคากล้อง แสนเจ็ด ใช้ 2 ปี ขายมือ 2 ได้คืนมาอีกแสน อยากได้ๆๆ
https://www.youtube.com/watch?v=WYypHQC1WEk 2. สามารถรับงานโฆษณาได้ หรือถ่ายหนังสั้นแล้วฉายขึ้นจอใหญ่ได้โดยที่ภาพไม่แตก ( ปัจจุบันใช้สำหรับกรณีนี้เยอะ ) ด้วยเพราะเซ็นเซอร์ใหญ่ จึงรับภาพและสีได้อิ่มกว่ากล้องธรรมดาที่ไม่ใช่ฟลูเฟรม
3. สามารถทำหลังละลายได้ง่าย ด้วยเพราะเซ็นเซอร์ใหญ่นั่นเอง กล้องธรรมดาถ่ายได้ที่
ครึ่งอก แต่ฟลูเฟรมถ่ายครึ่งตัวก็ละลายได้ ( ยืน ณ จุดเดียวกัน ) แต่ถ้าถอยไกล ฟลูเฟรมสามารถทำหลังละลายได้
แม้ถ่ายภาพเต็มตัว ( น่าสนไม๊ล่ะ )
4. สามารถทำสโลว์ได้ ปรับสปีดช้าเร็วได้ โดยที่ภาพไม่แตกสั่นพร่ามัว ( อยากได้ๆๆ)
.
...และด้วยข้อดีอันหลากหลายประการของกล้องฟลูเฟรม ทำไมน้องใหม่จึงบอกคิดผิด นั่นเป็นเพราะ" น้องใหม่ใช้กล้อง DSLR มาถ่ายวีดีโอนั่นเอง " ข้อเสียเปรียบที่สู้กล้องวีดีโอจริงๆไม่ได้คือ
- ถ่ายถือนิ่งไม่ได้ นั่นเป็นเพราะไม่มีมือสอดด้านข้าง ( กลับไปดูกล้อง vg900 ) จึงทำให้ต้องใช้ขาตลอด
- เคลื่อนย้ายไม่สะดวกเพราะต้องมีขากล้องห้อยติดไปด้วย เปลี่ยนมุมได้ช้า จะปีนขึ้นมุมสูงก็ลำบาก งานที่ได้ก็น้อยตาม
- ถ่ายยาวไม่ได้ แล้วถ้าเกิดกล้องตัดตอนสำคัญที่ต้องใช้ จะทำอย่างไร?
- ทำงานคนเดียวไม่ได้ต้องมีอีกกล้อง ถ่ายควบคู่ไปด้วยเผื่อกล้องตัดตอนสำคัญ
- ค่าใช้จ่ายสูงสู้ราคาเจ้าอื่นไม่ได้ เนื่องจากต้องมีอุปกรณ์อื่นประกอบมากมาย และทีมงานเพิ่มอีกหลายคน
...ทุกวันนี้ผมทำรายการเคเบิ้ลทีวี ใช้ sony nex vg 30 -2 ตัว ถ่ายตั้งแต่เช้ายันเย็น เดินกล้องตลอด เปลี่ยนมุมกันตลอด
เรียกว่าเริ่มถ่ายไม่ได้หยุดกล้องกันเลยจนกว่าจะจบตอน ด้วยเพราะออกกอง ตจว. แต่ละครั้งค่าใช้จ่ายสูง
และที่สำคัญแต่ละตอนมีเวลาน้อยมากๆ ไม่มีเวลาให้ถ่ายซำ้สอง ไม่มีเวลาให้มานั่งเซ็ต ถ่ายทุกอย่างที่ถ่ายได้
เพื่อให้ได้ภาพวัตถุดิบมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยังรู้สึกว่าทำงานไม่ทัน ต้องมาแก้ปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมกันในตอนตัดต่อ
..ทำให้หวนกลับไปนึกถึง http://www.thaidfilm.com/columns.php?action=columns
ใช้กล้องdslrถ่ายงานแต่ง ต้องอ่านทุกคนนะคับ.. 1 2
ผมเข้าใจว่าตอนเริ่ม ทางทีมงานคงแจ้งให้ทราบถึงข้อดีและข้อจำกัดของอุปกรณ์แล้ว แต่พอถึงเวลางานออกมาไม่ดี
อาจเป็นเพราะ
- งานนั้นมีเวลาน้อยจบเร็ว ทำให้ทีมงานไม่สามารถเปลี่ยนมุมทัน
- หรืออุปกรณ์เยอะจนกว่าจะย้ายมุมได้ ย้ายไปแล้วย้ายกลับงานจบพอดี จึงไม่ต่อเนื่อง
- ความผิดพลาดจากการเตรียมงานของลูกค้า มากินเวลาทำงานของเรา ทำให้เรามีเวลาน้อยในการทำงาน
วัตถุดิบที่ได้จึงน้อย งานจึงออกมาไม่ดี จะไปโทษลูกค้าก็ไม่ได้
- ลูกค้าไม่เข้าใจระบบการทำงานของกล้องDSLR ว่า ไม่สามารถทำงานได้รวดเร็ว ค่าใช้จ่ายสูงเพราะทีมงานเยอะ
คิดว่าเสียเงินเยอะต้องได้งานเยอะ ทีมงานคงเก่งทำงานได้เร็ว ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลารอนานฯ
.
..น้องใหม่คนนี้ใช้กล้อง DSLR ถ่ายรายการโทรทัศน์ ที่มีเวลาน้อยด้วยเพราะเวลามีจำกัด
จึงทำให้ไม่สะดวกหลายประการ แถมบอกตอนนี้เงินหมด หันไปซื้อมาอีกตัวไม่ใช่ฟลูเฟรม สีจึงไปคนละทิศคนละทาง
จะขายตัวเก่าก็ราคาตก จะซื้อใหม่ก็ไม่มีเงิน ( ไม่นึกว่าบริษัทตัวเองจะโตจนต้องมี 2 กล้อง โตเร็วจนเก็บเงินไม่ทัน ).
..ฉนั้นน้องใหม่ที่กำลังจะซื้อกล้องประกอบอาชีพ เวลาไปถามความคิดเห็น " กล้อง DSLR ดีมีคุณภาพ ซื้อเถอะ "
ถามต่อให้จบด้วยนะคับว่า คนพูดเป็นใคร -
ส่วนมากมักจะเป็นเจ้าของรายการ หรือเจ้าของบริษัท, เจ้าของงานอีเว้นท์ ที่เข้าใจระบบการทำงานของกล้องDSLR
ด้วยเพราะผลิตงานเอง จึงสามารถใช้เวลานานได้ เพราะต้องการงานมีคุณภาพ ( ไม่สนใจลูกค้า )
-
หรือไม่ก็บริษัทให้เช่า ( ทำงานช้าได้ค่าเช่าหลายวัน )..ไม่สนใจลูกค้าเหมือนกัน
.
..แต่ถ้าคุณต้องการทำงานประกอบอาชีพ จำเป็นต้องแข่งขันกับเจ้าอื่นในทุกๆด้าน ( ด้านราคา, ด้านความรวดเร็ว )
ซื้อกล้องวีดีโอไปเลยคับ สามารถรับงานได้หลากหลายกว่า คล่องตัวกว่า ได้งานมากกว่า ทำงานโดยคนเดียวก็ได้
เหล่านี้คือเหตุผลหลักที่ลูกค้าต้องการ ..และคุณมีให้www.p0p-it.blogspot.com
